ตอนที่ 226 ตัวแทน
“การที่ความลับเป็นความลับ ที่ของล้ำค่ามีความล้ำค่า เพราะไม่อาจให้ใครล่วงรู้ง่ายๆ ไม่อาจให้ใครเห็นง่ายๆ ท่านเล่าเรื่องนางส่วนหนึ่งก่อน แล้วข้าจะปล่อยเสี่ยวจินออกมา ขอเพียงท่านมีความสามารถจับมันก็พอ”
เถิงอวิ๋นมองดูถังเฉียนด้วยสายตาล้ำลึก ท่าทางที่นางไม่ไว้ใจ ดูหวาดระแวง กลับทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าน่าสนใจ
“แม่นางคนก่อน ก็ชื่ออาหรูน่า หรืออาจพูดว่าเจ้าคือตัวแทนของนาง”
สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับผู้หญิงก็คือการที่กลายเป็นตัวแทนของผู้หญิงอีกคน นางอาจจะได้รับสิ่งที่ดีอย่างคาดไม่ถึงจากผู้ชายคนหนึ่ง แต่ต้องทนรับกับการที่เขามองผ่านนางแล้วเห็นผู้หญิงอีกคนหนึ่ง โดยเฉพาะแม้แต่ชื่อก็ยังตรงกับผู้หญิงคนก่อน
“ว่าอย่างไร ยังอยากจะฟังต่อหรือไม่”
เถิงอวิ๋นกวาดตามองถังเฉียนที่กำลังกำหมัดแน่น รู้ว่านางกำลังโกรธจัด ย่อมรับมือง่ายขึ้น เขาจงใจท้าทายนาง แต่ถังเฉียนกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“แน่นอน!”
เสี่ยวจินเกาะที่อกถังเฉียน ปีกสั่นไหวเล็กน้อย ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความโกรธเกรี้ยวของนาง รวมทั้งความรู้สึกใจสลายที่วาบผ่านไป
“อาหรูน่าโตมาพร้อมกับเถิงเฟิง ไปจับปลาและฝึกวิชายุทธกับเขาทุกวัน อาเฟิงยังทำว่าวตัวใหญ่เป็นพิเศษให้นางที่สวนหลังบ้าน ถ้าว่างก็จะจับเจ้าพายุเงินของอิ๋นจ้านมาเป็นชิงช้าให้นางเล่น”
ชิงช้า? เมื่อถังเฉียนได้ยินคำนี้จู่ๆ ก็นึกถึงชิงช้าที่มีฝุ่นจับในโลกแห่งจิตใจของเถิงเฟิง นางยังจำได้ว่าสถานที่แห่งนั้นเคยสวยงามมาก แต่ชั่วพริบตากลับเ**่ยวเฉาลง ตอนนั้นนางยังคิดว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดคาดเดาในโลกแห่งจิตใจ เวลานี้จึงรู้ว่าที่แท้เกี่ยวข้องกับเด็กสาวผู้นั้น
“นับจากที่รู้ว่าเจ้าชื่ออาหรูน่า ข้าก็รู้ว่าเขาชอบเจ้า เพราะเขาไม่ยอมแพ้”
คำนี้ต่างออกไปมาก เหตุใดต้องบอกว่าไม่ยอมแพ้ ควรบอกว่าเสียใจหรือเศร้าใจไม่ใช่หรือ
“ไม่ยอมแพ้?”
ถังเฉียนเพิ่งถามจบ เถิงอวิ๋นวางมือจากงานที่ทำอยู่ แล้วยื่นมือมาที่อกนาง แต่ไม่ได้คิดจะลวนลามนางแม้แต่น้อย แต่ที่เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยทำให้เขาดูไม่ต่างจากพ่อค้าขนานแท้
“แค่นี้เองหรือ”
“เจ้าพูดเองว่าต้องการเพียงส่วนหนึ่งของเรื่อง ข้าเองก็ไม่ใช่คนรับใช้ จะได้พูดพล่ามทั้งวัน คำพูดเหล่านี้เพราะข้าได้ยินจากเหวินเยียนและสาวใช้คนอื่น ได้ยินมากเกินไปบ่อยๆ จึงจำได้”
ถังเฉียนมองเขา แล้วรู้สึกว่าที่เขาพูดก็ไม่ผิด เขาเป็นคนที่ชอบตีสีหน้าสูงส่งเย็นชาไม่ใช่หรือ
“เสี่ยวจินออกมา!”
ถังเฉียนร้องเรียก คราวนี้เสี่ยวจินยอมทำตาม เพียงแต่ค่อยๆ คลานออกมาจากอกนาง แล้วเกาะที่อกเสื้อนางไม่เคลื่อนต่อ ท่าทางเหมือนกลัวเถิงอวิ๋น
“เจ้าเรียกมันออกมา ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือเสียงดนตรีหรือ มันเข้าใจที่เจ้าพูดหรือไม่ แล้วเจ้าเลี้ยงมันเช่นไร”
ถังเฉียนยังไม่บอกเถิ๋งอวิน เขาอาจจะโกรธนาง ขี้โมโหด้วยสิ
“เล่าต่อได้หรือยังเล่า”
ถังเฉียนรู้ว่าเขาสนใจเสี่ยวจินมาก แต่เสี่ยวจินไม่โง่ มันไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาเข้าใกล้ เพียงแต่เกาะอยู่บนอกถังเฉียน ถ้าเขาทำอะไรวู่วาม ถังเฉียนจะตะโกนร้องว่าเขาลวนลาม ถึงตอนนั้นใครจะสนใจแมลงตัวเล็กๆ อย่างมัน
เถิงอวิ๋นมองออกว่าถังเฉียนคอยระวังตัว แล้วพูดต่อ
“หากเจ้าสนใจเรื่องราวความรักของอาหรูน่ากับเถิงเฟิง เจ้าหาผิดคนแล้ว ข้าเองรู้ไม่มาก แต่ก็พอรู้จุดจบของอาหรูน่า”
“จุดจบ”
ถังเฉียนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก้าวเล็กๆ นี้แสดงให้เห็นว่านางร้อนใจอยากรู้คำตอบ
ตอนที่ 227 แอบฟัง
“ตายแล้ว ศพถูกฝังอยู่ที่หลังเขา บริเวณนั้นเป็นเขตหวงห้าม มีเพียงเถิงเฟิงคนเดียวที่เข้าไปได้ ห้ามคนอื่นเข้าไป ข้าเล่าเรื่องจบแล้ว”
ถังเฉียนซักต่อว่านางตายอย่างไร เถิงอวิ๋นเพียงแต่ยิ้ม ไม่พูดอะไรอีก สายตาจับจ้องที่จุดเรืองแสงสีทองบนอกถังเฉียน นางยื่นนิ้วหนึ่งออกไป ปากท่องคาถา แต่ที่จริงเป็นเพลงเด็กที่นางร้องสมัยที่ยังเล็ก ถังเฉียนไม่อยากเปิดเผยความพิเศษของเสี่ยวจิน
เสี่ยวจินบินมาเกาะที่หยดเลือดของนาง เถิงอวิ๋นรีบยกไปค้นคว้า แต่คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวจินจะไต่บนหยดเลือดอย่างรวดเร็ว ยื่นท่อดูดออกมาดูดเลือดจนหมด จากนั้นก็บินออกไปจากภาชนะ บินฉวัดเฉวียนหลบมือเถิงอวิ๋น กลับมาเกาะบนอกถังเฉียนทันที
“ข้าให้เจ้าดูแล้ว ราตรีสวัสดิ์พี่เถิงอวิ๋น”
ถังเฉียนพูดจบก็เปิดประตูเตรียมจะออกไป แต่คาดไม่ถึงว่าพอดึงประตูออกก็เห็นมีคนยืนแอบฟังอยู่ที่หน้าประตู
“เจ้ายืนทำอะไรอยู่ที่นี่”
ถังเฉียนไม่ได้ถาม กลับเป็นเถิงอวิ๋นที่เอ่ยถามขึ้น เหวินเยียนยืนอยู่หน้าประตูท่าทางร้อนรน ถังเฉียนนึกถึงท่าทีระหว่างนางกับเถิงเฟิงในวันนี้ ก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“คิดว่าคงเป็นคุณชายเถิงเฟิงให้เจ้าคอยเฝ้าดูข้าใช่หรือไม่ วันนี้ข้าเห็นและได้ยินอะไรบางอย่าง…”
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น คุณหนูอาหรูน่า ท่านจะพูดเหลวไหลไม่ได้ จะทำร้ายคนถึงตาย คุณชายใหญ่ ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก ท่านต้องเชื่อเหวินเยียนนะ คุณชายรองเอาชาดทาหน้ากับแป้งน้ำมาฝากเหวินเยียน ไม่มีเรื่องอื่นเด็ดขาดเจ้าค่ะ”
ถังเฉียนร้องหึ แล้วพูดว่า
“ก็ใช่ พวกเจ้าสองคนจงใจหลบข้า ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน บางทีอาจจะเป็นชาดทาหน้ากับแป้งน้ำก็เป็นได้”
คำพูดของถังเฉียนเท่ากับเอาน้ำมันราดลงบนกองไฟ เหวินเยียนตกใจมาก สีหน้าเถิงอวิ๋นหมองคล้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นชาดทาหน้ากับแป้งน้ำจริง เหตุใดจึงต้องคอยหลบหน้าถังเฉียน นี่เท่ากับยกก้อนหินทุ่มใส่เท้าตัวเอง
“คุณหนูอาหรูน่า ขอร้องท่านอย่าพูดอีกเลย วันนี้เหวินเยียนทำให้ท่านไม่พอใจก็จริง แต่ท่านไม่ควรพูดเรื่องไร้สาระนะเจ้าคะ”
ถังเฉียนยังจะพูดอีก แต่เถิงอวิ๋นคร้านที่จะฟังหญิงสาวทั้งสองโต้เถียงกัน เขามองเหวินเยียนอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า
“ในเมื่อเจ้าชอบติดตามอาเฟิง พรุ่งนี้ข้าจะบอกท่านแม่ ให้ส่งเจ้าไปที่เรือนของอาเฟิงก็แล้วกัน”
เหวินเยียนคุกเข่าลงก้มศีรษะไม่หยุด ดูท่าทางนางคงตกใจกลัวมาก
“พอเถอะ พี่เถิงอวิ๋นไม่รู้จักเอาใจใส่เจ้า ไม่เป็นไรหรอก ข้าได้ชื่อว่าเป็นคนดี ตามข้ามาเถอะ…วันนี้คุณชายใหญ่ของเจ้าอารมณ์ไม่ดี พรุ่งนี้เจ้ากลับมาขอโทษ ไม่แน่นะ เขาอาจจะยกโทษให้เจ้าก็ได้”
เถิงอวิ๋นรู้ว่าถังเฉียนจงใจพูดเช่นนี้เพื่อยั่วโมโหตน นางจะได้พาเหวินเยียนไป นางถูกคำพูดของถังเฉียนสะกดไว้ จำเป็นต้องให้ถังเฉียนพาตัวไปในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เถิงอวิ๋นไม่ปฏิเสธ ปล่อยให้ถังเฉียนพาสาวใช้ตนเองไป เขารู้ดีว่าเป็นเพราะเมื่อครู่เขาเอ่ยชื่อเหวินเยียนออกมา ทำให้ถังเฉียนเกิดสนใจ แต่เขากลับไม่ใส่ใจ
“เด็กสาวที่ฉลาดย่อมจะมีชีวิตยืนยาวขึ้นระยะหนึ่ง”
เถิงอวิ๋นมองดูภาชนะที่ถูกเสี่ยวจินดูดเลือดจนแห้ง สีหน้าไม่พอใจ เด็กสาวคนนี้ไม่ฉลาดแต่เจ้าเล่ห์
ถังเฉียนพาเหวินเยียนกลับมาถึงห้องของตน แล้วปิดประตูทันที
เหวินเยียนเห็นถังเฉียนทำเช่นนี้ก็รู้สึกไม่พอใจ เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ
“แม้ข้าจะเป็นคนระดับล่าง ถ้าคุณหนูอาหรูน่าไม่ชอบข้าก็บอกฮูหยินได้ เหตุใดต้องฟ้องคุณชายใหญ่ด้วย เขาเป็นคนที่ไม่ยอมให้อะไรมาขัดหูขัดตา”
ถังเฉียนฟังออกว่านางไม่พอใจ แต่ความไม่พอใจเช่นนี้ไม่พอให้นางกล้าเป็นศัตรูกับถังเฉียน ดังนั้นก็คงทำได้แค่รู้สึกแค้นใจเท่านั้น
“ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า ถ้าเจ้าพูด พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้ากลับไป ช่วยพูดขอร้องแทนเจ้า หากเจ้าไม่พูด เช่นนั้นก็คอยติดตามข้าเถอะ อย่างไรคุณชายใหญ่ก็ไม่ต้องการเจ้าแล้ว”
“ท่าน นี่เท่ากับขู่ข้า!”