เฟ่ยเข่อซินถูกท่าทีของเย่เฉินหลอกแต่ไม่รู้เรื่องเลย
เธอในตอนนี้รู้สึกได้เพียงว่า เย่เฉินเป็นดั่งเทวดา กระตือรือร้นและจริงใจต่อตนมาก
เมื่อเห็นแววตาที่จริงใจของเย่เฉิน เฟ่ยเข่อซินเริ่มรู้สึกละอายใจที่หลอกลวงเย่เฉินมาตลอด
ชั่วครู่หนึ่ง ในใจของเธอเกิดวู่วามอยากจะสารภาพทุกอย่างกับเย่เฉิน
แต่พอคิดดูแล้ว คุณปู่ยังคงรอยาอายุวัฒนะเพื่อต่ออายุ ครั้นแล้วทำได้เพียงข่มแรงกระตุ้นเช่นนี้ลงไปอย่างไม่เต็มใจนัก
ในใจเธอแอบคิดว่า: “ถ้าคุณปู่สามารถประมูลยาอายุวัฒนะในงานประมูลได้ งั้นฉันต้องสารภาพผิดต่อคุณเย่ให้เร็วที่สุด ขอให้เขาอภัยให้……”
และตอนนี้ เย่เฉินเห็นเฟ่ยเข่อซินมองเขาอย่างเหม่อลอย และเอ่ยปากพูดว่า: “คุณจาน คุณเป็นอะไร?”
เฟ่ยเข่อซินกลับมารู้สึกตัว รีบพูดอย่างปิดบัง: “อ้อ ไม่มีอะไร……คุณเย่ งั้นฉันขอตัวไปก่อน……”
“ได้!” เย่เฉินพยักหน้า และพูดกำชับว่า: “จำไว้เลยนะ เจอปัญหาต้องโทรหาผม!”
“โอเค!” เฟ่ยเข่อซินพูดขอบคุณอีกครั้ง แล้วลงจากรถอย่างจำใจ
โบกมือลาเย่เฉิน หลังจากที่เห็นเย่เฉินขับรถออกไป เฟ่ยเข่อซินรีบกลับไปที่ห้องเพรสซิเดนสูทของตัวเอง
ขณะที่เธอกำลังเดินทางไปห้องเพรสซิเดนสูท ก็โทรแจ้งเฉินอิ่งซานรวมถึงคนอื่นๆ ให้มาประชุมที่ห้องของตน
เมื่อเธอกลับไปถึงห้อง นอกจากลั่วเจียเฉิง ผู้ติดตามทั้งหมดของเธอนั่งอยู่ตัวตรงในห้องประชุมเล็กๆของห้องเพรสซิเดนสูท
สีหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความตึงเครียดและเคร่งขรึมที่ไม่สามารถกำจัดออกได้
พอเฟ่ยเข่อซินเข้ามา ทุกคนรีบลุกขึ้น มองเธอด้วยความเคารพ ตะโกนอย่างเคารพว่าสวัสดีคุณหนู
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าและถามเข้าประเด็น: “เรื่องที่ให้พวกคุณไปหาเป็นอย่างไรบ้าง? มีเบาะแสอะไรไหม?”
เฉินอิ่งซานรีบกล่าว: “คุณหนู ฉันให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบกล้องวงจรปิดถนนในจินหลิง แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ระบบจ่ายไฟกล้องวงจรปิดรอบสถานที่ของคุณวันนี้เกิดปัญหา พนักงานของพวกเขากำลังกอบกู้ข้ามวันข้ามคืน ดังนั้นจึงไม่มีภาพจากวงจรปิดที่มีค่าหลงเหลืออยู่เลย”
เฟ่ยเข่อซินพูดออกมา: “ทำไมบังเอิญขนาดนี้? กล้องวงจรปิดแถบนั้นดันมาพังซะอย่างงั้น?”
เฉินอิ่งซานกล่าวอย่างจำใจว่า: “ตอนนี้พวกเรายังตัดสินไม่ได้ว่าบังเอิญ หรือมีคนจงใจทำ”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวด้วยใบหน้ามืดมน : “ต้องเป็นฝีมือคนทำ! มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะบังเอิญขนาดนี้!”
เฉินอิ่งซานกล่าว: “คุณหนู ตอนนี้พวกเราหาเบาะแสโดยตรงยากมาก และพละกำลังของอีกฝ่ายนั้นสูงกว่าคุณลั่วเสียอีก ไม่มีทางที่จะให้เราหาเขาเจอได้ง่ายๆหรอก……”
ขณะที่พูด เฉินอิ่งซานกล่าวอีกว่า: “คุณหนู ตอนนี้สิ่งที่ฉันกังวลใจที่สุดก็คือความปลอดภัยของท่าน คุณลั่วหายไป ความปลอดภัยของท่านก็ไม่สามารถรับประกันได้ ไม่งั้นคุณกลับไปสหรัฐอเมริกาก่อนเถอะ พวกเราจะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อสำรวจต่อไป”
“ไม่ได้!” เฟ่ยเข่อซินโพล่งพูดออกมา: “ถ้าฉันกลับไปตอนนี้ การมาจินหลิงในครั้งนี้ก็เสียเปล่าแล้ว! ไม่ใช่แค่มาเสียเปล่า ยังพลอยทำให้คุณลั่วเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย……”
เฉินอิ่งซานพูดอย่างกังวลใจ: “คุณหนู คุณลั่วหายไป เป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายอาจจะเป็นท่านนะ! ถ้าเป็นแบบนั้น ต่อไปเขาจะต้องลงมือกับท่านแน่นอน!”
เฟ่ยเข่อซินส่ายหน้า พูดอย่างจริงจังว่า: “ถ้าเขาจะลงมือกับฉัน ตอนนี้ฉันก็คงไม่อยู่ที่นี่หรอก”
เฉินอิ่งซานรีบถาม: “คุณหนู จากที่ท่านพูดเช่นนี้ อีกฝ่ายพุ่งเป้ามาที่คุณลั่วเหรอ?”
เฟ่ยเข่อซินบ่นพึมพำ: “ใช่ว่าจะต้องพุ่งเป้าที่คุณลั่วเสมอไป แต่ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้ยังไม่มีอันตรายอะไรกับฉัน ฉันคิดว่าในเมื่ออีกฝ่ายมีความสามารถขนาดนั้น และปล่อยฉันไป นั่นเป็นไปได้ว่าเขาสังเกตเห็นว่าพละกำลังของคุณลั่วนั้นไม่เลว คิดว่าเขาเป็นภัยคุกคามอยู่ในจินหลิง ดังนั้นจึงลงมือกับเขา……”