ตอนที่ 358 ความลับหลายปี
ฉู่จิ่งเหยาเคลื่อนทัพ เถิงอวิ๋นมอบยากล่องหนึ่งให้เขา เขามอบดินแดนภาคเหนือที่กว้างใหญ่ให้กับถังเฉียนและเถิงเฟิง
สามวันต่อมาเถิงเฟิงฟื้นขึ้น ถังเฉียนนั่งยิ้มอยู่ตรงหน้าเขา
“เหตุใดเจ้าจึงไม่ไป”
เถิงเฟิงคิดว่าถ้าตนเองเงยหน้าขึ้นจะไม่ได้เห็นเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แน่นอน แต่เขาได้เห็นแล้ว ทั้งยังได้เห็นยิ้มที่อ่อนโยนของนาง
“เจ้าให้ข้าเข้าไปในความทรงจำของเจ้า ให้ข้าได้เห็นความจริงที่ไม่ควรเห็น แต่ข้าก็มีความลับ แต่กลับไม่ได้ให้เจ้าดู ถ้าเจ้ายินดี ข้าอยากเล่าให้เจ้าฟัง”
เถิงเฟิงลุกขึ้นนั่ง กินข้าวต้มที่นางเตรียมไว้ให้ก่อนแล้ว เขาฟังเรื่องที่นางเล่า ราวกับสามารถปิดกั้นเสียงที่น่าหวาดกลัวและวุ่นวายข้างนอก เสียงหวีดร้องของผู้คนที่กำลังหนีตาย
จวนอ๋องถูกกองทัพจากเจาหยางบุกเข้ามา แต่หวังหลงยืนอยู่หน้าประตู ไม่มีใครกล้าเข้ามา ถังเฉียนเห็นคราบอาหารที่มุมปากเถิงเฟิง จึงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดออก
“นับจากที่ข้าเกิด ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้วใช่หรือไม่ ดวงชะตาข้าเป็นอินบริสุทธิ์ สังกัดธาตุไม้อย่างสมบูรณ์ จึงถูกราชาโอสถเลือกเป็นศิษย์ ทุกวันข้าต้องกินยาพิษนับไม่ถ้วน เพื่อสร้างโลหิตแห่งราชาโอสถตามตำนาน แต่น่าเสียดายที่ต่อให้ข้าเป็นธาตุไม้อย่างสมบูรณ์ ก็ไม่สามารถแบกรับความทุกข์ทรมานเช่นนั้นได้”
เถิงเฟิงมองถังเฉียนตรงหน้า เขารู้ถึงผลของการเปิดความทรงจำดี แต่เพื่อช่วยชีวิตนาง เขามีเพียงวิธีนี้เท่านั้น เวลานี้เห็นนางพูดความลับที่ซ่อนงำไว้ออกมาหมด เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือทุกข์ใจ
“ก่อนหน้านี้ข้ามีคำถามมากมาย เหตุใดท่านอ๋องจึงพบข้า เจ้าจึงพบข้า เลือกตัวข้า เพราะเหตุใดย่ารองเจ้าจึงยอมสร้างฐานะปลอมให้ข้า เหตุใดครอบครัวเจ้าจึงยอมรับข้าง่ายๆ ข้าคิดว่าข้าหลอกพวกเจ้าทุกคนได้ คงจะรู้สึกผิดมโนธรรมใจ ที่จริงข้าต่างหากที่เป็นคนโง่ ถูกแผนการใหญ่หลอกลวงมาสิบสี่ปี”
เถิงเฟิงมองดูท่าทางถังเฉียนขณะนี้ เขารู้ดีว่าตนไม่สามารถห้ามนางได้แล้ว ทันทีที่ดวงชะตาทั้งสองคนเชื่อมโยงกัน ก็จะสามารถรู้สึกถึงทุกอย่างของอีกฝ่าย
“เพราะหญิงศักดิ์สิทธิ์ทำนายได้ว่าขณะที่ฉู่จิ่งเหยาประสบเคราะห์ใหญ่นั้น วิธีเดียวที่จะแก้ไข คือต้องสร้างข้าขึ้นมา ดังนั้นตั้งแต่เริ่มแรกข้าก็คือยาเม็ดหนึ่งของท่านอ๋อง กลัวว่าเขาจะประสบอันตรายที่เผ่าม้ง จึงทำให้พ่อข้าถูกลงโทษ ทั้งครอบครัวถูกเนรเทศ ก็เพราะดวงชะตาบ้าๆ ของข้านั่นเอง ข้าทำร้ายทุกคนในครอบครัว แม่ข้า น้องสาวข้า…”
ถังเฉียนพูดถึงตรงนี้ ก็น้ำตาคลอ
