บทที่ 313 : พวกเขาไม่เคยจากไป
บุคคลที่ราวกับแงะออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเหล่านี้ไร้อารมณ์ ดวงตาของพวกเขาไร้ประกาย ทำเพียงเดินไปเดินมา ทำภารกิจของพวกตนในสิ่งปลูกสร้างที่มีโครงข่ายซับซ้อนราวกับรังผึ้งเหล่านี้โดยไม่สื่อสารต่อกันด้วยวิธีใด ๆ เลย
เงียบกริบ…
ดูเหมือนว่าบุคคลเหล่านี้จะไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นแค่หุ่นยนต์ที่ได้รับการฝังคำสั่งบางอย่างไว้เท่านั้น
อัศวินที่ตามโจเซฟมามองหน้ากันอย่างทำอะไรไม่ถูก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาช็อกมาก…
หากสิ่งที่พวกเขาเผชิญอยู่เป็นสนามรบอันดุเดือด พวกเขาคงไม่มีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ แต่จะเฉื่อยแฉะตามปกติเสียแทน แต่ความเงียบสงัดที่แปลกประหลาดตรงหน้าพวกเขากลับน่ากลัวเสียจนทำให้เจตจำนงของผู้คนสั่นคลอน
“นี่มันอะไรเนี่ย…?”
โจเซฟอดไม่ได้ที่จะถามออกมาอย่างหนักอึ้ง
เขาเคยคาดไว้ว่าลึกเข้าไปในสังสาระจักรกลของสมาคมแห่งสัจธรรมจะเป็นพื้นที่ปิดตายที่เต็มไปด้วยหมอกพิษร้ายแรงจากสารละลายอันเกิดจากการทดลองที่ผิดพลาด ภายในพลุกพล่านไปด้วยเหล่าสัตว์กลายพันธุ์รูปร่างบิดเบี้ยว เครื่องจักรที่หลุดจากการควบคุมและอื่น ๆ ส่วนพื้นที่ก็จะเป็นสถานที่มืดมิดเปื้อนฝุ่นที่ไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาหลายต่อหลายปี…
แต่ไม่คิดเลยว่าในสังสาระจักรกลที่ชั้นใต้ดินของสมาคมแห่งสัจธรรมจะมีสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์และซับซ้อนขนาดนี้อยู่ มันดูราวกับเป็นอีกโลกหนึ่งที่กำลังทำงาน!
แค่เห็นก็ชวนให้หนังศีรษะชายิบ!
ในสถานที่ต้องห้ามของสมาคมแห่งสัจธรรมที่ถูกปิดตายเพราะขาดกุญแจมาหลายต่อหลายปีกลับมีสถานที่ที่เป็นระเบียบเรียบร้อยขนาดนี้อยู่ ดูไปแล้วก็แทบไม่ต่างอะไรกับสถานที่ทดลองขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่เคยเห็นมาเลย
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ในช่วงหลายร้อยปี หรือกระทั่ง…หลายพันปีมานี้ พวกเขาก็ซุ่มเงียบอยู่ในกลไกอันซับซ้อนของสังสาระจักรกลราวกับเป็นปรสิตมาแต่แรกเลยเหรอ?
แต่ปรากฏว่านักวิชาการของสมาคมแห่งสัจธรรมกลับไม่รู้เลยว่าพวกเขาอาศัยอยู่กับสิ่งเหล่านี้ใกล้เพียงหนึ่งผนังกั้น
แค่คิดก็เกินพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนขนลุกขนพอง
นี่คือศัตรู…หรือเศษซากของอดีตกันแน่?
