หลู่เส่าโหย่วค่อยๆ ปรับลมหายใจ ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็เริ่มใช้จิตใจสัมผัสกับธาตุทั้งห้า ในตอนแรกหลู่เส่าโหย่วสัมผัสได้เพียงแสงสีเหลืองอ่อนๆ ที่อยู่ภายในร่าง แสงสีเหลืองอ่อนนั้นคือธาตุดิน และวิชาฝ่ามือแยกภูผาที่เขาฝึกฝน นั้นก็เป็นวิชาสายธาตุดิน
“ผ่อนคลายเข้าไว้ ค่อยๆ สัมผัสถึงธาตุทั้งห้าที่อยู่ภายในร่างเจ้า เมื่อเจ้าคุ้นเคยกับธาตุทั้งห้าแล้ว ในภายภาคหน้าที่เจ้าเรียนรู้วิชายุทธ์ของธาตุทั้งห้า มันจะทำให้เจ้าบรรลุได้ง่ายขึ้น” ลุงหนานกล่าว
เส่าโหย่วผ่อนคลายร่างกาย สัมผัสถึงทุกอย่างภายในร่างกาย และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ภายในร่างของเขา ก็ได้มีแสงสีเขียวปรากฏขึ้น หลังจากนั้นก็ปรากฏแสงสีขาวกับแสงสีเหลืองเข้ม หลู่เส่าโหย่วมีความสุขมาก พวกมันคือธาตุไม้ ธาตุลม และธาตุดิน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หลู่เส่าโหย่วก็สัมผัสได้ว่าภายในร่างของเขามีแสงสีน้ำเงินปนเขียวกับแสงสีแดงปรากฏขึ้นมา พวกมันคือธาตุน้ำและธาตุไฟ
ไม่นานรอบตัวของเขาก็มีแสงทั้งห้าครอบคลุมอยู่ข้างกาย และท่ามกลางแสงทั้งหมดนั้น แสงสีเหลืองดูจะเข้มข้นที่สุด
เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ลุงหนานก็เผยรอยยิ้มออกมา เป็นทั้งผู้ฝึกยุทธ์สายครอบคลุมและผู้ฝึกตนควบคู่ ในภายภาคหน้า เจ้านี่จะต้องทำให้ทั้งทวีปหลิงหวู่ตกตะลึง
“เอาล่ะ มาต่อกันเถอะ” เมื่อผ่านไปประมาณสองชั่วยาม ลุงหนานก็ได้กล่าวออกมา
หลู่เส่าโหย่วลืมตาขึ้น เขารู้สึกว่าตอนที่ตัวเองปรับลมหายใจนั้น ความเจ็บปวดบนร่างกายก็ได้หายไปไม่น้อย เหลือเพียงรอยฟกช้ำที่ทิ้งไว้บนผิวหนัง
“เอาล่ะ เมื่อเจ้าทนได้ถึงหนึ่งชั่วยามก็จะถือว่าผ่าน” ลุงหนานกล่าว
หลู่เส่าโหย่วที่ได้เรียนรู้จากครั้งที่แล้วมาก่อน เมื่อลุงหนานกล่าวจบ เขาก็เริ่มหลบหลีกในทันที หลังจากที่ถูกลุงหนานทุบตีเมื่อครู่ ทำให้เขารู้ว่าตัวเขาจะยอมโดนทุบตีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้จักหาทางหลบด้วย
ทว่าดูเหมือนการหลบหลีกของเขาจะใช้ไม่ได้ผล และถึงแม้เขาจะอยากโต้ตอบ แต่เขาก็ตามความเร็วของลุงหนานไม่ทัน ยังไม่ทันที่เขาจะได้ใช้ท่วงท่า ก็ถูกลุงหนานทุบตีแล้ว
ดังนั้นตั้งแต่กลางดึกจนถึงห้านาฬิกา* ตัวเขาจึงได้พักแค่สองรอบ ทั่วร่างของเขานั้น นอกจากหน้าแล้วก็ไม่มีส่วนใดที่มีสภาพดีเลย เหมือนว่าลุงหนานจะตั้งใจไม่ทุบตีที่ใบหน้าของเขา ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าหน้าของเขาจะถูกทุบตีจนกลายเป็นอะไร (ห้านาฬิกาคือช่วงเวลาใกล้ฟ้าสาง)
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน ค่อยมาต่อพรุ่งนี้ นี่เป็นโอสถชำระไขกระดูกที่ข้าหลอมขึ้นมา เจ้าต้องใส่มันลงในถังอาบน้ำแล้วแช่ทุกวันเป็นเวลาสองชั่วยาม” เมื่อลุงหนานกล่าวจบก็นำขวดหยกในมือยื่นมาให้เขา
หลู่เส่าโหย่วรับขวดหยกนั้นมาและเปิดฝาขวดออก เขาเห็นเม็ดยาสีครามสามสิบเม็ดอยู่ข้างใน มีกลิ่นฉุนของโอสถลอยออกมาอย่างแรง หลู่เส่าโหย่วไม่รู้จักโอสถเม็ดนี้ แต่เขาก็รู้ว่าโอสถนี่ดีกว่าโอสถเสริมพลังมาก
“ลุงหนาน มันเป็นโอสถขั้นใด ดูเหมือนจะมีระดับไม่ต่ำเลย” หลู่เส่าโหย่วกล่าว
“มันคือโอสถระดับสาม อย่าทำเสียของล่ะ ทุกวันเจ้าต้องอาบแช่น้ำเป็นเวลาสองชั่วยาม หลังผ่านไปหนึ่งเดือน เจ้าคงจะสามารถผลัดเปลี่ยนกระดูกได้แล้ว” ลุงหนานกล่าว
‘โอสถระดับสาม ราคาไม่ถูกเลย’ หลู่เส่าโหย่วคิดในใจ
“ใช่แล้วลุงหนาน หลู่เสี่ยวไป๋สามารถเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้หรือไม่?” หลู่เส่าโหย่วถามขึ้น ในใจของเขานั้นคิดอยากจะฝึกฝนหลู่เสี่ยวไป๋ให้ดีมาโดยตลอด ในภายภาคหน้าจะได้มีผู้ช่วยสักที
“หลู่เสี่ยวไป๋มีรากฐานธรรมดาทั่วไป แม้ว่าจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แต่อนาคตก็คงไม่ใหญ่โต” ลุงหนานกล่าว
“ลุงหนาน เช่นนั้นท่านช่วยเจ้านั่นหน่อยเถอะ เจ้านั่นดีกับข้าไม่น้อย” หลู่เส่าโหย่วยิ้ม
“นี่คือทักษะหมาป่าอัคคี หลู่เสี่ยวไป๋น่าจะมีธาตุไฟ ทว่ารากฐานนั้นไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าด้วยทักษะหมาป่าอัคคีของข้า น่าจะทำให้เจ้านั่นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้ แต่สำหรับระดับในภายภาคหน้านั้นก็ต้องอยู่ที่ตัวของหลู่เสี่ยวไป๋เองแล้ว”
“ขอบคุณลุงหนานมาก” หลู่เส่าโหย่วรับแผ่นหยกมา แค่หลู่เสี่ยวไป๋สามารถกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้ก็เพียงพอแล้ว ส่วนระดับในอนาคตนั้นค่อยไปคิดหาทางเอาภายหลัง
“เอาล่ะ เจ้ารีบกลับไปใช้โอสถชำระไขกระดูกแช่ร่างกายเถอะ จำไว้ว่าต้องแช่เป็นเวลาสองชั่วยาม ในภายภาคหน้ามันจะมีข้อดีที่สามารถช่วยเจ้าได้เป็นอย่างมาก” ลุงหนานกล่าว
“ลุงหนาน เช่นนั้นข้าขอตัวลา” หลู่เส่าโหย่วกล่าวลาแล้วออกมาจากห้องลับ จากนั้นก็กลับไปยังภายในลานบ้าน
“ร่างกายหยินหยาง และได้รับฝึกฝนจากข้า ในภายภาคหน้า บนทวีปหลิงหวู่นี้จะมีผู้ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งที่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าตกตะลึงถือกำเนิดขึ้นมา” เมื่อหลู่เส่าโหย่วได้จากไป ก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นภายในดวงตาของลุงหนาน ภายใต้รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
เมื่อหลู่เส่าโหย่วกลับมาถึงห้อง ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ไปหาอ่างไม้สำหรับอาบน้ำขนาดใหญ่มาหนึ่งอ่างและเทน้ำลงไป หลู่เส่าโหย่วหยิบโอสถชำระไขกระดูกออกมาหนึ่งเม็ดแล้วใส่ลงไปในอ่างอาบน้ำ
“ซือซือ…”
เมื่อโอสถชำระไขกระดูกโดนน้ำก็ละลายในทันที ทันใดนั้นน้ำในอ่างก็ได้เปลี่ยนเป็นสีฟ้าเทา และในเวลาเดียวกันก็มีกลิ่นหอมของโอสถแผ่ซ่านออกมา จากนั้นน้ำในอ่างก็เริ่มเดือด
“นำโอสถระดับสามมาแช่ร่างกาย หากนำไปขาย น่าจะได้ราคาดี” หลู่เส่าโหย่วแอบยิ้มในใจ แต่ก็รู้ว่าโอสถพวกนี้มีผลดีกับเขามาก ไม่สามารถนำไปขายได้ หลังจากนั้นเขาจึงถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด
เมื่อเห็นรอยฟกช้ำตามร่างกาย หลู่เส่าโหย่วก็รู้สึกสงสารตัวเอง ลุงหนานลงมืออย่างไม่เกรงใจเลย จากนั้นเขาก็กระโดดเข้าไปในอ่างไม้
