บทที่ 1591 อาจารย์ของใคร
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า จากนั้นก็เดินออกจากโซนประกาศภารกิจ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นเดินตามอาจารย์โรงเรียนชื่อเยี่ยนมาจนถึงห้องโถงใหญ่แห่งหนึ่ง
ในห้องโถง มีชายชราสวมชุดคลุมดิ้นทองท่านหนึ่งนั่งอยู่
“ผู้อาวุโสกง นักเรียนคนนี้ก็คือเยี่ยหวันหวั่นครับ…” อาจารย์โรงเรียนชื่อเยี่ยนยิ้มบอก
สายตาเย็นชาของชายชราที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสกงหันมาจ้องพิจารณาเยี่ยหวันหวั่น จากนั้นก็พยักหน้า
“เธอคือคนที่จี้ซิวหร่านแนะนำมาเหรอ” ผู้อาวุโสกงมองเยี่ยหวันหวั่น
“ใช่ค่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าตอบไปตามตรง
“ฉันกับจี้ซิวหร่านเคยมีบุญคุณต่อกัน ในเมื่อเธอเป็นคนที่จี้ซิวหร่านแนะนำมา งั้นฉันก็จะรับเธอเป็นศิษย์” ผู้อาวุโสกงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ฮ่าๆ เยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสกงเป็นหนึ่งในสี่ผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติของโรงเรียนชื่อเยี่ยน เธอได้กลายเป็นลูกศิษย์ในนามของผู้อาวุโสกง ช่างโชคดีจริงๆ…”
ขณะนี้เยี่ยหวันหวั่นได้แต่งงงัน นี่มันเรื่องอะไรกัน…
ลูกศิษย์ในนาม? แต่เธอยังไม่ได้บอกว่าจะกราบอาจารย์เลยนะ
จู่ๆ ก็ถูกคนอื่นรับเป็นศิษย์แบบงงๆ นี่มันยังไงกัน?
เยี่ยหวันหวั่นรู้ว่าลูกศิษย์ในนามหมายถึงอะไร ไม่ใช่ศิษย์อย่างเป็นทางการ แต่เป็นเพียงในนามเท่านั้น
“หวังว่าต่อไปเธอจะตั้งใจฝึกฝนอย่างหนัก และไม่ทำให้ฉันขายหน้า” ครู่หนึ่งผ่านไป ผู้อาวุโสกงถอนหายใจแล้วโบกมือ สั่งให้อาจารย์โรงเรียนชื่อเยี่ยนพาเยี่ยหวันหวั่นออกไป
พอเดินออกมาจากห้องโถงใหญ่ เยี่ยหวันหวั่นยังคงสับสนงุนงง
“เยี่ยหวันหวั่น เธอโชคดีมากที่จี้ซิวหร่านเป็นแนะนำเธอมา หลายปีก่อนผู้อาวุโสกงเคยมีบุญคุณกับจี้หวง…เธอเพิ่งเข้าโรงเรียนชื่อเยี่ยนมาก็ได้อาศัยบารมีของผู้อาวุโสกงแล้ว เป็นโอกาสที่หายากมากนะ…ความจริงลูกศิษย์ของผู้อาวุโสกงมีแต่ทหารรับจ้างระดับ S ขึ้นไปนะ” อาจารย์โรงเรียนชื่อเยี่ยนกระซิบบอกเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นได้แต่เงียบ
เธอไม่ได้อยากกราบอาจารย์เลยนะ…นี่มันมัดมือชกกันชัดๆ…
“แต่ผู้อาวุโสกงมีนิสัยเย็นชาไม่ชอบสุงสิงกับคนอื่น ถึงจะเป็นหนึ่งในสี่ผู้ผู้อาวุโสของโรงเรียนชื่อเยี่ยน แต่ลูกศิษย์ของเขามักโดนลูกศิษย์ของผู้อาวุโสอีกคนกดหัวบ่อยๆ”
“น่าเสียดายจริงๆ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า อายุปูนนี้แล้ว แล้วยังเป็นผู้ผู้อาวุโสที่มีตำแหน่งอำนาจสูงอีก คงจะฝากความหวังไว้ที่ลูกศิษย์เป็นส่วนใหญ่ ลูกศิษย์ของตัวเองโดนลูกศิษย์คนอื่นกดหัว ลึกๆ ในใจคงรู้สึกไม่ดีแน่ แต่ว่า…แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ
“ตอนนั้นผู้อาวุโสกงเคยมีศิษย์คนหนึ่ง เป็นถึงคนดังเชียวนะ แต่…ไม่นานก็หายตัวไป เมื่อก่อนเคยสร้างสถิติไว้ในโรงเรียนชื่อเยี่ยนด้วยนะ…หลายปีผ่านไปแล้ว ผู้อาวุโสกงก็ยังไม่เลิกตามหาศิษย์ที่หายตัวไปคนนั้น แต่ก็ยังหาไม่เจอซักที…” อาจารย์โรงเรียนชื่อเยี่ยนถอนหายใจ
