ตอนที่ 743 จุ๊บๆ ปะทะ จุ๊บๆ
นอนขดตัวเป็นกุ้งด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัยอะไรกัน? เห็นชัดๆว่าเธอซ่อนระเบิดเวลาที่ไม่สามารถต่อกลอนได้ไว้ในอ้อมกอด!
แล้วเขาก็เป็นคนนั้นที่โดนระเบิดจนปลิว…
เหนียนเสี่ยวมู่สบตาเขาแล้วรีบกดเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็นอนลงอีกครั้งพลางอธิบายอย่างอ่อนแรง
“เอ่อ เมื่อกี้ตอนที่ฉันเพิ่งลงไปข้างล่าง ฉันทำให้เธอตื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เลยได้แต่พาเธอขึ้นมานอนด้วย…สาบานได้ ฉันปลุกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ! ”
อวี๋เยว่หาน “…”
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาอันปราดเปรียวของเธอ ดวงตาเข้มของอวี๋เยว่หานก็เปลี่ยนเป็นล้ำลึก ฉายแววความเจ้าเล่ห์
รู้ว่าเธอโกหกอยู่เห็นๆก็อดไม่ได้ที่จะเปิดโปงเธอ
ในหัวฉายภาพวิดีโอสองตอนนั้นที่ดูอยู่ในห้องหนังสือเมื่อครู่นี้
ดวงตาสว่างวาบ
พอเห็นสองแม่ลูกกำลังกอดกัน ดวงตาที่สว่างไสวกลายเป็นอ่อนโยน
เขาเพียงถอดเสื้อคลุมโยนไปด้านข้างโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วเอื้อมมือไปอุ้มแม่ลูกทั้งสองมากอด
“นอนเถอะ ผมนอนกับพวกคุณด้วย”
–
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น พอเหนียนเสี่ยวมู่ตื่นขึ้นมาข้างกายก็ไม่มีใครอยู่แล้ว
เธอเหลือบดูเวลาก็เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า
ไม่ใช่แค่อวี๋เยว่หาน แต่ไม่เจอแม้แต่เสี่ยวลิ่วลิ่ว
เธอเลิกผ้าห่มออก จัดแจงตัวเองง่ายๆแล้วใส่เสื้อคลุมลงไปข้างล่าง
พอเดินมาถึงหน้าบันไดก็ได้ยินบทสนทนาทั่วไปของสองพ่อลูกลอยมาจากห้องนั่งเล่น
เสี่ยวลิ่วลิ่ว : “ป่าป๊า ป่าป๊าไปเรียกหม่าม้าตื่น เดี๋ยวพอทานอาหารเช้า หนูจะให้ไข่หนึ่งฟองเป็นรางวัล!”
อวี๋เยว่หาน : “หนูไปสิ ป่าป๊าจะให้ไข่สองฟองเป็นรางวัล”
เสี่ยวลิ่วลิ่ว : “ป่าป๊านั่นแหละ หนูจะให้จุ๊บๆเจ้าหญิงน้อยเพิ่มอีกหนึ่งที!”
อวี๋เยว่หาน : “ป่าป๊าเพิ่มจุ๊บๆพระราชาให้หนูหนึ่งทีก็ได้”
เมื่อเสี่ยวลิ่วลิ่วเห็นว่ากำลังจะแพ้ ใบหน้าเล็กๆแดงก่ำพร้อมกับบุ้ยปาก : “ถ้าป่าป๊าไปเรียกหม่าม้า คืนนี้หนูจะยกหม่าม้าให้!”
อวี๋เยว่หานดวงตาหดลง : “ป่าป๊า…เอาล่ะ หนูชนะ!”
อวี๋เยว่หานอุ้มลูกสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนวางลง เขายอมแพ้แต่โดยดีและลุกขึ้นจากโซฟา พอหันไปก็เห็นเหนียนเสี่ยวมู่มองเขาด้วยหน้าตามึนงงอยู่ที่หน้าบันได
มือข้างหนึ่งสอดกระเป๋ากางเกงพลางยิ้มมุมปาก “ตื่นแล้วสินะ”
“…” เธอยังคงมึนๆ
อวี๋เยว่หานเดินไปตรงหน้าเธอแล้วจูงเธอมาที่ห้องอาหาร
“ทานอาหารเช้าด้วยกัน พอทานเสร็จแล้ว เราไปส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วไปโรงเรียนอนุบาลกัน”
“……”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เหนียนเสี่ยวมู่ก็มีท่าทีประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม
พวกเขาจะต้องไปทำงาน ปกติแม่บ้านจะเป็นคนไปรับส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วไปโรงเรียนอนุบาลตลอด
มีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่เลิกงานก่อนเวลาถึงจะได้ไปรับเธอ
ทำไมจู่ๆวันนี้เขาถึงคิดจะไปส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วที่โรงเรียนอนุบาลล่ะ?
เมื่อมองคนร่างสูงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขาดูแปลกไป?
พอพวกเขาสามคนทานอาหารเช้าเสร็จและเตรียมตัวจะออกจากบ้าน เธอก็ถามเขาด้วยความใส่ใจ
“อวี๋เยว่หาน คุณไม่เป็นอะไรนะ?”
อวี๋เยว่หาน “หือ?”
เหนียนเสี่ยวมู่ผงะไปสักพักเมื่อถูกถามกลับ เธอโบกมือ “ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ”
เมื่อดูท่าทางของเขาไม่ได้เป็นอะไร เหนียนเสี่ยวมู่ก็โล่งอก
เธอตามเขาไปส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วที่โรงเรียนอนุบาลด้วยกัน จากนั้นทั้งสองก็เข้าบริษัทพร้อมกัน
ช่วงนี้เหนียนเสี่ยวมู่หยุดพักไปหลายวันเนื่องจากเรื่องตระกูลสิง
โดยหลักแล้วที่บริษัทจะมีผู้ดูแลหลายคนทำหน้าที่ในการดูแลกิจการภายใน พอเห็นเธอกลับมาจากการลาพัก ทุกคนก็พากันออกมาต้อนรับ
“มีเรื่องมาแจ้งให้ทีมงานทุกคนทราบ จัดการคดีที่อยู่ในมือของพวกคุณซะ อีกสิบนาทีพวกเราจะมีการประชุม” ทันทีที่เหนียนเสี่ยวมู่เข้าสู่สถานะการทำงาน เรื่องอื่นจะต้องเก็บออกไปก่อน
บรรยากาศแผนกประชาสัมพันธ์ครึกครื้นเพราะการกลับมาของเธอ
ตอนที่ 744 นี่ไม่ใช่ฉัน!
ห้องทำงานท่านประธานชั้นบนสุด
บรรยากาศย่ำแย่ยิ่งกว่าแผนกประชาสัมพันธ์ที่สามัคคีปรองดองกัน
ความกดอากาศต่ำทั้งยอดตึกดูเหมือนจะกระจุกตัวอยู่เป็นแถบๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าอึดอัด
ตอนที่ผู้ช่วยพาเซียวเวยเข้ามา อวี๋เยว่หานก็กำลังนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน
สายตากำลังจดจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง บนหน้าจอกำลังแสดงภาพวิดีโอสองตอนนั้นของเมื่อคืนวนไปวนมา
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนที่เข้ามา ดวงตาสีเข้มของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อยและค่อยๆเงยหน้าขึ้น แววตาเยือกเย็นและมืดมนกวาดมองมาทางเซียวเวยที่อยู่ด้านหลังผู้ช่วย
“คุณ คุณชายหาน…”
ตอนแรกเซียวเวยถูกเหวินหย่าไต้ซื้อตัวเพราะคิดจะสวมรอยเป็นแม่เสี่ยวลิ่วลิ่วและฉ้อโกงเงินจำนวนหนึ่ง
แต่สุดท้ายก็โดนจับได้และให้ตำรวจพาตัวไปสอบสวน
เมื่อเทียบกับการทำผิดกฏหมายของเหวินหย่าไต้แล้ว เธอก็ยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลย ดังนั้นเธอจึงได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกควบคุมตัวเป็นระยะเวลาหนึ่ง
ตอนนี้เธอกลับตัวกลับใจแล้วหลังจากที่ได้รับบทเรียน
แต่ไม่คิดว่าจู่ๆอวี๋เยว่หานจะให้คนมาตามเธอ
เซียวเวยคิดว่าอวี๋เยว่หานไม่ยอมปล่อยเธอไปเพราะเรื่องนั้น ดังนั้นทันทีที่เข้ามาในห้องทำงานท่านประธาน เธอก็หวาดกลัวจนหน้าซีด ขาอ่อนยวบ
น้ำเสียงสั่นเทา
เธอรีบร้อนพูดออกมาโดยไม่รอให้อวี๋เยว่หานเอ่ยปาก “คุณชายหาน ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ ฉันนอนโรงพยาบาลมาตั้งหลายวันและยังถูกกักบริเวณมานานแล้ว ฉันได้รับบทเรียนแล้ว ทุกวันนี้ฉันทำงานอย่างขยันขันแข็ง บางครั้งก็ยังไปช่วยดูแลผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์อีกด้วย”
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้ช่วยก็ก้าวไปข้างหน้า
“ที่คุณชายหานเรียกคุณมา ไม่ได้ต้องการให้คุณทำอะไร ส่วนเรื่องก่อนหน้านี้ศาลก็ได้ตัดสินแล้ว ถ้าอยากจะแก้แค้นคุณคงไม่ต้องรอมาจนถึงป่านนี้หรอก ที่คุณหานเรียกคุณมาก็แค่อยากจะถามอะไรคุณสักหน่อย แค่เพียงคุณพูดความจริงก็จะไม่มีอะไร”
“ฉันพูด! ตราบใดที่ฉันรู้ ฉันจะพูดให้หมด!” เซียวเวยโล่งใจเมื่อได้ยินว่าเขาไม่ได้ตามเธอมาคิดบัญชี ทั้งยังมีท่าทีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทันทีที่สิ้นเสียง ผู้ช่วยก็พาเธอก้าวเข้ามาข้างหน้า และให้เธอดูวิดีโอสองตอนนั้นบนคอมพิวเตอร์
เซียวเวยตกตะลึงเมื่อเห็นคนในวิดีโอพลางมองหน้าผู้ช่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
“นี่ไม่ใช่ฉัน”
“แน่ใจนะว่าไม่ใช่คุณ? ผู้หญิงในวิดีโอค่อนข้างเหมือนคุณ” คนที่พูดคราวนี้ไม่ใช่ผู้ช่วย แต่เป็นอวี๋เยว่หาน
คำพูดของเซียวเวยเหมือนเปิดโปงคำโกหกที่เขาอุปโลกน์ขึ้นมาเอง
เห็นๆอยู่ว่าเดาถูกแล้วแต่ยังไม่ยอมรับ
“ไม่ใช่ฉันจริงๆค่ะ คนในวิดีโอแค่มีส่วนคล้ายกับฉัน แต่สวยกว่าฉันมาก อีกอย่างวิดีโอแรกก็มีวันที่บอกไว้นี่ว่าถ่ายเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันกำลังเดินทางไปเที่ยวที่ต่างประเทศกับกรุ๊ปทัวร์ราคาประหยัด เดินทางไปยังหลายประเทศในยุโรป ฉันไม่ได้อยู่ในประเทศตอนที่วิดีโอถ่ายได้เสียหน่อย จะเป็นฉันไปได้ยังไง”
เซียวเวยส่ายหัวคล้ายกับป๋องแป๋งของเล่นเด็ก
ทันใดนั้นก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอพูดด้วยสงสัย
“ถึงคนในวิดีโอจะไม่ใช่ฉัน แต่พวกคุณก็น่าจะเคยเจอแล้ว ฉันจำได้ว่าวันนั้นไม่ใช่ว่ามีคนยืนแฉฉันว่าฉันไม่ใช่แม่แท้ๆของคุณหนูอวี๋ที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋หรอกเหรอ ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเหมือนคนในวิดีโอทุกประการ ทำไมพวกคุณไม่ไปสงสัยเธอล่ะ?”
เธอพูดจบได้ไม่นาน ต่อมาผู้ช่วยก็วางสายโทรศัพท์และเดินกลับมาอีกครั้ง
“คุณชายหาน ผมโทรไปถามบริษัทนำเที่ยวมาแล้ว สองปีก่อนตอนที่คุณหนูปรากฏตัวที่บริษัทตระกูลอวี๋ เธอไม่ได้อยู่ในประเทศจริงๆครับ”
ไม่ใช่เธอจริงๆด้วย…
และแม้แต่เซียวเวยก็มองออกทันทีว่าคนในวิดีโอนั้นเหมือนเหนียนเสี่ยวมู่ยิ่งกว่า อวี๋เยว่หานจะมองไม่ออกได้อย่างไร