2.2
Chapter 2.2
ถึงการทำงานในโต๊ะข่าวบันเทิงจะเป็นแนวที่สารินไม่ถนัด แต่ทักษะการล้วงลึกประเด็นต่างๆ ของเขาก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน ทำให้วันนี้กว่าจะสัมภาษณ์เก็บข้อมูลผู้เกี่ยวข้องทุกคนในโรงแรมเสร็จก็กินเวลาไปเกือบสามชั่วโมงเต็มเลย แม้จะน้อยกว่าเมื่อวานพอสมควรที่ต้องใช้เวลาคุยกับแฟนคลับหลากหลายกลุ่มอยู่เกินครึ่งวัน เพราะอยากนำเสนอความคิดเห็นของทั้งสองฝั่งให้ครบถ้วนทุกประเด็นมากที่สุด
“ขอบคุณคุณกิตติมากๆ เลยนะครับ ที่สละเวลามาให้ข้อมูลนานขนาดนี้”
“ไม่เป็นไรเลยครับ ถ้ามันจะทำให้แขกที่มาพักโรงแรมเรารู้สึกอุ่นใจกับมาตรการรักษาความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นผมก็ยินดี ยังไงถ้าคุณสารินอยากได้ข้อมูลส่วนไหนเพิ่มเติมอีก ก็ติดต่อมาได้ตลอดเลยนะครับ”
“ขอบคุณอีกทีนะครับ รบกวนเวลาคุณกิตติมานานแล้ว เดี๋ยวผมจะขออนุญาตเก็บภาพบรรยากาศโรงแรมเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้วจะกลับเลยครับ”
สารินเอ่ยลาผู้จัดการโรงแรมเสร็จสรรพก็เริ่มเก็บภาพบรรยากาศภายในต่อทันที และในขณะที่มือขาวกำลังกดชัตเตอร์บันทึกภาพอยู่นั้น ร่างของหนุ่มหล่อสาวสวยคู่หนึ่งก็เดินเข้ามาในเฟรมพอดี
~ แชะ แชะ แชะ ~
เขาถ่ายติดทั้งคู่ไปสองสามภาพอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะรู้สึกสะดุดตากับฝ่ายหญิงขึ้นมาจึงรีบเปิดกล้องเช็กภาพดูอีกครั้ง และมันก็ทำให้หัวคิ้วเขาขมวดเข้าหากันอย่างหนัก เมื่อผู้หญิงคนนั้นคือนางเอกคนดังเจ้าของฉายาเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง
“อิงฟ้านี่หว่า… มากับใครวะ”
ริมฝีปากได้รูปอุทานออกมาอัตโนมัติ และเชื่อว่าถ้าคนอื่นๆ มาเห็นภาพความสนิทสนมเหมือนที่เขาเห็นตอนนี้ก็คงสงสัยไม่ต่างกัน เพราะอิงฟ้าขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงมากๆ เธอแทบไม่ให้ความสนิทสนมกับใครง่ายๆ เลยโดยเฉพาะกับเพื่อนต่างเพศยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ และเธอยังเป็นนักแสดงที่วางตัวดีมาตลอดไม่เคยมีข่าวรักๆ ใคร่ๆ ให้เสียหาย ยิ่งเรื่องคนรักคนรู้ใจก็ไม่เคยแง้มให้สื่อรู้สักครั้ง เพราะอยากให้ทุกคนโฟกัสเรื่องผลงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว คนส่วนใหญ่จึงเข้าใจว่าเธอยังโสดมาตลอด
แต่การที่นางเอกคนดังเดินควงแขนหนุ่มหล่อมาดนักธุรกิจเข้าโรงแรมห้าดาวในตอนเย็นย่ำแบบนี้มันจะเป็นไปได้กี่สถานะกันล่ะ ถ้าจะบอกว่าเป็นญาติเป็นคนรู้จักก็คงไม่แสดงออกด้วยการถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนี้หรอกมั้ง นอกจากเธอจะควงคนรักมาทานดินเนอร์สุดหรูบนสกายวิวที่ขึ้นชื่อของโรงแรมทรีมากกว่า
สารินมองตามหนุ่มหล่อสาวสวยที่ดูเหมาะสมกันไปจนลับตา แล้วตัดสินใจเก็บข้าวเก็บของกลับที่พักทันที เมื่อเขาไม่คิดจะตามติดเป็นปาปารัสซีแอบถ่ายช่วงเวลาส่วนตัวของทั้งคู่ต่อสักนิด เพราะไม่อยากเป็นตัวการทำให้ชื่อเสียงที่สั่งสมมาของนางเอกดังต้องมัวหมอง โดยลืมคิดไปว่ามันอาจจะเป็นข่าวเด็ดที่ทำให้เขาไม่ถูกไล่ออกก็ได้
