เฟ่ยเข่อซินในตอนนี้ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เธอคิดว่าตั้งแต่มาเมืองจินหลิงจนถึงตอนนี้ ไม่ได้ล่วงเกินใครเลย อีกอย่างก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของตัวเองต่อภายนอกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากลั่วเจียเฉิงถูกคนฆ่าหรือว่าลักพาตัวจริงๆ อีกฝ่ายพละกำลังแข็งแกร่ง ถึงขั้นเหนือจินตนาการ ตัวเองไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางที่จะไปยั่วโมโหเจ้าพ่อแบบนี้ได้
ชั่วครู่หนึ่ง เธอเงยหน้ามองไปที่เย่เฉิน ในใจแอบคิดทันทีว่า : “ทั้งหมดนี้ เย่เฉินเป็นคนทำหรือเปล่า?!”
แต่ว่า ตอนที่เธอเห็นท่าทางที่จริงใจของเย่เฉิน ในใจก็อดคิดไม่ได้อีกว่า : “จะเป็นเย่เฉินได้ยังไงกันล่ะ……ไม่พูดถึงว่าเย่เฉินปฏิบัติตัวไม่เลวเลยจริงๆ อีกอย่างเขาก็ไม่มีแรงจูงใจที่จะลงมือจัดการกับฉันด้วย……”
“ยิ่งไปกว่านั้น เขาอายุน้อยขนาดนี้ พละกำลังจะอยู่เหนือกว่าคุณลั่วได้อย่างไรกัน?”
“อีกอย่าง เขาก็ทานข้าวอยู่กับฉันตลอด มีเพียงแค่ออกไปรับโทรศัพท์เท่านั้น ถ้าหากเวลาที่เขารับโทรศัพท์ก็สามารถจัดการคุณลั่วได้ อีกอย่างยังไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆอีก งั้นพละกำลังของเขาไม่ใช่ว่าต้องโคตรสุดยอดเลยงั้นเหรอ?”
คิดไปคิดมา เฟ่ยเข่อซินเริ่มขจัดความสงสัยที่มีต่อเย่เฉินโดยสิ้นเชิง
ดังนั้น เธอพูดกับเย่เฉินว่า : “คุณเย่ ฉันเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน อีกอย่างไม่ได้ก่อเรื่องสร้างปัญหาเลย ไม่รู้จริงๆว่าตัวเองไปล่วงเกินใครเข้าแล้ว……”
เย่เฉินพยักหน้า พูดอย่างจริงจังว่า : “ผมก็คิดเหมือนกัน ผู้หญิงสวยที่มีการศึกษาอย่างคุณจานเช่นนี้ จะไปล่วงเกินคนได้อย่างไรกันล่ะ”
พูดแล้ว เย่เฉินก็พูดอีกว่า : “จริงสิคุณจาน หรือว่าคนขับรถคนนี้ตัวเขาเองจะไปล่วงเกินคนเขาแล้วหรือเปล่าล่ะ?ไม่แน่เขาก็อาจจะมีศัตรูอยู่ที่เมืองจินหลิง ครั้งนี้มาเมืองจินหลิงแล้วเจอกับศัตรูพอดีก็ไม่แน่นะ!”
เฟ่ยเข่อซินส่ายหน้าพร้อมพูดว่า : “คุณลั่วรับใช้ตระกูลของเรามากว่าหลายปีแล้ว อีกอย่างจากที่ฉันทราบมา เขาไม่ได้กลับมาในประเทศอย่างน้อยยี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีศัตรูที่เมืองจินหลิง”
เย่เฉินทำปากจุ๊ๆ ขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า : “งั้นก็แปลกมากจริงๆ……”
พูดจบ เย่เฉินรีบพูดว่า : “คุณจาน ผมคิดว่าที่แห่งนี้ค่อนข้างเป็นอันตราย ไม่งั้นพวกเรากลับกันไปก่อนดีกว่า!ตอนนี้คุณไม่อยากแจ้งความก็ไม่เป็นไร กลับไปโรงแรมคิดหาทางอื่นว่าพอจะหาเบาะแสได้ไหมก่อน ถ้าหากพรุ่งนี้ยังไม่มีข่าวคราว ผมจะไปแจ้งความเป็นเพื่อนคุณเอง!”
เฟ่ยเข่อซินก็รู้สึกว่าอยู่ที่นี่ต่อไปก็ค่อนข้างไม่ค่อยปลอดภัย ดังนั้นก็มองไปยังเย่เฉิน พูดด้วยใบหน้าที่วิงวอนว่า : “คุณเย่ ฉันไม่มีกุญแจรถ ขับรถไม่ได้ รบกวนท่านช่วยพาฉันไปส่งที่โรงแรมหน่อยได้ไหม?”
เย่เฉินพูดตอบกลับอย่างสบายๆโดยที่ไม่ต้องคิดว่า : “ไม่มีปัญหาแน่นอน!ขึ้นรถเถอะ!”
พูดแล้ว เย่เฉินก็รีบเปิดประตูรถBMW530ข้างคนขับ พูดกับเฟ่ยเข่อซินว่า : “คุณหนูเฟ่ย เชิญครับ!”
เฟ่ยเข่อซินพูดกล่าวขอบคุณ :”ขอบคุณคุณเย่!”
พูดแล้ว ก็น้อมตัวเข้าไปในรถแล้ว
เย่เฉินก็รีบกลับไปยังที่นั่งคนขับ สตาร์ทเครื่องยนต์ รีบออกจากบ้านไร่แล้ว ขับไปยังเขตเมืองด้วยความเร็ว
และในตอนนี้เวลานี้ รถตู้ชั้นธุรกิจที่บรรทุกหงห้าและลั่วเจียเฉิงคันนั้น ได้จอดรถที่ถิ่นทุรกันดารแถวชานเมืองจินหลิงแล้ว ที่นี่ไม่มีใครอยู่อาศัย และก็ไม่มีกล้องวงจรปิด เหมาะที่จะทำเรื่องลับๆที่ไม่ดีพวกนี้ที่สุด
รถตู้ชั้นธุรกิจจอดลงข้างทางแน่นิ่ง มีรถฮอนด้าแอคคอร์ดสีดำธรรมดาขับออกมาจากในป่าข้างทางทันที
รถรุ่นนี้พบเจอในเมืองจินหลิงได้บ่อยมาก มีจำนวนมาก ขับไปที่ไหนก็ไม่มีใครสนใจมากเท่าไหร่
เห็นฮอนด้าแอคคอร์ดขับมา หงห้ารีบเปิดประตูรถทันที ลากลั่วเจียเฉิงลงมาจากรถตู้ชั้นธุรกิจเองกับมือ หลังจากนั้นก็ออกคำสั่งให้เปิดกระโปรงหลังรถฮอนด้าแอคคอร์ดออก ยัดลั่วเจียเฉิงเข้าไปเลย
หลังจากนั้น หงห้านั่งเบาะหลังแล้ว ลดกระจกรถลง พูดกับคนขับรถตู้ชั้นธุรกิจว่า : “พวกคุณสามสี่คนไปที่ซูหางต่อ ไปเที่ยวเล่นไนต์คลับ แล้วค่อยไปหาร้านบริการอาบอบนวดระดับไฮเอนด์อาบน้ำ นอนพักผ่อน ”
คนขับรถหัวเราะฮิฮิพร้อมพูดถามว่า : “ท่านห้า พวกเราจะต้องอาบอบนวดแบบพิเศษมีสาวๆมาอาบให้หรือว่าอาบน้ำธรรมดาเหรอ? ”