ทว่า ขวางคนบ้าเหล่านี้เอาไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ถึงอย่างไรเสีย มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นั่นก็อยู่ในหุบเขาหมอเทวดาของเขาแล้ว ไม่อาจหนีไปไหนได้
ผู้คนที่มารวมตัวกันที่หุบเขาหมอเทวดาก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ กองกำลังใหญ่ร้อยกองกำลังตอนนี้รู้แล้วว่ามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนั้นถูกนำเข้ามาที่หุบเขาหมอเทวดาแล้ว
มู่เฉียนซีถูกส่งตัวมารักษาอาการบาดเจ็บ ณ ที่พักของพวกเขาในหุบเขาส่วนใน เป็นเพราะคำสั่งของท่านผู้เฒ่า ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับยาวิญญาณที่ดีที่สุด
ตอนนี้จวินโม่ซีฟื้นขึ้นมาแล้ว เมื่อเห็นกับห้องที่คุ้นเคยนี้เขาก็กล่าวขึ้นว่า “พวกเรากลับมายังหุบเขาหมอเทวดาแล้วเหรอ ตาเฒ่านั่นใจดีไม่ฆ่าพวกเราแล้วอย่างนั้นเหรอ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เขาไม่มีความสามารถนั้นที่จะฆ่าพวกเราต่างหาก เพราะว่าเขาถูกฆ่าแล้ว!”
“ถูกใครฆ่า?” จวินโม่ซีกล่าวถาม
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “แน่นอนว่าต้องเป็น……ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดา!”
จวินโม่ซีก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น “ผู้เฒ่าหุบเขาหมอเทวดามาแล้วอย่างนั้นเหรอ ซือคงเลี่ยวรู้ตัวตนที่แท้จริงของพวกเราแล้ว หรือว่าเขาไม่ได้บอกผู้เฒ่าหุบเขาหมอเทวดาเหรอ?”
“บอกแล้ว แต่ก็ต้องให้ท่านผู้เฒ่าเชื่อถึงจะได้ แต่นี่ไม่ว่าเขาจะพูดความจริงเช่นไร ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาก็ไม่เชื่อเขา เขาก็เลยถูกฆ่าตาย……”
ดวงตาของจวินโม่เผยความประหลาดใจขึ้น “ไม่เชื่อ……”
เขาจับแขนมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “สาวน้อย ดูเหมือนว่าข้าจะพลาดเรื่องสนุก ๆ ไปใช่หรือไม่ เจ้ารีบบอกข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!”
“บัดซบยิ่งนัก! ข้าหมดสติไปได้ยังไงนะ!” เขากล่าวอย่างกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างยิ่ง
มู่เฉียนซีกล่าว “เห็นแก่ที่เจ้าได้รับบาดเจ็บ ข้าเล่าให้เจ้าฟังก็ได้……”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” มู่เฉียนซีเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดยิบ จวินโม่ซีหัวเราะชอบใจจนน้ำตาแทบไหล
“ตาเฒ่านั่นต้องกระอักเลือดเป็นแน่ นึกไม่ถึงว่าบอกความจริงไปเช่นนั้นแล้วตาเฒ่านั่นยังไม่เชื่อเขาอีก”
“สาวน้อย เจ้าก็ใจร้ายใจดำจริง ๆ เล่าเรื่องนั้นออกไปก่อน ทำให้ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาไม่เชื่อหัวหน้าหุบเขาซือคง ดังนั้นไม่ว่าซือคงเลี่ยวเล่าความจริงเช่นไรก็ไม่มีใครเชื่อเขาหรอก”
“เจ้าหัวหน้าหุบเขาซือคงนั่นเมื่อเทียบกับสาวน้อยใจร้ายใจดำอย่างเจ้าแล้ว มันคนละระดับกันเลย สมควรแล้วที่ถูกฆ่าตายไปด้วยความกล้ำกลืนเช่นนั้น!”
จวินโม่ซีสามารถจินตนาการได้ ตอนนั้นซือคงเลี่ยวคงจะแสดงสีหน้าท่าทางที่ยอดเยี่ยมออกมาเป็นแน่
จวินโม่ซีกล่าว “แล้วร่างของชิงอิ่ง เจ้าเอาไว้ในมิติจะไม่มีปัญหาจริง ๆ เหรอ?”
“ชิงอิ่งก็แค่หลับไปเท่านั้น ตื่นขึ้นเขาก็หายแล้ว ให้เขานอนอยู่ในมิติก่อนเถอะ!”
“เจ้าหมอนี่ก็จริง ๆ เลย หากเขาไม่หลับไป ก็คงจะจัดการกับเจ้านั่นได้นานแล้ว แต่ถ้าเกิดจัดการไปตอนนั้นก็คงจะไม่มีละครดี ๆ เช่นนี้สินะ ฮ่าฮ่าฮ่า ซือคงเลี่ยวคงจะคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าตัวเองจะมีวันนี้!” จวินโม่ซีอดหัวเราะไม่ได้
หลังจากหัวเราะชอบใจเสร็จ จวินโม่ซีก็กล่าวถามว่า “สาวน้อย ตอนนี้พวกเราอยู่ที่หุบเขาหมอเทวดา แล้วเราจะทำเช่นไรต่อ?”
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ต่อไป เจ้าก็รักษาอาการบาดเจ็บก่อน!”
“รักษาอาการบาดเจ็บ!” จวินโม่ซีตกใจผงะไปครู่หนึ่ง
“หรือว่า เจ้าจะเอามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นั่นให้ผู้เฒ่านั่นจริง ๆ!” จวินโม่ซีกล่าวด้วยความตกใจ
“ข้าให้เขา ก็ต้องดูว่าเขา……”
ตูม ปัง ปัง!
ตอนนี้นอกหุบเขาหมอเทวดาเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น
ดูเหมือนว่าจะมีผู้แข็งแกร่งไม่น้อยที่กำลังระเบิดค่ายกลป้องกันของหุบเขาหมอเทวดา!
จวินโม่ซีตกใจขึ้น “นี่ที่หุบเขาหมอเทวดาเกิดอะไรขึ้น มีคนมาโจมตีหุบเขาหมอเทวดาเหรอ?”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เจ้าเดาถูกแล้ว มีคนกำลังโจมตีหุบเขาหมอเทวดาอยู่! คนพวกนั้นเห็นพวกเรานำมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เข้ามาที่หุบเขาหมอเทวดา หากไม่ตามมาโจมตีก็แปลกแล้วล่ะ”
จวินโม่ซีกล่าวด้วยความตกใจ “ที่แท้เจ้าก็……”
“ทำให้หุบเขาหมอเทวดาถูกรุมโจมตี ถึงแม้ว่าหุบเขาหมอเทวดาจะไม่พังทลายลง แต่อย่างน้อยก็เสียหายไปถึงเจ็ดส่วน เมื่อถึงตอนนั้น หอหมอปีศาจของเราก็จะช่วยเติมเต็มอีกหน่อย ก็สามารถถอนรากถอนโคนพวกหุบเขาหมอเทวดาไปได้แล้ว ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว แถมยังไม่เปลืองแรงอีกด้วย” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว
มุมปากของจวินโม่ซีกระตุกอย่างบ้าคลั่ง “ผู้เฒ่านั่นกับคนข้างนอกเหล่านั้นต่างก็ถูกเจ้าคิดบัญชีแล้ว แต่ที่เจ้าพูดก็ถูก เช่นนี้ประหยัดแรงลงมาก”
ตูม ปัง ปัง!
เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทว่า ยังไม่สามารถทำลายได้ มู่เฉียนซีก็กลัดกลุ้มใจขึ้นแล้ว “ค่ายกลป้องกันนี้ของหุบเขาหมอเทวดาแข็งกว่ากระดองเต่าซะอีก หากพวกเขาโจมตีเข้ามาไม่ได้ เกรงว่าแผนของพวกเราจะไม่สำเร็จ!”
จวินโม่ซีกล่าว “ค่ายกลป้องกันหุบเขานี้แข็งแกร่งอย่างไร้เหตุผลจริง ๆ ไม่เหมือนกับสำนักระดับสองจะสามารถตั้งขึ้นมาได้”
“เจ้ารักษาตัวก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากันหลังจากนี้!”
หลังจากที่เสริมค่ายกลป้องกันให้มั่นคงเสร็จ ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาก็ได้มาหามู่เฉียนซี
ปลอบขวัญจวินโม่ซี จากนั้นก็ให้เม็ดยารักษาอาการบาดเจ็บกับจวินโม่ซีไม่น้อย
เขากล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “ลำบากเจ้าแล้ว!”
จวินโม่ซียิ้มมุมปากเล็กน้อย “เพื่อปกป้องศิษย์น้องแล้ว บาดเจ็บแค่นี้ไม่เป็นไรเลยขอรับ”
จากนั้นท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาก็หันไปที่มู่เฉียนซี “มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นั่นอยู่ที่เจ้าใช่หรือไม่! ให้ข้าดูหน่อยว่าตกลงมันคือสิ่งใดกันแน่”
“เจ้าค่ะ!” มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว
จากนั้นก็ได้เอากลีบดอกบัวหงษ์ผลึกใสสีฟ้าออกมาอย่างประณีต เมื่อเห็นมู่เฉียนซีเอามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ออกมาโดยไร้ซึ่งความลังเลเช่นนี้แล้ว ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาก็ไม่สงสัยในความซื่อสัตย์ที่ศิษย์สายตรงผู้นี้มีต่อเขาแล้ว
สามารถต้านทานต่อความดึงดูดใจของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ได้ เอาออกมาด้วยความใจกว้าง นี่เป็นศิษย์ที่เชื่อฟังเป็นอย่างมาก เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดารับกลีบดอกบัวหงษ์มาและกล่าวว่า “อาจารย์จะเอาไปตรวจสอบดูให้แน่ชัดว่านี่คือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์จริงหรือว่าจะเป็นอย่างอื่น แต่ต่อให้ไม่ใช่วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งมากนัก ด้วยความกตัญญูรู้คุณของเจ้าแล้ว อาจารย์จะไม่เอาเปรียบเจ้าเด็ดขาด อีกไม่นานอาจารย์จะให้เจ้าเป็นหัวหน้าศิษย์สายตรงของอาจารย์”
“เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านผู้เฒ่ามากแล้วเจ้าค่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความตื่นเต้น
เมื่อได้เห็นกับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ นึกไม่ถึงว่าท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาจะรีบนำไปศึกษาเช่นนี้ อยู่ไม่นานก็ไปเสียแล้ว
จวินโม่ซีกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “สาวน้อย เอามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ให้เขาไปจริง ๆ เหรอ! เจ้าบอกว่ามันคือหนึ่งในมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ คือผู้พิทักษ์นิรันดร์ไม่ใช่เหรอ?”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ใครบอกว่าข้าเอาของจริงให้เขาล่ะ เขาเอาร่างแยกของหม้อพิษสามอสูรมาตบตาข้าถึงสองครั้งสองครา แล้วข้าจะเอาของปลอมให้เขาบ้างไม่ได้หรือไง”
สุ่ยจิงอิ๋งได้รับนางเป็นเจ้านายแล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าว่ายังไงนะ เจ้าเอาของปลอมให้เขาเหรอ?” จวินโม่ซียิ่งไม่อยากจะเชื่อ
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าอย่ามัวแต่ตกใจอยู่เลย คาดว่าตาเฒ่านั่นคงจะใช้เวลาในการศึกษาช่วงหนึ่ง เจ้าก็รีบรักษาตัวให้หายไว ๆ ล่ะ”
จวินโม่ซี “ได้!”
เวลาสามวัน กองกำลังแต่ละกองกำลังก็ยังไม่สามารถโจมตีกระดองเต่าป้องกันของหุบเขาหมอเทวดาได้
ต่อให้โจมตีไม่ได้ แต่พวกเขาก็ได้ดึงดูดความปั่นป่วนในแดนใต้ไม่น้อยเลย
เพราะมีแค่คนที่มีความแข็งแกร่งเล็กน้อยในแดนใต้เท่านั้นที่รู้ว่าหุบเขาหมอเทวดาได้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไป!
หากเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์อื่นพวกเขาก็คงจะไม่บ้าคลั่งเช่นนี้ แต่นี่คือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ซึ่งมันมีความแตกต่างกันมาก
นอกจากกองกำลังใหญ่ทั้งร้อยกองกำลังแล้ว เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกองกำลังใดได้รู้ข่าวนี้ก็อดใจไม่ไหว ผู้แข็งแกร่งที่ไปโจมตีหุบเขาหมอเทวดาก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาค้นคิดหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำลายกระดองเต่านี้ของหุบเขาหมอเทวดาให้ได้