เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 257

< < 166 Sec2 > >

ต่างคนก็ต่างแยกกันไปทำหลายๆอย่าง ผมเองก็คงต้องรีบทำธุระของตัวเองเช่นกัน ผมกลับมาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวเหมือนอย่างเดิม เมื่อตรวจเช็คร่างกายตัวเองจนครบแล้วผมจึงเดินออกจากคฤหาสน์ และตรงไป ณ ที่แห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือ–โรงเรียนไสยศาสตร์ แห่งอาณาจักรเนลยอน

เช่นเดียวกับอาณาจักรฟัฟนิร์ ที่มีโรงเรียนเวทมนตร์แล้วก็สมาพันธ์เวทมนตร์ของตัวเอง ที่เนลยอนเองก็มีสถาบันการศึกษาและสมาพันธ์เหมือนๆกัน เพียงแต่ไม่ได้ยิ่งใหญ่ถึงขนาดอาณาจักรฟัฟนิร์ แต่ถ้าแค่รูปลักษณ์และเงินลงทุนที่ใส่เข้าไปข้างในก็มากมายไม่ต่างกันเลย

โรงเรียนตรงหน้ามีขนาดที่ใหญ่โตมโหราฬ ทั้งการตกแต่งและวัสดุของที่เลือกใช้นั้นยอดเยี่ยมในระดับที่สมแล้วที่เป็นสถานที่การศึกษาสำหรับชนชั้นสูง

ผมยืนพิงกำแพงหน้าโรงเรียน เพื่อรอคนบางคน

 

****

“นี่ๆ”

“เห็นรึเปล่าน่ะ”

“สุภาพบุรุษรูปหล่อจากต่างแดน”

“น่าจะเป็นคนจากอาณาจักรฟัฟนิร์นะดูจากการแต่งตัว”

บริเวณกระจำตามทางเดิมมีผู้หญิงกลุ่มใหญ่หลายกลุ่มกำลังมุงดูคนๆหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสถาบัน ระหว่างที่สาวๆมากมายกำลังคุยกันอย่างออกรส เด็กหนุ่มหลายคนก็กอดอกแบบไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ท่ามกลางผู้คนมากมายนั้นก็มีคนที่โดดเด่นที่สุดวิ่งฝ่าฝูงชนมาด้วยความร่าเริง

ทุกคนทันทีที่พบเห็นผู้โดนเด่นก็ต่างโบกมือให้และส่งเสียงทักทาย ไม่ว่าจะชายหรือหญิง

“มีอะไรกันเอ่ย สาวๆ หนุ่มๆ มามุงดูอะไรกันเอ่ย!”

‘วิน’ ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มและความสดใสร่าเริง ทุกคนปฏิบัติกับเธอราวกับไอดอล

“คือว่านะวิน มีสุภาพบุรุษจากอาณาจักรฟัฟนิร์มายืนรอใครไม่รู้อยู่หน้าโรงเรียนน่ะ”

“ไม่รู้ว่ามารอใครนะ แต่ดูๆแล้วอายุน่าจะพอๆกับเรา”

“..อาจจะรอแฟน”

ได้ยินอย่างนั้นวินก็หัวเราะร่าขึ้นมา เธอเดินฝ่าคนไปส่องคนที่ยืนรออยู่หน้าโรงเรียน

“เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย” วินหันกลับมาชูสองนิ้วให้ทุกคน “แฟนฉันเองแหละ”

….

“ “ “ “ หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!? ” ” ” ”

ทั่วทั้งโรงเรียนต่างตกตะลึง ไม่ใช่อะไร แต่เป็นเพราะดาวประจำโรงเรียนอย่างวิน ผู้ที่ทำสถิติปฏิเสธผู้ชายมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง เธอได้ประกาศว่าตัวเองมีแฟนหนุ่มแล้ว แถมยังเป็นหนุ่มหล่อต่างแดนอีกต่างหาก

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว โรงเรียนก็เลิก ผู้คนมากมายต่างไหลไปหาชายปริศนาที่จู่ๆก็โผล่มาประกาศตัวเป็นแฟนของวิน

ฝูงคนไม่ต่ำกว่าสามสิบวิ่งเข้ามาหา เรเซอร์ ดราแคล์ หนุ่มหล่อต่างแดน

“นี่แก!!”

