ตอนที่ 302 กำลังจะเล่นงาน
ตอนที่ 302 กำลังจะเล่นงาน
เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ หัวใจของนางก็เหมือนถูกทิ่มแทง แทงทะลุหัวใจ!
นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าฉีเฉิงเฟิงจะเป็นผู้ชายที่สนใจเรื่องราวแบบนี้! อีกทั้งยังต้องการทายาให้กับสวีซูด้วยตัวเองอีก!
นางประเมินฉีเฉิงเฟิงต่ำเกินไปหรือ? เพราะว่าฉีเฉิงเฟิงไม่เคยทำเช่นนี้กับนางมาก่อนเลย หัวใจของซูหวานหว่านรู้สึกสั่นระรัว
ฉีเฉิงเฟิงไม่รู้ว่าซูหวานหว่านอยู่ที่นี่ และฉีเฉิงเฟิงก็ดำเนินการตามแผนของตัวเอง เวลานี้เขาได้เปิดประตูเข้าไป สวีซูนั่งอยู่ในอ่างกำลังเช็ดน้ำออกจากร่างกายของตัวเอง เมื่อนางเห็นฉีเฉิงเฟิง นางก็ลุกขึ้นยืนทันที บนร่างกายของนางมีผ้าสีขาวพันไว้ที่หน้าแบบหมิ่นเหม่ ให้ความเย้าย้วนแก่ผู้พบเห็น
“สาม…องค์ชายสาม!” สวีซูตกใจมาก ดวงตาของนางเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกราวกับลูกกวางที่เจอนายพราน นางไม่รู้จะทำอย่างไรดีเมื่อพบเจอแบบนี้ สาวใช้ที่อยู่ในห้องเดินออกไปจากห้องแล้วปิดประตูห้องทันที
คนใช้เหล่านั้นไม่อยากดูเหตุการณ์ข้างใน หากแต่ซูหวานหว่านอยากจะดูต่อว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร! นางแอบย่องเข้าไปทุบหลังของสาวใช้จนสลบไป และมองผ่านรอยแตกของประตู จนเห็นทุกอย่างภายในห้อง
ในตอนนี้ฉีเฉิงเฟิงยืนหันหลังให้กับประตูอยู่ และมองตรงไปที่สวีซู
สวีซูดูเหมือนจะตกใจ นางหยิบผ้าในมือขึ้นมาปิดหน้าอกอย่างเขินอาย แล้วทันใดก็ทิ้งตัวนั่งลงในอ่างอาบน้ำ ใบหน้าของนางขึ้นสีแดงระเรื่อ “องค์ชายสาม ท่าน…ท่านอย่ามองข้าแบบนั้น มันทำให้ข้า…ข้ากลัว”
ซูหวานหว่านซึ่งมองไม่เห็นสีหน้าแววตาของฉีเฉิงเฟิงตอนนี้เป็นอย่างไร นางเห็นเพียงแค่ว่าฉีเฉิงเฟิงกำลังจ้องมองไปที่สวีซูในเวลานี้ แววตาที่มองสวีซูไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ
“องค์ชายสาม ซูเอ๋อร์ไม่กล้ารบกวนองค์ชายสาม ท่านวางยาเอาไว้บนโต๊ะเถอะเพคะ แล้วเดี๋ยวซูเอ๋อร์จะทายาเอง”
นางเอ่ยออกมาอย่างเหนียมอาย และกำลังจะยั่วยวนองค์ชายสามโดยการปัดกลีบกุหลาบสีแดงให้กระจายออกห่างจากตัว เพื่อที่องค์ชายสามจะได้เห็นเรือนร่างของตัวเองได้อย่างชัดเจน!
เมื่อซูหวานหว่านเห็นแบบนี้ที่ข้างนอกประตู นางก็กำหมัดแน่น เมื่อนางรู้สึกมั่นใจว่าเป็นอย่างที่ตัวเองคิดนางก็จากไปในทันที
ฉีเฉิงเฟิงที่อยู่ในห้องก็พูดออกมาว่า “เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าข้าคนนี้จะทายาให้เจ้า? เจ้าเป็นคนทำตัวเองเจ็บเอง ดังนั้นเจ้าจะต้องทามันเอง!”
“…”
ทำไมฉีเฉิงเฟิงถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ ใบหน้าที่เขินอายของสวีซูพลันแข็งทื่อ
นางอุตส่าห์ถอดเสื้อผ้าและเกือบจะเปลือยกายให้เขาเห็นเรือนร่างของนางขนาดนี้ แต่ฉีเฉิงเฟิงก็ยังไม่สนใจนางอีก!
สวีซูพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง แสร้งกระแอมออกมา “องค์ชายสาม ถ้าอย่างนั้น…ได้โปรดอย่าเพิ่งรีบร้อน ท่านออกไปรอข้างนอกก่อน ให้ข้าน้อยคนนี้ทายาและใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยค่อย… “
“แล้วค่อยอะไรอีกล่ะ? เจ้ากำลังจะบอกว่าตัวเองมีหลักฐานของคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องตระกูลจ้าวจะนำมาให้ข้าไม่ใช่รึ? เจ้าจะมัวมายืดเยื้ออะไรอยู่อีก” ฉีเฉิงเฟิงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา มือของเขาปัดยาลงกับพื้นจนแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ร่างกายของสวีซูสั่นสะท้านและกล่าวว่า “องค์ชายสาม หลักฐานไม่ได้อยู่ที่นี่ หม่อมฉันไม่สามารถนำมาให้ท่านได้ตอนนี้เพคะ”
“เจ้าให้ไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?” ฉีเฉิงเฟิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “หลักฐานอยู่ที่ไหน? ข้าจะสั่งให้คนไปเอามาเดี๋ยวนี้!”
“องค์ชายสาม อย่าเพิ่งใจร้อนไป มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้ว่าหลักฐานอยู่ที่ใด และข้าน้อยก็จะพาท่านไปเอาพรุ่งนี้อย่างแน่นอน เพื่อมอบความบริสุทธิ์คืนให้คุณหนูจ้าว หลังจากนั้น…ก็รับนางมาเป็นนางสนม ไม่เช่นนั้นพระองค์อาจถูกคนหัวเราะเยาะได้ว่ารับนางสนมที่ไม่ดีเข้ามา”
“เฮอะ” ฉีเฉิงเฟิงเยาะเย้ยออกมา “อย่าแม้แต่จะคิดฝันถึงตำแหน่งพระชายาขององค์ชายสาม มันไม่ใช่ที่สำหรับเจ้า!”
หลังจากนั้นฉีเฉิงเฟิงก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไปทันที และทันทีที่เขาเปิดประตูลมหนาวก็พัดเข้ามา ทำให้ภายในห้องเย็นยะเยือก สวีซูที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินจากไป นางก็ตะโกนออกมาว่า “สาวใช้อยู่ที่ไหนหมด! จะยืนบื้อกันอยู่ไยอีก น้ำมันเย็นหมดแล้ว! รีบไปเอาน้ำร้อนมาเติมให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
ไม่มีการตอบสนองเกิดขึ้นที่หน้าประตู สวีซูลุกขึ้นยืนตัวสั่นและเดินออกไป แต่เห็นคนใช้นอนสลบอยู่ที่หน้าประตู หากสังเกตดี ๆ คนนี้ไม่ใช่คนใช้ของนางหรอกเหรอ?
นางคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องที่นางคุยกับฉีเฉิงเฟิงเมื่อครู่จะไม่เสียเปล่า เพราะว่ามีบุคคลที่สามได้ยิน นางก็รู้สึกตื่นตระหนกทันทีและมองสำรวจไปรอบ ๆ แต่กลับไม่พบใครอยู่ที่นั่น หญิงสาวเดินกลับเข้ามาในห้อง พลางคิดถึงแผนการว่าจะทำอย่างไรให้ฉีเฉิงเฟิงมาชอบตนเอง
ในตอนนี้ ฉีเฉิงเฟิงได้เดินกลับไปพักที่ห้องตัวเอง ทันใดนั้นชายชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นมาทันที และพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “องค์ชายสาม ไม่ดีแล้ว เมื่อครู่ฮูหยินเห็นท่านเข้าไปในห้องอาบน้ำของคุณหนูสวี และดูเหมือนว่าฮูหยินจะได้ยินที่ท่านคุยกัน”
ฉีเฉิงเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง …สิ่งที่เขาพูดนั้นก็ไม่มีอะไรผิดไป คำพูดของเขาล้วนแต่เต็มไปด้วยความรังเกียจสวีซู ซูหวานหว่านน่าจะมีความสุข ดังนั้นเขาจึงยิ้มออกมาบาง ๆ “งั้นก็ดีน่ะสิ ตอนนี้นางอยู่ที่ไหนล่ะ?”
ดีตรงไหน? ชายชุดดำพูดด้วยสีหน้ามืดมนว่า “ฮูหยินออกไปหลังจากที่ฟังท่านสนทนาได้แค่ครึ่งประโยคแรกเท่านั้น และข้าน้อยก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ฮูหยินไปไหนแล้ว แต่ดูจากสีหน้าของฮูหยินแล้วนางน่าจะโกรธมาก”
“อะไรนะ?” การกระทำของฉีเฉิงเฟิงหยุดชะงักและชายชุดดำก็พูดออกมาอีกครั้ง “ฮูหยินฟังแค่ครึ่งประโยคแรกแล้วก็ออกไปเลย”
งั้นแสดงว่านางนั้นอาจจะเห็นภาพระหว่างเขาและสวีซูในห้องน้ำ และได้ยินแค่เศษเสี้ยวของบทสนทนาเท่านั้น ฉีเฉิงเฟิงเอ่ยคำถามที่คงยังค้างใจบางอย่างออกมาภายในใจ “นางออกไปตั้งแต่เมื่อไร?”
“หลังจากที่ฝ่าบาทเข้าไปในห้องของสวีซูแปบเดียว ไม่นานนางก็เดินออกไป” ชายชุดดำก็ได้กล่าวออกมา
ถ้าอย่างนั้นนางก็ได้ยินเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ฉีเฉิงเฟิงขมวดคิ้วเบา ๆ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาและพูดออกมาทันทีว่า “ไปดูว่าตอนนี้นางอยู่ที่ไหน”
“ขอรับ” ชายชุดดำตอบรับแล้วก็เดินจากไปทันที ฉีเฉิงเฟิงก็รู้สึกกังวลใจมาก
ซูหวานหว่านมีนิสัยเหมือนแมวกลางคืนบนภูเขา หากได้เจ็บเพียงครั้งเดียวก็ไม่สามารถที่จะพูดหรือสั่งสอนอะไรได้อีก! พอนึกไปถึงสีหน้าที่เย็นชาของซูหวานหว่านที่ปฏิบัติเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า นั่นก็ทำให้เขาอารมณ์เสียไปอยู่พักหนึ่ง
ฉีเฉิงเฟิงไม่รู้ว่าซูหวานหว่านกำลังนั่งอยู่บนหลังคาบ้านห้องของสวีซู กำลังนั่งฟังคำพูดของสวีซู อยู่
ตอนที่นางเดินออกไปนางรู้สึกโกรธมาก แต่ก่อนที่นางจะออกไปจากตำหนักองค์ชายสาม นางก็รู้สึกว่าไม่สามารถปล่อยพวกเขาสองคนนี้ทำแบบนี้กับนางได้ นางจึงกลับเข้าไปอีกครั้ง ในขณะที่นางกำลังคิดที่จะวางแผนจะทำอะไรบางอย่าง นางก็พบว่าฉีเฉิงเฟิงออกจากห้องไปแล้ว ในขณะที่สวีซูนั้นอยู่ในห้องกำลังเอ่ยสาปแช่งออกมา ซูหวานหว่านถึงได้รู้ความจริง และมีเพียงฉีเฉิงเฟิงเท่านั้นที่เป็นกังวลอยู่คนเดียว
ซูหวานหว่านเปิดกระเบื้องขึ้นอย่างช้า ๆ และกำลังจะโรยผงอะไรสักอย่างลงไป ทันใดนั้นนางก็ได้ยินสวีซูซึ่งนั่งอยู่ในอ่างน้ำพูดกับสาวใช้คนสนิทออกมาว่า “เจ้ากลับไปที่บ้านของข้าในตอนกลางคืน และไปเอายาที่ข้าซ่อนมันเอาไว้ในซอกประตูสวนหลังบ้านมา จำเอาไว้ว่าเอามันไปใส่ที่เครื่องหอมแล้วเอาไว้ในกล่องแล้ววางไว้ ในวันพรุ่งนี้ข้าจะแกล้งพาเขาไปที่นั่นเพื่อไปเอาหลักฐาน หากเขาได้สูดดมกลิ่นนี้เข้าไป เขาจะ … ฮึ่ม ข้าไม่เชื่อว่าตอนนั้นเขาจะไม่อยากแต่งงานกับข้า”
“เจ้าค่ะ” สาวใช้ก็ตอบรับแล้วเดินออกไปทันที ซูหวานหว่านคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กระโดดลงมาทันที แต่ใครจะคาดคิดว่าสาวใช้จะเดินช้า… และทำให้ได้เผชิญหน้ากับนางเข้า!
แย่แล้ว! นางโดนพบตัวแล้ว!