ในขณะที่โจเซฟกำลังรอคำตอบจากแอนดรูว์อยู่นั้น เขาก็กวาดสายตาอย่างเร็ว ๆ ไปรอบ ๆ แล้วอัศวินที่ติดตามเขามาก็กระจายกำลังกันปกป้องเหล่านักวิชาการทั้งสองที่เกือบไร้สมรรถภาพในการต่อสู้ไว้ตรงกลาง
เขาขมวดคิ้วอย่างดุดัน และยิ่งเขามองไป ก็ยิ่งรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ประการแรกคือ ‘สิ่ง’ เหล่านี้นอกจากรูปลักษณ์แล้ว ดูเหมือนพวกมันจะไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับคำว่า ‘มนุษย์’ เลย
โจเซฟมั่นใจได้ว่าเมื่อพวกเขาเข้ามา เจ้าพวกที่อยู่ข้างในจะสามารถมองเห็นพวกเขาได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่มีการตอบสนองใด ๆ และยังคงทำงานต่อไปเหมือนกับพวกเขาเป็นอากาศธาตุ
บางทีสิ่งเหล่านี้…อาจจะไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง
ประการถัดมาคือ อุปกรณ์และสถานที่ทั้งหมดรวมไปถึงพื้น ถึงจะเก่าแต่ก็สะอาดมาก
นี่หมายความว่าสิ่งเหล่านี้เก่าแก่มาก แต่ก็ถูกใช้งานอยู่บ่อย ๆ…
สิ่งเหล่านี้น่าจะย้อนแย้งกันเอง แต่หากใช้สมมติฐานเดิมจะดูสมเหตุสมผลขึ้นมา ที่ใต้ดินของสมาคมแห่งสัจธรรมมีอีกองค์กรหนึ่งที่แฝงตัวเป็นกาฝากอยู่อย่างลับ ๆ มานานแสนนาน ในสถานที่ต้องห้ามใต้จมูกของพวกเขาเอง
แต่ปัญหาก็เกิด…
เป็นไปไม่ได้เลยถ้าพวกเขาจะอยู่รอดได้ด้วยตัวเองในพื้นที่ปิดตายแบบนี้ ดังนั้นนอกจากเส้นทางสายที่ฮู้ดเพิ่งเปิดแล้ว แปลว่าต้องมีเส้นทางอีกสายหนึ่งที่เชื่อมระหว่างบนดินกับใต้ดินได้!
จากนั้นก็สามารถสรุปข้อเท็จจริงที่มีความเป็นไปได้สูงขึ้นมาได้อีกข้อ นั่นคือจะต้องมีไส้ศึกในสมาคมแห่งสัจธรรมที่ช่วยเหลือพวกเขาอยู่ แล้วคอยสนับสนุนทรัพยากรและความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้พวกเขา!
ความคิดของโจเซฟแล่นเร็วจี๋ราวกับสายฟ้า เมื่อรวมมันเข้ากับเหตุไส้ศึกก่อนหน้านี้ของสมาคมแห่งสัจธรรมแล้ว ตัวเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที
แอนดรูว์รู้สถานการณ์ทุกอย่างที่นี่ดีอยู่แล้ว หรืออย่างน้อยเขาก็ต้องรู้ว่าจะมีคนอยู่แถวนี้จริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายในครั้งนี้ของเขาอาจจะเป็นการให้โจเซฟมาช่วยเขาจับไส้ศึกมากกว่าจะเป็นการเก็บกวาดพื้นที่เสี่ยง
แม่โว๊ย!! ตาแก่ชุดสูทแต่ละคนนี่มีแต่พวกเฮงซวยจริง ๆ เจ้านี่ก็แค่อยากใช้หอพิธีกรรมต้องห้ามเป็นเครื่องมือ!
โจเซฟก่นด่าอยู่ในใจ
กลุ่มคนที่จัดขบวนเหมือนดาวล้อมเดือนถอยไปอยู่ที่มุมห้องกันชั่วคราว
แม้ว่าสิ่งที่ดูคล้ายมนุษย์เหล่านี้จะยังไม่ตอบสนองต่อการมีอยู่ของพวกเขาในขณะนี้ แต่ก็คงไม่อาจปักใจเชื่อได้ว่าศัตรูทั้งหมดนี้หูหนวกตาบอด
การเตรียมการก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ
“มนุษย์ประดิษฐ์” แอนดรูว์สูดหายใจลึกแล้วตอบอย่างแน่วแน่ “พวกนี้คือ…มนุษย์ประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ศิลานักปราชญ์เป็นแกนกลาง”
โจเซฟหันไปจ้องเขา “มนุษย์ประดิษฐ์? พวกมันมาจากแผน ‘เทวรูปดิน’ ของคุณเหรอ?”
แอนดรูว์พยักหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อน “ใช่…แต่ก็มีความต่าง เพราะผลลัพธ์ของโครงการ ‘เทวรูปดิน’ ของเราจนตอนนี้พูดได้ว่าล้มเหลว”
“แล้วพวกที่อยู่ที่นี่ทำได้สำเร็จเหรอ?” โจเซฟเข้าใจคำพูดของแอนดรูว์ได้ทันที แล้วชี้ไปทางสิ่งคล้ายมนุษย์ไร้อารมณ์เหล่านั้น
แอนดรูว์ตอบว่า “ใช่ครับ แต่ก็ไม่เชิง”
ไอ้บ้านี่…!
โจเซฟอยากจะต่อยผู้ชายคนนี้สักหมัดจริง ๆ แต่ก็กลั้นไว้แล้วเตือนว่า “คุณควรพูดให้ชัดเจนนะ”
“ความสำเร็จของมนุษย์ประดิษฐ์พวกนี้คือ ร่างกายของพวกเขาผสมผสานลงตัวกับศิลานักปราชญ์คุณภาพสูงสุดในตัวพวกเขาอย่างสมบูรณ์แบบ อาจจะเรียกได้ว่าไร้ที่ติ”
“อีเธอร์สามารถทำงานได้อย่างไร้สิ่งกีดขวางในร่างกายของพวกเขา ผมเชื่อว่าคุณเองก็น่าจะสัมผัสได้เหมือนกันว่าความสั่นพ้องของพวกเขาอยู่ในระดับที่น่ากลัวมาก ดังนั้นขอแค่พวกเขาได้เรียนรู้และเลียนแบบมนุษย์ พวกเขาก็จะกลายเป็นนักเวทที่แข็งแกร่งหรือนักวิชาการที่ยอดเยี่ยมได้ทันที แค่จากมุมมองนี้ พวกเขาก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สำเร็จสมบูรณ์แบบได้แล้วครับ”
แอนดรูว์พูดราวกับไม่เห็นสีหน้าอยากฆ่าคนของโจเซฟ “แต่ที่ผมบอกว่าพวกเขาไม่สำเร็จ ก็เพราะพวกเขาถูกลบความคิดไปครับ”
“มนุษย์ประดิษฐ์ที่ไม่มีความคิดก็เป็นได้แค่เครื่องมืออำนวยความสะดวก เรียกว่าคนไม่ได้หรอกครับ”
สีหน้าของเขาซับซ้อนยิ่งขึ้น “แต่ผมคิดว่า ความผิดพลาดนี้อาจจะเกิดขึ้นโดยจงใจครับ”
“จงใจ…” โจเซฟพูดทวนคำแล้วถามกลับ “หรือว่าคนที่สร้างพวกมันขึ้นมาไม่ได้ไร้ความสามารถ แต่แค่ต้องการเครื่องมือเพียงอย่างเดียวเหรอ?”
ในใจเขาตะลึงงัน…
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง พลังและความใจกล้าของบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อาจน่ากลัวกว่าที่พวกเขาคิดไว้!
เขาเคยได้ยินเรื่องโครงการมนุษย์ประดิษฐ์นี้มาก่อน ทรัพยากรที่สมาคมแห่งสัจธรรมทุ่มให้กับโครงการนี้อยู่เหนือจินตนาการ แต่มนุษย์ประดิษฐ์ที่สมบูรณ์แบบมากมายขนาดนี้ก็ย่อมต้องการทรัพยากรมากกว่านั้น
ทุ่มเทไปมากมาย แต่สุดท้ายก็ใช้ผลลัพธ์เป็นแค่เครื่องมือ คิดยังไงก็ฟุ่มเฟือยเกินไป หากปลูกฝังให้มีพลังแข็งแกร่งได้ล่ะก็…เว้นแต่ว่า…
โจเซฟมีความคิดหนึ่งในใจ
เว้นแต่ว่าคน ๆ นั้นจะอยู่ในระดับเหนือนภา เขาก็จะไม่ต้องการของใช้แล้วทิ้งพวกนี้มาช่วยอะไรเขา
“ยิ่งไปกว่านั้น ต้นแบบของพวกมัน…”
แอนดรูว์พูดช้า ๆ ทีละคำขณะมองมนุษย์ประดิษฐ์ชุดขาวที่เดินผ่านมา “ยืนยันได้ว่านี่คือ T1383 หนึ่งในสามของมนุษย์ประดิษฐ์ที่สูญหายไปหลังจากเกิดเหตุระเบิดเครื่องลูปครั้งก่อน”
“หลังจากการโจมตีครั้งนั้น พวกเราต่างคิดว่าตัวอย่างพวกนี้คงจะถูกคนทรยศส่งไปที่อื่นแล้ว ดังนั้นพวกเราเลยออกค้นหาไปทั่วนอร์ซิน แต่ก็ไม่ได้ผลลัพธ์ใด ๆ อยู่ดี…”
“ปรากฏว่าพวกเราทุกคนคิดผิด พวกเขาไม่เคยจากสังสาระจักรกลไปไหนเลย”
—