“ไอ้หัวขโมย!!”

“ไอดอลน่ะรักได้ แต่ห้ามล้ำเส้นนะเฟ้ย!!”

“พวกผู้ชายเงียบไปเลย พูดแต่อะไรไร้สาระ!! คุณเป็นสุภาพบุรุษจากตระกูลไหนหรือคะ!?”

“เจอกันครั้งแรกที่ไหนเหรอคะๆ?”

ผู้คนมากมายเริ่มมามุงที่เรเซอร์มากขึ้นเรื่อยๆ เรเซอร์ได้แต่ยิ้มตอบกลับไป—ซึ่งรอยยิ้มที่ดูชาติชั่วไม่น่าดูนั่นของเรเซอร์ก็ทำให้ทุกชีวิตในที่แห่งนี้ถอยหลังไปพร้อมกันราวสามก้าวได้ หรือว่าจริงๆแล้วจะเป็นคนไม่น่าคบกันนะคนๆนี้ …เผลอคิดขึ้นมาอย่างนี้โดยไม่รู้ตัว

“ให้ตายสิ ทุกคนจะตื่นเต้นกันเกินไปแล้ว แค่ฉันมีแฟนมันแปลกขนาดนั้นเลยหรือไง”

“ปะ แปลกสิ ก็วินน่ะคือไอดอลประจำโรงเรียนที่ปฏิเสธผู้ชายไปกว่าร้อยคน”

เรเซอร์ทำหน้าประมาณว่า ‘เอ๊ะ ยัยนี่เนี่ยนะมีคนมาหลงเป็นร้อย’ ออกมาแบบโต้งๆ ทำให้วินทำแก้มป๋องใส่

“โทษที”

“เป็นคุณแฟนแท้ๆก็ช่วยปฏิบัติตัวดีๆกับแฟนสาวหน่อยสิ”

วินเข้ามาแทกศอกใส่เรเซอร์แบบเบาๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ต่างกับคู่แฟนหนุ่มแฟนสาวที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่เลย

เห็นแล้วก็อดหมันไส้ไม่ได้

กลุ่มผู้ชายพากันสลายโต๋ด้วยสีหน้าหดหู่ เพราะไอดอลที่เทิดทูลได้กลับดาวสาวสวยมีแฟนไปแล้ว ส่วนผู้หญิงก็ยืนมองด้วยแววตาที่เป็นประกาย แต่ก็มีบางคนที่มีสีหน้าหดหู่และก้มหน้ามองพื้นพลางคิดในใจว่า-นี่เราอยู่โลกเดียวกันจริงๆเปล่าเนี่ย ทำไมเราถึงไม่มีแฟนบ้างเลยนะ ประมาณนั้น

“แล้ววันนี้นึกอะไรถึงมาดักรอฉันที่โรงเรียนกันล่ะ?”

“แฟนเนี่ยปกติเขาทำอะไรกัน”

“ก็คงเที่ยวเล่น กับทำเรื่องอุจาดๆกระมัง”

“ก็ตามนั้น แต่เรื่องอุจาดน่ะขอผ่านก่อน”

วินหัวเราะร่าแล้วเข้าไปตบหลังเรเซอร์อีกครั้ง เรเซอร์แม้จะทำสีหน้าไม่พอใจแต่ก็ปล่อยให้ทำต่อไป ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากโรงเรียนไป วินได้หันมาโบกมือลาเพื่อนฝูงของตัวเองก่อน

“ถ้านั้นก็ลานะ ฉันขอตัวไปเที่ยวกับทำเรื่องอุจาดกับแฟนก่อนนา!”

“ก็บอกว่าไม่ทำเรื่องอุจาดๆไงเว้ย!”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ๋า ขี้โวยวายจริงนะ”

วินจับมือของเรเซอร์แล้วก็ลากหายไปจากหน้าโรงเรียนทันที ..เพื่อนๆเมื่อเห็นว่าโชว์อวดแฟนได้จบลงแล้วก็พากันสลายโต๋จนหมด

 

****

ขณะนี้ผมกำลังเดทกับผู้หญิงอยู่ ทั้งยังเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ว่าที่ภรรยาอย่างถูกต้องที่ผมมีอยู่แล้ว ให้กล่าวก็คือมันเป็นการนอกใจโดยสมยอมของผมเอง ผมรู้ดีว่าที่ทำมันไม่ดี แต่เพราะความใจอ่อนของตัวเอง ทำให้เรื่องมันลงเอยอย่างนี้

