คู่แข่งของฉันถังแตก ตอนที่ 2.2

บทที่ 2 (2)
Lilac Novel
ถึงจี้หรานจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแวดวงเกย์มากนัก แต่เขารู้ว่าเลข 1 และ 0 หมายถึงอะไร
“…ก็ที่ฉันไปหาหมอนั่นเพราะอยากนอนกับเขาไง ว่าแต่ทำไมฉินหม่านถึงเป็นเลข 0 ไม่ได้”
“ฉันจะอธิบายแบบนี้ละกัน ทุกคนที่ฉันรู้จัก… เกย์ทุกคน! ไม่ว่าจะเลข 0 หรือ 0.5 ไม่มีใครไม่อยากโดนฉินหม่านคร่อม” เยว่เหวินเหวินเอ่ยต่อ “เขาคือผู้ชายที่พวกเราปรารถนา! หนุ่มในฝัน! สวรรค์ของเหล่าเก้ง! แต่เขาถูกนายย่ำยีไปแล้ว!!”
อารมณ์จี้หรานแปรปรวนไปหมด เยว่เหวินเหวินคนนี้เก่งจริงๆ เมื่อกี้เขายังโมโหอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับรู้สึกพูดอะไรไม่ออก
“เยว่เหวินเหวิน แล้วศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชายของนายล่ะ”
“ศักดิ์ศรีมีค่ากี่หยวน” เยว่เหวินเหวินส่งเสียงเยาะหยัน “อีกอย่าง ต่อให้มันมีค่าจริงๆ นายเห็นฉันขาดแคลนเงินหรือไง”
บ้านเยว่เหวินเหวินเป็นมหาเศรษฐี มหาเศรษฐีที่รวยมากจริงๆ ดังนั้นต่อให้พูดแบบนี้จึงไม่น่าหมั่นไส้สักนิด
จี้หรานหมดอารมณ์จะคุยแล้ว “ฉันวางแล้วนะ”
“เฮ้ เดี๋ยวสิ หรานหราน อย่าเพิ่งวาง” เยว่เหวินเหวินเรียกเขาไว้ “ว่าแต่…นายจ่ายให้ฉินหม่านไปเท่าไหร่”
จี้หรานขมวดคิ้ว “นายคิดจะทำอะไร”
เยว่เหวินเหวินหัวเราะเจ้าเล่ห์ “ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว รูปร่างหน้าตาแบบฉินหม่าน แค่นอนกับนายครั้งเดียวยังไงก็ไม่มีทางเป็นเลข 0 ได้100%หรอก…”
“ไม่ได้” จี้หรานรีบแทรกแล้วตัดบททันที “เยว่เหวินเหวิน นายเลิกคิดไปได้เลย ระหว่างฉันกับเขาเป็นความสัมพันธ์แบบระยะยาว หนึ่งปี”
“ชิ จี้หราน นายนี่น่าเบื่อจริงๆ คิดจะเก็บของดีไว้กินคนเดียว?” เยว่เหวินเหวินทำเสียงจิกกัดสุดๆ ก่อนถามต่อ “โอเคๆ งั้นนายก็บอกฉันมาได้แล้วว่านายจ่ายไปเท่าไหร่กันแน่”
คราวนี้จี้หรานฉลาดขึ้นบ้างแล้ว เขาไม่ตอบแต่ย้อนถาม “ราคาตลาดอยู่ที่เท่าไหร่ล่ะ”
“ราคาตลาด? ฉันไม่เคยใช้บริการแบบนั้นซะด้วยสิ คนฮอตๆ อย่างฉันยังไม่ตกต่ำจนเหมือนพวกเลข 0 ที่น่าสงสารพวกนั้นหรอกนะ แต่เพื่อนฉันบางคนก็เคยใช้บริการหนุ่มๆ พวกนั้นเหมือนกัน อืม… ธรรมดาๆ ก็ห้าพัน แต่ถ้าตัวท็อปก็ห้าหมื่นต่อคืน”
“…เอาเป็นว่าเงินที่ฉันจ่ายมากพอที่จะเลี้ยงเขาไปได้หนึ่งปี นายเลี้ยงไม่ไหวหรอก เลิกคิดได้แล้ว” จี้หรานเอ่ยต่อ “วางแล้วนะ!”
หลังจากวางสายจี้หรานก็รู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาต้องไม่ไหวแน่ๆ
เขาควรซื้อยาทาแก้ปวดมาให้ตัวเองเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเขาคงไม่มีทางนอนได้
เขาเข้าแอพพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ ไม่นานนักแมสเซนเจอร์ก็นำของที่เขาสั่งซื้อมาส่งให้
จี้หรานบอกให้แมสเซนเจอร์วางของไว้หน้าบ้าน รอจนกระทั่งแมสเซนเจอร์กลับไป เขาจึงค่อยๆ ย่องออกไปเอายา
การทายาเต็มไปด้วยความยากลำบาก พอทายาเสร็จจี้หรานก็เริ่มเสียดายที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขาไม่ได้อัดฉินหม่านแรงๆ ไปสักทีสองที
จี้หรานปีนกลับขึ้นเตียง ยังไงตอนนี้ก็นอนไม่หลับอยู่ดี ขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะหาหนังดูฆ่าเวลา ถึงเห็นว่ามีข้อความหนึ่งถูกส่งมาในวีแชท จากชื่อ Q
[นายโอเคดีไหม]
จี้หรานจ้องรูปโปรไฟล์สีดำสนิทอยู่นานสองนานถึงรู้ว่าเป็นใคร
เขาขี้เกียจพิมพ์จึงกดปุ่มอัดเสียงแล้วเลื่อนโทรศัพท์มาจ่อริมฝีปาก จากนั้นก็รัวคำพูดลงไปทันที
[ฉันโอเคดีไหมงั้นเหรอ เหอะ ให้ฉันลองคร่อมนายดูไหมล่ะ ฉินหม่าน ฉันจะบอกอะไรไว้นะ ถ้าพรุ่งนี้สะโพกฉันยังไม่หายดี ฉันจะเผาบ้านนายซะ!]
ฉินหม่านส่งข้อความเสียงกลับมา
[นายอยู่ไหน ฉันจะพานายไปโรงพยาบาล]
[นายจะได้ไม่ต้องไปเผาบ้านฉัน]
แม้แต่แมสเซนเจอร์จี้หรานยังไม่กล้าลงไปเจอหน้า นับประสาอะไรกับการไปหาหมอ แบบนั้นปล่อยให้เขาตายไปเสียเลยยังดีกว่า
[จะให้ฉันไปทำบ้าอะไรที่โรงพยาบาล!] พูดถึงตรงนี้จี้หรานก็นึกอะไรออก [นายนั่นแหละที่ต้องไปตรวจ! เมื่อคืนฉันแค่พูดเรื่อยเปื่อยไปเพราะเมา นายก็ขึ้นเตียงกับฉันแล้ว ง่ายแบบนี้นายคงไม่ได้เป็นโรคอะไรหรอกใช่ไหม]
แน่นอนว่าจี้หรานรู้ว่าฉินหม่านไม่ได้ป่วย ก็ฉินหม่านคือใครกันล่ะ ก่อนที่จะล้มละลาย ในสายตาทุกคนฉินหม่านเป็นเหมือนลูกรักพระเจ้า ทำได้แค่มองจากระยะไกลแต่แตะต้องไม่ได้ ถือตัวยิ่งกว่าอะไรซะอีก
เขาคิดว่าที่เมื่อคืนฉินหม่านยอมไปกับเขาคงเป็นเพราะอีกฝ่ายก็เมามากเหมือนกันแน่ๆ
แต่ที่เขาพูดแบบนั้นก็เพราะต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของฉินหม่านเท่านั้นเอง
เขานึกว่าฉินหม่านจะโมโหหรือไม่ก็ไม่ตอบอะไรกลับมาอีก แต่ใครจะไปคิดว่าไม่กี่นาทีต่อมาอีกฝ่ายจะส่งรูปรูปหนึ่งกลับมา แถมยังมีข้อความเสียงตามมาด้วย
จี้หรานเปิดรูปดู เป็นใบรับรองแพทย์จริงๆด้วย
[หาตั้งนานถึงเจอ] น้ำเสียงที่ส่งมาดูสบายๆ ไม่มีความโกรธกับคำพูดของเขาสักนิด [นี่เป็นใบรับรองแพทย์ที่ได้มาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วางใจเถอะ ฉันไม่ได้ป่วย]
ถึงคราวจี้หรานพูดไม่ออกบ้างแล้ว
ขณะที่เขายังตกตะลึงไม่หาย กล่องข้อความวีแชทก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง
[Q โอนเงินให้คุณ 20,000 หยวน]
ปะป๊าจี้ [???]
Q [เพิ่งเป็นครั้งแรกเลยไม่รู้ว่าต้องใช้แรงแค่ไหน ถือว่าฉันบริการบกพร่องเอง ในเมื่อทำได้ไม่ดี ฉันคงรับเงินไว้ทั้งหมดไม่ได้ คืนให้นายสักหน่อยละกัน สองหมื่นพอไหม]
คราวนี้จี้หรานโมโหจนเกือบหายใจไม่ออก

คู่แข่งของฉันถังแตก

คู่แข่งของฉันถังแตก

คู่แข่งของฉันถังแตก
Score 4.9
Status: Ongoing
อ่านคู่แข่งของฉันถังแตก เรื่องย่อ เขาคนนี้ ‘จี้หราน’ เกิดมาในตระกูลสูงส่ง มั่งคั่งร่ำรวย มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือตั้งแต่ไหนแต่ไร แถมยังหน้าตาดี มีความสามารถ เรื่องชกต่อยยิ่งไม่เป็นรองใคร ชีวิตดีๆ แบบนี้ของเขาควรจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเช้าวันหนึ่ง เขาดันตื่นขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับ ‘หลักฐาน’ ตรงหน้า...กางเกงในสีแดงกับบ๊อกเซอร์สีดำ ส่วนคนที่อยู่บนเตียงกับเขานั้น เวรเอ๊ย ผู้ชายหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เป็นที่ชื่นชมใฝ่ฝันของใครๆ มากมาย แต่สำหรับเขาแล้ว หมอนี่คือศัตรูตัวฉกาจ ฟาดฟันกันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในชีวิต เอาเถอะ ตอนแรกเขาเห็นแก่ที่หมอนี่ตกอับ จากคุณชายสูงส่งกลายเป็นคนล้มละลายหนี้สินรุงรัง เลยจะรีบย่องหนีไปตั้งหลักเงียบๆ แต่อีกฝ่ายกลับกล้าเอ่ยปากทวงสัญญาที่เขาหลุดปากออกไปตอนเมาว่าจะ ‘เปย์’ และ ‘เลี้ยงดู’ “เมื่อคืนนายพูดว่าจะ ‘เปย์’ ฉันไม่ใช่หรือไง ทำไม พอนอนกับฉันแล้วก็คิดจะเบี้ยวงั้นเหรอ” ประโยคนี้ทำเอาจี้หรานอยากลงมือฆ่าคนถ้าไม่กลัวผิดกฎหมาย แม่งเอ๊ย ได้เลย ฉินหม่าน! ได้! ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะ ‘เปย์’ และ ‘เลี้ยงดู’ หมอนี่อย่างที่พูดไว้ แต่จำไว้ว่าเงินทั้งหมดที่เสียไป เขาจะใช้เพื่อซื้อตัวฉินหม่าน เทพบุตรในฝันที่เลื่องลือคนนี้มาเหยียดหยาม เหยียบย่ำ ซ้ำเติม จะทำทุกอย่างเพื่อให้หมอนี่อยู่ในจุดที่ทุกข์ทรมานและน่าสมเพชที่สุด คอยดู! .............................................................................................. จี้หรานโกรธจนต้องหัวเราะออกมา “ฉันนอนกับนายหรือนายนอนกับฉันไม่ทราบ” ฉินหม่านเคาะมวนบุหรี่พลางเงยหน้าขึ้นถาม “แล้วนายรู้สึกดีไหมล่ะ” จี้หรานชะงัก เขาเคลื่อนสายตาตามคำพูดของฉินหม่านไปยังส่วนล่างของอีกฝ่ายที่อยู่ใต้ผ้าห่มโดยไม่รู้ตัว “ฉันเนี่ยนะรู้สึกดี?” จี้หรานขำพรืด “นายฝันอยู่หรือไง ไม้จิ้มฟันอันนั้นของนายน่ะเหรอ ยัดร่องฟันยังไม่เต็มด้วยซ้ำ” ฉินหม่านยิ้ม “งั้นนายก็มาลองอีกรอบสิ ขอดูหน่อยว่าร่องฟันนายจะใหญ่แค่ไหน” .............................................................................................. “ไสหัวไปซะ ฉันไม่ได้รู้สึกดีโว้ย!” เขาตะคอก ฉินหม่านได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า ดับบุหรี่แล้วเปิดผ้าห่มออก “นายรอก่อน” เพราะฉินหม่านไม่ได้สวมเสื้อผ้า จี้หรานจึงหยิบบ๊อกเซอร์บนพื้นขึ้นมาแล้วโยนไปให้ “ให้รออะไร จะต่อยกันหรือไง ถ้าจะต่อยกันนายก็สวมเสื้อผ้าให้ดีๆ ไม่งั้นพอรถพยาบาลมาคงทุเรศสายตาน่าดูถ้าถูกหามออกไปในสภาพล่อนจ้อนแบบนั้น” ฉินหม่านสวมเสื้อผ้าตามที่เขาขอ “ฉันไม่ต่อย ฉันเป็นมืออาชีพมากพอ ไม่ต่อยเสี่ยเลี้ยงหรอก ฉันก็แค่จะไปถามห้องข้างๆ หน่อย” จี้หรานไม่เข้าใจ “ถามอะไร” ฉินหม่านหัวเราะในลำคอ “ถามว่าเมื่อคืนพวกเขาได้ยินเสียงนายร้องหรือเปล่า” “…” .............................................................................................. แม่งเอ๊ย ทำไมวะ ทั้งที่เขาตั้งใจจะทำให้ฉินหม่านกลายเป็นคนที่น่าสมเพชจนทนดูไม่ได้ แต่ไปๆ มาๆ ทำไมหมอนี่ถึงทำให้เขารู้สึกเหมือนจะกระอักเลือดได้ทุกครั้งที่คุยกัน ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า ‘น่าสมเพช’ คำนี้ช่างเหมาะกับเขาในตอนนี้มากกว่าใครๆ ล่ะนี่ โว้ยยยยย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset