หลังจากที่ถูกผู้นำไถ่ถามหลางจงก็กล่าวออกไปถึงตัวตนของศิษย์คนนี้
เด็กหนุ่มที่มีความซื่อสัตย์และรักเอ็นดูต่อหลานสาวมาตลอด และไม่ยอมออกมาให้ใครพบเห็นบ่อยนัก จึงมักไม่ถูกจดจำ แต่หนุ่มคนนี้อยู่กับตนมาได้นานแล้ว
เมื่อเด็กหนุ่มที่ถูกเรียกนามของมันให้ได้ยินทั่วห้องโถง ต้านเสี่ยว ที่แปลว่า (ขี้ขลาด) เป่าฮู่ในนามต้านเสี่ยวเดินเข้าไปคุกเข่าต่อหน้าเหล่าผู้คนมากมายและคาราวะอย่างรนรานและหวาดกลัว
“ข้าน้อย ข้าน้อย ต้านเสี่ยวคาราวะท่านผู้นำ ตระกูล”
เพียงทุกคนเห็นนิสัยและชื่อของมันแทนที่จะระแวงกลับพากันหัวเราะ เมื่อเต้าเจิ่งผิงถามถึงความสามารถของันเฒ่าชราหลางจงจึงกล่าวทางเสียงผ่านลมปราณออกไปถึงท่านผู้นำไป ถึงสิ่งที่เจ้าหนูนี่ทำได้นั่นคือตัวทดลองพิษ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องการเพราะซากอสรพิษฟ้าครามนั้นมีพิษอยู่ไม่น้อย หากได้คนมาดูดซับพิษออกมาจะเป็นผลดีต่อพวกมัน แต่หากพลาดเจ้าหนูนี่ตายไปก็แค่ฝังไปซะก็สิ้นเรื่อง
หลังจากที่เต้าเจิ่งผงได้ฟังสิ่งที่มารฟ้าโอสถกล่าวก็ทำให้เต้าเจิ่งผิงลุกขึ้นเชื้อเชิญเฒ่า
หลางจงเข้าพักในตระกูลตนทันที
“ฮ่าๆๆๆ ประเสริฐ ประเสริฐ เฒ่าหลาง วันพรุ่งนี้หากท่านพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ค่อยเริ่มงาน แต่ว่าท่านต้องกาส่งใดเพิ่มหรือไม่?”
เมื่อตระกูลเต้าเป็นตระกูลที่มั่งคั่งการจะมีทรัพยากรให้ใช้อย่างไม่จำกัดนั้นยอมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“อื่มคือว่า หลานสาวของข้าพึ่งฟื้นคืนจากการป่วยและระดับพลังของนางยังช้ามากที่จะสืบทอดพลังและเคล็ดวิชาจากข้า ดังนั้นจึงต้องการหินลมปราณธาตุน้ำเพื่อให้นางได้ดูดซับขอรับท่านผู้นำ”
เพียงการร้องขอครั้งแรกจบลงแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่การที่จะซื้อใจคนเต้าเจิ่งผิงจำเป็นต้องยอมเฉือนเนื้อตนเองบ้าง
วันเวลาไหลผ่านเพียงไม่นานก็ผ่านไปกว่า 2 ชั่วยาม ต้านเสี่ยวเด็กหนุ่มที่ได้ชื่อว่าขี้ขลาดตาขาวในสายตาของเหล่าสมาชิกของตระกูลเต้า แต่แท้จริงแล้วกลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าอะไร
การเดินลมปราณที่สามารถดูดซับได้จากบริเวณห้องพักสร้างความปั่นป่วนแก่ลมปราณที่พึ่งดูดซับไปไม่นานมานี้
เด็กหนุ่มจำเป็นต้องหาโอสถปรับลมปราณมากิน และเมื่อความต้องการนั้นสัมฤทธิ์ผลก็เพราะว่าเฒ่าหลางจงสัมผัสได้ถึงลมปราณที่ปั่นป่วนตั้งแต่ตอนพบกันครั้งแรก
“เอาหละเจ้าหนูนี่เป็นโอสถปรับลมปราณที่ได้มาจากการดูดซับภายนอกร่างกาย ลมปราณที่ได้มาอย่างรวดเร็วจะมีสิ่งเจือปนที่ร่างกายต้องขับมันออกมาและทำการปรับสมดุลของลมปราณในร่างเสียใหม่ จงพักอยู่ที่นี่เพื่อปรับลมปราณของเจ้าจนพร้อม เพราะวันสองวันนี้ข้ายังไม่ทำการกลั่นโอสถจากซากอสรพิษฟ้าครามเป็นแน่ ข้าต้องรอให้พิษเจอจางลงไปก่อน”