เมื่อลงไปในอ่างไม้ หลู่เส่าโหย่วก็รู้สึกถึงน้ำอุ่นๆ ที่กำลังห่อหุ้มผิวหนังฟกช้ำตามร่างกายของตัวเอง และสัมผัสถึงความรู้สึกชาตามผิวหนังทั่วร่างในทันที
“สบายมาก” หลู่เส่าโหย่วหลับตาและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหมือนกับเขากำลังแช่น้ำพุร้อน ภายในน้ำนั้นมีความอุ่นร้อนของลมปราณนับไม่ถ้วน ซึ่งเหมือนมันจะแทรกซึมผ่านรูขุมขนเข้าไปภายในร่างของเขา
ลมปราณที่อุ่นร้อนนั้นกำลังหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อและกระดูกของเขา ราวกับว่ามันกำลังนวดตัวของเขาอยู่ หลังสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาก็ได้เพลิดเพลินไปกับมัน เขารู้ว่ามันน่าจะเป็นผลของโอสถชำระไขกระดูก
ด้วยเหตุนี้ หลู่เส่าโหย่วจึงค่อยๆ หลับตาลงอย่างเพลิดเพลินและเอนตัวนอนอยู่ภายในอ่างไม้ ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เพราะลมปราณที่อุ่นร้อนได้แทรกซึมเข้าไปในร่าง ความเจ็บปวดตลอดทั้งคืน ในเวลานี้ เหมือนเขาได้รับการปลดปล่อย ตัวเขาที่ไม่ได้นอนมาหลายวันกลับเริ่มนอนหลับไปอย่างช้าๆ ดูเหมือนจะฝันหวานเสียด้วย
“เส่าโหย่ว ลูกตื่นหรือยัง” ตอนเช้าตรู่ ลั่วหลานซือก็ได้ตะโกนจากห้องโถงเล็ก และจากนั้นก็กล่าวพึมพำ “น่าจะหลับไปแล้ว เด็กคนนี้ กลับมาคราวนี้ดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย”
ในตอนที่หลู่เส่าโหย่วหลับไป เขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าใต้น้ำสีฟ้าเทานี้ รอยฟกช้ำบนร่างของเขากำลังค่อยๆ หายไป และบนผิวน้ำก็เต็มไปด้วยแสงอ่อนๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นช่างดูลึกลับนัก
หากมีคนที่สายตาไม่ธรรมดาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ พวกเขาคงต้องตกใจเป็นแน่ ใช้โอสถระดับสามอาบแช่ร่างกายเพื่อเสริมสร้างกระดูกและอวัยวะภายใน การบ่มเพาะระดับนี้ ถึงแม้จะเป็นตระกูลที่ใหญ่โตก็จ่ายไม่ไหว และสำหรับตระกูลหลู่นั้น แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ยิ่งกว่า
ช่วงเวลาเหล่านี้ค่อยๆ ผ่านไป ในเวลาเดียวกันนั้น บนร่างของเขาที่กำลังดูดซับผลของโอสถ ก็มีสิ่งสกปรกและเหม็นเน่าถูกขับออกมาจากรูขุมขนทั่วร่าง น้ำสีฟ้าเทาโปร่งใสได้ถูกสิ่งสกปรกและเหม็นเน่าที่เขาขับออกมาเปลี่ยนเป็นบ่ออุจจาระก็ไม่ปาน
…
“ทำไมถึงเหม็นขนาดนี้…” ไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน หลู่เส่าโหย่วก็เริ่มได้กลิ่นความเหม็นเน่าของบางสิ่ง หลังจากนั้นจึงได้ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น จากนั้นเขาก็หน้าเปลี่ยนสีในทันที
“โอ้พระเจ้า ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้” เมื่อเห็นอ่างน้ำที่เหมือนกลายเป็นบ่ออุจจาระ หลู่เส่าโหย่วก็ตกใจอย่างมาก
“อ๊าก…”
“คุณชาย ท่านเป็นอะไรกัน นี่ท่านกำลังปัสสาวะอุจจาระในอ่างอาบน้ำหรือ”
เมื่อประตูถูกเปิดออก หลู่เสี่ยวไป๋ที่ได้เข้ามาภายในห้องก็เห็นหลู่เส่าโหย่วที่กำลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็เผยสายตาที่ดูถูกอย่างแรง แล้วใช้สองมือปิดจมูก มองหน้าเขาแบบรังเกียจไม่น้อย