1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเรา ตอนที่ 8

บทที่ 8
Lilac Novel

แม้จะเตรียมห้องไว้เพื่ออาบน้ำ แต่ภายในห้องก็เปียกโชกไม่น้อย เฉิงชิงและคุณนายไป๋ใส่เสื้อผ้าให้พวกเขาสองคนเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มทำความสะอาดเก็บกวาด
ตอนนี้หมี่หยางพลิกตัวได้แล้ว ล้มเอียงอยู่ในผ้าห่มนิ่มเริ่มกลิ้งตัวไปมา
เฉิงชิงเห็นก็หัวเราะออกมา อุ้มก้อนแป้งข้าวเหนียวน้อยที่กลิ้งอยู่ขึ้นจากผ้าห่มฝ้ายวางไว้ข้างนอก ให้เขานั่งลงด้วยกันกับไป๋ลั่วชวน แล้วจิ้มปลายจมูกของหมี่หยาง “เด็กดื้อ มุดผ้าห่มอีกแล้ว เล่นกับพี่อยู่ตรงนี้ดีๆ ห้ามก่อกวนรู้ไหม”
หมี่หยางก็แค่อยากหลบเอง!
ช่วงนี้นอกจากจะชอบแทะหน้าเขา เวลาคุณชายไป๋น้อยดีใจขึ้นมายังชอบกอดเขาไว้แล้วแทะด้วย ยากจะได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อย่างวันนี้ หมี่หยางไม่อยากโชกน้ำลายไปทั้งหน้าอีก
หมี่หยางอาศัยช่วงผู้ใหญ่ไม่สนใจเริ่มพลิกตัวอีกครั้ง แถมยังคำนวณมุมไม่ง่ายกว่าจะห่างหน่อย แต่พอทางเขาขยับ ก็เรียกความสนใจของไป๋ลั่วชวนน้อยอีก จ้องตาไม่กะพริบอยู่สักพัก พอเห็นหมี่หยางนอนหงายอยู่ห่างจากตัวเองหนึ่งเมตร ก็หน้าท้องกระดึ๊บๆ ดวงตาลุกวาว ร้อง “อา” ลุกขึ้นมานั่งแล้วคลาน ยื่นมือไปจับเท้าเล็กของเขาไว้
หมี่หยางนอนบิดตัวอยู่นานก็สะบัดไม่หลุด ใช้แรงไปพอสมควรแล้ว พอกวาดลูกตามองหนึ่งที ก็มีแผนขึ้นมาในใจฉับพลัน เอาเท้าถีบหน้าเขาให้รู้แล้วรู้รอด
เด็กทารกไม่มีแรง ถีบแล้วก็แค่เหมือนเอาเท้าลูบหน้า ไป๋ลั่วชวนที่อยู่ในวัยทารกขมวดหัวคิ้วเล็ก ทำปากแจ๊บๆ เพียงครู่เดียวแขนสองข้างที่คล้ายรากบัวอ่อนก็กอดเท้าของหมี่หยางไว้แล้วกัด
หมี่หยางที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันได้ใส่ถุงเท้าสะดุ้ง “!!”