แม้ว่าจะได้เที่ยวกับสาวสวย แต่ผมก็รู้ดีว่าวินไม่ได้น่าหลงใหลอะไรเลย เป็นแค่ตัวขี้โวยวายที่เอาแต่ตบหลังกับเกาะหลังผมเป็นกิจวัตร

ตอนนี้พวกเราก็กำลังเดินอยู่ตลาดริมแม่น้ำแถวๆนอกตัวเมืองอาณาจักรเนลยอน ผู้คนที่เดินสวนไปมาเป็นคนที่มีฐานะธรรมดา หรือก็คือประชาชนทั่วๆไป ไม่ใช่พวกชนชั้นสูงอย่างโรงเรียนไสยศาสตร์หรือว่าเขตุที่มีแต่คฤหาสน์ชนชั้นสูง ซึ่งที่แห่งนี้ก็สร้างความผ่อนคลายให้ผมได้มากทีเดียว

“เป็นไงบ้างล่ะ ที่นี่ที่โปรดฉันเลยนา”

“ก็งั้นๆ”

“แล้วสถานที่ที่นายชอบที่สุดเป็นที่แบบไหนกัน”

“ในป่าตอนกลางคืน นั่งอยู่บนซากโบราณสถาน และสามารถมองเห็นดวงดาวมากมายได้จากข้างบน”

“เหวอ โรแมนติกไม่เข้ากับนายเลยนะ น่าขนลุกๆ”

วินกอดไหล่สองข้างของตัวเองและทำเป็นตัวสั่น ผมเห็นก็อยากจะถีบแต่ยั้งใจเอาไว้

ระหว่างที่เดินวินก็สังเกตุเห็นร้านขายเครื่องประดับแบบเดียวกับที่วันก่อนเธอซื้อแหวนคู่กันกับผม หล่อนหรี่ตามองมือทั้งสองข้างของผมที่ไร้ซึ่งแหวนคู่

“..ว่าแต่ แหวนที่ฉันให้ไปไม่เห็นสวมเลยนะ ไม่ใช่ว่าโยนทิ้งไปแล้วหรอกนะ ถ้าทำแบบนั้นโกรธจริงๆนะบอกเลย”

“ฉันแค่ไม่ชอบสัมผัสเวลามีแหวนติดอยู่ในนิ้วแค่นั้น”

ผมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองหนึ่งเม็ด และหยิบเอาสร้อยคอที่คล้องแหวนคู่ของวิน และเพชรเครื่องประดับที่แองเจลิน่าเคยให้ผมในวันเกิดเมื่อนานมาแล้ว

“สร้อยคอนี่?”

“ของสำคัญที่พี่สาวมอบให้น่ะ เห็นว่าใส่แหวนของเธอไปได้พอดีก็เลยใส่ด้วยกันไปเลย”

โชว์แหวนเสร็จแล้วผมจึงเก็บสร้อยคอเข้าข้างในเสื้อตามเดิม และเริ่มเดินต่อ ..วินยืนมองผมอยู่พักหนึ่งก่อนจะรีบเดินเร็วตามผมให้ทัน

“สร้อยคอนั่นสำคัญมากเลยสินะ”

“แน่นอนอยู่แล้วสิ เป็นของสำคัญที่พี่สาวมอบให้เชียวนะ”

“..ให้ของๆฉันไปปนกับของสำคัญขนาดนั้น ดีแล้วเหรอ?”

“ทำไมจะไม่ดี ถึงจะแค่ข้อตกลงชั่วคราวก็เถอะนะ” ผมยิ้มให้ “แต่เธอก็คือแฟนสาวของฉันไม่ใช่รึไง?”

….

วินกระพริบตาปริบๆ ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเป็นพิเศษ เธอหัวเราะแห้งๆออกมา

“ที่พูดเมื่อกี้ ทำเอาเผลอใจเต้นเลยแหละ”

….

“หะ หา!?”

ผมร้องเสียงหลงออกมา ใบหน้าร้อนขึ้นมาแบบฉับพลัน วินเมื่อเห็นสีหน้าที่ทั้งตกใจและเขินของผมก็หัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจ

“หน้าไปหมดแล้วนะรูปหล่อ!”

“หนวกหูเว้ย! ถ้าไม่อยากโดนเตะตูดก็หุบปากซะ ยัยเบื้อก”

“เรียกฉันว่าแฟนสาวอีกครั้งหน่อยสิ”

“ไม่มีครั้งที่สองแล้วเฟ้ย!”

ในขณะที่ผมกับวินกำลังเล่นบทแฟนกันอย่างสมบทบาทนั้นเอง—

“พะ พะ พี่วิน?”

ผู้หญิงธรรมดาทั่วๆไปโผล่มาทักทายวิน ทำเอาผมแปลกใจเล็กน้อย เพราะวินดูห่างไกลกับความธรรมดาในทุกๆเรื่องแบบทุกเรื่องจริงๆ

“..โอ๊ะ ‘เอมิ’ ไม่ใช่เหรอนั่น บังเอิญจังนะ”

เอมิ?

วินวิ่งไปอยู่ฝั่งเดียวกับเอมิที่ว่า แล้วก็ผายมือแนะนำตัวไปทางเอมิ

“ ‘เอมิ’ เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแถวๆนี้น่ะ ถึงจะอายุน้อยกว่าฉันราวสองสามปี แต่ก็เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง” พูดจบวินก็ตบมือ แปะๆ “ยังไงก็ช่วยคุยกับเธอดีๆด้วยนา”

“แน่นอนอยู่แล้วสิ คิดว่าฉันเป็นคนยังไงกัน ..เอ่อ ‘เรเซอร์ ดราแคล์’ ครับ”

“แฟนฉันเอง”

เอมิได้ยินก็อ้าปากค้าง

“ถึงจะไม่อยากคิดก็เถอะ แต่พี่วินเนี่ยนะมีแฟน!!”

“เดี่ยวเถอะๆ มันเสียมารยาทนะนั่น”

จากนั้นวินก็เข้าไปเจี้ยวจ้าวกับเอมิอยู่พักหนึ่งก่อนหันมาหาผม

“เอาละ ไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เอมิทำงานอยู่กันเถอะ!”

ไหงเป็นนั้นได้ล่ะ?

 

****

“พี่จ๊าย พี่จ๊าย”

“หน้าตาอย่างกับไอดอลแหนะพี่จ๊าย”

“ไอนั่นของพี่จ๊ายขนาดเท่าไหนเหรอฮ้าบ”

เด็กมากมายพากันมารุมล้อมผม สมกับเป็นไอรูปหล่ออย่างผมดี

“พี่ชายต่างหากครับ หล่ออย่างกับไอดอลนี่ไม่เถียง ขนาดไอนั่นบอกได้แค่ว่าไม่ต่ำกว่าแขนครับ”

“เอ่อ..”

“อย่าคิดมากเลยนะ เอมิ หมอนั่นเป็นอย่างนั้นแหละ”

วินนั่งคุกเค่าเล่นกับเด็กๆหลายคนด้วยรอยยิ้ม ผมเองก็ด้วย เพียงแต่เนื้อหาที่คุยมันดูไปไกลเกินวัยเด็กไปนิด เอมิทำสีหน้าเอือมๆนิดหน่อยแต่ก็ไม่อะไรมาก

พวกเรานั่งเล่นกับเด็กน้อยทั้งหลายอย่างสนุกสนาน เวลาล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวท้องฟ้าก็แทบจะตกดินอยู่แล้ว ได้เวลากลับบ้านทางใครทางมันแล้ว พวกเราเลยมาโบกมือลาเด็กๆที่หน้าโบสถ์ก่อนที่จะแยกกัน

ผมหันไปมองหน้าวินที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียนจากสีเมจิก

“ฮ่าๆๆ”

เผอิญหน้าผมก็มีเหมือนกัน ทำให้โดนหัวเราะอัดหน้า

“ให้ตายสิ ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ”

“เอาเถอะน่าๆ เป็นแฟนกันนี่ ไม่เห็นเป็นไรเลย”

นั่นสินะ

“ถ้านั้นก็ไว้เจอกันนะครับ คุณเอมิ แล้วก็เด็กๆ อย่าดื้อมากซะละ”

“เจอกันน้าทุกคน”

ทุกคนในที่แห่งนั้นต่างโบกมือลาพวกผมอย่างอบอุ่น

ก่อนจะถึงจุดที่ต้องแยกกันกลับบ้าน ผมและวินก็เดินข้างกันตามทางริมแม่น้ำที่มีแสงไฟจากบนเรือและเสาไฟสาดส่อง คงเพราะใช้พลังงานในการเล่นกับเด็กเยอะไปนิด ทำให้ทั้งผมและวินก็ต่างเหนื่อยจนนึกเรื่องมาพูดคุยกันต่อไม่ออก

จึงจับสัมผัสการเคลื่อนที่ของอีกฝ่ายเงียบๆ และพยายามเดินให้พร้อมกันแค่นั้น

“นี่ คุณแฟนเรเซอร์”

ไม่ชอบเลยนะวิธีเรียกอย่างนั้น

“อะไรอีก”

“อยากจะไปเจอน้องสาวฉันหน่อยมั้ย?”

“ไม่ข้ามขั้นหน่อยหรือไงน่ะ”

ผมพยายามพูดติดตลก แต่ครั้งนี้วินไม่ตอบคำถามด้วยเสียงหัวเราะ

“เป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ? แค่อยากพาไปเจอครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของฉันเอง ไม่คิดว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเหรอที่จะต้องพาผู้ชายที่คบหาดูใจอยู่ด้วยไปแสดงความจริงใจให้คนที่บ้านผู้หญิงน่ะ”

“..ลืมไปแล้วหรือไง ว่าที่ทำอยู่มันก็แค่–”

“ข้อตกลงคำโกหกชั่วคราว เพราะสงสารฉันใช่มั้ยล่ะ?”

“อ่า”

“ถ้าฉันบอกว่าครึ่งหนึ่งไม่ใช่คำโกหก นายจะทำยังไงต่อเหรอ?”

“ผู้ชายที่สนใจฉันน่ะมีอยู่ตั้งเยอะแยะ แล้วทำไมต้องไปขอคบกับผู้ชายที่ปฏิบัติกับฉันไม่ต่างกับผู้ชายอย่างนายด้วย ไม่สังเกตุเรื่องนี้เลยเหรอ–เฮ้อ บื้อกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเยอะจริงๆนะ ปกติเป็นคนฉลาดแท้ๆ คุณแฟนเรเซอร์เนี่ย แปลก แปล๊ก” วินเขยิบตัวเข้ามาข้างผมจนตัวเราติดกัน เธอเงยหน้ามองผมพร้อมกับรอยยิ้มประหนึ่งปีศาจสาว “พอจะเข้าใจความหมายที่จะสื่อรึเปล่า?”

เข้าใจสิ เข้าใจดีเลย แต่อยากทำเป็นไม่เข้าใจชะมัด

วินเขย่งเท้าของตัวเอง ใบหน้าของเธอเริ่มเคลื่อนเข้าใกล้ผมเรื่อยๆ

เป้าหมายคืออะไร ผมไม่ได้อ่อนหัดเกินจะไม่รู้–ผมผละตัวออกมาทันที

“จะไปด้วยก็ได้ แต่ไอแบบเมื่อกี้ อย่าทำอีกเชียวนะ”

“..พูดแบบนี้ หัวใจสาวน้อยของฉันมันเจ็บปวดนะ”

คงเพราะใช้ชีวิตอยู่กับการปั้นหน้าโกหกมาตลอดกระมัง ..ผมจึงไม่อาจเดาใจจริงของวินในเวลานี้ได้เลย บางที วินอาจจะเป็นเพียงแค่จอมเสแสร้งที่แสนน่าหวาดกลัวก็เป็นได้ ส่วนผมก็เป็นได้เพียงเหยื่อของเธอ

วินถอนหายใจ และปั้นหน้ายิ้มตามเคยอีกครั้ง

“ถ้านั้นก็รีบไปกันเถอะ เธออยู่โรงพยาบาลไม่ไกลจากที่นี่มาก–เอาเป็นว่าวันนี้กลับดึกหน่อยนะ เรเซอร์ ขอโทษที่รบกวนนะ”

..

“อ่า”

เวลาเพียงไม่นาน ตัวตนของวินก็ค่อยๆกลายเป็นสิ่งอื่นขึ้นเรื่อยๆ และผมก็หวาดกลัวความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นเล็กๆในมุมมืดของจิตใจ

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset