การต่อสู้ดุเดือดตั้งแต่แรกเริ่ม
พื้นที่ทั่วทั้งทะเลถูกแช่แข็ง ตั้งแต่ผิวทะเลจนถึงก้นทะเลในระดับความลึกมากกว่าหนึ่งล้านเมตร น้ำทะเลทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็ง
หลังจากนั้นไม่นาน ทะเลแตกสลายทันทีราวกับแผ่นดินไหว
สัตว์ประหลาดทะเลอาศัยอยู่ในทะเลมาหลายร้อยล้านปี ไม่เคยเห็นทะเลกลายเป็นรูปลักษณ์ที่โหดร้ายแบบนี้มาก่อน
สัตว์ประหลาดทะเลที่อ่อนแอกว่าจำนวนมากถูกฉีกขาดโดยพลังอันแก่กล้าจากทะเลมารโกลาหลในทันทีจนถึงแก่ความตาย
สัตว์ประหลาดทะเลทรงพลังเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
มันเป็นเช่นนั้นแหละ
ใครจะไปคิดล่ะว่าจู่ๆ ผู้นำที่รับผิดชอบในการบัญชาเพื่อให้เก็บตัวอย่างของพวกมารจะถึงแก่ความตาย
แถมยังตายด้วยมือของเขา
เหตุการณ์นี้ถือว่านาน แต่ความจริงแล้วพวกมันเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน แถมยังจบลงก่อนที่จำได้ทำการฟื้นฟูใดๆ
สัตว์ประหลาดทะเลมีเวลาตอบสนองเพียงน้อยนิดเท่านั้น
พูดให้ถูกคือพวกมันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดเพราะตอนแรกพวกมันเพิ่งเก็บเกี่ยวชีวิตของพวกมารทุกตนอย่างมีความสุข
ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีเทพซ่อนอยู่ในหมู่มาร!
กู่ฉิงซานไม่ได้ตั้งใจจะหยุด
เขาและสัตว์ประหลาดทะเลเคราเนื้อสลับตำแหน่งกัน กลายเป็นสัตว์ประหลาดทะเลนับไม่ถ้วนเล่นงานผิดเป้าหมาย
ร่างของเขาเล็กเท่าผงธุลี
ทว่า แม้จะเล็กเท่าผงธุลี แต่ก็ทำให้ถึงตายได้
พายุดาบทะยาน!
ด้วยวิญญาณเยือกแข็งที่ระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด ค่ายกลดาบวิญญาณอสนีบาตไท่อี่ที่ปล่อยออกมา ไม่มีทางรู้ได้ว่าพลังเพิ่มขึ้นเท่าไหร่
สัตว์ประหลาดทะเลเคราเนื้ออายุสองล้านปีมู่ฃยืนอยู่ตรงนั้นก่อนถูกพัดโดยพายุดาบจนกลายเป็นพายุฝนโลหิต
ในที่สุดสัตว์ประหลาดทะเลตัวอื่นก็ตอบสนอง
ถึงอย่างไร พวกมันคือสัตว์ประหลาดทะเลทรงพลังที่คงอยู่มาหลายร้อยล้านปี ถึงแม้จะไม่ทันระวัง แต่ในที่สุดพวกมันระเบิดพละกำลังอันน่าหวาดกลัวออกมาเมื่อเผชิญกับหายนะความเป็นความตาย
สัตว์ประหลาดทะเลห้าตัวปล่อยวิชาใส่กู่ฉิงซานพร้อมกัน
วิชาวิเศษของพวกมันไม่สูงส่งนักและไม่ยอดเยี่ยมอะไร แต่พลังทำลายล้างนั้นสุดที่จะเทียบเคียงได้!
กลุ่มน้ำทะเลรวมตัวเป็นลำแสงหลากสีสันก่อนพุ่งตรงเข้าหากู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานและสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งสลับตำแหน่งกัน
แต่สัตว์ประหลาดทะเลมีอยู่มากเกินไป
ถึงตัวตนโบราณเหล่านี้จะลงมือช้า แต่ก็รู้ถึงผลจากกลอุบายของกู่ฉิงซานในที่สุด
ทันทีที่กู่ฉิงซานปรากฏตัว สัตว์ประหลาดทะเลตัวอื่นก็เตรียมเปิดฉากโจมตีทันที
ตูม!