ถึงหมี่หยางดิ้นรนไปก็ไม่มีประโยชน์ ได้แต่ปล่อยท่าไม้ตายร้องไห้อุแว้ๆ ยกใหญ่เรียกผู้ใหญ่
คุณนายไป๋เดินเข้ามาดู ก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เอ๋ ฉันเห็นสองสามวันนี้ลั่วชวนเอาแต่กอดเท้าตัวเองกิน ถึงได้ใส่กางเกงทรงกระบอกให้เขา ทำไมไม่เห็นแค่เดี๋ยวเดียว ก็ไปกินเท้าหยางหยางซะแล้ว! ”
เฉิงชิงเข้ามาดู เห็นลูกชายทำท่ายื่นมือมาหาตัวเองน้ำตานองหน้าก็หัวเราะ
คุณนายไป๋กลัวลูกชายตัวเองจะรังแกหมี่หยางน้อย จึงหยิบหมอนมาวางไว้ตรงกลางแยกพวกเขาออกจากกัน แต่ไม่นานเจ้าตัวน้อยสองคนก็ขยับเข้ามาหากันอีกครั้ง ช่วยไม่ได้ หมี่หยางนอนอยู่ตรงนั้นตลอดทรมานมาก ก็อยากพลิกตัวขยับหน่อย คุณชายไป๋น้อยก็เหมือนกัน แต่แม้จะถูกกั้นพื้นที่ใหญ่ขนาดนั้น ไม่นานทั้งสองคนก็ปีนมารวมตัวกันที่จุดรวมพลแห่งชัยชนะ
ไป๋ลั่วชวนน้อยหัดเป็นหลายอย่างแล้ว นอกจากกินมือถีบเท้า ยังใช้คำง่ายๆ มาแสดงอารมณ์ตัวเอง ที่ตรงไปตรงมามากที่สุดก็คือตอนนี้เขาแบ่งแยกของเล่นที่ตัวเองชอบได้ชัดเจนแล้ว เจอของที่ชอบก็คลี่ยิ้ม เจอของที่ไม่ชอบ+แม้จะวางไว้ข้างๆ เขาก็ไม่แยแส กระทั่งสนใจยังไม่สนใจ
ตอนนี้สิ่งที่เขาชอบที่สุดก็คือหมี่หยาง ทุกครั้งที่เขาออกไปบ้านหมี่หยางหรือเวลาที่เฉิงชิงอุ้มหมี่หยางมาบ้านเขา เขาก็ตื่นเต้นทั้งนั้น ตอนนี้อาบน้ำแล้วนอนอยู่บนเตียงเล็กกับหมี่หยางเขาก็ดีใจ เขาก็เหมือนกับหมาน้อยที่ไล่ตามความเคลื่อนไหวของหมี่หยาง อีกฝ่ายขยับตัวนิดหน่อยเขาก็โงหัวขึ้นมาทันที ดวงตาโตเป็นประกายมองตามการเคลื่อนไหวของหมี่หยางด้วยความสงสัยใคร่รู้ ตอนหมี่หยางส่งเสียง เขาก็จะปรบมือร้องดีใจ เสียงเด็กร้องเรียก “แอ้” น่าสนุกยิ่ง
หมี่หยาง “อา” ใส่เขา เขาก็ปรบมือด้วยความตื่นเต้นทันที ยกยอปอปั้นมาก
ตัวหมี่หยางเองก็ขำ
นอกจากฟันขึ้นรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวบางครั้งแล้ว ร่างกายเล็กๆ ของไป๋ลั่วชวนน้อยก็เต็มไปด้วยพลังงานไม่มีที่สิ้นสุด
บางครั้งหมี่หยางก็อยากจะลองวัดกับเขาดูสักหน่อย แต่ว่าลองติดต่อกันสามครั้งแล้ว ไม่ทันสองชั่วโมงหมี่หยางก็สัปหงกด้วยความง่วงแล้ว ส่วนทางคุณชายไป๋น้อยยังพยายามจะกลิ้งลูกบอลหนังมาให้เขาเล่นอยู่เลย! แค่ดูจากร่างกายช่วงที่เป็นทารก หมี่หยางก็รู้สึกว่าตัวเองแพ้แล้ว คนผู้นี้ทำไมสมรรถภาพทางร่างกายถึงได้ดีขนาดนี้กัน? เป็นโซลาร์เซลล์เรอะ?!
หมี่หยางอาบน้ำเสร็จเล่นจนอ่อนระโหยโรยแรง ก็สะลึมสะลือหลับไป ถูกแม่เขาอุ้มกลับไประหว่างหลับฝันอยู่ ไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย
วันที่ยี่สิบเก้าเดือนล่า[1] ในกรมทหารก็เป็นสีแดงไปทั้งแถบ เต็มไปด้วยบรรยากาศความเป็นมงคลถ้วนหน้า
ประตูใหญ่ค่ายทหารติดกลอนคู่ ภายในที่ตั้งค่ายก็แขวนโคมแดงใหญ่ที่ร้อยเป็นพวง ตอนกลางคืนจุดโคมแล้วเป็นสีแดงสดไปทั้งแถบ น่าเฉลิมฉลองอย่างยิ่ง ทหารหัวหน้าแผนกฝ่ายธุรการออกไปซื้อผักและแป้งข้าวกลับมามากมายเพื่ออาหารคืนวันส่งท้ายปีเก่าโดยเฉพาะ อีกทั้งยังส่งของจำพวกแครอทไปให้ภรรยาทหารทั้งสองคนในค่าย พูดด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “คุณนาย ลำบากพวกคุณมาแล้ว พวกผมที่นี่ก็ไม่มีของดีอะไร ซื้อมาได้แค่เท่านี้ พวกคุณนึ่งสักหน่อยเสริมอาหารให้เด็กๆ แล้วกันครับ!”