“ก่อนหน้าข้า พวกเจ้าคงเลือกคนไม่น้อยแล้ว แต่ไม่มีใครมีชีวิตรอดพอที่จะทนรับกับสิ่งที่พวกเจ้าเรียกว่าโลหิตแห่งราชาโอสถ แม้แต่ข้าเอง ลำบากแทบแย่กว่าจะมีชีวิตถึงอายุสิบขวบ ก็ยังไม่สามารถทนรับกับหมื่นพิษเข้าสู่หัวใจ พวกเจ้าต้องการบรรลุสิ่งที่เลือกไว้ จึงให้ข้ากับเจ้าร่วมดวงชะตากัน เพราะเจ้ามีศาสตร์ลับนี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และนี่ทำให้เจ้าต่างจากคนอื่น”
ถังเฉียนมองดูเถิงเฟิงตรงหน้า มองดูสายตาเขา ถังเฉียนมองขึ้นข้างบน พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาหยดลงมา นางรู้สึกทรวงอกอึดอัดราวกับถูกก้อนหินใหญ่กดทับไว้ ทำให้นางต้องพูดออกมาไม่หยุด นางจึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
ความทุกข์ทรมานดังกล่าวคือการที่ถูกหลอกลวงสิบสี่ปี พวกเขาทำเพื่อฉู่จิ่งเหยา ยอมให้คนทั้งหมดในครอบครัวนางรับเคราะห์กรรม นางไม่รู้ว่าเรื่องนี้ควรจะโทษตัวนางเอง โทษฉู่จิ่งเหยา หรือโทษหญิงศักดิ์สิทธิ์
แต่นางรู้สึกสวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมต่อนางเลย
ถังเฉียนมองเห็นตัวเองในความจำของเถิงเฟิง ชั่ววินาทีนั้นนางจึงตระหนักว่าที่แท้ชีวิตนางที่ตนเองต่อสู่ดิ้นรนเพื่ออยู่รอดนั้น เป็นเพียงยาขนานหนึ่งของผู้อื่น ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
ตอนที่ 359 ความจำที่ถูกเก็บงำไว้
เมื่อความจำที่ถูกเก็บงำไว้หลายปีค่อยๆ ถูกเผยออกมา ถังเฉียนจึงตระหนักว่าโลกนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ที่แท้คนรอบข้างนางล้วนเคยใช้นางเป็นประโยชน์ทีละน้อย ทำให้นางไม่อาจหลีกเลี่ยง ไม่มีทางเลือก
ครั้งนั้นหญิงศักดิ์สิทธิ์ทำนายว่าชะตาชีวิตของฉู่จิ่งเหยาจะประสบเคราะห์เช่นนี้ ก่อนตายนางจึงสั่งให้ราชาโอสถเลือกหาเด็กสาวที่มีธาตุไม้บริสุทธิ์ในหมู่ชาวบ้าน จากนั้นก็บ่มเพาะนางด้วยหมื่นพิษและหมื่นยา เพื่อทำให้เลือดนางไม่กลัวพิษใดๆ ทั้งในยามวิกฤตยังสามารถช่วยให้ฟื้นชีวิตได้
พวกเขาเลือกและบ่มเพาะเด็กสาวหลายคน แต่ล้วนไม่สามารถทนร้อยพิษได้ มีเพียงเมื่อถังเฉียนปรากฏตัวขึ้น นางไม่เพียงผ่านร้อยพิษได้ ทั้งยังสามารถผ่านพันพิษ แต่ขณะนั้นนางก็อยู่ในอาการร่อแร่เต็มทน ทำอย่างไรนางก็ไม่อาจผ่านด่านหมื่นพิษได้
แต่ในเวลานี้คำทำนายของหญิงศักดิ์สิทธิ์แม่นยำอีกครั้ง คนเผ่าพีส่าเป็นฝ่ายมาหาเอง ที่แท้หลายปีมานี้พวกเขาแอบบ่มเพาะคนคนหนึ่งไว้ นั่นก็คือเถิงเฟิง
เขาเกิดมาพร้อมกับความสามารถพิเศษที่สามารถร่วมชีวิตกับผู้อื่นได้ แต่ต้องให้เขายินยอมเท่านั้น ดังนั้นเพื่อทำให้เขายินยอม พวกเขาจึงให้เถิงเฟิงอาศัยอยู่กับถังเฉียนเป็นเวลานาน เพื่อทำให้ทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
เถิงเฟิงมีเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม พวกเขาวางแผนให้ถังเฉียนกินสมุนไพรหมื่นพิษแล้วให้เถิงเฟิงไปช่วยนาง เรื่องทั้งหมดจึงดำเนินไปอย่างมีเหตุผล จากนั้นหมอผีศักดิ์สิทธิ์จึงลบความจำเรื่องนี้ของถังเฉียน แล้วบอกนางว่าพวกเขาทำไม่สำเร็จ ให้นางกลับบ้าน
ต่อมาบิดานางทำผิด นางจึงถูกเนรเทศ และจากนั้นได้พบกับฉู่จิ่งเหยาซึ่งบาดเจ็บหนัก จงใจให้ฮว่าเหยียนมาพบนาง ให้นางใช้เลือดตนเองช่วยชีวิตฉู่จิ่งเหยา
ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเผ่าหญิงศักดิ์สิทธิ์ทั้งเผ่า แต่ในแผนนี้ทุกวันเถิงเฟิงต้องทุกข์ทรมานแสนสาหัส เพราะเขาต้องแบ่งความทรมานครึ่งหนึ่งจากยาพิษที่ถังเฉียนกินเข้าไป
เขายังต้องแบกรับการปฏิบัติที่เลวร้ายราวกับไม่ใช่คน เขาไม่ใช่ธาตุไม้อย่างสมบูรณ์ จึงเกือบเสียชีวิตหลายครั้ง
แต่เขามักจะจำท่าทางที่ถังเฉียนยิ้มให้เขาได้ ตอนนั้นเขาเคยบอกถังเฉียนว่า
“รอจนเจ้าเป็นเมียข้า เจ้าจะได้ใช้แซ่ของข้า ข้าจะมอบชื่อใหม่ให้เจ้า จะเรียกเจ้าว่าอาหรูน่า ดีหรือไม่”
ถังเฉียนมองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้า แล้วอดถามไม่ได้
“อาหรูน่าหมายความว่าอย่างไร”
เถิงเฟิงเอียงหน้ามา ยิ้มแล้วบอกว่า
“แสงจันทร์ที่สวยที่สุดในหัวใจข้า”
เวลานั้นอายุน้อยไม่รู้จักความทุกข์ของชีวิต ครั้งนั้นเมื่อเถิงเฟิงเห็นนางถอดหน้ากากนางออก มองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย แต่ถังเฉียนจำไม่ได้อย่างสิ้นเชิงว่าเขาเป็นใคร เขาสงสารนาง แต่ทำอะไรไม่ได้
เขาแนะนำตัวเองใหม่เหมือนครั้งก่อน เวลาที่นางยิ้มสวยงามเช่นเดียวกับแสงจันทร์ในความทรงจำของเขา
เถิงเฟิงคิดไม่ถึงว่านางจะเห็นมากมายเช่นนี้ เขายื่นมือไปขวางถังเฉียน
“ข้าอยากร่วมใช้แซ่ข้ากับเจ้า เจ้ายินดีเป็นแสงจันทร์ขาวนวลในใจข้าหรือไม่”
ถังเฉียนได้ยินคำพูดนี้ก็น้ำตาไหลเป็นสายทันที นี่คือสิ่งที่ผ่านมาของนาง นี่คืออดีตของนาง คนพวกนั้นลบความจำที่เกี่ยวกับความทุกข์ทรมานของนางทิ้งไป เหลือเพียงความจำที่ดีใจ ในความจำของนางนั้นอาจารย์อ่อนโยน ไม่ใช่บ้าคลั่ง
แต่บัดนี้นางจึงเข้าใจว่าเหตุใดนางจึงเกลียดชังวิชาตรวจสอบวิญญาณ เหตุใดจึงรู้สึกเสมอว่าเถิงเฟิงดูคุ้นหน้า ที่จริงทั้งสองสนิทกันตั้งแต่เล็ก เขาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ทรมานกับนางในเวลากลางคืนนับครั้งไม่ถ้วน เป็นเพื่อนร่วมยิ้มกับนาง
“เถิงเฟิง ไฉนเวลานี้จึงเพิ่งบอกความจริงกับข้า หรือเจ้าอาจจะไม่บอกข้าชั่วชีวิตเลยหรือ ให้อยู่ไปชั่วชีวิตอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ได้…แต่ว่า…”
เถิงเฟิงกอดร่างถังเฉียน แทบอยากให้ร่างนางเข้าไปในอกของตนเอง
“ตอนนี้ก็ยังไม่สาย ข้าเองก็เสียความทรงจำไปมากมาย แต่ข้ายังจำดวงตาที่เจิดจ้าเป็นพิเศษได้ รวมทั้งคนที่ชื่ออาหรูน่า รู้ว่าคราวก่อนที่เจ้าบีบให้ข้าเปิดการร่วมชีวิตกันออก ข้าจึงรู้ความจำของข้ากับเจ้าในอดีต”