จนกระทั่งมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ทั้งหมดหายไป เขาถึงจะตัดใจ และติดตามเจ้านายคนใหม่
สำหรับพวกเขาแล้ว เวลาล้านปีไม่ใช่เวลาที่ยาวนานนัก
ในตอนที่เขาได้รับภารกิจและได้เดินทางมาถึงสถานที่ระดับต่ำแห่งนี้เพื่อบีบบังคับให้คนผู้นั้นถึงทางตัน เขาก็ได้เจอกับพลังแห่งมิติอันแข็งแกร่งนั้นอีกครั้งที่สามารถทำให้ผู้คนก้มลงกราบได้ ความงดงามของท่านสุ่ยจิงอิ๋งนั้นสามารถทำให้ผู้คนก้มลงกราบได้จริง ๆ
ความคะนึงถึงที่ยับยั้งมานานหลายปีก็ได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง!
รุนแรงกว่าเมื่อก่อนมาก จนในที่สุดเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย
แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยอยู่ในสายตาของท่านสุ่ยจิงอิ๋งเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นการถูกนางทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขมากแล้ว
และก่อนที่เขาหนีจากไป ก็บังเอิญได้รับกลีบที่แตกออกของท่านสุ่ยจิงอิ๋งมาด้วย
มีท่านสุ่ยจิงอิ๋งอยู่ ถึงแม้ว่าเขาที่ภารกิจสำเร็จสามารถกลับไปรายงานผลได้ แต่เขาก็ไม่กลับไป เลือกที่จะอยู่ที่สถานที่ระดับต่ำนี้
ได้พบกับหอศิลาที่มีมิติแตกร้าวนี้ และได้ซ่อนตัว ณ ที่แห่งนี้เพื่อรักษาบาดแผล!
เขาปรารถนาให้ท่านสุ่ยจิงอิ๋งสนใจเขา แต่สิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนว่านางจะไร้จิตวิญญาณก็มิปาน
เขาคิดจะหลอมรวมกับพลังแห่งมิติของท่านสุ่ยจิงอิ๋ง เช่นนี้พวกเขาก็ได้อยู่ด้วยกันตลอดไปแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้
ทว่า……
ทุกอย่างไม่มีทางสำเร็จแล้ว เขากำลังจะถูกนิรันดร์หล่อหลอมร่างกาย แม้กระทั่งจิตวิญญาณ!
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าบนโลกใบนี้จะมีผู้วิปริตเช่นนี้ สามารถทำให้ท่านสุ่ยจิงอิ๋งผู้มีฐานะสูงส่ง อาถิงผู้เย่อหยิ่งไม่เคยเห็นผู้ใดอยู่ในสายตา และนิรันดร์ผู้ที่ทำตัวตามอำเภอใจเช่นนี้ติดตามนางได้
ต่อให้เป็นเจ้านายของเขา ก็ไม่อาจทำได้!
ท่านสุ่ยจิงอิ๋ง ลาก่อน……
หลังจากบ่นอยู่ครู่หนึ่ง นิรันดร์ก็เริ่มหล่อหลอม เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เม็ดยาวิญญาณสีเขียวเข้มจำนวนเก้าสิบเก้าเม็ดก็ได้ลอยขึ้นกลางอากาศ
“ใช้กระดูกมังกร โลหิตมังกร เนื้อมังกร และจิตวิญญาณมังกรหลอมออกมาเป็นเม็ดยาวิญญาณเช่นนี้ ตกลงแล้วมันมีประโยชน์อันใดเหรอ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ประโยชน์มันยิ่งใหญ่มาก เพียงแต่ว่าคนธรรมดาทั่วไปจะกินซี้ซั้วไม่ได้นะ และต้องปิดผนึกหลายครั้งถึงจะได้!”
ลมเย็นพัดกระโชกมาห่อหุ้มเม็ดยาวิญญาณเหล่านั้น บนเม็ดยาเหล่านี้ก็ปรากฏลวดลายเก้าแถบขึ้น
ทันใดนั้นเอง แสงสีฟ้าแสงหนึ่งก็ได้พุ่งออกมาจากหม้อเทพนิรันดร์!
อาถิงกล่าว “นี่เป็นหนึ่งในเก้ากลีบของท่านพี่ข้า เจ้านั่นไม่ได้โกหก มันได้กลีบดอกดอกหนึ่งของท่านพี่ไปจริง ๆ แถมยังเก็บเอาไว้ในร่างของตัวเองอีกด้วย ช่างน่าแค้นใจยิ่งนัก!”
เสียงของนิรันดร์ดังขึ้นว่า “ใช่!”
มู่เฉียนซีกับอาถิงตกใจ กล่าวขึ้น “เจ้ารู้ว่าชิ้นส่วนของสุ่ยจิงอิ๋งอยู่ในนี้แล้วเหตุใดเจ้ายังลงมือหลอมอีกล่ะ”
“นี่มันไม่ได้มีการขัดแย้งแต่อย่างใดเลย สาวสวยอิ๋งเอ๋อร์นั้นเป็นถึงผู้พิทักษ์นิรันดร์ ต่อให้ข้าใช้พลังสูงสุดก็ไม่อาจหลอมนางได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่ข้ายืมมือที่รักของข้าหลอมเลย” นิรันดร์กล่าว
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น ชิ้นส่วนชิ้นหนึ่งก็ได้ลอยขึ้นมากลางอากาศ
นั่นคือกลีบดอกบัวหงษ์สีฟ้าผลึกใสแวววาวหนึ่งกลีบ ทำให้ทั้งมิติพลันเปลี่ยนราวกับเป็นวังใต้น้ำก็มิปาน
ตูม ปัง ปัง!
ผู้คนที่อยู่ในหอศิลานี้ต่างก็รู้สึกว่าหอศิลากำลังเคลื่อนที่!
“หอศิลาเคลื่อนที่แล้ว นี่มันเกิดอันใดขึ้น มันจะเคลื่อนลงไปใต้ดินหรือขึ้นกลางอากาศกันแน่!”
“เกรงว่าพวกเจ้าจะคิดในแง่ดีเกินไปน่ะสิ จะลอยขึ้นไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน?”
โม่จิ่นตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง หรือว่านายท่านจะจัดการกับมิติหอศิลาประหลาดนี้ได้แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “นี่สุ่ยจิงอิ๋งกำลังจะพาพวกเราไปส่งในที่ที่ปลอดภัยใช่หรือไม่?”
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าว “อืม! พลังในส่วนนี้ของข้าหมดลงแล้ว แต่พลังอีกส่วนหนึ่งแช่อยู่นานเช่นนี้ ก็เพียงพอที่จะส่งทุกคนไปยังหุบเขาหัวใจเพลิงได้”
“งือ!” นิรันดร์ได้ส่งเสียงเกียจคร้านอ่อนปวกเปียกออกมา
“ยอดดวงใจของข้า พอข้าตื่นขึ้นมาเจ้าก็ขูดรีดข้าจนแห้งเหือดซะแล้ว ข้าใช้พลังทั้งหมดเพื่อหลอมยากระดูกมังกรออกมา หากตกอยู่ในความหลับใหล เจ้าว่าเจ้าควรจะมอบกายใจตอบแทนข้าหรือไม่?”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นเล็กน้อย “เจ้าบอกข้ามาก่อนว่ายานี่มันมีประโยชน์เช่นไร!”
นิรันดร์กล่าว “ช่างเป็นยอดดวงใจที่ไร้หัวใจยิ่งนัก หัวใจของข้าถูกเจ้าทำให้เจ็บปวดรวดร้าวแล้ว”
“อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ รีบบอกมาแล้วไสหัวกลับเข้าไปนอนได้แล้ว”
มู่เฉียนซีเข้าใจดีว่าที่ทำมาทั้งหมดนี้ นิรันดร์อาจจะดูเหมือนผ่อนคลาย แต่มังกรปีศาจระดับจ่านคงนี้ จะหลอมง่ายเช่นนั้นได้อย่างไร
“นี่คือยากระดูกมังกร หลอมออกมาทั้งหมดได้เก้าสิบเก้าเม็ด ข้าได้ปิดผนึกยากระดูกมังกรเอาไว้เก้าชั้น หากมีคนกินเข้าไปผนึกแรกก็จะเปิด สามารถเพิ่มพลังได้ถึง……”
“น่าจะถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกของโลกนี้!”
“มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก!” ดวงตาของมู่เฉียนซีเบิกกว้างด้วยความตกใจ
มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกนับว่าเป็นอัจฉริยะสูงสุดแห่งแดนใต้แล้ว
นางมียาวิญญาณมากเพียงนี้ นั่นก็หมายความว่านางมียอดฝีมือมากด้วย
“แต่ว่าที่รัก ยานี้มีธาตุหยางแข็งแกร่งเกินไป จึงเหมาะสำหรับบุรุษเท่านั้น”
“ข้ารู้ เจ้ารีบไสหัวกลับไปพักผ่อนได้แล้ว!”
“เช่นนั้นแล้ว เจอกันคราวหน้าตอนที่ข้าตื่นขึ้นมานะที่รัก หวังว่าคราวหน้าข้าจะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ ปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าได้แล้ว” นิรันดร์กล่าว
สวรรค์รู้ดีว่าเขานั้นอิจฉาศาลานิรันดร์มากเพียงใดที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์เดินย่างกรายอยู่ภายนอกได้
แต่เขาในตอนนี้ แม้แต่เงาก็ไม่สามารถทำได้
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าว่าช่างมันเถอะ!”
เจ้าหมอนี่ชอบทำเรื่องกำเริบเสิบสาน หากแปลงร่างกลายเป็นมนุษย์ได้จริง ๆ คาดว่านางไม่มีทางอยู่อย่างสงบแน่นอน
ตูม ตูม ตูม!
ดูเหมือนทุกคนจะรับรู้ได้ว่าหอศิลาได้มาถึงที่ที่ปลอดภัยแล้ว สุ่ยจิงอิ๋งกล่าว “ซีเอ๋อร์ อีกประเดี๋ยวน่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง เจ้าอย่าเข้าไปร่วมล่ะ”
“มีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง!” มู่เฉียนซีสงสัยเล็กน้อย
กลีบดอกผลึกใสสีฟ้าอ่อนนั้น นึกไม่ถึงว่าจะทะลุมิตินี้ อีกทั้งยังทะลุหอศิลาอีกด้วย
หลังจากนั้นหอศิลาก็ได้พังทลายลงภายในชั่วพริบตา และได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย!
ในที่สุดตอนนี้ผู้ที่อยู่ในหอศิลาก็ได้เห็นเดือนเห็นตะวันแล้ว
พวกเขาพบกับความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่หุบเขาหัวใจเพลิงแล้ว ปลอดภัยแล้ว!
“รอดแล้ว!”
“ยอดเยี่ยมไปเลย! ในที่สุดก็รอดแล้ว!”
“พวกเรารอดแล้ว!”
โม่จิ่น จวินโม่ซีและพวกอยากจะไปหามู่เฉียนซี
พวกเขาไม่เป็นอะไร ออกจากหอศิลาได้อย่างปลอดภัย นางวิปริตเช่นนั้น ต้องไม่เป็นอะไรแน่ และจะไม่เป็นอะไร
“ดูนั่น นั่นคือสิ่งใด?”
“พระเจ้า! นั่นคือ!”
“……”
เจ้าสำนักเฝินกล่าว “นั่นมัน หนึ่งในมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ผู้พิทักษ์นิรันดร์ ดอกบัวหงษ์เก้ากลีบ!”
“ดอกบัวหงษ์เก้ากลีบผู้ควบคุมมิติ หรือว่าเป็นมันที่ช่วยพวกเราเอาไว้”
“นี่เป็นถึงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เชียวนะ!”
“มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์!”
“……”
ไม่สนว่ามันจะเป็นมหาวัตถุศักดิ์นิรันดร์หรือไม่ พวกเขาล้วนแต่ตัดสินว่ามันคือสิ่งมหัศจรรย์
ตอนนี้พวกเขารอดพ้นจากอันตรายแล้ว เมื่อเผชิญกับของล้ำค่าที่มีความเป็นไปได้ว่ามันคือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เช่นนี้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ยอมยืนดูเฉย ๆ เป็นแน่ อีกทั้งยังคิดจะแย่งชิง……
กองกำลังแต่ละกองกำลัง และผู้ที่มีกำลังในการต่อสู้ทั้งหมดต่างก็พรวดออกไปแล้ว
เจ้าสำนักเฝินกล่าว “พวกเรากองกำลังใหญ่ต้องร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่มีความจำเป็นต้องมาฆ่าแกงกันเอง ควรจะร่วมแรงร่วมใจกันเอาของล้ำค่านี้มาให้ได้ แล้วค่อยมาปรึกษากัน……”
“หยุดพูดจาเพ้อเจ้อได้แล้ว หากเป็นผู้พิทักษ์นิรันดร์จริง ๆ สำนักของพวกเราก็จะกลายเป็นสำนักระดับสาม ระดับสี่ ระดับห้า นั่นเป็นสิ่งที่ล้วนแต่เป็นไปได้ทั้งสิ้น!”
“ใช่! จะต้องแย่งของล้ำค่านั้นมาให้ได้!”