เพียงการเฝ้ารอของเฒ่าชรา อีกด้านหนึ่ง เจ้าของดวงตาพลังธาตุที่ถูกเล่นงานจากความนึกคิดของตนเองบวกกับการที่ต้องมาสงสัยในตัวของศิษย์นามต้านเสี่ยวของเฒ่าชราหลางจงนั้นทำให้เต้าอิงเฉิงรู้สึกแปลกๆ
แต่ใครจะไปรู้เมื่อในตระกูลเต้า เองก็มีศึกภายในเช่นกัน เมื่อ
เต้าเหลียงคุนชายผู้เป็นหัวหน้าตระกูลรอง ผู้ที่คลั่งแค้นในตัวพี่ชายและบุตรชายของเขาได้ว่าจ้างคนให้หาพิษไร้สีไร้กลิ่นจากแดนใต้มา เพื่อทำให้ดวงตาของเต้าอิงเฉิงพิการไปตลอดชีวิต
แต่ในระหว่างนั้นกลับต้องทำให้แผนการที่ยากลำบากง่ายดายขึ้นเมื่อเต้าเหลียงคุนรู้ว่า
เฒ่ามารฟ้าโอสถหลางจงเดินทางเข้ามาพบพี่ชายของตนเองเพื่อกลุ่มโอสถจากซากอสรพิษฟ้าครามที่ได้มาด้วยความบังเอิญให้เสร็จเพื่อนำไปบำรุงวิหคสวรรค์ที่ใกล้ฟักเต็มที
ณ ตระกูลรอง
เมื่อเหล่าผู้นำชั้นสูงของตระกูลรองมารวมตัวกัน เต้าเหลียงคุนก็เริ่มเสนอแผนการที่ชั่วช้านี้ ตั้งแต่การวางแผนที่จะล่อลงให้เต้าอิงเฉิงทำอะไรในวันปรุงโอสถ
เพียงแผนการดำเนินไปจากเหล่าผู้คนที่มากความสามารถที่กำลังหันคมดาบเข้าหากันเอง เป่าฮู่ที่กำลังใช้เวลาว่างจัดการกับพลังลมปราณที่วุ่นวายนี้ให้สงบลงในเขตแดนของศัตรู
การกระทำเช่นนี้มีเพียงคนบ้าเท่านั้นที่คิดได้ เมื่อเวลาผ่านไปชายหนุ่มที่นั่งปรบลมปราณในห้องพักจนเสร็จลมปราณที่มีในร่างกายสมดุลและเสถียรขึ้นมากทำให้ทุกครั้งที่ชายหนุ่มลองสัมผัสกับลมปราณที่ถูกลปลดปล่อยออกมาก็รู้สึกอุ่นใจทุกครั้ง
หลังจากนั้น ภาพที่เป่าฮู่ได้เห็นก็คือหลานสาวของเฒ่าหลางจงกำลังดูดซับหินลมปราณมาก ธาตุน้ำมากมายตรงหน้าของนางเช่นกัน
เมื่อเป่าฮู่ได้เห็นสิ่งเหล่านั้นก็คิดว่าพลังธาตุน้ำมากขนาดนี้ แสดงว่าตระกูลเต้านี้ต้องสั่งสมสิ่งเหล่านี้มานานน่าดู และขนาดคนนอกขอร้องเพียงครั้งเดียวก็มีหินลมปราณมากมายเช่นนี้ แสดงว่าที่เต้าอิงเฉิงกล้าแกร่งขึ้นมาในทุกวันนี้คงเพราะสิ่งที่มีค่ามากมายเช่นนี้นั่นเอง
แต่เมื่อย้อนกลับไปดูเหล่าผู้คนจากดินแดนอื่น ที่ต้องมาเป็นทาสในดินแดนนี้ ทำให้เป่าฮู่ต้องกำหมัดไว้แน่น เพราะเจ้าพวกบัดซบนี่กำลังสร้างขุมนรกบนดินไม่ว่าจะใครหรือชนชั้นใดล้วนถูกพวกมันทำลาทั้งนั้น
เมื่อเรื่องต่างๆสงบลง ข่าวที่เต้าอิงเฉิงละทิ้งสิ่งที่ได้ช่วงชิงมาเป็นของตนนั้น โดยไม่ยอมส่งหนังสือตอบรับจากตระกูลไปหาตระกูลหย่วนแห่งดินแดนทางใต้ ทำให้หย่วนชิวหยูถูกกฎเกณฑ์ของแดนใต้เล่นงานจนนางถูกเนรเทศและโบย 100 ไม้
นางถูกขับออกมาจากตระกูลและต้องออกเดินทางเพียงลำพัง เพื่อมายังแดนศักดิ์สิทธิ์เพียงต้องการพบคนที่เล่นตลกกับชีวิตของนาง หากเต้าอิงเฉิงไม่เข้ามายุ่ง ชายผู้นั้นคงไม่หนีไปแบบนั้น