ตอนที่ 2100 ใช้ชีวิตอย่างไม่เสียดายและตายอย่างไม่เสียใจ (2)
“แค่ก!” หลงเหยียนไออีกครั้งแล้วกระอักเลือดออกมา ใบหน้าสูงวัยของเขาซีดเผือด
เขาผลักตัวหลงหลัวออกไปแล้วตะโกนขึ้น “คุณหนูใหญ่ รีบไปเร็วเข้าขอรับ!”
เขาเดินโซเซไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วเกือบจะทรุดลงที่พื้น แต่เขาก็พยายามหยัดยืนขึ้นอีกครั้งทำให้ร่างชราของเขายืนอย่างหนักแน่นราวกับเทือกเขาไท่
“ไปงั้นหรือ” อวี๋เทียนยังคงเฉยชาแต่ดวงตาของเขาเป็นประกายเย็นเยียบ “ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่โอกาส…”
กลิ่นอายรอบตัวอวี๋เทียนขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฟ้าดินพลันเปลี่ยนสี และพระอาทิตย์ก็ไร้แสงเพราะถูกปกคลุมด้วยเมฆทึบ จนทำให้คนที่ยืนอยู่บนพื้นรู้สึกเหมือนมีแรงกดหนักอึ้งกดลงมา
อวิ๋นเซียวขยับเข้ามาปกป้องอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างใกล้ชิดแล้วใช้ดวงตาสีนิลของเขาจ้องไปที่อวี๋เทียนอย่างเย็นชาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“เสี่ยวฉง อวิ๋นอี้และเสี่ยวโม่ก็ด้วย พวกเจ้ารีบพามู่ชิงเฟยและหลงหลัวกลับไปที่มิติลวงตา!”
ภายใต้กลิ่นอายของอวี๋เทียน อวิ๋นลั่วเฟิงรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างที่นางไม่รู้สึกมาก่อน ในเวลาแบบนี้สิ่งที่นางทำได้ก็คือลดจำนวนการบาดเจ็บล้มตาย
“นายหญิง” มุมปากของเสี่ยวฉงบึ้งตึงด้วยความไม่ยินยอม
ใช่แล้ว เขาเป็นคนขี้ขลาดตาขาวแต่เมื่อเขาเผชิญหน้ากับอันตรายที่แท้จริง เขาก็ยังไม่ยอมทิ้งอวิ๋นลั่วเฟิงกับคนอื่นๆ แล้วจากไป
ใบหน้าอวิ๋นอี้บิดเบี้ยว เขาก็ยังไม่ยอมหนี
“นายหญิง ข้าเป็นหุ่นเชิด…” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งหลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
หุ่นเชิดไม่สามารถตายหรือถูกทำลายได้ ทั้งยังไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่ว่าในฐานะหุ่นเชิดถ้าร่างกายของเขากลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะมีความสามารถมากแค่ไหน นางก็ไม่สามารถทำให้เขาฟื้นฟูเขาให้กลับสู่สภาพเดิมได้
“กลับไป นี่เป็นคำสั่ง!” อวิ๋นลั่วเฟิงตะโกนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด น้ำเสียงของนางเด็ดขาด
สัตว์อสูรตัวอื่นก็ไม่ยินยอม พวกเขายืนอยู่ข้างหลังอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ยอมจากไป
“ถ้ามีแค่อวิ๋นเซียวกับข้า พวกเราก็ยังมีโอกาสมีชีวิตรอดแต่ถ้าพวกเจ้าอยู่ที่นี่ด้วยก็จะทำให้พวกเราว่อกแว่ก!”
