ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 705 เมฆเปิดเห็นตะวัน! น้ำลดหินผุด (5) / ตอนที่ 706 เมฆเปิดเห็นตะวัน! น้ำลดหินผุด (6)

ตอนที่ 705 เมฆเปิดเห็นตะวัน! น้ำลดหินผุด (5)

ไม่ว่ายังไงเจียงซื่อเซิ่งก็ไม่ยอมบอก ทางตำรวจก็ไม่มีหลักฐานที่ดำเนินคดีเขาได้โดยตรง

อวี๋กานกานนั่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของเหอสือกุย เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันมานี้ให้เหอสือกุยซึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยฟังอย่างละเอียดยิบ

เหอสือกุยพ้นขีดอันตรายมาแล้ว ย้ายจากห้องไอซียูมาที่ห้องพักผู้ป่วยทั่วไป เพียงแต่ยังไม่ได้สติ

“อาจารย์เหม่ยเหรินคะ อีกสองสามชั่วโมงก็จะครบสี่สิบแปดชั่วโมงแล้ว เจียงซื่อเซิ่งคนนั้นก็จะถูกประกันตัวออกไป คุณรีบฟื้นขึ้นมาสิ ฉันเชื่อว่าขอแค่คุณตื่นขึ้นมาก็จะสามารถชี้ตัวเจียงซื่อเซิ่งได้…”

อวี๋กานกานพึมพำอยู่นาน แล้วฟุบเบาๆ ลงบนเตียง มือข้างหนึ่งยังกุมมือเหอสือกุยเอาไว้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่านิ้วที่อยู่ในฝ่ามือของเธอขยับนิดหน่อย

กลัวว่าตัวเองจะคิดไปเอง อวี๋กานกานจึงสูดลมหายใจเข้า ดวงตาจ้องมือเหอสือกุยโดยไม่กะพริบ เกรงว่าตนเองจะพลาดการเคลื่อนไหวเล็กน้อยสำคัญอะไรไป

“ยายหนู”

ในตอนนี้ยังได้ยินเสียงแหบแห้งดังขึ้นมาข้างหูอีกด้วย

อวี๋กานกานเงยหน้าขึ้นทันที และสบตาเข้ากับดวงตางัวเงียคู่หนึ่ง อวี๋กานกานเบิกตาโตจ้องไม่กี่วินาที หลังจากที่แน่ใจแล้วก็ยิ้มออกมาในพลัน “อาจารย์เหม่ยเหริน คุณฟื้นแล้ว!”

เดิมอยากจะหัวเราะ ผลคือพอจมูกแสบ หยดน้ำตาก็ไหลลงมาจากดวงตา

เหอสือกุยยกมือขึ้นอย่างอ่อนแรงและเช็ดน้ำตาที่แก้มของเธอ “ทำไมร้องไห้ล่ะ ฟังจือหันรังแกเธอใช่ไหม”

อวี๋กานกานส่ายหน้า พยายามส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เธออยากจะหัวเราะ แต่ว่าน้ำตากลับไหลออกมายิ่งกว่าเดิม จึงกอดแขนเหอสือกุยพร้อมกับร้องไห้และหัวเราะไปด้วยแบบนี้ เหมือนกับว่าคนบ้าที่ปลดปล่อยตัวเอง

เหอสือกุยพูดอย่างอ่อนโยน “ยายหนู รีบเรียกเจ้าหน้าที่โจวโจวมาเร็ว”

อวี๋กานกานพยักหน้าซ้ำๆ “ฉันจะแจ้งพวกเขาเดี๋ยวนี้ คุณไม่ต้องรีบ เจียงซื่อเซิ่งโดนจับไปดำเนินคดีแล้ว”

จากนั้นอวี๋กานกานก็เล่าให้เหอสือกุยฟังทุกเรื่องที่เกิดขึ้นหลายมาวันนี้ พอได้ยินว่าเจียงซื่อเซิ่งโดนจับไปสถานีตำรวจแล้วก็พรูลมหายใจออกมาอย่างชัดเจน

ตอนที่แพทย์กำลังตรวจอาการประจำวันให้เหอสือกุย โจวโจวกับฟังจือหันก็มาถึงโรงพยาบาล

เพราะว่าเพิ่งฟื้นขึ้น ร่างกายของเหอสือกุยยังมีอาการอ่อนเพลีย คาดว่าจะคุยกับพวกเขาได้ครู่เดียว ตอนแรกเขาได้รับความเชื่อใจจากเจียงซื่อเซิ่ง เจียงซื่อเซิ่งยังพาเขาไปเจอกับโจวหย่วนเฉวียน

ตอนแรกเริ่มโจวหย่วนเฉวียนก็ค่อนข้างจะระแวงเหอสือกุย แต่ว่าหลังจากที่เจอกันหลายครั้งความรู้สึกระแวงของเขาก็ลดลงไปมาก

นี่จึงเป็นโอกาสให้เหอสือกุย ทำให้เขาได้รู้เกี่ยวกับของสำคัญอย่างยิ่งอย่างหนึ่งโดยไม่คาดคิด นั่นก็คือสมุดบันทึกของเจียงป๋อซื่อ

สมุดบันทึกเล่มนี้เขียนเกี่ยวกับส่วนประกอบ การค้นพบ การสกัด การวิจัย การตั้งชื่อและอื่นๆ อีกมากมายของโครงการยาต้านมะเร็งนี้ หน้าสุดท้ายยังบันทึกหลักฐานการเข้ารับการรักษาเอาไว้

รายชื่อคนไข้ที่เข้ารับการรักษา มาตรฐานผลการรักษา รวมกับการสังเกตการณ์รักษาและอื่นๆ

บันทึกว่ายาต้านมะเร็งแม้จะมีผลที่แน่นอนแต่ก็มีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก หลังจากที่ถูกพัฒนายาอยู่หลายครั้งก็ไม่ต่างไปจากเดิมเลยสักนิด

ส่วนสำคัญคือหน้าสุดท้าย

เหอสือกุยพบของล้ำค่าอย่างยิ่งของโจวหย่วนเฉวียน ตอนที่เขาจะออกไปก็เอาบันทึกไปด้วย คิดจะลองดูว่าหาเบาะแสอะไรสักหน่อยจากข้างในได้ไหม

ผลกลับโดนพวกเขารู้เข้า รีบร้อนหนีไปก่อน เขาใช้ถุงกันน้ำปิดผนึกสมุดบันทึกแล้วโยนลงไปในสระน้ำ

โจวโจวรีบให้คนไปตามสถานที่ที่เหอสือกุยบอกทุกอย่าง กู้สมุดบันทึกออกมาจากสระน้ำ

อวี๋กานกานก็อ่านสมุดบันทึกครู่หนึ่ง เพียงแต่ว่าบันทึกทางวิชาการเกี่ยวกับยาต้านมะเร็งของเจียงป๋อซื่อนี้ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเจียงซื่อเซิ่งต้องฆ่าคนเพื่อสมุดบันทึกด้วย

ฟังจือหันกับโจวโจวก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน แต่ว่าอีกฝ่ายกระวนกระวายเกี่ยวกับสมุดบันทึกเล่มนี้จะต้องมีเหตุผลแน่

ตอนที่ 706 เมฆเปิดเห็นตะวัน! น้ำลดหินผุด (6)

ฟังจือหันกับโจวโจวดำเนินการตรวจสอบทุกด้านตามในสมุดบันทึก ไม่สืบก็ไม่รู้ พอสืบก็ตกใจ ผู้ป่วยซึ่งถูกทดลองยาในตอนนั้นต่างก็เซ็นสัญญาเป็นตาย หลังจากการทดลองยาผ่านไปไม่กี่วันมีคนครึ่งหนึ่งเสียชีวิตแล้ว

ด้วยเหตุนี้เจียงป๋อซื่อจึงจะหยุดโครงการนี้ เป็นเพราะว่าเขาพบว่ายานี้ใช้แล้วมีอันตรายมากเกินไป เดิมทีที่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปีกลับหยุดหายใจกะทันหันเนื่องจากใช้ยา

ฟังจือหันได้รับผลการทดสอบยาที่ตกค้างจากสมาชิกในครอบครัวของคนที่ทดลองยาในตอนนั้น

พบว่าสูตรยานี้กับสูตรยาที่เจียงป๋อซื่อเขียนไว้ในสมุดบันทึกมีบางส่วนที่ต่างกัน

ฟังจือหันไปที่สถานีตำรวจ นั่งตรงข้ามเจียงซื่อเซิ่งและโยนรายงานสองฉบับในมือไปตรงหน้าเขา “นี่ก็คือเหตุผลที่คุณฆ่าพ่อผม?”

เหลือบตาขึ้นมอง ดวงตาของเจียงซื่อเซิ่งพลันหรี่ลง

“ถ้าผมเดาไม่ผิด พ่อของผมน่าจะรู้ตอนงานสัมมนาบนเรือยอชท์วันนั้นว่าตอนผลิตคุณเปลี่ยนตัวยาในตำรับยา ด้วยเหตุนี้จึงไปถามกับคุณ ดังนั้นคุณถึงได้ฆ่าเขาปิดปาก” ฟังจือหันพูดอย่างใจเย็น

เจียงซื่อเซิ่งกัดฟันกรอด ยังคงไม่พูดไม่จา

ฟังจือหันจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ลุงรอง เหอสือกุยฟื้นแล้ว ต่อให้คุณไม่พูดก็หนีจากโทษตามกฎหมายไม่พ้นอยู่ดี”

ฟื้นแล้ว? เหอสือกุยฟื้นแล้วหรือ โชคดีจริงนะ ขนาดนี้ก็ยังไม่ตาย เจียงซื่อเซิ่งเอนตัวไปข้างหลังแล้วพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าค่อนข้างสิ้นหวัง

หลังจากครู่หนึ่ง เขาก็หัวเราะเหอะ เนื้อตรงแก้มกระตุก “คุณพ่อสายตาดีจริงๆ มิน่าเขาถึงเลือกแกมาเป็นผู้สืบทอด ถึงอย่างไรเมื่อเทียบไป๋อันกับแกแล้วก็ยังต่างกันมากเกินไป”

ฟังจือหันพูดเสียงราบเรียบ “ผมบอกแล้ว ผมไม่อยากเป็นศัตรูกับคุณ และไม่อยากแข่งขันกับลุง ตอนเด็กลุงรองดีกับผมมาก ผมจำได้ ถ้าคุณเอ่ยปาก สกุลเจียงก็จะเป็นของคุณ”

มือที่สวมกุญแจมือนั้นวางบนโต๊ะอย่างแรง เจียงซื่อเซิ่งหัวเราะออกมาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าเสียงกลับเหมือนร้องไห้เสียอย่างนั้น “ของที่แกไม่สนใจ กลับเป็นสิ่งที่เขาต้องการแต่ก็ไม่ได้มา แกจะไม่ให้เขาเกลียดแก ไม่โทษแกได้ยังไงกัน”

เขาที่ว่าก็คือเจียงไป๋อัน แต่ไหนแต่ไรชายแก่ไม่เคยคิดจะให้เขาเป็นผู้สืบทอดแม้ว่าเขาจะเป็นหลานชายคนโต

ช่างน่าเศร้าและน่าอนาถใจเสียจริง

เขามองฟังจือหันพร้อมกับพูด “ป้ารองกับน้องชายแกอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง ฉันจะสารภาพทุกอย่างก็ได้ แต่แกต้องรับปากฉันว่าอย่าได้ทำร้ายพวกเขาตลอดไป ให้พวกเขารออยู่ที่นั่น อย่าให้พวกเขารู้ความจริงไปตลอดกาล”

ฟังจือหันรับปากในทันที “ได้”

“ฉันกับพ่อแกสองคน คนหนึ่งดูแลเรื่องเทคโนโลยี คนหนึ่งดูแลเรื่องการขาย ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ร่วมกันทำงานไม่มีติดขัด จนกระทั่งไม่กี่ปีก่อน…”

ช่วงนี้ผลประกอบการของเจียงซื่อคอร์ปอเรชั่นค่อนข้างลดลง เพราะว่าพวกเขาไม่มียาเป็นของตัวเอง เพราะเหตุนี้สองพี่น้องจึงปรึกษาวิจัยและพัฒนายาต้านมะเร็ง

จากความพยายามหลายปี ในที่สุดปีที่แล้วก็เกิดความสำเร็จครั้งใหม่

แต่ว่าขณะเดียวกันธุรกิจที่เจียงซื่อเซิ่งร่วมมือกับคู่ค้าก็ล้มละลาย เจียงซื่อคอร์ปอเรชั่นสั่นคลอน ไม่มีเงินทุนสำหรับหมุนเวียนเลยสักนิด

หลังจากได้รับตำรับยาของเจียงป๋อซื่อ เจียงซื่อเซิ่งกำลังคิดว่าจะลดต้นทุนการผลิตได้ไหม พอเป็นเช่นนี้จะได้กำไรมหาศารตามมา

ด้วยเหตุนี้เขาจึงใช้ยาส่วนหนึ่งนำของต่ำกว่ามาตรฐานมาเสริมของดี คิดว่าถึงอย่างไรประสิทธิภาพยาก็ไม่ต่างกันมากจริงๆ

ผลที่ออกมานั้นแสดงประสิทธิภาพจากการทดลองยามีส่วนลดลงมาก นำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ป่วยครึ่งหนึ่งที่ใช้ยานี้

แม้จะเซ็นสัญญาเป็นตายแล้ว แค่จ่ายเงินชดเชยก็จบเรื่องได้ แต่ว่าเรื่องนี้สำหรับเจียงป๋อซื่อยังคงได้รับการกระทบกระเทือนกับจิตใจอย่างแรง ดังนั้นจึงจะหยุดทั้งโครงการนี้ไว้ชั่วคราว!!

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing
“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset