บทที่ 126 เรายังไม่รู้ชื่อดอกไม้ที่เราเห็นในวันนั้น
บทที่ 126 เรายังไม่รู้ชื่อดอกไม้ที่เราเห็นในวันนั้น
สีหน้าของดาร์กแข็งทื่อไปทันที เขาใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะคืนสติกลับมาได้
ดาร์กเรียกเดอะเลดี้กลับเข้าไปในการ์ดอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะมองดูร่างของมิโนทอร์ต่อ
ไม่ใช่ว่าไม่สามารถเปิดเผยเดอะเลดี้ได้ แต่เขาไม่อยากให้มีคนรู้ว่าเดอะเลดี้เป็นร่างวิวัฒนาการของวิญญาณรับใช้ของเขามากเกินไป
แม้ว่าวิญญาณรับใช้จะอยู่ในหมวดหมู่สปิริต แต่มันกลับมีความพิเศษอย่างยิ่ง และในทางทฤษฎีมันไม่มีค่าพลังโจมตีด้วยซ้ำ
หากอยากให้วิญญาณรับใช้มีค่าพลังโจมตี ก็ต้องใช้การ์ดเวทมนตร์ที่เรียกว่า [กรงต้องสาป]
[กรงต้องสาป] สามารถผนึกสิ่งมีชีวิตเทียม เช่น วิญญาณรับใช้และโกเลมไว้ในการ์ด และทำให้สามารถใช้มันเหมือนกับเป็นสปิริตได้
…
ร่างของมิโนทอร์ไม่ได้คงอยู่เหมือนที่ดาร์กคิด
มันค่อย ๆ หายไปหลังจากนั้นประมาณสามนาที เช่นเดียวกับภาพจิตรกรรมฝาผนัง
แต่มิโนทอร์ทิ้งขนหนาของวัวตัวผู้ไว้ด้วย ไม่เหมือนกับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ดาร์กหยิบขนตัวผู้ด้วยสองนิ้วและมองอย่างระมัดระวัง และค่อนข้างพูดไม่ออกอยู่บ้าง
แต่การให้ขนแบบนี้ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
เขายอมรับความจริงข้อนี้อย่างรวดเร็ว และเก็บขนวัวกระทิงไปอย่างระมัดระวัง
จากนั้นก็หันหลังเดินไปทางเพื่อนร่วมชั้น
เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตฟื้นสติแล้ว
เอ็มม่ายืนพิงกำแพงอยู่คนเดียว มือกำลังพลิกดูสมุดบันทึก
ไดแอนนาและโรสพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม
ดาร์กเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “กลับกันเถอะ พรุ่งนี้ยังมีเรียนอยู่”
จากนั้นทุกคนก็พากันเดินไปที่ทางออกของทางลับ
แต่ผ่านไปได้เพียงครึ่งทางก็มี ‘ภูตตัวน้อย’ ขนาดเท่าฝ่ามือบินผ่านกำแพงออกมามองพวกเขา
‘ภูตตัวน้อย’ ซึ่งมองแวบแรกเหมือนกับศาสตราจารย์ลิลลี่ บินไปรอบ ๆ ตัวพวกเขาสองรอบแล้วเริ่มนำทาง
ไดแอนนาไล่ตาม ‘ภูต’ ราวกับลูกแมวไล่แมลงปอ
ดาร์กและคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
ไม่นานพวกเขาก็ออกจากทางลับ
นอกทางลับ มีผู้คนมากมายกำลังเดินทางกลับหอพัก
‘ภูตตัวน้อย’ ที่พาพวกเขาออกจากทางลับนั้นไปรวมตัวกันกลางอากาศ และปีกที่สั่นอย่างรวดเร็วของพวกมันก็ส่งเสียง ‘หึ่ง’
เห็นได้ชัดว่า ‘ภูตตัวน้อย’ ตัวเดียวดูน่ารักมาก แต่เมื่อมีร้อยตัวมารวมกัน มันกลับทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
อืม ฉันควรจะพูดว่า สมกับเป็นศาสตราจารย์ลิลลี่ดีไหมนะ?
ดาร์กแค่รู้สึกตกใจกับมันเล็กน้อยเท่านั้น
…
เมื่อถึงหอพัก ดาร์กก็รีบกล่าวราตรีสวัสดิ์กับไดแอนนาและโรส จากนั้นก็ล็อกประตู จากนั้นก็ล้างหน้า แปรงฟัน ให้อาหารแมว รดน้ำต้นไม้ และจบที่เตียงของเขา ทั้งหมดในคราวเดียว!
ในที่สุดวันหยุดก็หมดลงแล้ว
แต่คืนนี้คงไม่มีใครนอนหลับ
…
เช้าวันถัดมา เวลาหกโมงครึ่ง
ดาร์กนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น มองดูรุกกี้เดวิมอนบินกลับมาพร้อมตะกร้า เขารู้สึกทันทีว่าในที่สุดชีวิตก็กลับมาสู่เส้นทางเดิม
อนิจจา
ท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็คือชีวิตที่เขาต้องการ!
เรื่องต่าง ๆ อย่างงานเต้นรำ เทพธิดาแห่งจันทรา และทางลับควรไปลงนรกซะ!
ดาร์กรู้สึกอารมณ์ดีอยู่บ้าง เขาเอาอาหารเช้าออกจากตะกร้า แล้วจึงหยิบ ‘เดลี่เสจ’ ของวันนี้ออกมา
ปากจิบนม มือเปิดหนังสือพิมพ์ และอ่านมันอย่างสบายใจ
พรูด!
นมแทบพุ่งออกมาจากปาก
ดาร์กมองพาดหัวข่าว แล้วรู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมาในทันที
‘ช็อก! ตระกูลของดัชเชสอาจแต่งงานกับราชวงศ์ บุตรแห่งดัชเชสและเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ตกหลุมรักกันในวันฮาโลวีน!’
ด้านล่างเป็นภาพการเต้นรำของดาร์กกับใครบางคน
ดาร์กในภาพสวมชุดเจ้าชายรัตติกาลกับหน้ากากอีกาสีดำครึ่งหน้า ซึ่งทำให้ดูลึกลับและหล่อเหลาเอาการ
ขณะที่คู่เต้นรำของเขาสวมชุดเจ้าหญิงสไตล์เดียวกัน แต่มันเปิดเผยเพียงมุมมองจากด้านหลังเท่านั้น
เดี๋ยวก่อน นี่ไดแอนนาไม่ใช่เหรอ?
เพราะชุดหมีไม่สวยพอ ทางหนังสือพิมพ์จึงเอาภาพนี้มาแทนงั้นเหรอ?
จรรยาบรรณนักข่าวยังมีอยู่ไหม?
ดาร์กพูดอะไรไม่ออกจริง ๆ
เขาอ่านมันต่อและพบว่าทางนั้นไม่มีการเอ่ยถึงเทพธิดาแห่งจันทราเลยสักนิด
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเนื้อหาข่าวยังไม่ได้เขียน หรือเพราะถูกระงับไว้แล้ว
…หรือพวกเขากำลังรออะไรบางอย่าง?
“ทำไมฉันถึงไม่รู้มาเลยก่อนว่า เดลี่เสจเป็นสำนักพิมพ์ที่ชอบสร้างข่าวลืออื้อฉาวขนาดนี้ สงสัยมันคงถึงเวลาที่ฉันต้องพิจารณาหนังสือพิมพ์เจ้าอื่นแล้ว”
ดาร์กถอนหายใจ แต่ก็ยังอ่านหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับขณะทานอาหารไปด้วย
ในฐานะที่เป็นหนังสือพิมพ์ที่แพร่หลายมากที่สุดในอาณาจักร ‘เดลี่เสจ’ กลับไม่ได้เป็นตัวแทนเสียงของฝั่งสำนักพิมพ์แต่อย่างใด
ทว่า…ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร พาดหัวนี้มีแรงจูงใจซ่อนเร้นอย่างเห็นได้ชัด!
‘พวกเขาต้องการผูกมิตรกับกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังจักพรรดินีองค์ที่สอง กับเจ้าหญิงองค์โตหรือเปล่า?’
‘แต่ถ้าข่าวนี้ถูกฝ่ายนกพิราบบงการ มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ?’
‘มันคงเป็นแค่ข่าวบันเทิงธรรมดา ๆ ใช่ไหม?’
หลังจากคาดเดาไปต่าง ๆ นานาอย่างไม่มีประโยชน์ ดาร์กก็วางหนังสือพิมพ์ลง หลับตาและสงบสติอารมณ์ ก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือเรียนล่วงหน้า
…
คาบเรียนแรกหลังวันฮัลโลวีนเป็นวิชาคณิตศาสตร์
ศาสตราจารย์ลิลลี่เขียนคำถามบนกระดานดำว่า ‘เมื่อคืนฉันปล่อยภูตไปจับพวกเธอกี่ตัว?’
ทั้งห้องเงียบสงัดในบัดดล และไม่มีใครสามารถตอบคำถามยาก ๆ นี้ได้
จากนั้น ศาสตราจารย์ลิลลี่ก็เขียนคำถามที่สองบนกระดานดำว่า ‘เช้านี้มีคนมาสายกี่คน’
นักเรียนคนหนึ่งยกมือขึ้นอย่างกล้าหาญ
“เอ็มม่า มอร์ติส ช่วยตอบที”
“มีคนมาสายแปดคนค่ะ ศาสตราจารย์”
“ดีมาก มอร์ติสได้ห้าคะแนน ทุกคนที่มาสายลบห้าคะแนน แล้วไปยืนที่หลังห้องเรียน!”
ด้วยคำพูดนี้ เด็กบ้านขุนนางสามคน บ้านอัศวินห้าคน รวมทั้งหมดแปดคนจึงห่อไหล่ เดินไปยืนเรียงแถวอยู่ที่หลังห้องเรียน
ดาร์กซึ่งนั่งอยู่แถวหลัง สามารถเห็นความอับอายและความหงุดหงิดของพวกเขาได้
แม้ว่าตั้งแต่ต้นปีการศึกษาจะมีคนที่มาเรียนสายอยู่เสมอ แต่จริง ๆ แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่คนจำนวนมากถูกลงโทษแบบนี้
อาจเป็นไปได้ว่า ศาสตราจารย์ลิลลี่กลัวว่าวันหยุดสองวันที่ผ่านมาจะทำให้นักเรียนหย่อนยานได้
ในบรรดาเด็กมาสายทั้งแปดคน โดรอนแห่งตระกูลขุนนางก็ยกมือขึ้นทันที
ศาสตราจารย์ลิลลี่หรี่ตาของเธอ “โดรอน เธอต้องการจะพูดอะไร”
โดรอนซึ่งมาสายเป็นครั้งแรกในชีวิต กัดฟันพูดว่า “ศาสตราจารย์ ผมไม่ได้ตั้งใจมาสายนะครับ”
ศาสตราจารย์ลิลลี่ตอบ “ก็ไม่มีใครตั้งใจแบบนั้นหรอก”
โดรอน “ผ–ผมแตกต่าง! ผมมาสายเพราะตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกเพลีย…”
ศาสตราจารย์ลิลลี่พูดต่อ “ใช่ โดรอน ฉันรู้แล้วว่าเธอมาสายเพราะว่าเมื่อคืนเธอนอนดึก เพราะฉะนั้นหุบปากซะ”
ประโยคนี้ทำให้เกิดเสียงหัวเราะในห้องเรียน
โดรอนหุบปากทันที
คนมาสายที่เหลือก็รู้สึกละอายและไม่กล้าพูด
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า พวกเขามีรอยตื้นสองจุดอยู่ที่หลังคอ และตอนนี้มันกำลังจะจางหายไป
สรุปแล้ว
หลังเลิกเรียนพวกเขาก็ได้รับการบ้านสองเท่า
…
คาบสองเป็นวิชาเวทมนตร์พื้นฐานของศาสตราจารย์เคเซอร์
ในเดือนที่สามของนักเรียนชั้นปีหนึ่ง ในที่สุดศาสตราจารย์เคเซอร์ก็เริ่มสอนเกี่ยวกับการทำการ์ดเวทมนตร์
วันนี้เขาดูไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็ยังพูดว่า “วันนี้ เราจะมาเรียนรู้หนึ่งในวิธีการสร้างการ์ดเวทมนตร์ นั่นก็คือการสร้างการ์ดเมจิก!”