บทที่ 1631 คนของตระกูลเนี่ย
สิ้นเสียงถังถัง ทุกคนก็เงียบกริบจนชวนให้บรรยากาศอึดอัด
แม้แต่เนี่ยหลิงหลงที่ละมุนละม่อมกับทุกคนเสมอก็ยังหน้าเปลี่ยนสีไปหลายตลบ
เสิ่นเทียนเฉินที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งร้อง “โอ้ว” เสียงดัง
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ที่แท้เจ้าหนูน้อยนี่ก็เป็นลูกชายของ ‘เนี่ยอู๋โยว’ไป๋เฟิ่งคงจะเป็นแม่บุญธรรมของเขา แต่ที่เธอพูดอย่างงั้นก็คงเพราะต้องการให้เขาตัดใจ ใครจะนึกว่าคนที่มีความชอบพิลึกพิลั่นไม่เหมือนชาวบ้านอย่างเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
เมื่อครู่ตอนอยู่กับไป๋เฟิ่ง เจ้าหนูน้อยคนนี้เหมือนกระต่ายน้อยไร้พิษภัยตัวเล็กๆ แท้ๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นคนละคน นัยน์ตาเต็มไปด้วยแววเด็ดขาดไม่สมวัยซักนิด
จิ๊ๆ สมแล้วที่เป็นหลานชายตระกูลเนี่ย…
จะว่าไปแล้ว‘พ่อของหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลเนี่ยคนนี้เป็นใคร’ยังคงเป็นปริศนาหนึ่งในรัฐอิสระจนถึงตอนนี้…
“ถังถัง!” ผู้นำตระกูลเนี่ยจ้องหลานชายอันเป็นที่รักด้วยสายตาตำหนิเป็นครั้งแรก
นายหญิงตระกูลเนี่ยขมวดคิ้ว “ถังถัง…พูดอย่างนี้กับน้าของหลานไม่ได้นะลูก…”
เนี่ยหลิงหลงทำเหมือนไม่ใส่ใจ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พ่อคะ แม่คะ หนูไม่เป็นไรค่ะ ถังถังยังเด็ก จะไปรู้เรื่องอะไรล่ะคะ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ฉวยโอกาสซ้ำเติม พูดเสียงดังว่า “ถังถัง! ลูกทำเกินไปจริงๆ! ลูกไม่เคารพแม่ ไม่เห็นแม่อยู่ในสายตาก็แล้วไป! แต่น้าหลิงหลงของลูกดูแลลูกมาตลอดหลายปีนี้! ลูกพูดจาอย่างนี้กับเธอได้ยังไง!”
‘เนี่ยอู๋โยว’กล่าวพลางหันมามองเยี่ยหวันหวั่น แล้วก็พูดต่อด้วยคำพูดที่รุนแรงขึ้น “วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับคนนอก ออกไปเที่ยวเล่นกับเขาไม่สนใจว่าคนในครอบครัวจะเป็นห่วงแค่ไหน ลูกเห็นคนนอกดีกว่าคนในครอบครัวอย่างนี้ ยังนับว่าเป็นคนของตระกูลเนี่ยเราอยู่อีกเหรอ!”
ฟังมาถึงประโยคสุดท้าย ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
นายหญิงตระกูลเนี่ยขมวดคิ้ว รู้สึกว่าลูกสาวพูดแรงเกินไป แต่คนหนึ่งก็หลานแท้ๆ คนหนึ่งก็ลูกสาวที่เธอรู้สึกผิดด้วยมาตลอด ไม่ว่าจะหน้ามือหลังมือก็เป็นเนื้อ เธอทำใจดุด่าว่ากล่าวไม่ลงจริงๆ…
ตอนนี้เอง จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็เดินไปหาจี้ซิวหร่าน คว้าเค้กที่ถังถังทำในวันนี้มาจากเขา แล้วเดินตรงไปหา ‘เนี่ยอู๋โยว’
“ธะ…เธอจะทำอะไร…” ‘เนี่ยอู๋โยว’ที่กำลังวางท่าเป็นแม่ดุด่าลูกเสียงดัง พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นเดินเข้ามาใกล้ รังสีอำมหิตอันน่ากลัวนั่นทำให้เธอต้องก้าวถอยโดยจิตใต้สำนึก
เนี่ยอู๋หมิงที่อยู่ด้านหนึ่งยกมือลูบหน้า ในใจอดอุทานไม่ได้ แม่เอ็งเถอะ สองคนนี้ราศีเทียบกันไม่ติดเลย
ผู้หญิงที่ขี้ขลาดอย่างงั้นเป็นน้องสาวเขาจริงๆ น่ะเหรอ?
