กลิ่นกฤษณาสื่อรักข้ามภพ ตอนที่ 5

ตอนที่ 5

ครึ่งเดือนต่อมาถานชีต้องเหยียบย่างเข้าไปทำคดีในอาคารแห่งนั้นอีกครั้ง
ตึกหลังนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของกว่างหยวนกรุ๊ป สิบสองชั้นด้านล่างเป็นห้างสรรพสินค้าซินเยว่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งมีสาขาย่อยสี่สาขาในพื้นที่ภาคเหนือ ชั้นสองของชั้นใต้ดินมีทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดินโดยตรง มีผู้คนมาใช้บริการกันอย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกวัน จากสถานีตำรวจถึงอาคารกว่างหยวนใช้เวลาเดินประมาณสิบนาที แต่ถานชีไม่ชอบไปในที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน โดยเฉพาะในสถานีรถไฟใต้ดินที่มีทางเชื่อมต่อกับห้างสรรพสินค้าแบบนี้ ถานชีดูแลความเรียบร้อยในเขตพื้นที่นี้มาสองปี เคยเดินเข้าอาคารกว่างหยวนน้อยมากแบบนับครั้งได้ แต่ต่อให้เป็นสถานที่ที่ไม่ชอบเฉียดเข้าไปใกล้อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นที่นั่นเขาก็ต้องไป
คราวนี้ชั้นสิบแปดที่ถูกปิดล้อม เป็นชั้นสำนักงานของกว่างหยวนกรุ๊ป ถานชีฟังรายงานจากฉางหมิงซานขณะอยู่ในลิฟต์ ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดก็มีเสียงสวดมนต์ดังให้ได้ยิน เขาชะลอฝีเท้าหันไปมองทางฉางหมิงซาน ฉางหมิงซานขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในห้องทำงานนั่น พวกเขาเห็นหลวงจีนกลุ่มหนึ่งกำลังประสานเสียงสวดมนต์พร้อมกัน ฉางหมิงซานหันไปโวยใส่ถังจินผิงที่อยู่ข้าง ๆ “ฉันสั่งให้นายปิดที่นี่ไว้แล้วไม่ใช่รึไง”
ถังจินผิงหดคอถอยห่างไปหลบมุมอย่างเงียบ ๆ ฉางหมิงซานจึงเห็นว่าผู้กำกับการของพวกเขายืนอยู่ตรงนั้น โดยมีฉีตงเหล่ยนายน้อยแห่งกว่างหยวนกรุ๊ปที่ปรากฏตัวตามหน้าจอโทรทัศน์บ่อย ๆ ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วย
ฉางหมิงซานเห็นท่านผู้กำกับการของพวกเขาหันมาส่งยิ้มให้ ก็จำต้องก้าวเข้าไปทักทาย “สวัสดีครับผู้กำกับ”
“หมิงซานเอ้ย แล้วเสี่ยวถานล่ะ” ผู้กำกับการจ้าวกั๋วหงมีใบหน้ากลม ๆ ยิ้มกริ่มดูเปี่ยมเมตตาน่าเคารพ แต่เขาเป็นรุ่นพี่ที่อาวุโสกว่าฉางหมิงซานรุ่นหนึ่ง ฉางหมิงซานที่ถูกรุ่นพี่ข่มมานานสองปีตอนอยู่โรงเรียนตำรวจ จึงรู้จักนิสัยของจ้าวกั๋วหงเป็นอย่างดี และก็เพราะมีมิตรภาพคบหากับรุ่นพี่นี้คนนี้มานาน จึงทำให้ฉางหมิงซานดูแลเขตพื้นที่นี้ได้นานโดยไม่ถูกโยกย้ายไปที่อื่น ตอนนี้เขาแค่ต้องหาบันไดให้ตัวเองเดินลงดี ๆ เท่านั้นก็พอ
“ผู้กองอยู่ด้านหลัง คงถูกฝ่ายนิติเวชรั้งตัวไว้มั้งครับ” ฉางหมิงซานมองออกไปนอกประตู แล้วยกมือโบกเรียกถังจินผิง “บอกผู้กองทีว่าท่านผู้กำกับอยู่ตรงนี้”
