“นายท่าน มิติส่งตัวระยะไกลที่เชื่อมระหว่างทวีปเหยียนโจวไปทางทิศตะวันออกได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว”
“นายท่าน แย่แล้ว…”
“……”
เวลาเปลี่ยนไป ผู้ที่มีพลังวิญญาณธาตุมิตินับวันก็ยิ่งน้อยลง มิติส่งตัวระยะไกลไม่ได้ซ่อมแซมมาหลายปีแล้ว
อันตรายมากมายถูกสะสมมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งตอนนี้มิติส่งตัวระยะไกลของแดนใต้สู่ดินแดนตะวันออกก็ได้พังลงอย่างสมบูรณ์แล้ว
เมื่อมิติส่งตัวระยะไกลถูกพังทลายลง ดินแดนทางตอนใต้ทั้งหมดจะไม่สามารถสื่อสารกับโลกภายนอกได้ และผู้แข็งแกร่งก็จะไม่สามารถไปฝึกฝนในดินแดนที่แข็งแกร่งขึ้นได้
ทั่วทั้งแดนใต้จะเป็นเหมือนกับทวีปเซี่ยโจว ที่กลายเป็นเกาะโดดเดี่ยวและผู้แข็งแกร่งก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ
“แจ้งกองกําลังสำนักนิกายระดับสองทั้งหมดที่อยู่แดนใต้ให้มาประชุม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ”
“ขอรับ!”
ข่าวนี้แพร่สะพัดมาจากแดนใต้ ทุกกองกําลังสำนักนิกายจากแดนใต้ล้วนหวาดกลัว
“อะไร?” เมื่อหัวหน้าหุบเขาซือคงได้รับข่าวนี้ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
ในแดนใต้มีสมุนไพรวิญญาณอยู่มากมาย แต่สมุนไพรวิญญาณที่มีค่าบางอย่าง พวกเขาก็จําเป็นที่จะต้องซื้อมันจากดินแดนอื่น
ตอนนี้มิติส่งตัวระยะไกลไม่สามารถใช้งานได้ นั่นหมายความว่านับแต่นี้ไปพวกเขาจะไม่ได้รับสมุนไพรวิญญาณสำคัญบางอย่างที่จําเป็น และไม่สามารถกลั่นยาระดับสูงได้
นี่มันเป็นข่าวร้ายชัด ๆ!
ผู้เฒ่าหมอเทวดาเองก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เขากล่าวเสียงเข้มว่า “การประชุมในเหยียนโจว หุบเขาหมอเทวดาของข้าต้องไปอย่างแน่นอน และมู่เฉียนโม่กับเฟิงเยี่ยซีทั้งสองก็ต้องติดตามข้าไปฝึกประสบการณ์ด้วยเช่นกัน ”
การประชุมครั้งสําคัญเช่นนี้ กลับให้เจ้าเด็กน้อยทั้งสองคนไป หัวหน้าหุบเขาซือคงถึงกับตะลึงงัน
เขาไม่สามารถขัดคําสั่งของผู้เฒ่าได้ เขากล่าวอย่างนอบน้อมว่า “ขอรับ!”
มู่เฉียนซีและจวินโม่ซีที่กําลังฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ กลับไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขาจะได้ยินข่าวว่าผู้เฒ่าหมอเทวดาต้องการพบพวกเขา
มู่เฉียนซีและจวินโม่ซีไปพบผู้เฒ่าหมอเทวดา เมื่อเขาเห็นพวกเขามาถึง จึงกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “เรียกมาในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้พวกเจ้าไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่ครั้งสำคัญที่ทวีปเหยียนโจวแทนอาจารย์”
“การประชุมใหญ่อะไรหรือ?” จวินโม่ซีถาม
“มิติส่งตัวระยะไกลจากแดนใต้ไปยังดินแดนตะวันออกได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว จึงต้องหารือกันว่าจะแก้ไขอย่างไร?” ผู้เฒ่าหมอเทวดากล่าว
“อะไรนะ? มิติส่งตัวระยะไกลที่สําคัญเช่นนี้กลับพังไปแล้ว” สีหน้าของมู่เฉียนซีเปลี่ยนไป
หลังจากจัดการกับหุบเขาหมอเทวดาเสร็จสิ้น นางจำเป็นต้องออกจากแดนใต้ไปแก้ปัญหาของอารอง
ตอนนี้มิติส่งตัวระยะไกลพัง ทําให้ดินแดนทางใต้กลายเป็นเมืองที่รกร้างและการเดินทางไม่สะดวกไปโดยสิ้นเชิง
มันเป็นเรื่องยากมากที่จะออกไปข้างนอกได้
นางไม่มีพลังเหมือนจิ่วเยี่ยที่สามารถฉีกกระชากมิติไปยังอีกที่หนึ่งได้
แม้ว่าสุ่ยจิงอิ๋งจะสามารถช่วยได้ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อนางที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่
ผู้เฒ่าหมอเทวดากล่าวว่า “มิติส่งตัวระยะไกลจำเป็นต้องซ่อมแซม และขุมกําลังใหญ่ในแดนใต้ก็จะใช้ทุกวิถีทางในการหาวิธี ช่วงนี้อาจารย์ต้องเก็บตัว เรื่องนี้ก็ให้พวกเจ้าจัดการแล้วกัน”
มู่เฉียนซีถามว่า “ให้พวกเรา? ไม่ใช่ว่ายังมีหัวหน้าหุบเขารึ?”
“ในฐานะที่พวกเจ้าเป็นศิษย์คนสนิทของข้า คําพูดของพวกเจ้าเขามิอาจไม่ฟัง ข้ายังจะมอบสมบัติให้แก่พวกเจ้า เพื่อช่วยพวกเจ้าอีกด้วย”
ผู้เฒ่าหมอเทวดายกมือและนำหม้อยาสีดำ ๆ ออกมา
หม้อยานั่นลอยมาตรงหน้ามู่เฉียนซีและจวินโม่ซี “พามันไปด้วย! เช่นนี้ก็จะสามารถทําให้พวกเจ้าปลอดภัย”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความประหลาดใจ “นี่เป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของท่านผู้เฒ่า!”
“ข้ากลั่นยาอยู่ในหุบเขาหมอเทวดา ใช้หม้อยาใบอื่นก็ได้แล้ว แต่พวกเจ้าออกไปข้างนอก เรื่องในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ พวกเจ้าเป็นศิษย์ที่ข้าชื่นชอบ ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าได้พลาดพลั้ง” ผู้เฒ่าหมอเทวดากล่าวอย่างจริงจัง
มู่เฉียนซีกล่าว “ขอบคุณท่านผู้เฒ่า!”
จวินโม่ซีกล่าว “ผู้เฒ่า ท่านช่างดีต่อพวกเราเสียจริง”
ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่ในใจกลับบ่น…
หลอกใช้พวกเขาและต้องการให้พวกเขารู้สึกขอบคุณเขาอีก คงคิดจริง ๆ ว่าพวกเขานั้นไร้เดียงสาเหมือนศิษย์คนสนิทอย่างอวี้เหลียนชิง!
ผู้เฒ่าหมอเทวดากล่าวว่า “ไปเถอะ!”
“ขอรับ!”
มู่เฉียนซีนำหม้อยาสามอสูรกลับไป นางเอ่ยปากถามขึ้นว่า “ท่านหม้อยาสามอสูร ตอนนี้ท่านเป็นของพวกเราแล้ว”
หม้อยาสามอสูรกล่าวอย่างขี้เกียจว่า “เจ้าก็คิดมากเกินไปแล้ว แต่ข้าจะเชื่อฟังคําสั่งของชายชราผู้นั้น เมื่อพวกเจ้าตกอยู่ในอันตรายข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าตาย ”
เนื่องจากสถานการณ์นั้นชัดเจนมาก ดังนั้นหลังจากได้รับข่าวนี้ หัวหน้าหุบเขาซือคงจึงพาเหล่าผู้อาวุโส มู่เฉียนซี จวินโม่ซีและซือคงชัวรีบเร่งไปยังทวีปเหยียนโจวโดยเร็วที่สุด
สำนักนิกายใหญ่อันดับหนึ่งของทวีปเหยียนโจวก็คือสำนักเฟินเยี่ยน ที่ตอนนี้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีความแข็งแกร่งระดับสองอยู่ไม่น้อย
ซือคงเลี่ยวมาถึงอย่างรีบเร่ง ศิษย์ของสํานักเฟินเยี่ยนยุ่งจนไม่สามารถมารับแขกได้ แขกจากหุบเขาหมอเทวดาจึงถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา
“ฮึ่ม!” ซือคงเลี่ยวแค่นเสียงเย็นชา
“ดูเหมือนว่าสำนักเฟิงเทียนของพวกเจ้าจะไม่เห็นหุบเขาหมอเทวดาของข้าอยู่ในสายตา! ถ้าพวกเจ้าไม่ต้อนรับหุบเขาหมอเทวดาของข้า ข้าก็จะไปเดี๋ยวนี้ ให้ผู้เฒ่ามาที่นี่ด้วยตัวเอง เป็นอย่างไร?”
หุบเขาหมอเทวดาเป็นสำนักใหญ่อันดับหนึ่งของแดนใต้ เนื่องจากพวกเขาควบคุมเม็ดยาที่มีความสําคัญต่อผู้ฝึกบำเพ็ญในแดนใต้ และหุบเขาหมอเทวดายังมีนักปรุงยาอันดับหนึ่งของแดนใต้อีกด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงหยิ่งยโสมากในแดนใต้
และหุบเขาหมอเทวดาซึ่งป็นสำนักนิกายใหญ่อันดับหนึ่งของแดนใต้ จึงไม่ถูกกันกับสำนักเฟินเยี่ยนเป็นอย่างมาก
“หุบเขาหมอเทวดามาแล้ว!”
“หลังจากที่หุบเขาหมอเทวดาได้ปิดตัวจากโลกภายนอกไปช่วงหนึ่ง ในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นสู่โลกภายนอกแล้ว”
“……”
ทุกคนประหลาดใจกับการพูดคุยสนทนากัน
สําหรับสํานักที่รวบรวมนักปรุงยาจํานวนมากได้เช่นนี้ แม้ว่าหุบเขาหมอเทวดาจะหดตัวอยู่ในกระดองเหมือนเต่าเมื่อไม่นานมานี้ และถูกหอหมอปีศาจยึดตลาด แต่พวกเขาก็ยังคงไม่กล้าดูถูกหุบเขาหมอเทวดา
“น้องซือคง เจ้ามาแล้ว!” หัวหน้าสำนักเฟินออกไปต้อนรับด้วยตนเอง และยังคงไว้หน้าหุบเขาหมอเทวดา
ในช่วงเวลาที่วิกฤต พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะฉีกหน้าพวกหุบเขาหมอเทวดา
ซือคงเลี่ยวยิ้มพลางกล่าว “เรื่องใหญ่เช่นนี้ หุบเขาหมอเทวดาของข้าจะไม่เข้าร่วมได้อย่างไร แต่ข้าคงรบกวนพี่เฟินออกมาต้อนรับด้วยตนเอง ”
หัวหน้าสํานักเฟินยิ้มพลางกล่าว “ไม่รบกวน ไม่รบกวน…”
ทั้งสองต่างหน้าซื่อใจคดกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถูกนําตัวไปที่ห้องโถงใหญ่ของสำนักเฟินเยี่ยน
กลุ่มกองกำลังที่เป็นที่รู้จักระดับขั้นสำนักนิกายระดับสองทั้งหมดล้วนแต่อยู่ในรายชื่อถูกเชิญชวน และทั้งหมดก็มีสำนักนิกายระดับสองที่มารวมตัวกันประมาณหนึ่งร้อยสำนักใหญ่
มู่เฉียนซีเห็นคนรู้จักอยู่ในนั้น เจ้าของหอโม่ปิงและหัวหน้าสำนักหลัวเทียน…
อาจารย์ใหญ่เหลยก็พาเหลยหมิงมาด้วย และหัวหน้าหุบเขาเวินเหรินจากหุบเขาโอสถก็มาด้วยเช่นกัน
ซือคงเลี่ยวนั่งดื่มชาอยู่ด้านข้าง หุบเขาหมอเทวดามีสามที่นั่ง ผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะนั่งลงมีเพียงเขากับมู่เฉียนซีและจวินโม่ซีเท่านั้น
ทุกคนต่างประหลาดใจ ดูหนุ่มสาวสองคนในหุบเขาหมอเทวดานี้แปลกหน้าแปลกตายิ่งนัก!
แม้แต่นายน้อยแห่งหุบเขาหมอเทวดาก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะได้นั่ง แต่พวกเขาสองคนกลับมีคุณสมบัตินี้?
พวกเขาเป็นใคร?
ซือคงเลี่ยวดื่มชาไปหนึ่งถ้วย สายตากวาดมองรอบด้าน พบว่าขุมกําลังระดับสองดาวที่เขาคุ้นเคยได้มากันครบแล้ว
แต่ฝั่งตรงข้ามของพวกเขากลับมีตำแหน่งหนึ่งที่ยังไม่มีคน!
เขามองไปยังหัวหน้าเฟินแล้วกล่าวว่า “ไม่ทราบว่ายังมีขุมกําลังไหนอีก เคลื่อนไหวช้าถึงเพียงนี้? ยังไม่มาอีกเหรอ?” ทุกคนต่างแปลกใจอย่างมาก ทุกคนน่าจะมากันหมดแล้ว! มีกองกําลังไหนหายไปกัน?