คืนนั้นหมี่หยางจึงได้กินแครอทบด
เฉิงชิงต้มให้เขากิน รสชาติหวานอร่อย โดยเฉพาะแกนกลางแครอทข้างใน หวานยิ่งนัก
หมี่หยางกินเข้าไปครึ่งหัวอย่างเอร็ดอร่อย
ตกกลางคืน หมี่เจ๋อไห่จะไปรายงานงานสถานการณ์เรื่องเรียนและเรื่องงานช่วงนี้ให้ไป๋จิ้งหรง เฉิงชิงจึงให้เขาเอาเอี๊ยมกางเกงตัวนั้นติดมือไปด้วย หมี่เจ๋อไห่อายอยู่เล็กๆ อ้ำอึ้งอยู่นานไม่ยอมเอาติดไป “เกิดคนอื่นเห็นเข้า คิดว่าผมให้ของขวัญล่ะ…”
เฉิงชิงจิ๊ปากตอบเขา “ผ้าผืนใหญ่แค่ฝ่ามือเนี่ยนะ คนเขายินดีจะรับ ไม่งั้นฉันก็ไม่กล้าจะให้หรอก!”
หมี่เจ๋อไห่รู้ว่าตัวเองคิดมากเกินไปแล้ว จึงเอาเสื้อผ้าตัวน้อยนั้นติดไปด้วยอย่างสบายใจ
ตอนกลับมาเขาก็ไม่ได้กลับมามือเปล่า คุณนายไป๋ให้ลูกอมนมกระต่ายขาวห่อใหญ่แก่หมี่หยาง เด็กกินมากเกินไปไม่ได้ แต่นี่เป็นช่วงฉลองปีใหม่ ในบ้านมีลูกอมหน่อยก็เป็นเรื่องน่ายินดี คุณนายไป๋คิดได้รอบคอบ ส่งมาให้โดยใช้ข้ออ้างเรื่องเด็ก เฉิงชิงรับลูกอมไว้แล้วชอบมาก พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าทำให้คนอื่นเขาต้องสิ้นเปลืองแล้ว คราวหลังต้องทำเสื้อผ้าหลายๆ ตัวชดเชยให้ถึงจะเป็นใช้ได้
หมี่เจ๋อไห่นอนเปิดหนังสือทฤษฎีทางการทหารอยู่บนเตียง พูดไปเรื่อยเปื่อยว่า “ไม่ต้องหรอกมั้ง ฉลองปีใหม่เสร็จไป๋จิ้งหรงก็จะกลับหน่วยบัญชาการแล้ว คราวที่แล้วผมได้ยินมาว่าภรรยาเขาไม่ใช่ครอบครัวติดตามนายทหาร เหมือนว่าจะมีงานอยู่ที่เมืองหู้[2] เมืองหู้เจริญขนาดนั้น จะซื้อเสื้อผ้าดีๆ ไม่ได้อะไรกัน คุณก็อย่าไปสิ้นเปลืองน้ำใจเลย”
ความกระตือรือร้นของเฉิงชิงถดถอยลง ถอนหายใจเอ่ย “ก็ใช่” เธอนั่งคิดอยู่ตรงนั้นสักพัก ยื่นมือมาตบหมี่หยางเบาๆ
แล้วพูดขึ้นอีก “ฉลองปีใหม่เสร็จวันหยุดเยี่ยมครอบครัวของคุณก็จะใช้หมดแล้ว เดิมก็เกินเวลามาหน่อย หัวหน้าเขาเห็นว่าหมี่
