ตุบ!
หน้าผากจวินโม่ซีถูกทุบจนแตก
มู่เฉียนซี “ชีชิง นี่เจ้าทำอะไร?”
“เขาปฏิเสธการทำพันธสัญญามาก ไม่ยอมเสียเลือดมาทำพันธสัญญา ข้าก็ทำได้แค่วิธีนี้แล้วเพื่อเอาเลือดของเขา วางใจได้ ก็แค่แตกนิดหน่อยไม่เสียโฉมแน่นอน”
“เจ้าหมอนี่ก็นิสัยแกร่งกร้าวและหยิ่งในศักดิ์ศรีเกินไปแล้ว แต่ท่านผู้ยิ่งใหญ่วางใจได้ ต่อให้เขาหม้ายพรหมจรรย์ ข้าก็สามารถทำให้เขา……”
จวินโม่ซีกับมู่เฉียนซีแทบทรุดแล้ว นี่ตกลงเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์หรือว่าสิ่งใดกันแน่……
ชิงมู่รู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างยิ่ง ปกติเจ้าหมอนี่ก็ไม่ได้ทำตัวปกติอยู่แล้ว น่าจะเพิ่งถูกปลดผนึกออก สมองก็เลยสับสน ถึงได้ทำคิดเรื่องชั่ว ๆ เช่นนี้ได้
“ข้าไม่อยากทำพันธสัญญากับหม้อโรคจิตนี่ ช่วยข้าด้วย!”
ไม่ว่าจวินโม่ซีจะขัดขืนเช่นไร ก็ยังคงไม่สามารถขัดขืนชะตากรรมที่ถูกทำพันธสัญญานี้ได้
เมื่อเขารับรู้ว่าได้ทำพันธสัญญากับหม้อโรคจิตนี้แล้ว ชั่วครู่หนึ่งก็รู้สึกมืดฟ้ามัวดินขึ้น ชีวิตนี้ต้องแย่เป็นแน่แล้ว
“สาวน้อย ข้าเกลียดเจ้า! ข้าไม่น่าลงมาเลย!” จวินโม่ซีแทบจะแผดเสียงแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “สงบสติอารมณ์หน่อย ถึงอย่างไรมันก็เป็นของล้ำค่าที่ยากจะได้กันง่าย ๆ นะ”
“เจ้าจะให้ข้าสงบสติอารมณ์ได้เช่นไร!” จวินโม่ซีแทบจะร้องไห้แล้ว
“ได้ยินมาว่าในหม้อของมันมีสมุนไพรวิญญาณอยู่ไม่น้อยเลย เจ้าให้มันเอาออกมาดูสิ”
“นี่เพียงเพราะว่าสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้เนี่ยนะ เจ้าถึงกับต้องขายข้า!” แววตาของจวินโม่ซีตอนนี้โศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่าเขาจะอึดอัดใจ และทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่เขาก็ยังเชื่อฟัง ไม่นานนักก็ให้หม้อชีชิงซวนเอาของเหล่านั้นออกมา
“สมุนไพรวิญญาณเต็มไปหมด!”
มิน่าล่ะ การดำรงอยู่ของมันถึงสามารถควบคุมค่ายกลใหญ่อย่างภูเขาโอสถนั้นได้
ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกายขึ้น และได้หยิบสมุนไพรในกองนั้นขึ้นมาสองชนิด
“นึกไม่ถึงว่าสมุนไพรสองชนิดที่ช่วยเสริมยาหยินหยางก็มีอยู่ในนี้ด้วย ช่างดียิ่งนัก!”
นางเอาแค่สองชนิด อย่างอื่นไม่แตะต้องแม้แต่น้อย!
จวินโม่ซีกล่าว “สาวน้อย ที่ผ่านมาเจ้าใช้อำนาจบาตรใหญ่มาตลอดไม่ใช่เหรอ เห็นสมุนไพรวิญญาณมากมายไม่ได้ก็แย่งชิงไปจนเกลี้ยง เหตุใดตอนนี้ถึงไม่กวาดไปให้เกลี้ยงเหมือนตอนนั้นที่เจ้ากวาดเอาสมุนไพรในสวนข้าไปล่ะ”
มู่เฉียนซีกล่าว “นี่ไม่ใช่เพราะข้าเห็นว่าเจ้าอึดอัดใจหรอกเหรอ ข้าถึงใจดีเหลือสมุนไพรเหล่านี้เอาไว้ให้เจ้า ไม่ปล้นเจ้าน่ะ!”
“เจ้าก็รู้ว่าข้าอึดอัดใจ แล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่ขวางเอาไว้ล่ะ อีกทั้งยังเอาข้ามาขายอีก ในเมื่อเจ้าเอาข้ามาขายเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้าแล้ว อยากได้สิ่งใดก็เอาไปเลย!” ถึงแม้ว่าจวินโม่ซีจะเจ็บใจ แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่นางต้องการมาก
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่จำเป็น เจ้าเก็บเอาไว้เถอะ!”
“ขอรับ ท่านผู้ยิ่งใหญ่!” หม้อชีชิงซวนเก็บสมุนไพรเหล่านี้อย่างเชื่อฟัง
จวินโม่ซีรู้สึกปวดใจมาก “นี่ตกลงว่าข้าเป็นเจ้านายของเจ้า หรือว่านางเป็นเจ้านายเจ้ากันแน่ ถ้าเจ้าจะเชื่อฟังนางถึงเพียงนี้ เมื่อครู่ทำพันธสัญญากับนางไปก็สิ้นเรื่อง!”
“หากข้าทำพันธสัญญากับท่านผู้ยิ่งใหญ่ ฝ่าบาทต้องเอาข้าตายแน่ แม้แต่เสี่ยวชิงชิงก็คงจะไม่ปล่อยข้าไว้”
สีหน้าของจวินโม่ซีหมองคล้ำขึ้น “นั่นก็หมายความว่า เจ้าเห็นว่าข้ารังแกได้ง่ายที่สุดแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
ชีชิงกล่าว “ในใจของข้า อันดับแรกก็คือฝ่าบาท รองลงมาก็คือนายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนเจ้าก็เป็นได้แค่อันดับที่สาม”
“ในฐานะที่ข้าเป็นพันธสัญญาของเจ้า ข้าควรซาบซึ้งในบุญคุณของเจ้าอย่างนั้นเหรอ” จวินโม่ซีกล่าวด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“อย่าได้รู้สึกเคราะห์ร้ายเช่นนั้นเลย ข้าจะสั่งสอนเจ้าเป็นอย่างดี และทำให้เจ้ากลายเป็นนางสนมที่ท่านผู้ยิ่งใหญ่โปรดปรานมากที่สุด”
ตอนนี้ชีชิงยังไม่เปลี่ยนแปลงนิสัยที่ได้มาจากการเป็นสุนัขรับใช้ของนิรันดร์ วาจาที่กล่าวออกมานั้นจึงทำให้มู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีพูดไม่ออก!
นางสนม! จวินโม่ซีกัดฟันกรอด
“เจ้าไสหัวกลับเข้าไปในมิติพันธสัญญาเดี๋ยวนี้ แล้วหุบปากซะ”
ภายใต้การบีบบังคับของจวินโม่ซีที่โกรธเกรี้ยวนี้ ในที่สุดหม้อชีชิงซวนก็กลับเข้าไปในมิติ
โชคดีที่พลังแห่งมิติยังเป็นสิ่งที่ใช้ได้ผลมาก มิเช่นนั้นแล้วเขาต้องถูกเจ้าหม้อโรคจิตนี่ทำให้บ้าคลั่งได้แน่นอน
มู่เฉียนซียิ้มอย่างเห็นอกเห็นใจให้กับจวินโม่ซี “เดี๋ยวเจ้าก็ชินไปเอง เจ้านิรันดร์นั่นยังไร้เหตุยิ่งกว่าเจ้านี่ซะอีกเจ้าไม่รู้เหรอ แต่โชคดีที่เจ้านั่นตื่นขึ้นมาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่หลับใหลเป็นเวลานาน!”
“เป็นเพราะเจ้านั่นแหละ! ตอนนี้ข้ากำลังโกรธมาก ไม่อยากจะพูดกับเจ้า!”
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะเห็นอกเห็นใจเขา แต่จวินโม่ซีกลับรู้สึกว่านางกำลังกำลังมีความสุขกับความทุกข์ของผู้อื่นอยู่!
ตั้งแต่เจ้าชีชิงกลับเข้าไปในมิติพันธสัญญา บริเวณรอบ ๆ ก็พลันเงียบสงบลง
ชิงมู่กล่าว “นายท่าน ข้าได้ปลดผนึกชั้นที่สามออกแล้ว และมีของบางอย่างจะมอบให้นายท่าน”
มู่เฉียนซีตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “ของอันใด?”
ยาวิญญาณเจ็ดเม็ดคล้ายกับหยกขาวลอยขึ้นกลางอากาศ ชิงมู่กล่าว “นี่เป็นยาโชคลาภตี้หลิน ไม่ว่าพลังของนายท่านจะอยู่ในระดับใด ก็สามารถกลายเป็นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งได้ ไร้ซึ่งผลข้างเคียงใดใด และพลังก็จะไม่ถดถอยลงด้วย!”
สีหน้าของมู่เฉียนซีเผยความดีใจออกมา “นี่มันดีกว่ายาฟ้าดินซวนหวงมาก”
ทุกครั้งที่ใช้ยาฟ้าดินซวนหวงเพื่อเพิ่มกำลังในการต่อสู้ พลังที่ฝึกฝนไปอย่างยากลำบากก็ต้องถดถอยลง ตอนนี้มียาโชคลาภตี้หลินแล้ว ยาฟ้าดินซวนหวงตัดออกไปได้เลย
ถึงแม้ว่าจำนวนเจ็ดเม็ดนี้จะน้อยไป แต่นางก็ไม่สามารถพึ่งพาเม็ดยาวิญญาณไปตลอด
ชิงมู่กล่าว “นายท่านยังมีสิ่งใดให้ข้าทำอีกหรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ยังมีอีกเรื่อง เกี่ยวกับหม้อพิษสามอสูร หม้อพิษสามอสูรมีพันธสัญญากับท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาอยู่ เมื่อถึงตอนนั้นข้ากลัวว่าหากฆ่าท่านผู้เฒ่าไปแล้วจะเกิดเรื่องขึ้นกับหม้อพิษสามอสูร!”
นางได้รับปากกับตาเฒ่าประหลาดเอาไว้แล้วว่าจะต้องทำให้หม้อพิษสามอสูรกลับมามีอิสระดังเดิมให้ได้
ทว่า หากหม้อพิษสามอสูรถูกทำลายไปพร้อมกับท่านผู้เฒ่า เช่นนั้นหน้าที่ของนางที่ได้รับปากมาก็จะทำไม่สำเร็จ และนางก็ต้องรู้สึกผิด
ชิงมู่กล่าว “พวกเราไม่ใช่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป ต่อให้บีบบังคับให้พวกเรายอมรับเป็นเจ้านาย คนเหล่านั้นก็ทำได้แค่ทำพันธสัญญาได้ในระดับต่ำเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นนายท่านจัดการกับศัตรูได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องของหม้อพิษสามอสูรมอบให้เป็นหน้าที่ข้าจัดการก็ได้แล้ว”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “เช่นนั้นต้องรบกวนเจ้าแล้ว!”
มู่เฉียนซีโบกมือพลางกล่าว “จวินโม่ซี พวกเราไปกันเถอะ!”
จวินโม่ซีนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมมุมหนึ่ง ปลายนิ้วมือวาดพื้นเป็นวงกลมวน ๆ ไป “ข้าโกรธมาก ข้าไม่อยากจะสนใจเจ้า!”
“อ้อ! ไม่อยากสนใจข้าอย่างนั้นเหรอ เช่นนั้นเลี้ยงฉลองหลังสงครามจบเจ้าไม่ต้องมานะ!”
กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็เดินไป จวินโม่ซีตามไปทันที และกล่าวว่า “สาวน้อย รอข้าด้วยสิ!”
“เมื่อครู่ข้าก็แค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้น เจ้าอย่าคิดจริงสิ!”
“แล้วคืนเลี้ยงฉลอง เจ้าจะเตรียมของอร่อย ๆ อะไรเหรอ!”
หลังจากที่ตามไป จวินโม่ซีก็กลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก เหตุใดเขาถึงได้ไร้ซึ่งจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรีได้ถึงเพียงนี้
ครั้นแล้วเขาก็ถูกซื้อด้วยงานเลี้ยงฉลอง สาวน้อยผู้นี้ขุดหลุมพรางเขาชัด ๆ!
ในฐานะที่เป็นคนตะกละผู้หนึ่ง เขาไม่มีความสามารถที่จะปฏิเสธอาหารอันโอชะได้เลย ทำได้เพียงแค่ยอมรับเท่านั้น
ตอนนี้ หุบเขาหมอเทวดาได้โกลาหลขึ้นแล้ว!
หุบเขาหมอเทวดาได้ประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก รับมือเอาไว้ไม่อยู่แล้ว!
“ท่านผู้เฒ่า รีบถอยหนีเร็วเข้า พวกเรารับมือไม่อยู่แล้ว!”
“ท่านผู้เฒ่า เก็บชีวิตและทรัพย์สินเอาไว้ก่อน โอกาสหน้าจะได้ตั้งตัวได้ใหม่นะขอรับ!”
“……”
“ข้าไม่หนี!” ตอนนี้สีหน้าของหุบเขาเริ่มดำคล้ำขึ้นแล้ว แต่ยังคงยืนกรานที่จะปกป้องหุบเขาหมอเทวดาต่อไป!
เขามองหน้าทุกคนด้วยสีหน้าหม่นคล้ำ “พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าชนะแล้วอย่างนั้นเหรอ พวกเจ้าคิดว่าจะแย่งมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ไปได้อย่างนั้นเหรอ ข้าจะบอกให้พวกเจ้ารู้เอาไว้นะ ว่าฝันไปเถอะ!” การแสดงออกของท่านผู้เฒ่านี้ ทำให้ทุกคนต่างเป็นกังวลขึ้น ตาเฒ่าผู้นี้มีไพ่เด็ดอันใดอยู่กันแน่