วิชาวิเศษอันยอดเยี่ยมระเบิดออกมาก่อนพุ่งเข้าหากู่ฉิงซาน
“อั่ก!”
กู่ฉิงซานกระอักฟองโลหิตออกมาก่อนพึมพำว่า “การตอบสนองไวจริงๆ ”
เกราะศึกบนร่างกายต้านทานการโจมตีส่วนใหญ่ได้ แต่มันยังแตกสลายเป็นชิ้นๆ
ในวินาทีต่อมา เกราะศึกหมอกดำทั้งชุดซ่อมแซมตัวเองจนกลับมาเจิดจ้าด้วยพลังที่มองไม่เห็น ท้ายที่สุดก็กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง
นี่คือเกราะศึกจอมมาร ตราบที่ยอมจ่ายพลังวิญญาณจำนวนมาก ความสามารถการซ่อมแซมของมันก็จะทำงาน
กู่ฉิงซานไม่มีอะไรนอกจากพลังวิญญาณ!
สัตว์ประหลาดทะเลอยากชนะจึงไล่ล่า แต่โชคดีที่พายุดาบทั้งหมดในค่ายกลดาบรวมตัวกันจนปัดป้องการโจมตีระลอกแรกที่เข้ามาได้
กู่ฉิงซานมีเวลาเพียงแค่ทำให้ร่างกายมั่นคงเท่านั้น การโจมตีระลอกที่สองก็เข้ามา
กฎเกณฑ์เต๋าจำนวนมากระเบิดใส่เขา
มีสัตว์ประหลาดทะเลอยู่มากเกินไป พวกที่สามารถรอดจนถึงตอนนี้ได้มีพละกำลังอย่างต่ำอยู่ที่ระดับสามพันโลกขั้นสูงสุด บางตัวถึงขั้นไปถึงระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้น
ต่อให้กู่ฉิงซานกลายเป็นราชาเทพ เขาก็ไม่สามารถขัดขืนการโจมตีสุดกำลังของศัตรูหลายสิบตัวได้
ขณะหลบ เขาหาโอกาสโต้กลับ บางครั้งก็ฝืนสังหารศัตรูด้วยวิชา
เกราะศึกหมอกดำปกคลุมอย่างแน่นหนาขณะต้านทานการโจมตีจำนวนมากแทนเขา
เมื่อถึงเวลาหนึ่ง กู่ฉิงซานพลันสังเกตเห็นว่าบางสิ่งผิดปกติ
เทียบกับตอนแรก ความรุนแรงจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดทะเลลดลง
กู่ฉิงซานผ่อนคลายลงมาก แต่ร่องรอยความสงสัยยังเกาะกุมในใจ
เดิมทีแล้วในการต่อสู้อันสิ้นหวังนี้ การโจมตีมีแต่จะรุนแรงขึ้น เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างอื่น
สัตว์ประหลาดทะเลกำลังจะทำอะไร
กู่ฉิงซานชำเลืองมองรอบข้าง
มีสัตว์ประหลาดทะเลหลายสิบตัวกำลังไล่ตามเพื่อมาสู้กับเขา
แต่
พวกมันคล้ายกับกำลังขวางทางกู่ฉิงซาน
เมื่อกู่ฉิงซานขยับจิต เขาเห็นฉากที่อยู่ไกลลิบของทะเลทันที
สัตว์ประหลาดทะเลเจ็ดถึงแปดตัวรวมตัวขณะร่ายวิชาพร้อมกัน
ในมือพวกมัน อสนีหมองหม่นวูบไหวเป็นครั้งคราว
สัตว์ประหลาดทะเลที่ทรงพลังยิ่งสองตัวขัดขวางการกัดกร่อนของพายุดาบ
ยิ่งสัตว์ประหลาดทะเลร่ายวิชาเท่าไหร่ ความเร็วก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!
ความรู้สึกถึงลางร้ายเอ่อล้นในใจของกู่ฉิงซาน
นั่นไง
สัตว์ประหลาดทะเลอายุแปดร้อยล้านปีรวมตัวกัน พวกมันรวมพลังกันมาพักใหญ่
นี่จะต้องเป็นการโจมตีประสานที่ทรงพลังถึงตายแน่!
ทว่า ถึงแม้กู่ฉิงซานจะพบสิ่งนี้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
สัตว์ประหลาดทะเลกลุ่มใหญ่พุ่งเข้ามาขวางทางเขาอย่างบ้าคลั่ง
อีกฝั่งของทะเล สัตว์ประหลาดทะเลจำนวนมากเริ่มคุ้มกันอย่างแน่นหนาเพื่อให้สหายแปดตัวทำการร่ายวิชา
พวกมันระแวดระวังวิชาเคลื่อนย้ายของกู่ฉิงซาน
ครั้งนี้สายเกินไปแล้ว!
“เหวยจุน!”
กู่ฉิงซานตะโกน
“ฟิ่วๆ !”
(เข้าใจแล้ว!)
จี้น้ำเต้าหยกปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนหันปากน้ำเต้าไปที่มือของสัตว์ประหลาดทะเลเหล่านั้น
“ฟิ่วๆ ฟิ่วๆ!”
(ท่านเก่งเรื่องการใช้กลอุบาย ถ้างั้นข้าจะใช้บ้าง)
เมื่อวิชาของอีกฝ่ายเสร็จสิ้น จี้น้ำเต้าหยกก็ส่งเสียงร้องออกมา
กู่ฉิงซานพลันรู้สึกถึงพลังวิเศษบางอย่างในร่างกาย
ดูท่าเขาจะสามารถปล่อยวิชานี้ได้ทุกเมื่อ
เขาไม่ลังเลที่จะปล่อยวิชานี้ใส่กลุ่มสัตว์ประหลาดทะเล
ในความว่างเปล่า เขาเห็นประกายของอสนีสีเทา
ไม่ว่าจะสัตว์ประหลาดทะเลหรือกู่ฉิงซาน เมื่อเผชิญหน้ากับความเร็วการโจมตีเช่นนี้ มันก็สายเกินกว่าจะขัดขืน
สัตว์ประหลาดทะเลเหล่านั้นถูกอสนีสีเทาโจมตีอย่างรุนแรง
ตาข่ายเรืองแสงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากอากาศบางก่อนพันธนาการสัตว์ประหลาดทะเลเหล่านี้เอาไว้อย่างแน่นหนา
พวกมันถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ
อะไรกัน
นี่มันวิชาอัญเชิญที่พวกเราอยากปล่อยออกไปไม่ใช่หรือ
ได้ยังไง
เมื่อคิดถึงผลที่ตามมาของวิชานี้ สัตว์ประหลาดทะเลก็ดิ้นรนด้วยความแตกตื่น
แต่มันไม่มีประโยชน์ ตาข่ายอสนีสีเทาขนาดยักษ์มัดแน่นอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของกู่ฉิงซานขยับ
เขาเห็นหนามยาวคมกริบเจ็ดถึงแปดอันปรากฏขึ้นจากอากาศบางขณะแทงใส่ร่างของสัตว์ประหลาดทะเลเหล่านี้
แค่การแทงเบาๆ เท่านั้น
แต่สัตว์ประหลาดทะเลเหล่านี้ตัวอ่อนทันที
ถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทาปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
บรรยากาศน่าขนลุกมาจากถ้ำอสนี
พวกมาร สัตว์ประหลาดทะเลบนเรือยักษ์และแม้กระทั่งกู่ฉิงซานผู้กลายเป็นเทพแห่งความเย็นยะเยือกล้วนขยับไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าบรรยากาศน่าสะพรึงกลัวนี้
เทพแห่งความเย็นยะเยือกกัดปลายลิ้นอย่างแรง
ภายใต้การกระตุ้นจากความเจ็บปวด เขากลับมามีความสามารถเคลื่อนไหวช้าๆ
กู่ฉิงซานมองถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทา หัวใจเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาเข้าสู่สภาพระแวดระวังอย่างขีดสุด
นี่คือการตอบสนองตามสัญชาตญาณของร่างกายและจิตใจของทุกชีวิตเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ล่าระดับสูง ถึงจะสามารถหาทางขัดขืนได้ แต่ก็ไม่สามารถตัดขาดได้อย่างสมบูรณ์
เทพนิรันดร์ที่แท้จริง วิญญาณกรีดร้องหรือ
กู่ฉิงซานลอบครุ่นคิด
ไม่
ไม่ใช่หรอก
แต่ถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทาเต็มไปด้วยกลิ่นอายนั่นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าวิญญาณกรีดร้องเลย
ภายใต้สายตาทุกคู่ สัตว์ประหลาดทะเลที่กำลังหมดสติถูกลากเข้าไปในหลุมใหญ่โดยตาข่ายอสนีสีเทาขนาดยักษ์
ร่างกายของพวกมันทั้งใหญ่และยาวเกินไป ดังนั้นจึงมีหนามสองอันและแขนขาหลากสีสันสดใสปรากฏขึ้นในหลุมใหญ่จากความว่างเปล่าขณะดึงตาข่ายยักษ์กลับเข้าไป
กู่ฉิงซานมองปากนั่น
นี่ไม่ใช่วิญญาณกรีดร้อง
ไม่ใช่มังกรหลับใหลในตำนาน
แต่พลังที่แผ่ออกมาจากสัตว์ประหลาดตัวนี้น่ากลัวเกินไป
มันไม่ได้ด้อยไปกว่าวิญญาณกรีดร้องแม้แต่นิดเดียว!
คาดไม่ถึง สัตว์ประหลาดทะเลจะสามารถอัญเชิญตัวตนที่ทรงพลังขนาดนี้ได้
แต่สัตว์ประหลาดตัวนี้จัดอยู่ในประเภทไหนกัน
แทบจะในทันที สัตว์ประหลาดทะเลเจ็ดถึงแปดตัวที่รอดมาหลายร้อยล้านปีถูกลากเข้าไปในหลุมสีเทาขนาดใหญ่
ทันใดนั้น มือสีดำขนาดยักษ์ยื่นออกมาจากถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทาก่อนคว้าตาข่ายยักษ์ไว้
มือนี้ขาดไปหนึ่งนิ้ว แต่มันไม่ได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวเลย
ดวงตาของกู่ฉิงซานเบิกกว้าง
มือนี้!
กู่ฉิงซานจำนิ้วที่เขาเคยเห็นใต้โบสถ์หลอมละลายได้ทันที
นิ้วถูกขังโดยโซ่เหล็กหลายร้อยเส้น ทำให้ขยับไม่ได้
นิ้วนั่นเหมือนกับนิ้วอื่นๆ ที่อยู่บนมือสีดำขนาดยักษ์
คาดไม่ถึงว่านิ้วที่ถูกพันธนาการไว้โดยโบสถ์จะมาจากสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักตัวนี้!
ตาข่ายยักษ์ที่จับเหยื่อเอาไว้ถูกมือสีดำขนาดยักษ์ลากเข้าถ้ำสีเทาโดยตรง
ถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทาหายไปกลางอากาศ
อสนีค่อยๆ หมองหม่น หลังจากกระโจนอยู่ในความว่างเปล่าหลายครั้ง มันก็หายไปอย่างสมบูรณ์
บนทะเล มีเพียงความเงียบสนิท
ทันใดนั้น สัตว์ประหลาดทะเลกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวขณะหนีไปทุกทิศทาง
พวกมันไม่สู้อีกแล้ว!
ใช่แล้ว นี่คือสุดยอดวิชาอัญเชิญ อีกฝ่ายใช้มันเพื่อตอบโต้เขา ไม่มีทางที่จะอยู่รอดได้
กู่ฉิงซานไม่ไล่ตามเช่นกัน
ฉากเมื่อครู่มันน่าตกตะลึงเกินไป
ถ้าไม่ใช่เพราะสัมผัสได้ถึงลางร้ายบางอย่าง
ถ้าการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดทะเลไม่ถูกพบจนทันเวลา
ถ้าจี้น้ำเต้าหยกไม่ทรงพลัง
เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะสามารถรอดจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดนั่นได้อย่างไร