จนเวลาล่วงเลยมาถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน สารินผู้มีดวงการงานริบหรี่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหาข่าวบันเทิงเด็ดดวงตรงกับคอนเซปต์บริษัทไปส่งหัวหน้าได้สักที เมื่อเขามัวแต่ขะมักเขม้นกับการเขียนข่าวทั่วๆ ไปที่มีเข้ามาไม่เว้นแต่ละวันอยู่ ซึ่งข่าวพวกนี้ต่อให้ไม่ได้เป็นข่าวร้อนเป็นกระแสสังคม แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีกว่าการเขียนข่าวขุดคุ้ยเรื่องลับๆ ของดารามาก ถึงจะลงท้ายด้วยการถูกหัวหน้าเรียกไปต่อว่าเหมือนเดิมก็ตาม
“คู่ขวัญมิกซ์พราว เป็นสะพานบุญให้แฟนคลับร่วมทำบุญสร้างแผงโซล่าเซลล์เพื่อน้อง”
“วันนี้ที่รอคอย มาตัง เทพยุภา คว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งตามฝัน หลังจากพักการเรียนสองปีเต็มเพื่องานในวงการ”
“ล้วงลับเทคนิคตีบทแตกกับ อุ้งอิ้ง ปรีญาดา นางร้ายเจ็ดวันที่คนดูรักมากกว่าเกลียด”
พิเชษฐ์ถอดหายใจออกมายาวเหยียดเหมือนทุกครั้ง เมื่อลูกน้องที่ตัวเองตั้งความหวังไว้ทำงานออกมาได้ไม่ตรงใจสักที “ไอ้โซ่! กูหมดคำจะพูดกับมึงแล้วนะ มึงไม่อยากทำงานที่นี่ต่อแล้วใช่ไหมถึงยังเขียนข่าวแบบนี้มาอีก”
“ไม่ใช่อย่างนั้นพี่ ผมคิดว่าข่าวแรงๆ มันก็มีคนให้ความสนใจอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้วงการมันเงียบมาก แถมข่าวของต้นหนกับเอิร์ธก็ยังไม่ซาเท่าไหร่ ผมเลยอยากนำเสนอด้านดีๆ ของดาราคนอื่นๆ บ้าง คนเสพข่าวจะได้ไม่คิดว่าวงการบันเทิงต้องมีแต่ข่าวคาวๆ อย่างเดียว”
“กูเข้าใจที่มึงคิดนะโซ่ จริงๆ ข่าวพวกนี้มันก็เล่นได้เพราะสื่อเจ้าอื่นเขาก็มีข่าวซอฟต์ๆ มาเล่นฆ่าเวลาเหมือนกัน แต่ประเด็นที่กูจี้ให้มึงหาข่าวเด็ดๆ อยู่ทุกวัน เพราะมึงกำลังโดนผู้ใหญ่เพ่งเล็งอยู่ต่างหาก” พิเชษฐ์หยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะหยิบใบสมัครงานหลายสิบชุดขึ้นมายื่นให้คนตรงหน้า
“มึงเห็นนี่ไหม มึงรู้ไหมว่าในแต่ละวันมีคนส่งใบสมัครเข้ามาที่เดอะซันมากขนาดไหน และมึงก็รู้ใช่ไหมว่าที่นี่ไม่ได้รับคนเข้ามาทำงานง่ายๆ การจะเป็นนักข่าวของเดอะซันได้ไม่ว่าจะโต๊ะไหนก็ต้องมีไหวพริบมีความสามารถ มีทักษะในการหาข่าวที่ดี และตัวมึงเองก็มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่าง แต่สิ่งที่มึงขาดสำหรับงานในโต๊ะข่าวบันเทิงคือ ‘ความขี้เสือก’ มึงแทบไม่เคยอยากรู้อยากเห็นเรื่องลับๆ ของพวกดาราเหมือนนักข่าวคนอื่นๆ เลย มึงถึงเขียนแต่ข่าวทั่วๆ ไปมาให้กูทุกวัน แถมยังไม่พยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกต่างหาก”
สารินตัวชาไปหมดเมื่อถูกตอกย้ำเรื่องข้อบกพร่องที่รู้ตัวมาตลอดว่าขาด เพราะคุณสมบัติข้อนี้ทำให้เขาตีกรอบการทำงานของตัวเองอย่างมาก ว่าจะไม่ทำข่าวที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่นแน่นอน
“กูเข้าใจนะว่ามึงไม่ได้อยากทำข่าวบันเทิงตั้งแต่แรก แต่ในเมื่อมึงได้ทำงานโต๊ะนี้แล้ว มึงก็ควรปรับตัวให้เข้ากับเนื้องานและสภาพแวดล้อมนะ ถึงมึงไม่ชอบเสือกเรื่องดาราแต่มึงก็ต้องทำให้ได้เพราะที่นี่จ่ายเงินเดือนให้มึง ถ้าอาทิตย์นึงที่เหลืออยู่มึงยังหาข่าวดีๆ ข่าวเด็ดๆ มารักษาตำแหน่งของมึงไว้ไม่ได้ มึงก็เตรียมตัวถูกเตะโด่งออกจากบริษัทได้เลย และที่สำคัญมึงจะไม่มีโอกาสได้ย้ายไปทำงานในโต๊ะอาชญากรรมอย่างที่ฝันไว้แน่นอน”
——————————
#30วันให้ฉันจูบนาย
#ปัณณ์โซ่
Talk : คอมเมนต์ติชมกันได้เหมือนเดิมนะคะ
พูดคุยเม้าท์มอยนิยายได้ที่ Twitter @ppolarisma