“ใครเหรอคะ เก่งขนาดนั้นเชียว” เยี่ยหวันหวั่นสงสัย
“ไม่ต้องถามมาก เธอเพิ่งเข้ามาเป็นศิษย์ เดี๋ยวอีกไม่นานก็รู้เอง” อาจารย์โรงเรียนชื่อเยี่ยนกล่าว
……
ผ่านไปครู๋หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นเดินตามอาจารย์โรงเรียนชื่อเยี่ยนเข้ามาในห้องเรียนห้องหนึ่งซึ่งอยู่ตรงมุมของโรงเรียน
ห้องเรียนนี้เป็นห้องเรียนของทหารรับจ้างระดับ D เป็นสถานที่ที่ทหารรับจ้างระดับ D ใช้เพื่อเรียนรู้ความรู้พื้นฐาน
“ต่อไปเธออยู่ห้องนี้นะ แต่ฉันขอเตือนเธอก่อน ถึงเธอจะเป็นคนที่จี้หวงแนะนำมา แต่ก็ยังต้องเคารพกฎของโรงเรียนชื่อเยี่ยนนะ โดยเฉพาะเธอที่เป็นนักเรียนใหม่ อย่าก่อปัญหาโดยไม่จำเป็น ไม่อย่างงั้นถึงจะเป็นจี้หวงหรือผู้อาวุโสกงก็ไม่แน่ว่าจะปกป้องเธอได้” อาจารย์โรงเรียนชื่อเยี่ยนกำชับเยี่ยหวันหวั่น จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นละสายตาจากเขา แล้วเดินเข้าไปในห้องเรียนของทหารรับจ้างระดับ D
เพิ่งจะเดินเข้าห้องเรียนมา เยี่ยหวันหวั่นกลับค้นพบว่าข้างในมีคนเป็นร้อย แต่ละคนต่างนั่งที่ของตัวเอง หน้าห้องมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่ น่าจะเป็นอาจารย์ประจำชั้นของพวกเธอ
————————————————————————————-
บทที่ 1592 เนี่ยอู๋โยวกับเยี่ยหวันหวั่น (1)
พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นเดินเข้าห้องมา ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่หน้าห้องก็หันมามองเยี่ยหวันหวั่น
“เพิ่งมาใหม่ทำไมถึงเข้าเรียนสายซะแล้ว” ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว “คราวหน้ามาให้ตรงเวลาหน่อย”
“ค่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นทำได้เพียงพยักหน้า
ชายวัยกลางคนให้เยี่ยหวันหวั่นนั่งตรงตำแหน่งที่กำหนดไว้
การบรรยายบทเรียนของชายวัยกลางคน มีแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งขั้วอำนาจของรัฐอิสระ แล้วก็ความอันตรายของภารกิจในแต่ละระดับ รวมถึงประโยชน์ของคะแนนเกียรติยศของทหารรับจ้างทั้งนั้น
ทุกครั้งที่ทำภารกิจสำเร็จ ก็จะได้รับคะแนนเกียรติยศ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เลื่อนขั้นระดับทหารรับจ้างได้แล้ว ยังมีประโยชน์อย่างอื่นด้วย
เยี่ยหวันหวั่นกลับตั้งอกตั้งใจฟังไม่น้อย มาอยู่รัฐอิสระนานขนาดนี้ เพิ่งจะเคยได้ยินการแบ่งระดับที่เข้มงวดขนาดนี้ก็ในโรงเรียนชื่อเยี่ยนเป็นครั้งแรกนี่แหละ
อย่างพันธมิตรอู๋เว่ย ถ้าให้แบ่งตามระดับดาว น่าจะจัดอยู่ในกลุ่มอำนาจระดับห้าดาว ส่วนจี้หวงกับอาชูร่า น่าจะอยู่ในกลุ่มอำนาจระดับหกดาว
ส่วนพวกตระกูลโบราณกับสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ บางทีอาจเลื่อนขึ้นไปอยู่ระดับเจ็ดาวได้…
……
พอหมดคาบเรียน เยี่ยหวันหวั่นก็กลับหอพัก
แต่ผ่านไปไม่นาน ชายหญิงแปลกหน้ามากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในห้องเหมือนกระแสน้ำขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นทอดมองออกไปไกล มีคนประมาณสิบสองคน ชายหญิงจำนวนครึ่งต่อครึ่ง
“เชี่ย…ตกใจหมด!”
ชายหนุ่มคนหนึ่งพอเห็นเยี่ยหวันหวั่นที่นั่งอยู่บนฟูกนอนก็อุทานด้วยความตกใจ
“รุ่นน้อง เธอ…แต่งหน้าเข็มจนน่ากลัวไปรึเปล่า”
ทหารรับจ้างระดับ D อีกหลายคนก็รีบเอ่ยปากเสริม
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรมาก
ในหอพักแห่งนี้ มีแค่นักเรียนเก่าคนเดียว ที่เหลือเป็นนักเรียนใหม่หมดเลย
และระหว่างที่พวกเขาแนะนำตัวเองกัน เยี่ยหวันหวั่นก็นั่งฟังเงียบๆ ส่วนมากเป็นทายาทของตระกูลมีชื่อเสียงของรัฐอิสระทั้งนั้น
“รุ่นน้อง เธอชื่ออะไร?”
ชายคนที่ชื่อหลี่ซินหันมาถามเยี่ยหวันหวั่น
“เยี่ยหวันหวั่นค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นตอบไปตามตรง
“เยี่ยหวันหวั่น? ปู่เธอแซ่หลิวไม่ใช่เหรอ” เวลานี้ ชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่เตียงข้างๆ พูดด้วยความประหลาดใจ
เยี่ยหวันหวั่นรู้จักชายหญิงคู่นั้น ปู่ของพวกเขาก็คือผู้อาวุโสของตระกูลหนึ่งที่พูดจาค่อนแคะปู่หลิวนั่นเอง
คนพี่ชายชื่อโจวเทา คนน้องสาวชื่อโจวฝู
“แม่ฉันซิ่งเยี่ย” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
“หึๆ เยี่ยหวันหวั่น ฉันจำได้ว่าปู่เธอเป็นคนของพันธมิตรอู๋เว่ยสินะ…พันธมิตรอู๋เว่ยมีแต่คนไม่ดี ฉันว่าเธอบอกให้ปู่เธอรีบออกจากพันธมิตรอู๋เว่ยดีกว่ามั้ง” โจวเทากล่าว
“พี่ ปู่เธอแก่ขนาดนี้แล้ว ถ้าออกจากพันธมิตรอู๋เว่ยก็อดตายน่ะสิ เขาต้องเลี้ยงหลานสาวขี้เหร่ๆ อย่างงี้อีกนะ” โจวฝูพูดหยัน
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไร หลี่ซินก็ขมวดคิ้ว “นี่ พ่อแม่เธอไม่เคยสั่งสอนรึไง คนอื่นเขาหน้าตาเป็นยังไงแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ คิดว่าตัวเองสวยนักรึไง? ใหญ่มาจากไหนกัน? ยัยอัปลักษณ์”
“ว่าไงนะ?” โจวฝูจ้องหลี่ซินด้วยความโมโห
“ทำไม จะอัดฉันเหรอ? พี่ชายฉันเป็นทหารรับจ้างระดับ C ที่โรงเรียนนี้ เธอกับพี่ชายเธอลองแตะต้องฉันดูสิ เอาเลยๆๆ ตีหัวฉันเลยก็ได้ หรือให้ฉันหยิบก้อนหินให้เธอด้วยไหม?” หลี่ซินทำหน้าท้าทาย
“ช่างเถอะ อย่าไปมีเรื่องกับคนพรรค์นั้นเลย” โจวเทาขมวดคิ้ว
โจวฝูถมึงตาจ้องหลี่ซิน แล้วไม่พูดอะไรอีก
ทหารรับจ้างระดับ C ไม่ใช่คนที่เธอจะมีเรื่องด้วยได้ในตอนนี้…
“ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว ต่อไปทุกคนยังต้องมองหน้ากันไปอีกนาน ไม่แน่ว่าวันไหนอาจจะต้องมอบชีวิตให้อีกฝ่ายปกป้อง จะทะเลาะกันไปเพื่ออะไร” เวลานี้ ทหารรับจ้างที่มีประสบการณ์มากสุดในห้องตะโกนเสียงดัง
พอทหารรับจ้างผู้อาวุโสเอ่ยปาก ก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก