S.C.I. ทีมพิฆาตทรชน ตอนที่ 14 ฆาตกรหมายเลข 14 หลี่เฟยฝาน

ฆาตกรหมายเลข 14 หลี่เฟยฝาน
สำนักพิมพ์โรส

14
หลี่เฟยฝาน

ไม่นานนักรถตํารวจหลายคันก็จอดลงที่หน้าอาคารคณะจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย C กงซุนรีบลงจากรถ ส่วนเจ้าหน้าที่ตํารวจได้คาดเทปกั้นสีเหลืองล้อมรอบศพไว้ ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย ได้สลายบรรดานักศึกษาที่เข้ามามุงดู ถึงแม้ว่าสถานที่เกิดเหตุจะเป็นระเบียบเรียบร้อยดีแล้ว แต่สถานการณ์ในมหาวิทยาลัยนั้นยังคงแตกตื่นอยู่
นักศึกษาอย่างหลี่เฟยฝานเป็นนักศึกษาที่อยู่ในระดับดีเยี่ยม การตกจากดาดฟ้าต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ทําให้ทางมหาวิทยาลัยยากที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทางตํารวจได้สันนิษฐานว่าคดีนี้อาจจะเป็นการฆาตกรรม ทําให้จิตใจของผู้คนในมหาวิทยาลัยเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมา
ทางมหาวิทยาลัยประกาศหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 1 วันทันที เพื่อให้ความร่วมมือในการสืบสวนกับตํารวจอย่างเต็มที่
สมาชิกของ S.C.I. แบ่งออกเป็นกลุ่มเพื่อแยกย้ายกันทํางาน หวังเฉาพาทีมเทคนิคไปเก็บตัวอย่างบริเวณดาดฟ้า จางหลงกับสวีชิ่งไปสอบปากคําเพื่อนร่วมชั้นของหลี่เฟยฝาน หม่าฮั่นไปตรวจสอบห้องพักของหลี่เฟยฝาน กงซุนและเจ้าหู่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุเพื่อทําการชันสูตรศพและสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์
ไป๋อวี้ถังดึงจั่นเจาเข้ามาในรถตู้ปฏิบัติการของหน่วย S.C.I. ทั้งสองนั่งลงหันหน้าเข้าหากัน
“ทำอะไรน่ะ” จั่นเจามองไป๋อวี้ถังที่มีสีหน้าเคร่งเครียดซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“นายรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง”
“ฉันไม่เป็นอะไร” จั่นเจาหันหน้าไปอีกทางก่อนจะพึมพําออกมา
“แล้วหลี่เฟยฝานกับนายมีความสัมพันธ์กันยังไง” ไป๋อวี้ถังถามอย่างยิ้มแย้ม
“นายพูดอะไร” จั่นเจาลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นายอย่าเพิ่งโมโหได้ไหม” ไป๋อวี้ถังรีบเหยียดแขนดึงจั่นเจาให้นั่งลงอีกครั้ง “ฉันหมายความว่า นายรู้จักเขามากแค่ไหน มีความทรงจำที่ค่อนข้างพิเศษเกี่ยวกับเขาบ้างไหม หรือว่าเขาได้พูดอะไรกับนายบ้างหรือเปล่า”
จั่นเจาขมวดคิ้วพยายามนึกย้อน “ก็ไม่มีอะไรที่พิเศษนะ เท่าที่ฉันรู้ เขาเป็นนักศึกษาที่ดีมาก เขาเข้าฟังการบรรยายของฉันทุกครั้ง แล้วยังถามคําถามฉันบ่อย ๆ”
“คําถามอะไรบ้าง”
“ล้วนเป็นคําถามทางวิชาการ ไม่มีอะไรพิเศษ …”
“รูปนี้นายรู้ไหมว่าถ่ายเมื่อไร” ไป๋อวี้ถังถามพร้อมกับโชว์มือถือ
จั่นเจาส่ายศีรษะอย่างกลัดกลุ้ม “ฉันจําอะไรไม่ได้เลย”
“1 3 5 แล้วหมายเลขเหล่านี้ล่ะ”
จั่นเจาถอนหายใจ “ไม่เข้าใจ”
ไป๋อวี้ถังก็ถอนหายใจด้วยเช่นกัน “ฉันว่านะเจ้าแมว ฉันเห็นเจ้าหนุ่มคนนี้กระโดดตึกในขณะที่ถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ในมือ แถมในนั้นยังมีรูปถ่ายของนายอีก มันเหมือนกับว่าเขาฆ่าตัวตายเพราะความรัก”
จั่นเจาได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้าง “เจ้าหนูขาว! ตอนนี้ไม่ใช่เวลา มาล้อเล่นนะ”
“ฮ่า ๆ …” ไป๋อวี้ถังเอื้อมมือไปนวดหว่างคิ้วของจั่นเจา แล้วพูดว่า “ฉันแค่อยากให้นายผ่อนคลายลงบ้าง อย่าเครียดแบบนั้น”
จั่นเจาได้ยินดังนั้นก็กลอกตาใส่เขา ก่อนจะเอนหลังพิงกับที่นั่ง “ครั้งนี้ไม่มีเบาะแสอะไรเลยจริง ๆ แต่…ฉันคิดว่าเหมือนเขากําลังต้องการจะบอกอะไรฉันอยู่”
ดี่ดีดี๊ดี …
ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของไป๋อวี้ถังก็ดังขึ้น พอรับสายก็พบว่าเป็นเสียงของหม่าฮั่น
“หัวหน้า เราพบอะไรบางอย่างที่ห้องพักของหลี่เฟยฝาน คุณรีบมาดูเถอะ”
“นายเจออะไร” ไป๋อวี้ถังรู้สึกได้ถึงความกังวลจากน้ำเสียงของหม่าฮั่น

“…ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี คุณเห็นแล้วก็รู้เอง ใช่แล้ว ให้ดอกเตอร์จั่นเจามาด้วยนะครับ”

หลังจากวางสาย ไป๋อวี้ถังกับจั่นเจาก็รีบไปที่นั่นทันที
หลี่เฟยฝานอาศัยอยู่ที่หอพักของนักศึกษาปริญญาโทฝั่งตะวันออกของมหาวิทยาลัย เนื่องจากเขามีผลการเรียนดี ทางมหาวิทยาลัยจึงได้มอบห้องพักที่ค่อนข้างหรูหราเป็นรางวัลให้กับเขา ซึ่งเป็นอคารที่สร้างขึ้นใหม่เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมสิ่งอํานวยความสะดวกครบครัน ตกแต่งสวยงาม หลี่เฟยฝานพักอยู่บนชั้น 3 ห้อง 301 ซึ่งเป็นห้องแรกจากทางฝั่งตะวันออกของอาคาร
เมื่อก้าวเข้าไปในห้องพักของเขา ความรู้สึกแรกที่ได้รับก็คือมันสะอาดมาก แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนกําลังทำการเก็บหลักฐานอยู่ภายใน แต่กระจกหน้าต่างที่สว่างไสว พื้นที่ไม่มีฝุ่นสักเม็ด และชั้นวางหนังสือที่เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดจนดูเหมือนเป็นห้องพักในโรงแรม มากกว่าเป็นห้องพักของนักศึกษาชายโสดเสียอีก
ไป๋อวี้ถังและจั่นเจาเดินเข้ามาภายในห้องนอน ก็เห็นหม่าฮั่นกำลังนั่งยองๆอยู่ข้างเตียง บนเตียงมีอัลบั้มรูปหนาปึ้กกว่าสิบอัลบั้มวางเรียงรายอยู่
เมื่อเห็นทั้งสองเข้ามา หม่าฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ในมือของเขายังมีกล่องกระดาษหลากสีสันสวยงามใบหนึ่ง
“ลองดูพวกนี้ก่อนแล้วกัน” ว่าแล้วเขาก็ยื่นอัลบั้มรูปเหล่านั้นให้ไป๋อวี้ถังกับจั่นเจา
ทั้งสองเปิดอัลบั้มรูปด้วยความสงสัยก่อนจะตกตะลึง อัลบั้มรูปพวกนี้เต็มไปด้วยรูปภาพของจั่นเจา ทุกภาพล้วนมีวันเวลาระบุไว้ และแทบจะมีในทุกๆวัน สิบกว่าอัลบั้ม หลายพันภาพ เป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานเกือบปี
ไป๋อวี้ถังพลิกไปได้ไม่กี่หน้าก็ปิดอัลบั้มรูปลง แล้วด่าว่า “ให้ตายเถอะ โรคจิตชัด ๆ”
จั่นเจาเองก็อกสั่นขวัญแขวน “เขา…เขาสะกดรอยฉันเหรอ”
“ตามนายมาเป็นปีแล้วด้วย!” ไป๋อวี้ถังตบไหล่ของจั่นเจาอย่างจนปัญญา “เจ้าแมวเอ๊ย นายนี่มันจริง ๆ เลย โดนคนสะกดรอยตามมาเป็นปี แต่นายไม่เคยรู้ตัวเลย”
จั่นเจาจ้องมองด้วยความโมโห หม่าฮั่นที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มแล้วบอกว่า “ก็ไม่แปลกนะครับ! เพราะเป็นรูปที่ถ่ายมาจากระยะไกล คนทั่วไปไม่มีทางรู้ตัวหรอกครับ”
“เอ๊ะ? นายรู้ได้ยังไง” ไป๋อวี้ถังถามด้วยความงุนงง
หม่าฮั่นเกาศีรษะ “เมื่อก่อนตอนที่อยู่หน่วยพยัคฆ์บิน ผมเคยได้รับการฝึกในด้านนี้ พวกคุณลองดูรูปภาพเหล่านี้สิ มีอยู่จำนวนหนึ่งที่มีวัตถุด้านหน้าเบลอมาก นั่นแสดงว่าเขาใช้กล้องที่มีกำลังขยายสูงเพื่อซูมถ่ายใกล้ ๆ” เขาหยิบรูปออกมาหลายใบให้ไป๋อวี้ถังกับจั่นเจาดู “อย่างน้อยต้องมีระยะห่างเกือบร้อยเมตร ที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือ หนุ่มคนนี้ล้วนถ่ายโดยใช้องศาในการยิง”
“องศาในการยิงเหรอ”
“เนื่องจากมีระยะไกลมาก ถ้าเป็นคนทั่วไปซูมถ่าย พวกเขาจะไม่เปลี่ยนองศาในการถ่ายอย่างละเอียดยิบย่อย ดังนั้น ส่วนใหญ่ถ่ายอะไรได้ก็เอาแบบนั้น! แต่ว่าหากต้องการยิงเป้าหมาย ก็ต้องอาศัยการเปลี่ยนองศาเพื่อเลือกมุมที่ดีที่สุดในการยิง” ว่าแล้วก็ชี้ไปที่หน้าผากของตัวเอง “ตรงนี้” แล้วชี้ไปที่หัวใจ “และตรงนี้”
จั่นเจากับไป๋อวี้ถังมองรูปถ่ายเหล่านั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าในทุก ๆ ภาพล้วนมีจุดยิงอย่างน้อยหนึ่งตำแหน่ง
ไป๋อวี้ถังถามหม่าฮั่นด้วยความหวาดกลัวเล็ก “เจ้าหนุ่มคนนี้เคยได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพงั้นหรือ”
หม่าฮั่นพยักหน้า “เขาไม่น่าจะถ่ายรูปพวกนี้เพื่อใช้ในการยิง แต่ว่าความเคยชินมันยากที่จะเปลี่ยนแปลง และผมกล้ายืนยันเลยว่าเขาไม่ใช่มือสมัครเล่นอย่างแน่นอน!”
“ดีมาก!” ไป๋อวี้ถังตบบ่าของหม่าฮั่นเป็นการชื่นชม “นี่เป็นเบาะแสที่ดีมาก! นายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ฉันจะให้นายสืบสวนเรื่องนี้ต่อแล้วกัน”
“ครับผม!” หม่าฮั่นตอบด้วยความเขินอายเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเปิดกล่องในมือออกแล้วยื่นให้ “ยังมีสิ่งเหล่านี้อีก!”
จั่นเจากับไป๋อวี้ถังโน้มตัวเข้าไปดูใกล้ ๆ พบว่ามันคือรูปภาพที่มีจั่นเจาอีกเช่นกัน เพียงแต่ว่าจั่นเจากลับไม่ได้อยู่ตรงกลางของภาพ เพราะ ฃจุดโฟกัสของกล้องคือรถเก๋งฮอนด้าสีดำคันนั้น
“รถคันนี้?” จั่นเจามองไปที่ไป๋อวี้ถัง
ไป๋อวี้ถังพยักหน้า “ใช่แล้ว เป็นรถคันนั้นแหละ!” เขามองดูรูปเหล่านี้อย่างใช้ความคิด “เจ้าแมว สิ่งที่นักศึกษาของนายต้องการจะบอกกับนายนั้น! เขาอยากบอกกับนายว่า นายกำลังตกอยู่ในอันตราย”
…! …
จั่นเจารับรูปภาพมา รถที่อยู่ในภาพถูกวงกลมด้วยปากกาสีแดง เห็นได้ชัดว่าตอนที่หลี่เฟยฝานสะกดรอยตามเขานั้นได้สังเกตเห็นรถยนต์คันนี้
ไป๋อวี้ถังเก็บรูปกลับเข้าไปในกล่อง “เอากลับไปให้เจี่ยงผิงวิเคราะห์ทางเทคนิคทั้งหมด ดูว่าจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มบ้าง”
“ไม่แปลกเลยที่เขาจับตามองนายด้วยความเป็นห่วง” ไป๋อวี้ถังยักไหล่ “เขาคงกลัวว่านายจะมีอันตราย”
“นายคิดว่าทําไมเขาต้องขึ้นไปบนดาดฟ้าตามลําพัง” ทันใดนั้นจั่นเจาก็หันหน้ามาหาไป๋อวี้ถัง

ไป๋อวี้ถังเงียบไป
จั่นเจายิ้มอย่างขมขื่น “เขาตายก็เพราะฉัน”

S.C.I. ทีมพิฆาตทรชน

S.C.I. ทีมพิฆาตทรชน

S.C.I. ทีมพิฆาตทรชน, SCI 谜案集
Score 8.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2005 Native Language: Chinese
อ่าน S.C.I. ทีมพิฆาตทรชน เรื่องย่อ S.C.I. : หน่วยสืบสวนคดีอาชญากรรมพิเศษคือทีมที่รวมเจ้าหน้าที่ระดับหัวกะทิจากแต่ละแผนกในกรมตำรวจมารวมกันเพื่อปิดคดีที่ยังไม่คลี่คลาย เมื่ออธิบดีกรมตำรวจสั่งตั้งหน่วยสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมพิเศษและโยกย้ายเจ้าหน้าที่ระดับหัวกะทิจากแต่ละแผนกในกรมตำรวจมารวมกัน ทำให้ไป๋อวี้ถังผู้มีความกล้าหาญทั้งยังมีทักษะเชี่ยวชาญ แต่มีนิสัยแปลกประหลาดไม่เหมือนคนอื่น ต้องมาทำงานร่วมจั่นเจา ดอกเตอร์ด้านอาชญาวิทยาที่มีชื่อเสียงในนานาประเทศ ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นค่อนข้างลึกซึ้ง จนเรียกได้ว่าทั้งสองไม่ถูกชะตากันมาตั้งแต่ออกจากท้องแม่แล้ว! ในสายตาของไป๋อวี้ถัง จั่นเจาไม่ได้สุภาพเรียบร้อยอย่างที่ใครๆ พูด เขาเป็นแค่แมวเจ้าเล่ห์ไร้สัจจะตัวหนึ่ง! ในสายตาของจั่นเจา ไป๋อวี้ถังนั้น ช่างห่างไกลจากภาพลักษณ์ภายนอกอันสง่างามมากความสามารถ เขาก็เป็นแค่หนูขาวน่ารังเกียจตัวหนึ่ง!"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset