Provider : Muntra
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.175 – ขอซื้อราชันย์สัตว์ร้าย
“ปีกของแกสวยดี น่าจะเอาไปทำเป็นกระโปรงสีทองได้”
ไป๋หลีพยักหน้าด้วยความพอใจ เพียงลองจินตนาการถึงภาพกระโปรงไหมพรมสีทอง มันก็น่าสนใจแล้ว
เธอเริ่มกวาดตาสำรวจตามตัวนางพญามดทองอีกครั้ง ไม่มองมันในฐานะราชันย์สัตว์ร้ายอีกต่อไป แต่มองในฐานะผ้าที่กำลังถูกตัดไปทำชุดสวยๆงามๆ
“ไป๋หลี อย่าเพิ่งฆ่ามัน!” ฉินเฟิงร้องตะโกน พยายามเรียกให้ไป๋หลีหยุดมือ
“รับทราบ” ไป๋หลีจำได้ว่าฉินเฟิงต้องดูดซับพลังงานทุกครั้ง เมื่อนึกถึงจุดนี้ เธอเลยไม่คิดฆ่าในทันที สองมือยื่นออกไป คว้าจับหนวดบนหัวมดนางพญา จากนั้น ก็เหวี่ยงทุ่มนางพญามดมาหยุดอยู่เบื้องหน้าฉินเฟิง
โครม!
ร่างสีทองร่วงกระแทกลงบนตำแหน่งป้องกันที่สร้างขึ้นจากกระสอบทราย ฝุ่นฟุ้งตลบอบอวลไปทั่ว ไป๋หลีเอ่ยปาก “งั้นตอนนี้ฆ่ามันได้รึยัง?”
ฉินเฟิงโบกมือให้ไป๋หลีหยุด ปลดปล่อยพลังสมาธิสำรวจลงบนร่างกายของนางพญามดทอง
เวลานี้นางพญามดทองเต็มไปด้วยบาดแผล สติสตังก็เริ่มพร่าเลือน มันอ่อนแอเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงส่งกลิ่นอายแสดงความยอมจำนนออกมา
นี่นับว่าเป็นสถานการณ์ที่พบเจอได้ยากยิ่ง
เพราะสัตว์ร้ายเกือบทั้งหมด มักจะยอมตายมากกว่าก้มหัวให้ใคร
แต่การยอมจำนนในครั้งนี้อาจแตกต่างออกไป เพราะตัวตนที่นางพญามดทองยอมก้มหัวให้ แท้จริงแล้วมิใช่มนุษย์ หากแต่เป็นจิ้งจอกสามหาง เป็นราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล E !
อย่างไรก็ตาม ยอมก็คือยอมอยู่ดี และเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป มิใช่สิ่งที่นางพญามดจะสามารถมีสิทธิ์ตัดสินใจได้อีกต่อไป
“โจวฮ่าว!” ฉินเฟิงตะโกนเสียงดัง
“มีอะไรหรอไอ้บ้า เรียกทำไม?” โจวฮ่าวที่แทบทั้งตัวถูกปกคลุมไปด้วยเลือดก้าวออกมา เนื่องจากต่อสู้เสี่ยงตายในเมืองหาน ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาสามารถยกระดับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันทะยานถึงผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล G8 แล้ว
แต่จะเทเหตุผลที่แกร่งขึ้นมาเพราะการต่อสู้อย่างเดียวก็ไม่ถูก ยังไงซะ โจวฮ่าวก็ไม่ใช่คนที่ขาดแคลนด้านทรัพยากร ไหนจะครอบครองพรสวรรค์ที่แข็งแกร่ง อัตราความเร็วในความก้าวหน้าเลยมากกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา แม้จะเทียบไม่ได้กับสัตว์ประหลาดอย่างฉินเฟิงก็ตาม แต่เขาเป็นตัวตนที่มีพรสวรรค์อยู่ในระดับท็อปอย่างแน่นอน
“ตอนนี้พลังสมาธิของนายแข็งแกร่งแค่ไหน?” ฉินเฟิงเอ่ยถาม
เนื่องจากโจวฮ่าวได้กินผลไม้สมาธิเข้าไป ดังนั้นพลังสมาธิของเขาในปัจจุบัน น่าจะเพียงพอให้สามารถใช้อาวุธปืนเกรดที่ดีขึ้นมาหน่อยได้แล้ว กระทั่งการควบคุมวัตถุในอากาศก็ยังสามารถทำได้!
“ไม่แน่ใจแฮะ น่าจะพอๆกับมือปืนเลเวล G5 ล่ะมั้ง” โจวฮ่าวลังเล
“แค่นั้นก็พอแล้ว!”
ฉินเฟิงพยักหน้า จากนั้นก็หยิบแก่นพลังงานหลายก้อนออกมา วางมันบนพื้นและใช้พลังสมาธิร่างสัญญาลงไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งสัญญานี้ มันคือสัญญาระหว่างโจวฮ่าวกับนางพญามดทอง
“ขอเลือดนายหน่อย แล้วจากนี้ไป เจ้าสัตว์ร้ายนางพญามดทองตัวนี้จะเป็นของนาย!” ฉินเฟิงกล่าว
โจวฮ่าวพอได้ยินคำพูดของฉินเฟิง ก็เบิ่งตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ความแข็งแกร่งของนางพญามดทองมากมายเพียงใด อย่างโจวฮ่าวมีหรือจะไม่ทราบ?
แต่ปัจจุบันต้องการแค่เลือดหยดเดียว เขาก็สามารถเป็นเจ้าของมันได้แล้ว!!
“เร็วเข้า!”
ฉินเฟิงเร่งเร้า
โจวฮ่าวชักมีดอย่างไม่ลังเล กรีดมันลงบนฝ่ามือของตัวเอง เลือดทะลักออกมา แต่เขาไม่ใส่ใจ ก้าวออกไปวางเท้าตนลงบนหัวของนางพญามดอย่างไม่หวาดเกรง ยื่นมือออกไป หยดเลือดหลั่งไหลลงบนหัวอีกอีกฝ่าย
วินาทีต่อมา เลือดนี้ก็ได้หลอมละลายเข้าสู่ร่างกายของนางพญามดทอง โจวฮ่าวรับรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าในส่วนลึกของจิตวิญญาณตน มีอีกหนึ่งจิตสำนึกของสิ่งมีชีวิตปรากฏขึ้น
ไม่ใช่ใดอื่น มันคือจิตสำนึกของนางพญามดทอง
“ฮะฮ่า!! บิดามีสัตว์เลี้ยงเป็นราชันย์สัตว์ร้าย! จากนี้ไปแกจะถูกเรียกว่าเสี่ยวหวง!(เหลืองน้อย)” โจวฮ่าวสัมผัสลงบนร่างของนางพญามดทองอย่างรักใคร่ แต่เมื่อพบว่าทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวจากฝีมือของไป๋หลี เขาที่กำลังสุขใจก็อดเกิดความสงสารไม่ได้
ชิหลงที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อเห็นฉากนี้ เข้าก็รีบก้าวเข้ามา แต่มันสายเกินไป
“เฮ้มิสเตอร์ฉิน เรื่องนี้เกรงว่ามันจะไม่เหมาะสมนะ”
แม้นางพญามดทองจะพ่ายแพ้ให้กับไป๋หลี แต่ชิหลงคือคนแรกที่เริ่มโจมตีมัน และที่สำคัญที่สุดคือ … การได้รับราชันย์สัตว์ร้ายเป็นสัตว์เลี้ยง มันน่าอิจฉาเกินไป!
แม้ว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงจะมาถึงเลเวล E แล้วก็ตาม แต่ชิหลงก็ยังฝืนกัดฟันและทวงถามความยุติธรรม
“งั้นผมจะขอซื้อราชันย์สัตว์ร้ายตัวนี้” ฉินเฟิงกล่าว “สัก 300 ล้านเหรียญ เป็นอย่างไร?”
ชิหลงสูดหายใจลึก เงินจำนวน 300 ล้านมันเกินกว่าที่ชิหลงคาดหวังเอาไว้มาก ทว่านี่คือราชันย์สัตว์ร้ายเป็นๆที่ยังมีชีวิตอยู่ และยังถึงขั้นสามารถทำสัญญาได้ ดังนั้นมูลค่าของมันไม่ใช่เพียงเท่านี้ แต่ล้ำค่ามหาศาลยิ่งกว่า!
เอาง่ายๆเลย หากใครก็ตามที่เลี้ยงดูมัน ในอนาคตคงสามารถใช้มันสังหารราชันย์ได้อีกนับไม่ถ้วน!
“มิสเตอร์ฉิน … ” ชิหลงกำลังเอ่ยบางอย่างออกมา
สายตาของไป๋หลีตกลงบนชิหลง ปากเอ่ยกล่าว “เมื่อกี้ไม่ใช่ฉันหรอกหรอที่ช่วยชีวิตคุณไว้ น่าแปลกจัง ทั้งๆที่ฉันเป็นคนช่วย แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยังคิดขอเงินจากที่รักของฉันอีก ทำไมคุณถึงไม่มีเหตุผลเอาซะเลย? ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันคงปล่อยให้คุณกลายเป็นอาหารเจ้ามดดตัวโตนี่ไปแล้ว!”
ชิหลงเย็นสันหลังวาบ ย้อนนึกไปถึงฉากก่อนหน้านี้ที่ไป๋หลีทุบกะโหลกของนางพญามดจนปริร้าวด้วยหมัดเดียว
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้จะพูดแบบนั้น” ฉินเฟิงแข็งแกร่งแค่ไหนชิหลงพอจะทราบ แต่ในส่วนของไป๋หลี เขาไม่อาจคาดหยั่ง ดังนั้นไม่กล้าล่วงเกิน
ในสายตาของเขา เด็กสาวคนนี้ เป็นตัวตนที่ครอบครองสถานะอันลึกล้ำ ทั้งยังมีบางสิ่งบางอย่างปิดซ่อนอยู่ ไม่ได้เผยมันออกมาทั้งหมด
“แต่ที่แฟนของผมพูดมันก็ถูกนะ สงครามในครั้งนี้ แฟนของผมทุ่มเทไปมาก ฉะนั้นเกรงว่า 300 ล้านน่าจะมากไป ผมจะให้ผู้บัญชาการชิแค่ 30 ล้านก็แล้วกัน”
ว่าจบ ฉินเฟิงก็โอนเงิน 30 ล้านให้แก่ชิหลง ชิหลงที่ได้รับเงินนี้มา แทบจะร่ำไห้โดยไม่มีน้ำตา
เพราะเงิน 30 ล้าน … มันไม่พอที่จะใช้ซื้อกระสุนที่เขาเสียไปกลับคืนมาด้วยซ้ำ
แต่เมื่อมีไป๋หลีกำลังเฝ้ามองตนอยู่ด้านข้าง และฉินเฟิงได้ใช้ความจริงอันโหดร้ายสะกดข่มเขา ชิหลงเลยทำได้แค่เพียงกล้ำกลืนสิ่งที่เขาต้องการจะพูด
เพราะหากต้องการผลประโยชน์มากกว่านี้ แต่ต้องแลกด้วยชีวิต มันไม่คุ้มค่าเอาซะเลย!
“เฮ้อ .. ตกลงๆ มิสเตอร์ฉิน ฉันหวังว่าพวกเราจะสามารถร่วมงานกันได้อีกในอนาคตนะ” ชิหลงกล่าว
“แน่นอน!”
ฉินเฟิงยิ้มและพยักหน้า ส่วนชิหลงขบฟัน กลืนเลือดกลับลงไปในท้องของเขา
หลังจากนั้น สนามรบก็ดำเนินการไปถึงขั้นตอนสุดท้าย ไม่มีใครร้องขอให้ฉินเฟิงมีส่วนร่วมใดๆอีก เพราะยังไงซะ สถานะของฉินเฟิงได้แตกต่างไปจากเดิมแล้ว
—เป็นผู้ใช้พลังเลเวล E !
เป็นตัวตนที่ในแง่สถานะและความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับชิหลง ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและเกรงใจเขา
สนามรบถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็ว โดรนทำการเก็บภาพการต่อสู้ของวันนี้เอาไว้ ดังนั้น ผลงานของทุกคนจะถูกบันทึกเป็นแต้มคะแนน
ฉินเฟิงแน่นอนว่าเป็นคนที่สามารถทำผลงานได้ดีที่สุด
จากสถิติที่บันทึกไว้ได้ มีมดเหลือรอดจากกระสุนปืนใหญ่ของชิหลงประมาณ 20,000 ตัว ซึ่งสูงกว่าที่ใครหลายคนคาดเดาไว้มาก
ในขณะที่ฉินเฟิงเพียงคนเดียว สังหารมดไปนับ 10, 000 ตัว และส่วนใหญ่ล้วนเป็นนายพลสัตว์ร้าย วัตถุดิบของพวกมัน ถูกเก็บรวบรวมโดยวังเฉินที่อยู่ข้างๆเขา สำหรับวัตถุดิบสูงกว่านายพล ฉินเฟิงไม่มีแผนที่จะขายมัน ทั้งหมดถูกส่งให้กับวังเฉินและคนของเขา นำกลับไปยังสถานชุมชนเฟิงหลี
สถิติของชิหลงเองก็น่าทึ่งพอๆกัน เขาสังหารมดเหล็กดำไปกว่า 40,000 ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จากนั้นก็ยิงสังหารมดไปอีกกว่า 5,000 ตัว สินสงครามรวมๆที่เขาได้รับ น่าจะมีมูลค่าราวๆทั้งสิ้น 700 ล้านเหรียญ แต่เมื่อหักจากกระสุนแก่นพลังงานที่ใช้ไปแล้ว น่าจะกำไรราวๆ 500 ล้าน
อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้รับมานี้ เกรงว่าจะต้องนำมันไปซื้อกระสุนปืนล็อตใหม่!
นั่นเท่ากับว่าเขาแทบจะไม่สามารถทำกำไรจากสงครามในครั้งนี้เลย เงินที่ได้กลับมาหลักจากหักค่าใช้จ่ายแล้วมีจำนวนน้อยมาก อย่างไรก็ตาม แต้มสงครามที่ได้มา มันเต็มเม็ดเต็มหน่วย มากถึง 430,000 แต้ม!
หากเรื่องใช้กระสุนเปลืองคือจุดอ่อน งั้นจุดแข็งของมือปืนก็คือความสามารถหาเงินมาให้พอค่ากระสุนนี่แหละ!
“มิสเตอร์ฉิน แต้มสงครามของคุณ หลังจากคำนวณรวมกับที่ไม่ได้ใช้ก่อนหน้านี้แล้ว จะเป็นจำนวน 390,000 แต้ม และเนื่องจากคุณเป็นแกนนำสำคัญในการกอบกู้เมืองหาน ฉะนั้นฉันขอเชิญคุณ … สนใจไปแวะชมดูคลังสินค้าของเมืองฟูเฉิงกันซักหน่อยไหม?”