น้ำเสียงของอวิ๋นลั่วเฟิงเกรี้ยวกราดมากจนทำให้สัตว์วิญญาณอสูรตกใจ หัวใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเสียใจ แต่ว่าพวกเขาก็รู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงกำลังพูดเรื่องจริง…
ครั้งนี้ พวกเขาไม่ต่อต้านแล้วคว้าตัวหลงหลัวกับมู่ชิงเฟยที่ไม่รู้เรื่องอะไรกลับเข้าไปซ่อนในมิติลวงตาด้วยกัน
ขณะเดียวกันนางก็โน้มน้าวให้คนของเหล่าทัพเหล็กกล้าและเหล่าทัพเพลิงพิโรธกลับไปด้วย
นอกจากเซียนจักรพรรดิที่ก่อนหน้านี้ล้อมตัวเสี่ยวฉงเพื่อทำลายเขาแล้ว ทั้งถนนก็เหลือเพียงอวิ๋นเซียว ตัวนาง และราชครูเฟิงจิ่นที่เป็นเจวี๋ยเชียนกลับมาเกิดใหม่…
ส่วนเผ่ามังกรบรรพบุรุษ…
อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปหาหลงเหยียนแล้วถามว่า “เจ้ามั่นใจว่าจะเอาชนะเขาได้หรือไม่”
เสียงของนางดังขึ้นในจิตของเขาทำให้หลงเหยียนสะดุ้ง เขาเหลือบมองอวิ๋นลั่วเฟงเป็นนัยก่อนจะพูดว่า “ความจริงแล้ว เมื่อครู่ข้าได้แจ้งหัวหน้าเผ่าแล้ว หัวหน้าเผ่ากำลังเดินทางมาดังนั้นข้าจำเป็นต้องถ่วงเวลา ข้าให้คุณหนูใหญ่จากไปก็เพราะข้ากลัวว่านางวิ่งเข้าไปหาอันตรายก่อนที่หัวหน้าเผ่าจะมาถึง…”
ถ่วงเวลางั้นหรือ
ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงเข้มขึ้นแล้วหันไปหาอวิ๋นเซียว
“ปล่อยให้ข้าจัดการเอง” เขากุมมือนางแล้วพูดอย่างมุ่งมั่น “ข้าจะไม่ยอมให้ท่านตกอยู่ในอันตราย”
ประโยคที่ว่า ‘ปล่อยให้ข้าจัดการเอง’ ของชายหนุ่มทำให้หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงอบอุ่น แล้วริมฝีปากนางก็ยกขึ้น
“ได้ ข้าเชื่อในตัวท่าน”
นางเชื่อในตัวอวิ๋นเซียว ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเชื่อว่าอันตรายใดๆ ก็ตามจะถูกกำจัดเมื่อมีบุรุษผู้นี้อยู่ที่นี่
อวิ๋นเซียวละสายตาจากอวิ๋นลั่วเฟิงไปมองอวี๋เทียน แล้วสีหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้น
ตอนที่ 2101 ใช้ชีวิตอย่างไม่เสียดายและตายอย่างไม่เสียใจ (3)
“หุ่นเชิดงั้นหรือ” ประกายบางอย่างที่ไม่อาจเข้าใจได้พาดผ่านดวงตาของอวี๋เทียน “กลายเป็นว่าหนุ่มน้อยเมื่อครู่เป็นหุ่นเชิดงั้นหรือ ข้าไม่รู้เลยจริงๆ!”
“แม้แต่เจวี๋ยเชียนก็ยังไม่สามารถครอบครองหุ่นเชิดที่มีความคิดแบบมนุษย์ได้ เจ้าทำได้อย่างไร”
อวี๋เทียนสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก ถ้าเขาสามารถควบคุมความสามารถแบบนี้ได้ล่ะก็…
ถ้าอย่างนั้นแผ่นดินเทพวิญญาณก็จะมีผู้นำเพียงคนเดียว
“เจ้าอยากรู้งั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “ข้าสงสัยว่าในชีวิตนี้เจ้าจะมีโอกาสหรือไม่”
ใบหน้าของอวี๋เทียนเย็นเยียบขึ้นเรื่อยๆ พายุรุนแรงพุ่งออกมาจากร่างเขาและทรงพลังมากขึ้น เสียงฟ้าร้องดังขึ้นในท้องฟ้ามืดมัวและฟ้าก็ผ่าลงมาจนเกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่บนพื้น
“เจ้ารนหาที่เองนะ! อย่าโทษที่ข้าโหดร้าย”
“เฟิงเอ๋อร์ ระวัง!”