เถ้าแก่โหย่วหมิงเหมือนเนี่ยอู๋โยวน้องสาวของเขามากกว่าเห็นๆ!
พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นถือกล่องใบหนึ่งแล้วเดินไปทาง ‘เนี่ยอู๋โยว’ผู้นำตระกูลเนี่ยขมวดคิ้วทำหน้าเครียด พ่อบ้านกับพวกบอดี้การ์ดเองก็เข้าสู่โหมดเตรียมป้องกัน
เยี่ยหวันหวั่นเดินมาหยุดยืนตรงหน้า ‘เนี่ยอู๋โยว’แล้วโยนเค้กก้อนนั้นลงข้างเท้า ‘เนี่ยอู๋โยว’
“กรี๊ด” ‘เนี่ยอู๋โยว’โดนครีมกระเด็นใส่ทั้งตัว อดกรีดร้องเสียงแหลมไม่ได้ “ไป๋เฟิ่ง! เธอบ้าไปแล้วเหรอ! รังแกกันเกินไปแล้ว!”
‘เนี่ยอู๋โยว’หันไปมองนายหญิงกับผู้นำตระกูลเนี่ย
ตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นอาวุธร้ายแรงอะไร พวกเขาต่างเตรียมพร้อมที่จะลงมือแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าของที่เยี่ยหวันหวั่นขว้างออกไปจะเป็นแค่เค้กก้อนหนึ่ง พวกเขาอดตะลึงไม่ได้…
เยี่ยหวันหวั่นขว้างเสร็จ ก็พูดกับ ‘เนี่ยอู๋โยว’ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ แล้วกล่าวว่า “ดูซะ”
‘เนี่ยอู๋โยว’กับคนอื่นๆ หันไปมองเค้กที่เยี่ยหวันหวั่นปาลงพื้นโดยจิตใต้สำนึก ไม่เข้าใจว่าเยี่ยหวันหวั่นต้องการจะสื่ออะไร
————————————————————————————-
บทที่ 1632 ของปลอมยังไงก็เป็นของปลอม
เยี่ยหวันหวั่นเดินมาหยุดยืนข้างถังถัง จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบละคำๆ “นี่เป็นเค้กที่ถังถังไปทำที่ร้านเค้กด้วยมือตัวเอง เพราะถังถังรู้ว่าอีกไม่กี่วันก็ถึงวันเกิดของแม่เขาแล้ว ดอกไม้ทุกดอกบนเค้ก ทุกตัวอักษร ถังถังเป็นคนทำเองกับมือทั้งหมด เพราะเขาอยากเซอร์ไพรส์แม่ของเขา
แต่คุณ กลับดุด่าถังถังโดยไม่ถามเหตุผลก่อนซักคำ ถึงขั้นพูดจาทำร้ายจิตใจเขาได้ขนาดนี้! คุณเอาแต่โทษว่าถังถังไม่ยอมสนิทกับคุณ แล้วคุณล่ะ เนี่ยอู๋โยว! ในฐานะแม่ของถังถัง คุณได้ทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุดแล้วหรือยัง?”
ยิ่งเยี่ยหวันหวั่นพูด ‘เนี่ยอู๋โยว’ก็ยิ่งหน้าซีด โดยเฉพาะตอนที่เยี่ยหวันหวั่นเรียกเธอว่า ‘เนี่ยอู๋โยว’ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
เนี่ยหลิงหลงหน้าเปลี่ยนสี หันไปมอง ‘เนี่ยอู๋โยว’ด้วยแววตามืดมน
ไม่ได้เรื่อง!
ของปลอมยังไงก็เป็นของปลอม เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจปูทางให้เธอมากมายขนาดนี้แล้ว สุดท้ายก็ยังโดนเนี่ยอู๋โยวเล่นงานจนได้
ถังถังแหวนหน้ามองคุณแม่ที่ยืนอยู่ข้างตัวเอง นัยน์ตาสุกใสงดงามเหมือนดวงดาวเริ่มแดงเรื่อ…
คุณแม่โกรธแทนเขาขนาดนี้…
คุณแม่ใส่ใจเขามากจริงๆ…
บนเค้กที่ถูกเยี่ยหวันหวั่นปาลงพื้นยังมีตัวหนังสือคำว่า “สุขสันต์วันเกิดครับแม่” ให้เห็นรางๆ
นายหญิงและผู้นำตระกูลเนี่ยเห็นเค้กก้อนนั้นก็รู้ว่าพวกเขาเข้าใจถังถังผิดไป ยิ่งพอเห็นหลานชายสุดที่รักตาแดงก่ำ ก็ปวดใจจนแทบสลาย
สองผู้อาวุโสไม่สนใจสิ่งใดอีก รีบเดินไปหาถังถัง
นายหญิงตระกูลเนี่ยดึงถังถังเข้ามากอด รู้สึกผิดจนไม่รู้จะพูดยังไง “ถังถัง ยายขอโทษๆ ตากับยายไม่ดีเอง! ไม่ควรดุด่าหลานก่อนจะรู้เรื่องราวทั้งหมด!”
“ถังถัง! ตาเองก็ไม่ดีเหมือนกัน! ตาผิดเอง!” ผู้นำตระกูลเนี่ยที่เมื่อกี้ยังมีมาดของผู้นำตระกูล ตอนนี้กลับเหมือนคุณตาทั่วไปคนหนึ่งที่กำลังก้มหัวขอโทษหลานด้วยความร้อนใจ
“ฉัน…ฉันไม่รู้เลย…” ‘เนี่ยอู๋โยว’ที่โดนล้มในหมัดเดียวได้แต่ทำหน้าอึ้ง
ขณะกำลังจะอ้าปากอธิบาย นายหญิงตระกูลเนี่ยกลับหันไปมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจ “อู๋โยว ครั้งนี้ลูกวู่วามเกินไปจริงๆ”
ถ้าใส่ใจมากกว่านี้อีกหน่อย ความสัมพันธ์กับถังถังก็คงไม่เลวร้ายถึงขั้นนี้
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเค้กก้อนนั้นด้วยหางตา “ขอโทษนะ แต่คุณไม่คู่ควรกับเค้กก้อนนี้”
ถ้าเธอบอกความจริงพ่อกับแม่ไปตรงๆ จะเสี่ยงเกินไป
วิธีที่ดีที่สุดก็คือทำให้พวกเขาค่อยๆ รู้สึกได้เอง
พอเห็นปฏิกิริยาของนายหญิงกับผู้นำตระกูลเนี่ย เยี่ยหวันหวั่นก็รู้แล้วว่าเมล็ดพันธ์แห่งความเคลือบแคลงในตัวเนี่ยอู๋โยว ได้ถูกฝังลงไปแล้ว…
และนี่ ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น…
และแล้วเหตุการณ์วุ่นวายจบลงเพียงเท่านั้น
“เรื่องไม่เป็นเรื่องในครอบครัวแท้ๆ ขายหน้าทุกท่านแล้ว” นายหญิงกับผู้นำตระกูลเนี่ยกล่าวทักทายกับพวกจี้ซิวหร่าน จากนั้นก็กล่าวว่า “ซิวหร่าน มีเวลาก็มานั่งเล่นที่บ้านบ้างนะ ถังถังคิดถึงเธอมาก”
จี้ซิวหร่านยิ้มตอบเหมือนทุกครั้ง “แน่นอนครับ”
สองผู้อาวุโสกล่าวขอโทษเยี่ยหวันหวั่นอีกครั้ง จากนั้นก็พาถังถังกลับไป
เยี่ยหวันหวั่นส่งถังถังเสร็จหันกลับมาก็พบว่านายแห่งอาชูร่ากลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วไม่รู้ ส่วนเสิ่นเทียนเฉินก็ถูกผู้ช่วยเรียกตัวไปแล้ว
“โธ่ ผู้ช่วยฉันเร่งฉันอีกแล้ว ฉันต้องไปก่อนล่ะ! คนสวย วันนี้เธอติดค้างน้ำใจฉันนะ!” ก่อนกลับเสิ่นเทียนเฉินยังไม่ลืมทวงบุญคุณเยี่ยหวันหวั่น