หยางยังเด็ก กลัวว่าไปช่วงหน้าหนาวจะทำให้เด็กหนาว รอฉลองปีใหม่เสร็จอากาศอุ่นแล้ว ฉันก็จะพาหยางหยางกลับบ้านเกิดแล้วนะ”
หมี่เจ๋อไห่ไม่พูดอะไร แต่อ่านหนังสือต่อไม่ลงแล้ว เขาพลิกตัวกอดภรรยา “ผมไม่อยากจากพวกคุณแม่ลูก”
เฉิงชิงขำเขา “คำนี้ฉันควรเป็นคนพูดสิถึงจะถูก ทำไมคุณถึงมาแย่งบทฉันซะล่ะ! รองหัวหน้ากองหมี่ อยู่ข้างนอกคุณ
ไม่ใช่ชายชาตรีหรอกเหรอ ทำไมถึงยังมีช่วงเวลามาซบไหล่ภรรยาร้องไห้อยู่อีก นี่ๆ ไม่ต้องอแงแล้ว…ร้องไห้จริงๆ เหรอเนี่ย”
หมี่เจ๋อไห่ไม่ได้ร้องไห้ แต่สีหน้าดูไม่ดี น้อยใจคล้ายกับหมาป่าตัวใหญ่
หมี่หยางนอนหงายหน้ามองเพดานพลางเล่นน้ำลายอยู่ข้างๆ กรอกลูกตาทอดถอนใจที่พ่อเขาต่อหน้าผู้คนอีกอย่างลับหลังผู้คนอีกอย่าง หลายปีขนาดนี้แล้วก็ยังแก้ไม่หาย
แต่ไม่ว่ายังไง ปีใหม่ก็ยังคงต้องฉลองอยู่ดี
ในกรมทหารไม่หยุด บรรดาทหารจากทั่วทุกสารทิศย้ายม้านั่งเล็กมารวมตัวดูโทรทัศน์สีกันในห้องประชุม นั่งในท่าของทหารตลอดเวลา ยืดหลังตรง นั่งอย่างเป็นระเบียบราวกับใช้ไม้บรรทัดวัด มีแต่ตอนที่หัวเราะขึ้นมาเท่านั้นถึงจะส่งเสียงหัวเราะครืน แล้วยังปรบมืออย่างกระตือรือร้นทุกครั้งหลังจากทุกรายการจบลง ท่าทีจริงจังคล้ายกำลังดูการแสดงสด
หมี่หยางและไป๋ลั่วชวนน้อยก็ถูกอุ้มออกไปเดินวนหนึ่งรอบ ทั้งสองคนสวมเอี๊ยมแบบเดียวกัน สวมหมวกไหมพรมเล็กคล้ายกัน กระทั่งผ้าพันคอก็ยังเหมือนกัน ดูอย่างกับพี่น้องสองคน ก้อนขาวอมชมพูงดงาม น่ารักอย่างยิ่ง
คุณนายไป๋มอบอั่งเปาให้หมี่หยาง ใส่ไว้ในกระเป๋าเอี๊ยมตรงหน้าท้อง เอ่ยพลางหัวเราะชอบใจ “สุขสันต์วันปีใหม่ ให้แต๊ะเอียหยางหยางของพวกเรา”
หมี่หยางลูบอั่งเปาซองนั้นอย่างมีความสุข นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเงินเลย!
