นี่เป็นความลับที่นายใหญ่ของตระกูลตี้อู่แต่ละรุ่นเท่านั้นถึงจะรู้
บอกต่อกันมารุ่นต่อรุ่น
ตี้อู่ฝานรู้ดีว่า ไม่ว่าเขาจะเดินบนเส้นทางนักพยากรณ์มาไกลขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถช่วยใครเปลี่ยนดวงชะตาได้ ไม่เพียงแค่เขา คนรุ่นหลังของตระกูลตี้อู่และตระกูลนักพยากรณ์อื่นๆ ก็ไม่มีทางทำได้ถึงขั้นนั้นเช่นกัน ไม่ว่าจะขุดคุ้ยความลับสวรรค์มากแค่ไหน ทำนายอนาคตนั่นก็ถือเป็นการฝืนลิขิตสวรรค์ทั้งนั้น
ตี้อู่ฝานเป็นนักพยากรณ์ดวงชะตาที่เก่งมาก เขาสามารถพยากรณ์จุดดวงตกของดวงชะตาคนคนหนึ่งได้ แม่นยำถึงขั้นที่บอกได้ว่าวันไหนเวลาไหน
จากนั้นเขาก็จะบอกเจ้าของดวงชะตา เพื่อที่จะได้เลี่ยงเรื่องร้ายๆ
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมตระกูลจอมยุทธ์ถึงให้ความสำคัญกับตระกูลตี้อู่มากเป็นพิเศษ ถึงแม้พวกจอมยุทธ์จะเก่งมากกันอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่มีความสามารถในการคาดการณ์อนาคต
มีนักพยากรณ์เก่งๆ อยู่ข้างกายสักคนก็ช่วยให้เบาใจลงไปมาก
แต่ถ้าเป็นชะตากรรมอยู่แล้ว ก็ไม่อาจเปลี่ยนได้
ตัวอย่างเช่น คนคนหนึ่งมีดวงชะตาถึงฆาตตั้งแต่อายุยังน้อย นี่เป็นเรื่องที่ถูกกำหนดไว้อยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่อุบัติเหตุที่เหนือความคาดหมาย ต่อให้เป็นนักพยากรณ์ที่เก่งกาจเพียงใดก็ไม่อาจเปลี่ยนดวงชะตาได้
เว้นเสียแต่ว่า
ตี้อู่ฝานก็สังเกตเห็นแล้วว่าช่วงนี้ตี้อู่เย่ว์ดูผิดปกติไป เขาถึงได้ไปขอยาจากวงการแพทย์แผนโบราณอยู่เรื่อยๆ
แต่นี่ก็เป็นเพียงสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้
เปลี่ยนดวงชะตาไม่ได้ ต่อให้มียาดีมารักษาก็ไม่มีประโยชน์
แต่ตี้อู่ฝานนึกไม่ถึงว่า หลังจากที่เขากลับมา และสังเกตโหงวเฮ้งบนใบหน้ากับฝ่ามือของตี้อู่เย่ว์ เขาก็พบว่าดวงชะตาของหลานสาวเปลี่ยนไป
เดิมทีตี้อู่เย่ว์จะมีชีวิตอยู่ไม่พ้นเดือนนี้ นี่เป็นชะตากรรมของเธอ
แต่เมื่อดวงชะตาของเธอเปลี่ยนไป อายุขัยของเธอก็ยาวนานขึ้น
ตี้อู่ฝานมองอายุขัยของตี้อู่เย่ว์ออกจากการสังเกตฝ่ามือ
ไม่ใช่ว่าจะอายุยืนยาวนาน แต่ก็ไม่ต่างจากคนปกติแล้ว
นี่เป็นเรื่องที่โดยพื้นฐานเป็นไปไม่ได้สำหรับคนในตระกูลสายเขา
เขามีชีวิตอยู่มาได้จนถึงตอนนี้ แลกกับอะไรตั้งมากมายแต่ก็ใกล้จะไม่ไหวแล้วเช่นกัน
ตี้อู่ฝานพอจะจินตนาการได้ว่า หากเขาล้มลง ตระกูลตี้อู่จะต้องโกลาหลครั้งใหญ่แน่นอน
นับตั้งแต่ตี้อู่เซ่าเสียนเป็นนายใหญ่ของตระกูลตี้อู่ ตั้งแต่นั้นมาคนที่ขึ้นเป็นนายใหญ่ก็เป็นคนจากสายของพวกเขาทั้งนั้น
สายอื่นไม่เคยมีโอกาส หลายปีมานี้ก็สะสมความคับแค้นใจไว้มากพอตัว
ตี้อู่ฮุยเป็นเพียงหนึ่งในนั้น
ลูกชายของตี้อู่ฝานจากโลกนี้ไปเร็ว เขามีหลานอยู่สี่คน ดังนั้นเขาอยู่ได้นานเท่าไหนก็เท่านั้น
สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก เห็นได้ชัดว่าเธอนึกไม่ถึงว่าตี้อู่ฝานอยู่ๆ จะพูดแบบนี้ออกมา
แต่ใบหน้าของเธอไม่ได้แสดงอารมณ์ที่เปลี่ยนไป ยังคงสงบราบเรียบชวนตกใจ เธอครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่มีอาจารย์อะไรอีกแล้ว และตอนนี้ก็ไม่ใช่สมัยศักดินาแล้วด้วย ไม่ต้องคุกเข่าให้ฉันหรอกค่ะ”
“ผมคำนับให้อาจารย์ เพราะอาจารย์ช่วยชีวิตเย่ว์เย่ว์ไว้” ตี้อู่ฝานไม่ลุกขึ้น เขาคำนับอีกครั้งอย่างทุลักทุเล
“ท่านอาจารย์ช่วยเปลี่ยนดวงชะตาให้เย่ว์เย่ว์ บุญคุณใหญ่หลวงแบบนี้ ต่อให้ผมยกชีวิตให้ก็ยังไม่อาจตอบแทนได้”
ตี้อู่เย่ว์เป็นหลานสาวของเขา ปกติร่าเริงแจ่มใส สมองก็ฉลาดมาก แต่ชะตาไม่ดี ทั้งยังอายุสั้น
อิ๋งจื่อจินไม่ขานรับ เธอเงียบไปชั่วครู่แล้วถาม “ตี้อู่เซ่าเสียนทิ้งอะไรไว้ให้พวกคุณบ้าง”
เธอช่วยตี้อู่เย่ว์เปลี่ยนดวงชะตา ใช่ว่าจะไม่ต้องแลกกับอะไร
การเปลี่ยนดวงชะตาไม่ใช่เรื่องเล็ก อย่างไรเสียมันคือการต่อกรกับสวรรค์
เลือดในอกที่เธอกระอักออกมาตอนนั้น นั่นคือการบาดเจ็บถึงแก่นแท้ของร่างกาย
ไม่เพียงเท่านี้ ญาณพยากรณ์ของเธอจะถูกผนึกไว้ถึงครึ่งปี
แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่เธอคาดเดาไว้ก่อนแล้ว
อย่างไรเสียครั้งก่อนขนาดแค่ช่วยซังเย่าจือให้รอดจากดวงตก ญาณพยากรณ์ของเธอก็ยังถูกผนึกไปถึงสิบห้าวัน
แต่นี่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการดูโหงวเฮ้งที่ใบหน้า ฝ่ามือ และตำแหน่งดวงดาว การทำนายขั้นพื้นฐานพวกนี้ไม่มีทางหายไปเพราะญาณพยากรณ์ถูกผนึก
“บรรพบุรุษบอกไว้ว่า ท่านอาจารย์ไม่ใช่คนธรรมดา สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน ไปมาไร้ร่องรอย” ตี้อู่ฝานเช็ดน้ำตาที่หางตา “แค่กำชับพวกเราไว้ว่า หากพบใครที่เปลี่ยนดวงชะตาได้ คนผู้นั้นก็คือท่านอาจารย์อย่างไม่ต้องสงสัย”
อิ๋งจื่อจินเงียบไปอีกครั้ง พูดเสียงเบา “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”
ตอนเธอไปจากโลกนี้ ตี้อู่เซ่าเสียนยังหนุ่ม แต่ก็ได้เป็นนายใหญ่ของตระกูลตี้อู่แล้ว
ส่วนตี้อู่เซ่าชิงบรรพบุรุษทางสายของตี้อู่ฮุย ตอนนั้นก็ช่วงชิงตำแหน่งนายใหญ่กับตี้อู่เซ่าเสียน
ตี้อู่เซ่าเสียนเป็นคนเล่าให้เธอฟังเรื่องที่ตี้อู่เซ่าชิงอยากให้เขาไปรับเคราะห์แทน เพียงแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายตี้อู่เซ่าชิงถูกประหารเพราะทำผิดกฎราชสำนัก
“ถือว่าฉันติดค้างบรรพบุรุษของพวกคุณ” อิ๋งจื่อจินมองไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ดวงดาวบนท้องฟ้าสว่างพร่างพราว “เดิมทีต่อให้มีห้าด้อยสามขาด พวกคุณก็ไม่มีทางอายุสั้นขนาดนี้”
ตี้อู่ฝานไม่รู้เรื่องเมื่อสามร้อยปีก่อน เขายังคงพูดอย่างนอบน้อม “บรรพบุรุษบอกว่า การได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ ถือเป็นเกียรติของเขา เขาไม่เสียใจ หากไม่มีท่านอาจารย์ก็คงไม่มีตระกูลตี้อู่ในตอนนี้”
คำพูดนี้เป็นเรื่องจริง
ในบรรดาตระกูลนักพยากรณ์ มีเพียงตระกูลตี้อู่ที่อยู่รอดกันมาจนถึงทุกวันนี้ เกี่ยวข้องกับอิ๋งจื่อจินมากทีเดียว
อิ๋งจื่อจินไอแล้วตอบ “ท่านลุกขึ้นมาก่อน ตอนนี้ฉันไม่มีแรงช่วยพยุงไม่ได้”
เธอมองออกว่า ตี้อู่ฝานในตอนนี้สภาพร่างกายถดถอยลงไปมากแล้ว
เมื่อชีวิตดำเนินมาถึงช่วงอายุเท่าตี้อู่ฝาน อายุขัยใกล้หมดเต็มที เปลี่ยนแปลงโชคชะตาไม่ได้แล้ว
“ตื่นเต้นเหลือเกิน ผมตื่นเต้นมากเกินไป” ตี้อู่ฝานใช้ไม้เท้าค่อยๆ ประคองตัวลุกขึ้น พูดด้วยเสียงสั่นเครือ “นึกไม่ถึงว่าผมจะได้มีโอกาสเจอท่านอาจารย์ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่”
ขณะพูดเขาก็หยิบกล่องจากกระเป๋าเสื้อด้วยมืออันสั่นเทา “ท่านอาจารย์ นี่เป็นโสมหลิงเป่าที่ผมซื้อกลับมาจากวงการแพทย์แผนโบราณ ท่านอาจารย์ช่วยเปลี่ยนดวงชะตาให้เย่ว์เย่ว์ ร่างกายจะต้องเสียหายถึงแก่นแท้แน่นอนโสมหลิงเป่าจะช่วยฟื้นฟูได้”
อิ๋งจื่อจินไม่ปฏิเสธ เธอรับมา
คนที่ร่างกายเสียหายถึงแก่นแท้ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว
ตระกูลตี้อู่ซื้อโสมหลิงเป่ากลับมาจากวงการแพทย์แผนโบราณได้จะต้องใช้เงินไปไม่น้อยแน่นอน ในที่สุดตี้อู่ฝานก็สงบสติอารมณ์ได้ เขาคารวะอีกครั้งแล้วพูดอย่างจริงจัง
“ในเมื่อท่านอาจารย์กลับมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นนับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลตี้อู่ขอนับถือท่านอาจารย์ จะเชื่อฟังคำสั่งของท่านอาจารย์ทุกอย่าง”
พอได้ยินแบบนี้อิ๋งจื่อจินก็หันกลับมา “อันที่จริงฉันไม่ใช่อาจารย์ของพวกคุณ”
ตี้อู่ฝานอึ้ง
“ฉันเป็นแค่หมอดูกำมะลอ” อิ๋งจื่อจินหาวออกมา ชี้ไปที่ประตู “ตอนนี้หมอดูกำมะลออยากนอนแล้ว”
“…”
…
ตี้อู่ฝานเดินออกไปอย่างงงๆ
ฟู่อวิ๋นเซินยังคงรออยู่ด้านนอก พอเห็นเขาออกมาก็อดถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“ท่านคุยอะไรกับคุณอิ๋ง”
“บอกขอบคุณ” ตี้อู่ฝานย่อมไม่มีทางพูดความลับนี้ออกมา “ไม่ทราบว่าตอนนี้ตี้อู่ฮุยอยู่ที่ไหน”
ตอนเขาคุยโทรศัพท์ปลายสายไม่ได้บอกรายละเอียด แค่บอกให้เขารีบกลับมา
“อยู่ทางนี้ครับ” พอพูดถึงชื่อนี้ ฟู่อวิ๋นเซินก็มีสีหน้าเย็นชาลง “ในเมื่อนายใหญ่ตระกูลตี้อู่กลับมาแล้ว งั้นก็ลงโทษเอาเองแล้วกันครับ”
“ครับๆ” ตี้อู่ฝานถือไม้เท้าเดินไป “รบกวนแล้ว”
ภายในห้องด้านซ้าย ตี้อู่ฮุยยังคงนอนอยู่บนพื้น ร่างกายกระตุกอยู่เรื่อยๆ
ไหมทองที่ถูกร้อยเข้าร่างกายของเขาได้ผสานเข้ากับร่างกายแล้ว แต่ความเจ็บปวดกลับไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
ฟู่อวิ๋นเซินนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ด้านข้าง สีหน้าเรียบเฉย
ตี้อู่ฝานเดินเข้ามา พอเห็นสภาพของตี้อู่ฮุยก็แอบตกใจ
วิธีการแบบนี้โหดเหี้ยมขั้นสุด
แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ตี้อู่ฮุยควรได้รับ ตี้อู่ฝานยังรู้สึกว่าไม่พอด้วยซ้ำ
เมื่อครู่ฟู่อวิ๋นเซินเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังแล้ว
ตี้อู่ฝานโมโหมาก
ตี้อู่ฮุยคิดจะเอาอาจารย์ของพวกเขามารับเคราะห์แทนเลยเหรอ ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อมีความคิดแบบนี้แถมยังลงมือแล้ว ก็เป็นการกำหนดแล้วว่าตี้อู่ฮุยไม่มีทางจบสวย
ตี้อู่ฮุยได้ยินเสียงไม้เท้า พยายามฝืนเจ็บเงยหน้าขึ้น กัดฟันพูด
“นายใหญ่ ดูคนนอกพวกนี้มาทำป่าเถื่อนในบ้านตระกูลตี้อู่ของพวกเราสิ!”
ในโลกภายนอก เขาถือเป็นปรมาจารย์ด้านศาสตร์พยากรณ์ พวกจอมยุทธ์ของตระกูลหลินให้ความเคารพนับถือเขามาก หลายปีมานี้เขาไม่เคยโดยหยามเกียรติอย่างรุนแรงแบบนี้มาก่อน
“สารเลว!” ตี้อู่ฝานโมโหจนตัวสั่น “นายคิดจะเอาคนอื่นมารับเคราะห์ ทำผิดกฎของบ้าน ยังจะมีหน้าพูดแบบนี้อีกเหรอ”
“แล้วไงล่ะ” ตี้อู่ฮุยหายใจแรง
“ไม่ใช่คนของตระกูลตี้อู่เสียหน่อย ผมเอามารับเคราะห์มันจะเป็นอะไรไป”
“ไม่อย่างไร” ตี้อู่ฝานสูดลมหายใจเข้าลึก “นายทำเรื่องแบบนี้ให้อภัยไม่ได้ ในฐานะที่ฉันเป็นนายใหญ่ตระกูลตี้อู่ ฉันขอตัดแกออกจากตระกูล พร้อมทั้งทำลายพลังความสามารถของนายด้วย”
ตระกูลตี้อู่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น นายใหญ่สามารถทำลายพลังพยากรณ์ของสมาชิกคนอื่นได้
เมื่อเป็นแบบนี้ ตี้อู่ฮุยก็จะไม่แตกต่างจากคนทั่วไปแล้ว
ฟู่อวิ๋นเซินยังเก็บเขาไว้จนถึงตอนนี้ก็เพราะสาเหตุนี้
ทำลายพลังพยากรณ์ของตี้อู่ฮุย โหดเหี้ยมยิ่งกว่าฆ่าเขาทิ้ง
“ทำไมต้องทำแบบนี้กับผมด้วย” พอได้ยินแบบนี้สีหน้าของตี้อู่ฮุยก็แย่ลงทันที
“ผมเป็นถึงแขกคนสำคัญของตระกูลหลิน เป็นนักพยากรณ์ที่พวกเขาเรียกใช้ ตี้อู่ฝาน ถ้าคุณอยากทำลายผมก็ต้องถามความยินยอมจากตระกูลหลินก่อน!”
เขาไม่เคยเห็นผู้ชายร้ายกาจคนนั้นในวงการจอมยุทธ์มาก่อน และก็ไม่เคยได้ยินชื่อ
เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครในตี้ตูกล้ามีเรื่องกับตระกูลหลิน
“นี่เป็นเรื่องของตระกูลตี้อู่!” ตี้อู่ฝานไออย่างรุนแรง “ตระกูลตี้อู่ไม่ใช่ข้ารับใช้ตระกูลหลิน ตระกูลหลินเข้ามายุ่งไม่ได้”
พอได้ยินแบบนั้นตี้อู่ฮุยก็แสยะยิ้ม “ตี้อู่ฝาน ตื่นเถอะ ถ้าไม่มีการคุ้มกันจากพวกตระกูลจอมยุทธ์ ตระกูลตี้อู่จะอยู่ยืนยาวต่อไปได้อย่างไร”
“ตอนนี้ไม่ใช่สมัยยุคฮ่องเต้แล้ว ตระกูลตี้อู่ก็เสื่อมโทรมนานแล้ว เชื่อไหมล่ะว่าถ้าทำลายผมไป ตระกูลหลินก็จะเรียกจอมยุทธ์ที่คุ้มกันตระกูลตี้อู่กลับทันที พอถึงตอนนั้นตระกูลตี้อู่ก็รอวันล่มสลายได้เลย!”
“เอาเบอร์ให้เขา” ฟู่อวิ๋นเซินนั่งพิงเก้าอี้ อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้น “ให้เขาโทรหาหลินจิ่นอวิ๋น”
หลินจิ่นอวิ๋นเป็นนายใหญ่ของตระกูลหลิน