หลังจากนั้นพลังรอบตัวอวี๋เทียนระเบิดออกก็ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาทำลายทุกอย่างที่อยู่รอบๆ
อวิ๋นเซียวไม่คิดมากที่จะต้องสู้กับอวี๋เทียนและรีบหันไปดึงตัวอวิ๋นลั่วเฟิงเข้ามากอดแล้วกดศีรษะของนางไว้บนไหล่ของเขาแน่น
ทันใดนั้นพลังกำลังของเขาก็ระเบิดออกมาโดยรอบ แล้วคนที่มีการป้องกันอ่อนแอก็กระเด็นออกไป ชีวิตของพวกเขาปลิวออกไปขณะที่คนอื่นๆ มองด้วยความกลัว
อวี๋เทียนไม่แม้แต่ขยับมือและยอดฝีมือขั้นเซียนจักรพรรดิพวกนั้นก็ตายไปเรียบร้อยแล้ว พลังน่าเกรงขามขนาดนี้จะไม่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้อย่างไร
ความคิดแรกของฉินเทียนเหลาคือหนี แต่ขาของเขาก็สั่นไม่หยุดและไม่สามารถก้าวออกไปได้แม้แต่ก้าวเดียว เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากดูอวี๋เทียนอย่างตกตะลึงด้วยสายตาหวาดกลัว
โชคดีที่อวี๋เทียนไม่ได้สนใจและไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ
ดวงตาของเขาจับจ้องอวิ๋นลั่วเฟิงที่ถูกปกป้องอยู่ในอ้อมกอดของอวิ๋นเซียวด้วยใบหน้านิ่งสนิท
“บอกข้ามาสิ เจ้ากับเจวี๋ยเชียนมีความสัมพันธ์กันแบบไหน”
ขณะเดียวกันเฟิงจิ่นก็หันหน้าไปด้วยใบหน้าที่แสดงความสับสนเหมือนกัน “แม่นาง เจ้าเองก็รู้จักข้างั้นหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงค่อยๆ ดึงตัวเองออกจากแขนของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วรอยยิ้มบางก็ปรากฏบนริมฝีปากของนาง “ข้าทั้งรู้จักและไม่รู้จักเจ้า…ตามหลักแล้วข้าควรเรียกท่านว่า ‘อาจารย์’”
อาจารย์?
สีหน้าของเฟิงจิ่นยิ่งสับสน เขาดูเหมือนกำลังคิดบางอย่างอยู่
“ข้าเอาแต่รู้สึกว่าข้าลืมบางอย่าง…”
แต่ว่าเขาลืมอะไรล่ะ ตอนนี้เขานึกไม่ออกเลย…
“เจวี๋ยเชียน เจ้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆ งั้นหรือ” อวี๋เทียนหันไปมองเจวี๋ยเชียนอีกครั้งด้วยสายตาที่ฉายแววตะลึงอย่างชัดเจน
เจวี๋ยเชียนคนนี้ ณ ตอนนี้ก็มีเพียงร่างกายขยะเท่านั้น แล้ว…เจ้านี่มีชีวิตรอดจากพลังของเขาได้อย่างไร
“เทียบกับนางแล้ว ข้าต้องสังหารเจ้าก่อน!”
เขาได้สติกลับมาอย่างรวดเร็วและกลิ่นอายสังหารทรงพลังก็ไหลบ่าออกมา ร่างกายของเขาขยับรวดเร็วดุจสายฟ้าแล้วพุ่งมาตรงหน้าเฟิ่งจิ่น
เฟิงจิ่นยังคงจมอยู่ในความคิดและไม่ได้สังเกตว่าอวี๋เทียนมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว คิ้วของเขายังคงผูกกันแน่นแล้วคิดหนักเกี่ยวกับสิ่งที่เขาลืม
“ระวัง!” อวิ๋นลั่วเฟิงตะโกนเรียกอย่างรวดเร็ว
อวิ๋นเซียวลงมือด้วยเหมือนกัน
แต่ว่าตอนนั้นเองร่างสีเงินร่างหนึ่งก็กระโจนเข้าหาเฟิงจิ่นมาจากไกลๆ และมายืนตรงหน้าเขา การโจมตีของอวี๋เทียนรุนแรงมากจนแทงทะลุร่างของเขาจนอกระเบิด
ตุบ!
เส้นผมสีเงินของชายหนุ่มปลิวไปตามสายลมพร้อมกับชุดคลุมยาวของเขา รอยยิ้มทุกข์ทรมานปรากฏขึ้นบนใบหน้าขณะที่เขาร่วงลงมาเหมือนกลีบดอกไม้งดงามลงบนแขนของเฟิงจิ่น