ตอนที่ 257 : คุณหนูใหญ่ฟางอี้
ในฐานะ 1 ใน 10 ผู้เยาว์ที่โดดเด่น ข้อมูลและรูปของหวังเย่าจึงถูกเผยแพร่ลงในอินเตอร์เน็ต มันมีข่าวมากมายเกี่ยวกับเขา
รึต่อให้ไม่ได้เป็นผู้เยาว์ที่โดดเด่นแต่เรื่องของเขาในเมืองหัวเซี่ยก็โด่งดังอย่างมาก เขาประสบความสำเร็จจนกลายเป็นคนที่โดเด่น
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังถือได้ว่าเป็นเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดด้วย
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนจำเขาได้ หวังเย่าเองก็รู้เรื่องนี้ เขารู้ว่าในอินเตอร์เน็ตถึงกับมีแฟนคลับของเขาด้วย
สำหรับแฟนคลับพวกนี้ หวังเย่าได้แต่ทำใจ เป็นธรรมดาที่คนจะต้องมีแฟนคลับ
มันทำให้ฟ่านฉิงเหมยและจ้าวเมิ่งซีเหมือนจะสนใจเขาขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
หวังเย่ามองไปยังผู้หญิงตรงหน้า เขาไม่รู้เลยว่าเธอคิดอะไรอยู่
“ดูเหมือนว่านายจะมาร่วมงานเลี้ยงของอาซานด้วยสินะ” เธอพูดขึ้น
“ถูกแล้ว” หวังเย่าพยักหน้า เขามองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เมื่อเธอเรียกเขาว่าอาซาน งั้นเดาว่าฐานะของเธอคงไม่ธรรมดา ไม่อย่างงั้นเธอคงไม่ใส่ชุดนอนอยู่ที่นี่”
“นายจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ฉันไม่อยากสนใจ” เธอแสดงท่าทีภูมิใจออกมา
ยิ่งได้ยินแบบนั้นหวังเย่าก็ยิ่งสนใจขึ้นมา
“เธอไม่สนใจจริง ๆ หรือ ? งั้น…ถ้าฉันเรียกคนอื่นมาล่ะ”
“นี่นาย…” เธอไม่อยากจะพูดกับหวังเย่าต่อ
แต่ตอนนั้นเองเมื่อเห็นหวังเย่ามองมาที่เธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
เธอเริ่มรู้สึกแย่ขึ้นมา และอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ นายมีอะไร ? ”
“เธอติดไฟน่ะ” หวังเย่ามองไปที่เธอแล้วพูดขึ้น
“หือ…” เธอแปลกใจ เธอยังพูดไม่ทันจบก็ก้มมองตัวเองและพบว่าชุดนอนของเธอเริ่มไหม้
เนื่องจากเปลวไฟสีดำนี้ไม่มีอุณหภูมิ ดังนั้นยามที่มันเผาไหม้ มันจึงเผาไหม้ได้อย่างเงียบ ๆ แม้แต่กลิ่นเหม็นไหม้ก็ไม่มี ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ตัว
โชคดีที่เธอรู้ตัวเร็วและรีบเก็บไฟสีดำไปได้ทัน
เมื่อมองดูชุดนอนที่ไหม้และร่างกายที่ไม่ได้เปิดเผยออกมามากนัก เธอก็โล่งอกขึ้นมาทันที
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาเธอก็รู้สึกได้ถึงลมเย็น ๆ ที่พัดเข้าใส่ตัว เธอลองเอามือเอื้อมไปจับและรู้สึกได้ถึงความนุ่มและเนียนของแผ่นหลัง
มันเป็นเพราะชุดด้านหลังของมันเธอโดนเผาขาดไปชิ้นใหญ่ มันเผยให้เห็นถึงผิวอันขาวนวลของเธอ
“นายหันกลับไปเลย อย่าหันมามอง” เธอรีบตะโกนออกมาก่อนจะหันกลับมามองที่หวังเย่าด้วยสีหน้าเขินอาย
หวังเย่าลูบจมูกก่อนจะหันหลังให้เธอ แต่ความคิดของเขาก็ยังวนเวียนที่ผิวอันขาวนวลเมื่อตะกี้
“ห้ามคิดอะไรกับเธอเด็ดขาด ฉันมีแฟนอยู่แล้ว 2 คน” หวังเย่าบอกกับตัวเอง
ตอนนั้นเองเขาก็เริ่มถอดเสื้อของตัวเองออก
“นะ นะ…นายคิดจะทำอะไร ? ฉันเตือนนายก่อนนะว่าอย่าสร้างปัญหา ฉันน่ะเป็นคนใหญ่โตของศาลาว่าการ” เมื่อเห็นหวังเย่าเริ่มถอดเสื้อ เธอก็กังวลขึ้นมา เธอรีบบอกฐานะของตัวเองทันที เธอแสดงท่าทีอ่อนแอของตัวเองออกมา ผิดกับความแข็งแกร่งระดับ A ที่เธอมี
ด้วยเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นนี้จึงทำให้เธอสติหลุดไปครู่หนึ่ง
หวังเย่าถอดเสื้อออกก่อนจะโยนมันให้กับเธอ
“ใส่ซะสิ” หวังเย่าที่ยังคงหันหลังให้กับเธอได้พูดขึ้นมา
“ฉันไม่ต้องการมันหรอก” เธอยังคงดื้อด้าน
“งั้นเธอจะกลับไปในสภาพนี้เนี่ยนะ ? ” หวังเย่าขมวดคิ้วและพูดขึ้น
“เอ่อ…” เธอก้มหน้าและคิดสักพักก่อนที่สุดท้ายจะหยิบเอาเสื้อที่หวังเย่าโยนมาให้ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
หวังเย่าหันกลับไปและมองไปยังคนที่สร้างปัญหาทั้งหมด นกกระจอกเพลิงดำ
ตอนนั้นมันนอนอยู่ที่ไหล่ของเธอ มันทำท่าใสซื่อแต่สายตาของมันกลับแสดงความเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ชัดแล้วว่านกกระจอกเพลิงดำไม่ได้โง่ มันตั้งใจทำแบบนี้แต่เหตุผลนั้นไม่อาจจะทราบได้
คงมีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ ?
“ตอนนี้เธอไม่คิดจะหยุดฉันแล้วสินะ คุณหนูใหญ่ ? ” หวังเย่า หันกลับไปมองและพูดด้วยรอยยิ้ม
ด้วยการที่พูดคุยกันมานาน หวังเย่าก็พอจะเดาตัวตนของเธอออก เธอคือลูกสาวของเจ้าเมือง พี่สาวของฟางซาน ฟางเอ้อร์
ในศาลาว่าการเมืองนี้ยังมีลูกของเจ้าเมืองอีก 2 คน แต่หวังเย่าไม่เคยเจอทั้งสองคนมาก่อน ดังนั้นตัวตนของทั้งสองจึงดูลึกลับมากว่าฟางซาน
ข่าวเกี่ยวกับเธอในอินเตอร์เน็ตเป็นที่พูดถึงกันมากมาย ว่ากับว่าเธอเป็นสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างระดับสูงกลุ่มหนึ่ง
ส่วนที่น่าตกใจที่สุดคือกลุ่มทหารรับจ้างนี้รับเฉพาะผู้หญิง มันทำให้คนหลายคนสนใจ หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างนี้ก็เป็นผู้หญิงที่แปลกประหลาด เธอเคยฆ่าสัตว์อสูรมานับไม่ถ้วน
เธอเป็นที่รู้จักกันในชื่อราชินี เธอมีแฟนคลับจำนวนมาก เธอคือไอดอลของผู้หญิงทั้งโลก
และในฐานะลูกสาวของเจ้าเมืองนี้เป็นธรรมดาที่จะเป็นที่สนใจของใครหลายคน ซึ่งนั่นไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งเท่านั้นแต่ยังเป็นเพราะความสวยด้วย
…
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า ฟางอี้ก็อยากจะพูดบางอย่างออกมาแต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นซะก่อน
“พวกเธอทำอะไรกัน ? ” เมื่อเสียงนั้นพูดจบก็มีร่างหนึ่งเดินเข้ามา
“เจ้าเมือง” หวังเย่ารีบทำความเคารพทันที
สีหน้าของฟางอี้เปลี่ยนไปทันที เธอรีบพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเคารพ “ท่านพ่อ”
ฟางฉิงหัวมองไปที่หวังเย่าก่อนจะพยักหน้าให้ เขาให้ความสำคัญกับหวังเย่าอย่างมาก
จากนั้นเขาก็มองไปที่ฟางอี้ เมื่อเห็นสภาพของเธอแล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้ว ยิ่งเห็นว่าเธอใส่เสื้อนอกของผู้ตรวจสอบอยู่และ หวังเย่าใส่แค่เสื้อยืด เขาก็สงสัยขึ้นมาทันที
“เอ่อ…”