“ครับ” ถังจินผิงรีบหันหลังเดินออกไป ทันทีที่พ้นประตูก็เห็นถานชียืนอยู่ข้างประตู จึงกระซิบค่อย ๆ ว่า “ผู้กอง ท่านผู้กำกับมาที่นี่พร้อมกับนายน้อยแห่งกว่างหยวนกรุ๊ป แถมพาหลวงจีนมาด้วยหลายรูปเลยครับ”
“อืม” ถานชีขานตอบ เขาเดินเข้าห้องทำงานด้วยใบหน้าเรียบเฉยตามเดิม แล้วผงกศีรษะทักทายผู้กำกับการ สายตากวาดมองไปยังจุดที่มีเทปเหลืองปิดล้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังเก็บหลักฐานมือเป็นระวิง คณะหลวงจีนยืนสวดมนต์อยู่นอกสายเทปอย่างเป็นระเบียบ ส่วนพนักงานบริษัทถูกย้ายให้ไปห้องอื่นกันหมดแล้ว ในห้องทำงานขนาดใหญ่จึงมีแค่ตำรวจกับหลวงจีนกลุ่มนั้น
“เสี่ยวถานเอ้ย ท่านนี้คือคุณฉีแห่งกว่างหยวนกรุ๊ป ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นถี่มาก พวกพนักงานไม่สบายใจกัน คุณฉีเลยขอให้เราช่วยอำนวยความสะดวก เชิญไต้ซือมาสวดมนต์ปัดรังควาน ไม่รบกวนการทำงานของเราหรอก”
จ้าวกั๋วหงกวักมือให้ถานชียิ้ม ๆ แล้วหันไปพูดกับฉีตงเหล่ย “คุณฉี คนนี้คือผู้กองถานจากทีมอาชญากรรมของเราครับ”
ฉีตงเหล่ยดูเหมือนจะตั้งใจใส่สูทดำเพื่อให้เป็นทางการ เขาขยับขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วพยักหน้าให้ถานชีด้วยสีหน้าจริงจัง “ผู้กองถาน ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ต้องยุ่งยาก” เขาพูดพลางคิดในใจว่า ถานชีดูหน้าคุ้น ๆ คล้ายกับคนที่เขารู้จัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไร
“แค่ไม่รบกวนการทำงานก็ไม่มีปัญหาครับ” ถานชียิ้มตอบอย่างสุภาพ แล้วเดินผ่านสายเทปปิดล้อมที่เกิดเหตุเข้าไปดูศพที่นอนอยู่บนพื้น
ถังจินผิงรีบเดินตามเข้ามา “ผู้กอง ผมย้ายพนักงานในห้องนี้ไปอยู่ที่ห้องประชุมกันหมดแล้วครับ พี่หลี่กับเจ๊เจียงกำลังสอบปากคำอยู่ครับ”
ถานชีพยักหน้ารับรู้ เขายอบตัวลงไปตรวจดูสภาพศพ สีหน้าผู้ตายบิดเบี้ยวเหยเก คล้ายกำลังหวาดผวาอย่างหนัก ท้ายทอยมีบาดแผล แต่เลือดออกไม่มาก ถานชีหันไปมองแพทย์นิติเวชอาวุโส ฝ่ายตรงข้ามส่ายหน้าอย่างรู้กัน ถานชีเข้าใจจึงหยัดกายลุกขึ้น เห็นทีต้องชันสูตรพลิกศพถึงจะรู้สาเหตุการตายที่แน่ชัด
ถังจินผิงเดินตามถานชีไม่ห่าง เขาเอ่ยปากพูดว่า “บาดแผลบนหัวผู้ตายเกิดจากทะเลาะกับเพื่อนร่วมงานแล้วถูกผลักไปชนตู้เหล็ก มีพยานหลายคน แต่จากคำให้การของคนก่อเหตุบอกว่าเขาทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ”
ถานชีมองคราบเลือดบนขอบตู้เหล็ก เจ้าหน้าที่กำลังเก็บหลักฐาน เวลานี้มีคนนอกอยู่ด้วยเขาจึงไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นใด ๆ ฉางหมิงซานดึงตัวถังจินผิงมาสั่งว่า “อย่าเที่ยวเดินตามไปตามมา ไปช่วยเสี่ยวเจียงกับเสียวหลี่บันทึกคำให้การโน่น”