เฉิงชิงก็ให้อั่งเปากับคุณชายไป๋น้อยเช่นกัน ทว่าถูกคุณชายน้อยยื่นมือมาผลักออก ไป๋ลั่วชวนน้อยร้อง “แอ้” ยื่นมือไปจะจับหมี่หยาง
เฉิงชิงหยอกเขา “เอ๋ อันนี้ให้หนูไม่ได้นะ”
ผู้ใหญ่รอบข้างหัวเราะขึ้นมา
คนที่มาอวยพรปีใหม่มีมากมายหลายคน ไป๋จิ้งหรงและหมี่เจ๋อไห่คนหนึ่งเป็นกรรมการฝ่ายการเมืองคนหนึ่งเป็นรองหัวหน้ากอง ต้องออกไปดูแลผู้คนทั้งคู่ โยงไปถึงคุณนายไป๋กับเฉิงชิงก็ไม่ได้เว้นว่าง มีคนเข้าๆ ออกๆ ไอเย็นมักจะพัดเข้ามาบ่อยๆ พวกเธอกลัวว่าจะทำให้เด็กๆ หนาว จึงวางเด็กสองคนไว้ภายในห้องแยกของห้องประชุมเล็ก ต่อเก้าอี้สองตัวเข้าด้วยกันวางเบาะรองให้พวกเขานั่งอยู่ตรงนั้น แล้วหาทหารยามมาดู
หมี่หยางเงยหน้าสำรวจด้วยความสงสัยใคร่รู้ ในห้องแขวนแผนที่อันใหญ่ไว้ กินผนังไปด้านหนึ่งเต็มๆ ข้างๆ ยังวางโต๊ะทราย[3]ขนาดเท่าโต๊ะทำงานสองตัว บนนั้นมีต้นสนเล็ก รถ รถถัง และหุ่นทหารหลายชิ้น เขารู้สึกว่าแปลกใหม่มาก
ไป๋ลั่วชวนน้อยไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนอย่างเขา พอมาอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่กะทันหัน แล้วยิ่งไม่มีคนคุ้นเคยอยู่ข้างตัว เขาก็นั่งเกร็งตัวอยู่ตรงนั้น อยากพลิกตัวปีนหนีออกไปหลายครั้ง ทหารยามตกใจ เขาถูกเรียกตัวมากะทันหัน ไม่เคยใกล้ชิดกับเด็กน้อยมาก่อนเลย ได้แต่อุ้มคุณชายไป๋น้อยกลับไปอย่างเกร็งๆ แต่คุณชายน้อยต่อต้านการสัมผัสตัวจากคนแปลกหน้ามาก บิดตัวไปมา ตอนถูกยัดของเล่นใส่ในมือยังโมโห ร้อง “อ๊า“ ทีหนึ่งแล้วโยนของเล่นลงพื้น
ไป๋ลั่วชวนน้อยต่อต้านอยู่พักหนึ่งก็เขยิบเข้าไปชิดหมี่หยาง ไม่ดิ้นต่อแล้ว
หมี่หยางเอียงหัวมองเขา ทารกน้อยแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้แล้ว ตอนนี้ในสายตาของคุณชายไป๋น้อยไม่มีความเท่เหมือนอย่างแต่ก่อน ในดวงตาโตคล้ายองุ่นดำเกิดความกระสับกระส่าย
หมี่หยางคิด แล้วยื่นมือเข้าไปหาเขาก่อน ก็ถูกคุณชายน้อยจับมือไว้แทบจะทันที
เขาขยับนิ้วมือ ไป๋ลั่วชวนน้อยก็โดนดึงดูดความสนใจ ก้มหน้ามองเขาเล่นปลายนิ้วมืออยู่ตรงนั้น
หมี่หยางแกว่งมือปลอบเขา คิดในใจ ต่อให้เป็นอันธพาลน้อยที่ร้ายกาจก็กลัวเป็นนี่นา พอคิดแบบนี้แล้ว ตอนเงยหน้ามองคุณชายน้อยอีกครั้ง ในใจก็อดอ่อนยวบลงสองสามส่วนไม่ได้
ก็ยังเป็นเด็กอยู่นี่นา
หมี่หยางเล่นกับเขาอยู่ในนั้นพักใหญ่ ได้ยินเสียงจากโทรทัศน์แว่วๆ ——บทดั้งเดิมของคุณยายเจ้าลี่หรงลอยมา“ซือมาโอ่งทุบกวง—— ปัง![4]”
หมี่หยางหัวเราะคิกคักขึ้นมา
ทหารยามแอบมองสำรวจพวกเขา พอเห็นว่าไม่ได้ร้องไห้จริงๆ ก็โล่งอก เขาอดมองเด็กบ้านรองหัวหน้ากองหมี่หลายหนไม่ได้ รู้สึกว่าแม้เด็กน้อยคนนี้จะไม่ได้น่ารักราวก้อนหิมะเหมือนเด็กบ้านตระกูลไป๋ข้างๆ แต่พอหัวเราะขึ้นมาแล้วน่ารักน่าชังจริงๆ !
ไป๋ลั่วชวนน้อยใกล้ชิดหมี่หยาง พอทั้งสองคนกอดกันใกล้จะหลับไป จู่ๆ ประทัดข้างนอกก็ส่งเสียงปังขึ้นมากะทันหัน!
หมี่หยางสะดุ้งตกใจ ไป๋ลั่วชวนน้อยยิ่งตกใจเบะปากจะร้องไห้ โชคดีที่แม่ของพวกเขากลับมาเวลานั้นพอดี ต่างคนต่างอุ้มเด็กขึ้นมา ปลอบโยนเสียงแผ่วเบา
พอไป๋ลั่วชวนน้อยเห็นคุณนายไป๋เข้ามา ก็น้อยใจหยดน้ำตาคล้ายเมล็ดถั่วเหลืองไหลลงมา มือเล็กจับเสื้อผ้าของคุณนายไป๋ ร้องไห้ซะจนสะอึก
หมี่หยางดีกว่าเขามาก ซบอยู่ในอ้อมแขนของเฉิงเชิงหาววอดใหญ่ จากนั้นก็เอียงคอหรี่ตามองแสงประทัดแสงสุดท้ายที่สว่างไวข้างนอก ปีใหม่แล้ว ช่างดีจริงๆ

________________________________________
[1] เดือน12 ตามสุริยจันทรคติ (Lunisolar calendar)
[2] เมืองเซี่ยงไฮ้
[3] โต๊ะทราย (Sand Table) มีไว้สำหรับจำลองสภาพภูมิประเทศในการจัดวางยุทธวิถี
[4] ซือมาโอ่งทุบกวง เดิมที่มาจากสำนวน 司马光砸缸 ซึ่่งแปลว่าซือหม่ากวงทุบโอ่ง มีที่มาจากเมื่อสมัยซือหม่ากวงยังเด็ก เพื่อนเล่นของเขาตกลงไปในโอ่ง ในขณะที่เพื่อนวัยเดียวกันคนอื่นตกใจ ไม่รู้ควรทำอย่างไร แต่ซือหม่ากวงกลับใช้ก้อนหินทุบโอ่ง ช่วยชีวิตเพื่อนไว้ได้ สำนวนนี้ถูกนำไปเล่นใน การแสดง《英雄母亲的一天》หนึ่งวันของมารดาวีรบุรุษ ในคืนวันเทศกาลตรุษจีนปี 1989 เนื่องจากคำว่าโอ่งในภาษาจีนออกเสียงว่ากัง คล้ายคลึงกับคำว่ากวงในซือหม่ากวง ทำให้ถูกนำเอามาเล่นเป็นมุกตลกในการแสดงครั้งนี้ และทำให้จ้าวลี่หรงผู้แสดงโด่งดังอย่างมากในวัย 61 ปี

1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเรา

1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเรา

1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเรา
Status: Ongoing
อ่าน 1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเรา เรื่องย่อ เมื่อไป๋ลั่วชวนเพื่อนที่สนิทที่สุดในวัยเด็กกำลังจะหมั้น หมี่หยางจึงไปร่วมแสดงความยินดีทั้งที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เหินห่างกันไปนานแล้ว ในงาน ไป๋ลั่วชวนเชื้อเชิญหมี่หยางให้ดื่มเหล้า ทำให้เขาเมาหลับไปพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างหนัก แต่ก่อนที่สติจะหลุดลอยไปนั้น เขาได้ยินไป๋ลั่วชวนพูดว่าอยากจะย้อนเวลากลับไป เพื่อเริ่มต้นทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง และเมื่อตื่นขึ้นมาหมี่หยางก็ได้พบว่า ตนเองได้ย้อนเวลากลับมาเป็นทารกในช่วงปี 1988 และได้เริ่มทำความรู้จักกับไป๋ลั่วชวน เพื่อนสมัยเด็กที่อยู่บ้านพักในกรมทหารด้วยกันอีกครั้ง แต่ไป๋ลั่วชวนเวอร์ชั่นทารกคนนี้ไม่ได้มีความทรงจำเหมือนอย่างเขาเลยสักนิด หมี่หยางค่อยๆ เติบโตในค่ายทหารไปพร้อมกับความทรงจำที่มีติดตัวมา แล้วเขาก็ได้รู้ว่า เรื่องราวของการเริ่มต้นใหม่ในครั้งนี้ คือโชคชะตาที่ผูกพันตัวเขากับไป๋ลั่วชวนเอาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset