ตอนที่ 411 หนีเอาตัวรอดค่อนข้างสะดวกกว่า
“ได้ยินว่าตอนนั้นมีแรงกดดันจากคำวิจารณ์จำนวนมหาศาล ผู้กำกับเจียง คุณกลับยืนกรานไม่ยอมตัดฉากของหลินเยียนออกไป ดังนั้นถึงทำให้พวกเราได้ดูหนังที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ คิดว่าแฟนหนังสือกับเหล่าแฟนหนังจำนวนมากต้องขอบคุณผู้กำกับเจียงเป็นอย่างมากแน่นอน อันที่จริงก็รวมผมด้วยครับ ก่อนหน้านี้ผมมีความเห็นไม่ค่อยดีต่อหนังเรื่องนี้เหมือนกันครับ จนเมื่อได้ไปดูในโรงหนังด้วยตัวเอง…เมื่อวานผมดูไปสามรอบแล้วล่ะครับ…” พิธีกรเอ่ย
จากนั้นสายตาของพิธีกรก็ไปอยู่ที่ร่างหลินเยียน “คุณหลินเยียน ก่อนและหลังหนังเรื่องนี้เข้าฉาย มีคำวิจารณ์แง่ลบเกี่ยวกับตัวคุณจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ต สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณเสียความมั่นใจต่อหนังเรื่องนี้หรือเปล่าครับ?”
เมื่อได้ยินคำถามของพิธีกร หลินเยียนก็หัวเราะแล้วตอบว่า “ไม่มีทางแน่นอนค่ะ เชื่อว่าดาราที่มีชื่อเสียงแย่กว่าฉันในประเทศคงมีไม่มาก ส่วนฉันแย่จนถึงขั้นนี้ แต่หนังเรื่องนี้กลับดังขนาดนี้ขึ้นมาได้ ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์คุณภาพของมันแล้วล่ะค่ะ”
“ฮ่าๆ ดูท่าคุณหลินเยียนยังชอบว่าตัวเองด้วยนะครับ วันนี้พอได้เห็นคุณหลินเยียนตัวจริง ผมพบว่าต่างจากที่ลือกันบนอินเทอร์เน็ตมากเลยทีเดียว” พิธีกรกล่าวระคนหัวเราะ
พิธีกรรู้ดีว่าหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหลินเยียนนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องภาพยนตร์ หลายคำถามเริ่มพุ่งเป้าไปที่ตัวของหลินเยียนเอง
พิธีกร “คุณหลินเยียน ก่อนหน้านี้พวกเราได้รวบรวมคำถามที่เพื่อนชาวเน็ตอยากจะถามคุณจำนวนมาก หนึ่งในคำถามเหล่านั้นก็คือ ช่วงนี้เหมือนคุณจะปลดปล่อยตัวเองมากเป็นพิเศษ สไตล์ของเสื้อผ้าก็ยิ่งตามใจชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ขอถามว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ?”
หลินเยียนหลุบตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตอบกลับไปว่า “คงจนล่ะค่ะ…”
พิธีกร “…”
บรรดาแฟนคลับที่อยู่ในงาน “…”
พิธีกรหัวเราะออกมาทันที เอ่ยปากพูดต่อไปว่า “คุณหลินเยียนช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ แต่ว่าคุณหลินเยียนมีรูปร่างดีอยู่แล้ว สวมชุดลำลองก็สวยมากเช่นกันนะครับ!”
หลินเยียนยิ้มร่าพร้อมเอ่ยว่า “ชุดลำลองดีมากเลยนะคะ ถ้าถูกแอนตี้แฟนตามฆ่าจะหนีเอาตัวรอดค่อนข้างสะดวกกว่าค่ะ”
พิธีกร “…”
เหล่าแฟนคลับ “…”
พิธีกร “ทุกท่านต่างทราบว่าก่อนหน้านี้ เกิดกระแสวิจารณ์เชิงลบจำนวนมากจากข่าวลือเสียหายของ คุณหลินเยียน โดยเฉพาะหลังจากคุณเข้าร่วมกองถ่ายคู่ปรับมหากาฬแล้ว แฟนคลับหลายคนต่างกังวลว่าไอดอลของตัวเองจะเสียหายเพราะคุณ คุณมีความเห็นต่อเรื่องนี้ยังไงเหรอครับ?”
คำถามนี้ถือว่าแรงมาก พิธีกรทำเพื่อกระแสบนเวยปั๋ว ดังนั้นจึงใช้คำที่ตรงไปตรงมามาก ทว่าหลินเยียนกลับหัวเราะอย่างไม่แยแส กวาดสายตามองแฟนคลับทั้งหมดที่นั่งอยู่ จากนั้นก็พูดออกไปว่า “อันที่จริงฉันไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าแฟนคลับพวกนี้จะกังวลอะไร ที่แท้คือไม่มั่นใจไอดอลของตัวเอง? หรือว่าพวกเขาจะตาบอดเลือกฉันเข้ามาอย่างงั้นเหรอคะ?”
พิธีกร “…”
บรรดาแฟนคลับ “…”
เผยหนานซวี่ “…”
เว่ยสวีเฟิง “…”
พิธีกรคนนี้ถือว่าประสบการณ์โชกโชนเหมือนกัน แต่ก็ยังถือเป็นครั้งแรกที่ได้เจอดาราอย่างหลินเยียนทุกครั้งจะต้อนเธอจนจนมุมไม่มีอะไรจะพูด ถึงอย่างนั้นคำตอบของหลินเยียนกลับแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างแยบคายมาก
แถมบรรยากาศในงานก็ถูกคำตอบไม่กี่คำตอบของหลินเยียนทำให้คึกคักขึ้นมา ข้อความวิ่งของเหล่าแฟนคลับมีแต่คำว่า ‘ฮ่าๆๆ ’ เต็มไปหมด
ต่อมาพิธีกรก็เลือกคำถามจากข้อความวิ่งมาคำถามหนึ่งอีกครั้ง จากนั้นก็อ่านออกมาทันที
[คู่หลินเผี่ยนรั่วกับฟังชั่นหยางคู่นี้มันช่างเลิศเหลือเกิน! เพียงแต่น่าเสียดายที่ฉากที่เล่นด้วยกันน้อยเกินไป แถมทั้งสองคนยังไม่เคยแม้แต่จะจับมือกันอีกด้วย! กอดจูบยิ่งไม่มีเลย! หรือว่าหนังจะไม่ได้กำหนดเรทการฉายรึไง? ฉากที่ถูกตัดออกก็ได้นะ! เพื่อนของฉันคนหนึ่งเธอบอกว่าเธออยากดูมาก!]
หลินเยียน “…”
ตอนที่ 412 แฟนฉันก็กำลังดูอยู่เหมือนกัน
หลินเยียน “…”
อะไรนะ เพื่อนของเธอคนหนึ่งอยากจะดูงั้นเหรอ
แฟนฉันก็กำลังดูอยู่เหมือนกันย่ะ!
ฉันยังไม่อยากตาย โอเคไหม…
“ดูท่าทุกท่านจะชอบคู่นี้มากจริงๆ นะครับ! ไม่ทราบทั้งสองท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำถามนี้” พิธีกรมองหลินเยียนกับเว่ยสวีเฟิงที่อยู่ด้านข้างพร้อมเอ่ยถาม
และตอนนี้เองที่เจียงอีหมิงเป็นคนออกมาแก้ไขสถานการณ์ “พวกเขาไม่ได้ตัดฉากไหนออกเลย ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง พวกเราให้เกียรตินักเขียนมาก ถ่ายทำตามต้นฉบับเดิมทั้งหมดครับ”
ไม่นานนักงานโปรโมทภาพยนตร์ก็จบลงอย่างราบรื่น ทีมงานกองถ่ายเรื่องคู่ปรับมหากาฬเพิ่งจะแยกย้ายไปไม่นาน ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องฮือฮาด้วยความตื่นเต้นดังมาจากทางเข้า
“เป็นกองถ่ายของหนังรถแข่งเรื่องนั้น” เว่ยสวีเฟิงที่อยู่ด้านข้างมองดูกลุ่มคนที่ค่อยๆ ย่างก้าวเข้ามาในงาน พูดพึมพำเสียงเบา
เว่ยสวีเฟิงให้ความสนใจการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์เรื่องนี้มาตลอด
เดิมทีเว่ยสวีเฟิงก็คลั่งเรื่องรถแข่งอยู่แล้ว บวกกับภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์จะมีบทของเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาด้วย ดังนั้นเว่ยสวีเฟิงจึงให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ
ปัจจุบันกองถ่ายเลเจนด์ยังไม่เลือกนักแสดงที่จะแสดงเป็นเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา เพียงแต่มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าหลินซูหย่ากับเฉียวเข่อเซวียนจะได้แสดงเป็นเยวา
ถึงแม้เฉียวเข่อเซวียนกับหลินซูหย่าถือเป็นคนที่ใช้ได้ในวงการบันเทิง กระทั่งว่าเขายังเคยคบหาเป็นเพื่อนกับหลินซูหย่าอยู่บ้างด้วยซ้ำ แต่เว่ยสวีเฟิงมักรู้สึกว่าบทของเยวาไม่เหมาะที่จะให้พวกเธอแสดง
ความจริงแล้วเขารู้สึกว่าไม่ว่าจะให้ใครแสดงเป็นเยวาก็ถือเป็นการหมิ่นเกียรติเทพธิดาของเขาทั้งนั้น
“นายรู้จักหนังเรื่องเลเจนด์ด้วย?” ขณะนี้สายตาของหลินเยียนไปอยู่ที่เว่ยสวีเฟิง เธอเอ่ยถามเขาด้วยเสียงอันแผ่วเบา
เมื่อได้ยินหลินเยียนเอ่ยถาม เว่ยสวีเฟิงก็ตอบอย่างอารมณ์ไม่ดี “ไร้สาระ หนังเรื่องนี้มีตัวละครเทพธิดาของฉันอยู่ในเรื่องด้วย ฉันก็ต้องรู้จักสิ”
หลินเยียน “…” เอาเถอะ เธอเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย
“ฉากที่เมืองนอกของหนังเรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนฉากในประเทศกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำ ตอนนี้เหลือแค่ยังหาคนที่จะแสดงเป็นเยวาไม่ได้เท่านั้นเอง!” เว่ยสวีเฟิงพูดพลางจ้องมองหลินเยียน
ช่วงนี้หลินเยียนให้ความสนใจการถ่ายทำภาพยนตร์รถแข่งเรื่องเลเจนด์นี้เหมือนกัน เธอพอรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินการถ่ายทำมาถึงช่วงท้ายแล้ว เหลือแค่ฉากที่เกี่ยวข้องกับเยวาเท่านั้นที่ยังไม่ได้ถ่าย
ไม่รอให้หลินเยียนพูดต่อ ชายวัยกลางคนตัดผมสกินเฮด สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในงานอย่างแช่มช้า
พอเห็นข้างหลังชายหนุ่ม ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นพลันเกิดเสียงฮือฮาขึ้นไม่น้อย
โจวเฉียว นักแข่งรถมืออาชีพ ลูกศิษย์ของลั่งหมั่ง
เนื่องจากกองถ่ายเลเจนด์ติดต่อตัวเยวาไม่ได้ ดังนั้นจึงติดต่อลั่งหมั่งแทน หวังว่าลั่งหมั่งจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการเลือกนักแสดงเป็นเยวาได้ เพียงแต่ลั่งหมั่งต้องเตรียมฝึกซ้อมเพื่อการแข่ง ดังนั้นจึงให้โจวเฉียวซึ่งเป็นลูกศิษย์รับหน้าที่แทน ติดตามกองถ่ายมาประเทศจีน งานหลักก็คือการเลือกนักแสดงที่จะมาแสดงเป็นเยวา
นอกจากโจวเฉียว ยังมีชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทลำลองอีกสองคน เป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เรื่องเลเจนด์
หลินซูหย่าสวมชุดเดรสสั้นสีแชมเปญ ใบหน้าประดับรอยยิ้มสง่าผ่าเผย มีเสน่ห์อย่างยิ่ง
หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างโจวเฉียวอีกคนหนึ่งสวมชุดสูทสีเบจคอวี เสื้อคอปกปีเตอร์แพนงามสง่า ดูสมาร์ทอย่างยิ่ง
เธอต่างจากหลินซูหย่า สไตล์ของเฉียวเข่อเซวียนเหมือนจะมีความสมาร์ทและแฝงความเป็นราชินีผู้แข็งกร้าวเล็กน้อย เมื่ออยู่เวทีเดียวกับหลินซูหย่า ออร่าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเลย
สายตาหลินซูหย่าไปอยู่ที่หลินเยียนซึ่งกำลังถูกฝูงชนห้อมล้อมที่กองถ่ายฝั่งตรงข้าม ประกายดำมืดกระจ่างวูบภายในดวงตา
ก่อนหน้านี้ไม่นานนักหลินเยียนยังเป็นแค่มดปลวกตัวหนึ่งที่เธอจะบดขยี้เมื่อไหร่ก็ได้ ถึงกระนั้นแค่ชั่วข้ามคืนกลับทำให้เธอกลายเป็นปลาเค็มที่พลิกตัว[1]ได้แล้วจริงๆ
[1] ปลาเค็มพลิกตัว คนอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ แต่กลับพลิกชะตาได้อีกครั้ง