“ครับ” ตอนที่ถังจินผิงกำลังจะเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก ก็เหลือบเห็นหลวงจีนรูปหนึ่งที่ดูอายุมากที่สุดในกลุ่ม ไม่รู้ว่าหยุดสวดมนต์แล้วหันมาจ้องถานชีตาไม่กะพริบตั้งแต่เมื่อไร
หลังจากถังจินผิงได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของถานชี เขาก็มีจิตคิดระแวงพวกหลวงจีนอยู่นิด ๆ ครั้นเห็นหลวงจีนเฒ่าขยับเดินหน้ามาหลายก้าว แล้วเอ่ยปากพูดกับถานชีว่า “ประสกท่านนี้…”
ถังจินผิงรีบปรี่เข้าไปขวางข้างหน้าถานชี พร้อมกับส่ายหน้ารัว “ไม่มีวาสนงวาสนาอะไรทั้งนั้นครับ ไม่บวช เชิญไต้ซือไปสวดมนต์เถอะครับ อย่ามารบกวนการสืบคดีของเรา”
ไต้ซือรูปนั้นถึงกับสะอึก หันไปมองถานชีด้วยสีหน้าเสียดายอีกครั้ง “ประสกเป็นผู้มีบุญวาสนา อาตมาจึง…”
“ไม่ต้อง ๆ ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีวาสนาอะไรนั่น” ถังจินผิงกลัวมากว่าหลวงจีนจะมาเกลี้ยกล่อมให้ถานชีไปบวชเป็นพระ จึงรีบขัดขวางไม่ให้หลวงจีนได้เข้ามาใกล้
“หัดมีมารยาทหน่อยสิ!” ฉางหมิงซานตบหัวถังจินผิงอย่างระอาใจ
ถานชีคร้านจะใส่ใจ หรือบางทีอาจเพราะเขาชินแล้ว ชายหนุ่มพนมมือไหว้ไต้ซืออย่างมีมารยาท “ขอบคุณไต้ซือมากนะครับ แต่ผมมีวาสนากับที่วัดไร้นามบนเขาต้าสือแล้วครับ”
ไต้ซือมีทีท่าเสียดายไม่น้อย “ที่แท้ก็เป็นศิษย์ของเหลี่ยวเฉินนี่เอง”
“กระผมไม่ได้กราบฝากตัวเป็นศิษย์ครับ” ถานชีอธิบายด้วยรอยยิ้ม
“แม้แต่ไหว้ครูขอเป็นศิษย์ก็ยังไม่ยอม…” ไต้ซือดูเศร้าใจเล็กน้อย เสียงสวดมนต์ที่ดังมาจากด้านหลังเริ่มไม่พร้อมกัน ไต้ซือหันกลับไปถลึงตาใส่ทีหนึ่ง หลวงจีนรูปอื่น ๆ รีบเบนสายตาที่ลอบชำเลืองกลับไป เสียงสวดมนต์กลับมาเคร่งขรึมพร้อมเพรียงดังเดิม
ฉีตงเหล่ยที่ยืนคุยกับจ้าวกั๋วหงอยู่ใกล้ ๆ เห็นปฏิกิริยาของไต้ซือก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ตอนนี้เองเขาก็นึกออกว่าคุ้นหน้าถานชีจากที่ไหน จึงเอ่ยปากถามไปว่า “คุณคงไม่ใช่น้องสามแห่งสกุลถาน เอ่อ… น้องชายของถานเซี่ยเซิงหรอกใช่ไหม”

กลิ่นกฤษณาสื่อรักข้ามภพ

กลิ่นกฤษณาสื่อรักข้ามภพ

กลิ่นกฤษณาสื่อรักข้ามภพ
Score 8.2
Status: Ongoing
อ่านกลิ่นกฤษณาสื่อรักข้ามภพเรื่องย่อ กลิ่นหอมอ่อนของกฤษณา ยวนเย้ามาจากอดีต… เมื่อนายตำรวจหนุ่ม “ถานชี” ปรากฏตัวในห้องสอบสวนคดีฆาตกรรมคดีหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นก็ทำให้ “ซูฉางเล่อ” ตระหนักได้ทันใด ว่านี่แหละคือเหตุผลที่เขายังคงอยู่บนโลกมนุษย์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset