The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา – ตอนที่ 242 เสี่ยงหลบหนี

“เคร้ง…เคร้ง…” โล่ฝ่ายตรงข้ามถูกยกขึ้นเพื่อป้องกันอีกครั้ง หลินมู่อวี่เพ่งมองก่อนจะพบว่าฝ่ายตรงข้ามเข้ามาใกล้กว่าสิบเมตรแล้ว เขายกมือขึ้นสั่ง “โยนหิน!” หลัวอวี่นำทัพทหารร่างกำยำโยนก้อนหินลงไป หินใหญ่ร่วงลงมาจากท้องฟ้าราวกับฝนอุกกาบาตตกใส่กองทัพด้านล่าง กระทั่งพลโล่แตกกระจายกลายเป็นก้อนเนื้อถูกทับ! ไม่เพียงเท่านั้น หลินมู่อวี่กระโดดขึ้นจากกำแพงหินพร้อมกับวิญญาณยุทธ์น้ำเต้าที่ห่อคลุมร่างกายไว้ ขณะที่กระบี่วิญญาณมังกรบินออกไปอย่างรวดเร็วและเข้าทะลวงร่างข้าศึกด้วยเกลียวเพลิงมังกรคลั่ง ด้วยความคมของกระบี่มันสามารถตัดผ่านโล่และชุดเกราะและเข้าเฉือนเนื้อศัตรูจนเลือดสาดกระจาย หลินมู่อวี่รวมพลังหมัดแล้วซัดทหารม้าคือโล่สองคนปลิวไป! เขาเรียกกระบี่กลับมาก่อนจะใช้มันวาดไปด้านหน้าก่อให้เกิดคมกระบี่ตัดผ่านโล่และอาวุธของศัตรูเบื้องหน้าจนสิ้น! “ฆ่ามัน!” หลงเซียนหลินคำรามลั่น กองทหารม้าทิ้งโล่ในมือก่อนจะใช้หอกยาวแทงใส่กำแพงน้ำเต้าของหลินมู่อวี่! ประกายแสงแตกออกพร้อมกับคลื่นสะท้อน! ทุกการโจมตีที่ถูกสะท้อนออกใช้ปราณยุทธ์ของหลินมู่อวี่อย่างมาก ดังนั้นเขาจะปล่อยให้การต่อสู้นี้ยืดเยื้อมากไม่ได้ หลินมู่อวี่รีบถอยโดยไวจนติดกำแพงก่อนจะกระโดดหลับขึ้นไปบนกำแพงและตะโกนสั่ง “ขว้างหอก!” ทหารรับจ้างมังกรผงาดหลายร้อยคนโผล่ออกมาจากกำแพงและขว้างเหล็กออกไปอย่างรวดเร็ว ขบวนทัพของศัตรูที่ถูกหินยักษ์จนแตกยับ โดนหอกทะลวงซ้ำจนล้มตายกว่าร้อยคน เพียงพริบตาเดียวกองทัพทหารค่ายเขาเหินที่บุกเข้ามาถูกลดจำนวนลงเหลือเจ็ดร้อยคนในพริบตา และส่วนใหญ่ถูกธนูยิงจนบาดเจ็บ หลงเซียนหลินเจ็บปวดใจอย่างยิ่งจนมิอาจทนฝืนสู้ต่อไป เขารีบตะโกนสั่ง “ทุกคนถอย! เตรียมรถม้าไฟ!” “รถม้าไฟรึ?” หลินมู่อวี่เมื่อได้ยินดังนั้นก็ได้แต่สบถด่าหลงเซียนหลินผู้โหดเหี้ยมอยู่ในใจ เนื่องจากตอนนี้เป็นฤดูหนาวทำให้พืชพันธุ์ทั้งหมดอยู่ในสภาพแห้งแล้ง หากหลงเซียนหลินใช้ไฟเข้าโจมตีคงทำให้ทั้งภูเขาขวานไฟตกอยู่ในกองเพลิงเป็นแน่ จะปล่อยให้กองทัพทะลวงนภาและมังกรผงาดกว่าหมื่นคนถูกเผาทั้งเป็นไม่ได้! หลินมู่อวี่ทุบกำปั้นใส่กำแพงหินก่อนจะตะโกน “หลงเซียนหลิน! ข้าได้รับคำสั่งให้กำจัดสำนักอัศวินทั้งหมด เจ้าคิดจะขัดขวางภารกิจข้าอย่างนั้นหรือ? ตอนนี้ข้าได้ส่งสาส์นไปขอกำลังเสริมจากเมืองหลันเยี่ยนแล้ว ในอีกไม่ช้าผู้บัญชาการเฟิงจี้สิงกับทัพเสริมอีกห้าหมื่นนายจะมาที่นี่ เจ้าอยากเป็นศัตรูกับเฟิงจี้สิงและจักรวรรดิรึ?” หลงเซียนหลินตอบกลับด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ “อย่างไรก็ตามการที่หลินมู่อวี่โจมตีทหารอวิ้นจงนั้นเป็นเรื่องจริง เจ้าได้ปฏิบัติตนไม่สมกับตำแหน่งแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้ และต่อเมื่อแม่ทัพเฟิงจี้สิงมาถึงข้าผู้นี้จะเป็นคนอธิบายทุกอย่างเอง” หลงเซียนหลินยังคนรู้สึกกลัวเล็กน้อยเมื่อกล่าวไปเช่นนั้น เพราะมีบางอย่างที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ ดังนั้นการปล่อยให้หลินมู่อวี่แพร่กระจายความลับจึงไม่ใช่เรื่องดีแน่ หลินมู่อวี่ที่เริ่มเข้าใจได้ยิ้มออกมา “แม่ทัพหลง เมื่อข้าได้ขึ้นมายังภูเขาแห่งนี้ ข้าได้พบว่ากบฏกวนหลงเซิงได้ซ่อนเหมืองทองเอาไว้ และข้าก็ได้สังหารมันไปเรียบร้อยแล้ว คิดว่าท่านผู้ว่าหูเถี่ยหนิงแห่งเมืองห้าหุบเขาคงยังไม่รู้ถึงเรื่องนี้ ข้าแนะนำเจ้ารีบสั่งถอยทัพไปเสีย เช่นนั้นข้าจะยกความชอบเรื่องเจอเหมืองทองให้หูเถี่ยหนิง…เห็นด้วยหรือไม่?” หลงเซียนหลินชะงัก เขาคิดกลัวหลินมู่อวี่จะรู้ว่าหูเถี่ยหนิงและสำนักอัศวินแอบสมคบคิดฟอกเงินขึ้น ทว่าหลินมู่อวี่กลับคิดจะช่วยหูเถี่ยหนิง! “ช่างปราดเปรื่องเสียจริงนะหลินมู่อวี่…” หลงเซียนหลินเงยหน้าขึ้น “ท่านหลินมู่อวี่ ท่านไม่ได้ตั้งใจจะสังหารทหารอวิ้นจงจริงๆ ใช่หรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นการต่อสู้นี้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด หลินมู่อวี่ผ่อนคลายท่าทีราวกับเจอสหายเก่า “แม่ทัพหลง ท่านไม่เชื่อข้าหรือ? หลินมู่อวี่ผู้นี้เป็นถึงบุตรบุญธรรมและผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์อินทรี ด้วยข้าและทหารใต้บัญชาได้เป็นพยานรู้เห็นการกระทำของกบฏสำนักอัศวินที่แอบลักลอบขุดเหมืองทอง เมื่อข้ากลับไปยังเมืองหลวงแล้ว ความดีความชอบทั้งหลายจะถูกยกให้กับผู้ว่าการหูเถี่ยหนิงเพื่อเป็นการตอบแทนที่ไม่สังหารข้า!” หลงเซียนหลินพยักหน้า “ดี…ข้าจะกลับไปรายงานแก่ท่านผู้ว่าการ ท่านคงไม่ต้องรอนาน” “เยี่ยม!” … ณ กระโจมใหญ่ในค่ายเขาเหิน หูเถี่ยหนิงกำลังเพลิดเพลินกับชาเมื่อจู่ๆ หลงเซียนหลินก็ปรากฏตัว “ข้ากลับมาแล้วขอรับท่าน!” “เซียนหลินเองรึ ได้เรื่องอย่างไรบ้าง?” หลงเซียนหลินกล่าวด้วยความรู้สึกละอายใจ “หลินมู่อวี่นั้นช่ำชองการรบอย่างมาก ข้าจึงยังบุกภูเขาขวานไฟไม่ได้ ทว่า…หลินมู่อวี่รู้ความลับเรื่องกวนหลงเซิงแอบขุดเหมืองทองแล้วขอรับ จากที่เขาพูดยังไม่มีวี่แววสงสัยวาท่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ขอรับ…” อย่างนั้นหรือ?” หูเถี่ยหนิงหรี่ตาลง “หลินมู่อวี่ผู้นี้…ช่างฉลาดยิ่งนัก ปล่อยให้คนเช่นนี้อยู่ข้างจักรพรรดิไม่ใช่เรื่องดีแน่ เซียนหลินเจ้าคิดว่าเราควรทำอย่างไรต่อ?” หลงเซียนหลินคำนับ “หลินมู่อวี่บอกว่าได้ส่งสาส์นขอกำลังเสริมจากเฟิงจี้สิงและทหารอีกห้าหมื่นนาย ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่แต่ข้าคิดว่า…หากเราสังหารหลินมู่อวี่บนเขาขวานไฟเสีย แม้จะช่วยให้เสี้ยนหนามหายไปอีกหนึ่ง แต่ก็ยังต้องมีปัญหากับเฟิงจี้สิงและจักรวรรดิเรื่องแอบฟอกเงินอยู่ดี ฉะนั้น…ครั้งนี้เราปล่อยหลินมู่อวี่ไปก่อนจะดีหรือไม่? เรายังมีโอกาสฆ่ามันอีกหลายครา เซียนหลินขอให้คำมั่นว่าครั้งหน้ามันจะไม่รอดชีวิตกลับไปอีก!” หูเถี่ยหนิงหัวเราะลั่น “เซียนหลินเอ๋ย…เจ้ากำลังเห็นใจหลินมู่อวี่หรือ?” หลงเซียนหลินชะงัก “ข้าไม่ได้…” “ช่างเถิด ไปทักทายบุตรบุญธรรมแห่งจักรพรรดิกัน!” “ขอรับ!” … บริเวณตีนเขาขวานไฟ ธงสัญลักษณ์โบกสบัดไปตามแรงลมขณะที่หูเถี่ยหนิงกับกองทัพทหารค่ายเขาเหินกำลังรออยู่ บรรดาศพจากการรบก่อนหน้านี้ถูกกำจัดจนหมดสิ้นราวกับไม่เคยมีการสังหารกันเกิดขึ้นที่นี่ “แอด…” ประตูไม้ที่เพิ่งสร้างถูกเปิดออก หลินมู่อวี่นำเว่ยโฉว หลัวอวี่ ฉีหยาง และคนอื่นๆ ลงจากภูเขาด้วยท่าทางสบายพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้า แตกต่างจากผู้บัญชาการสามคนข้างหลังที่ใบหน้าตื่นตูม มือจับด้ามดาบพร้อมเปิดศึกทุกเมื่อ กองทหารมังกรผงาดคนอื่นๆ ที่อยู่บนกำแพงก็มีท่าทีตึงเครียด “เราจะคอยอยู่ตรงนี้นะขอรับ” หลงเซียนหลินเอื้อมมือไปฉุดม้าของหูเถี่ยหนิงที่กำลังก้าวไปข้างหน้า ส่งสัญญาณเป็นท่าทีว่าอย่าเดินเข้าไป มิเช่นนั้นจะอยู่ในระยะยิงของพลธนู ซึ่งหลงเซียนหลินรู้ดีถึงความแม่นยำและรุนแรงของมันเพราะเพิ่งเจอมากับตัว หูเถี่ยหนิงกลัวตายจึงพยักหน้าตามคำแนะนำของหลงเซียนหลิน ก่อนจะลงจากม้าและรอ กระทั่งพวกหลินมู่อวี่ปรากฏตัวเข้ามาใกล้ หลินมู่อวี่คำนับให้อย่างสุภาพ “ไม่เจอกันนานนะขอรับท่านผู้ว่าการ ตั้งแต่เมืองห้าหุบเขาข้ายินดีที่เราได้เจอกันอีกครั้ง!” หูเถี่ยหนิงโค้งคำนับให้และเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเราจะมีเรื่องเข้าใจผดเล็กน้อยกันแบบนี้ ข่าวสารที่เราได้รับมานั้นเป็นเพียงเรื่องโป้ปด ได้โปรดท่านหลินมู่อวี่อย่าได้ถือโทษเราเลย เป็นเพราะหูเถี่ยหนิงผู้นี้ไม่ได้สั่งการด้วยตนเองจึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ มณฑลชางหนานของเราช่างมีแม่ทัพที่โง่เขลาเสียจริง!” หลินมู่อวี่ยิ้ม “คิดเสียว่าท่านได้นำทัพทหารห้าหุบเขาหมื่นคนมาคุ้มกันเราแล้วตอนนี้ เป็นพระคุณแก่ข้ายิ่งนัก!” “อ้อ…” สีหน้าหูเถี่ยหนิงเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินคำพูดราวกับเย้ยหยันของหลินมู่อวี่ ทว่าไม่ได้เผยท่าทีใดออกมา ก่อนจะยิ้มแล้วกล่าวต่อ “ท่านแม่ทัพหลินมู่อวี่ สำนักอัศวินแห่งภูเขาขวานไฟแห่งนี้นับได้ว่าเป็นกบฏและสมควรถูกลงโทษอย่างสาสม ข้าสงสัยว่า…ท่านแม่ทัำจะจัดการกับนักโทษพวกนั้นอย่างไร?” หลินมู่อวี่ตอบ “ข้าจะส่งพวกมันไปรับโทษที่เมืองหลันเยี่ยน ซึ่งส่วนใหญ่คงถูกประหารเป็นแน่ ท่านไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น” “ข้าคงไม่ต้องกังวลแล้วสินะ” “ถูกต้องขอรับ” หลินมู่อวี่ก้าวออกไปก่อนจะเอ่ยขึ้น “ท่านผู้ว่าการ…มีเหมืองทองคำอยู่บนเขาขวานไฟซึ่งถูกขุดโดยพวกสำนักอัศวินแล้ว ช่างโชคร้ายที่ข้าได้รับคำสั่งมาให้เพียงจัดการสำนักอัศวินเท่านั้น ไม่อำนาจจัดการเหมืองที่เจอ ข้าจึงต้องส่งสาสน์ไปยังเมืองหลันเยี่ยนให้ส่งแผนกที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ แต่ก่อนหน้านั้น…ข้าคงต้องขอฝากภูเขาขวานไฟให้ท่านช่วยคุ้มกัน อย่าให้โจรหน้าไหนมาขโมยทองของจักรวรรดินะขอรับ!” หูเถี่ยหนิงพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ!” “อืม เช่นนั้นขอส่งมอบหน้าที่ให้กับค่ายเขาเหิน ข้าขอตัวพาคนของข้าลงเขาไปก่อน” “รับทราบท่านแม่ทัพ” หลงเซียนหลินโบกธงเป็นคำสั่งให้ทัพทหารค่ายเขาเหินและทหารเมืองห้าหุบเขาแหวกทางเดินให้หลินมู่อวี่ กองทัพทหารม้าเก้าพันคนของหลินมู่อวี่รุดออกจากภูเขาขวานไฟอย่างรวดเร็วโดยมีทหารสำนักอัศวินที่เหลือติดตามไปด้วยพร้อมกับแร่เพชรสีขาวพันสี่ร้อยก้อน แน่นอนว่าหูเถี่ยหนิงยังไม่รู้ถึงการมีอยู่แร่นี้ เมื่อหนีจากการปิดล้อมได้สำเร็จ หลินมู่อวี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหนีกองทัพหมื่นคนมาได้เช่นนี้ เป็นการเสี่ยงแค่ไหนมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้… “ท่านขอรับ” เว่ยโฉวเอ่ยถามด้วยท่าทีสงสัย “เราทิ้งเหมืองทองไว้ให้หูเถี่ยหนิงจัดการ เท่าที่ข้ารู้…เขาคงคิดขโมยทองพวกนั้นอีกเป็นแน่ เราจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอีกแล้วหรือขอรับ?” “แล้วอย่างไร?” หลินมู่อวี่ถามกลับ “แค่มีชีวิตรอดออกมาได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว อย่าไปกระตุกต่อมเสือจะดีกว่า เว่ยโฉว…เจ้ารู้จักกรมปกครองท้องถิ่นดียิ่งกว่าข้า เช่นนั้นตอบข้าทีว่ามีผู้ว่าการอย่างหูเถี่ยหนิงอยู่เยอะหรือไม่?” เว่ยโฉวชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะตอบ “ผู้ว่าการกว่าครึ่งจากทุกมณฑลเป็นเช่นเดียวกันขอรับ พวกนั้นเกณฑ์ทหารเข้าพวกตัวเองเป็นจำนวนมาก เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กองกำลังของจักรวรรดิมีไม่เพียงพอ ต่อเมื่อมีคำสั่งลงมาให้ทำลายสำนักอัศวินมณฑลที่มีกองกำลังของตนเองจึงไม่ค่อยทำตามคำสั่งขอรับ” “เป็นเช่นนี้เอง…” หลินมู่อวี่ถอนหายใจด้วยความกระอักกระอ่วน อาณาจักรอันยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ฉินที่ดูเหมือนจะเป็นศูนย์กลางการปกครอง ทว่าแท้จริงแล้ว…ในแต่ละมณฑลต่างปกครองตนเองมาโดยตลอดอย่างนั้นหรือ? โลกนี้ช่างมีแต่ปัญหา…หลินมู่อวี่ไม่รู้ว่าการได้มาที่นี่เป็นนับว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ หลินมู่อวี่กระชับกระบี่วิญญาณมังกรแน่น มองไปยังพื้นเปล่าขณะอยู่บนหลังม้าด้วยความรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก …………………………

“เคร้ง…เคร้ง…”

โล่ฝ่ายตรงข้ามถูกยกขึ้นเพื่อป้องกันอีกครั้ง

หลินมู่อวี่เพ่งมองก่อนจะพบว่าฝ่ายตรงข้ามเข้ามาใกล้กว่าสิบเมตรแล้ว เขายกมือขึ้นสั่ง “โยนหิน!”

หลัวอวี่นำทัพทหารร่างกำยำโยนก้อนหินลงไป หินใหญ่ร่วงลงมาจากท้องฟ้าราวกับฝนอุกกาบาตตกใส่กองทัพด้านล่าง กระทั่งพลโล่แตกกระจายกลายเป็นก้อนเนื้อถูกทับ!

ไม่เพียงเท่านั้น หลินมู่อวี่กระโดดขึ้นจากกำแพงหินพร้อมกับวิญญาณยุทธ์น้ำเต้าที่ห่อคลุมร่างกายไว้ ขณะที่กระบี่วิญญาณมังกรบินออกไปอย่างรวดเร็วและเข้าทะลวงร่างข้าศึกด้วยเกลียวเพลิงมังกรคลั่ง ด้วยความคมของกระบี่มันสามารถตัดผ่านโล่และชุดเกราะและเข้าเฉือนเนื้อศัตรูจนเลือดสาดกระจาย หลินมู่อวี่รวมพลังหมัดแล้วซัดทหารม้าคือโล่สองคนปลิวไป! เขาเรียกกระบี่กลับมาก่อนจะใช้มันวาดไปด้านหน้าก่อให้เกิดคมกระบี่ตัดผ่านโล่และอาวุธของศัตรูเบื้องหน้าจนสิ้น!

“ฆ่ามัน!” หลงเซียนหลินคำรามลั่น

กองทหารม้าทิ้งโล่ในมือก่อนจะใช้หอกยาวแทงใส่กำแพงน้ำเต้าของหลินมู่อวี่! ประกายแสงแตกออกพร้อมกับคลื่นสะท้อน! ทุกการโจมตีที่ถูกสะท้อนออกใช้ปราณยุทธ์ของหลินมู่อวี่อย่างมาก ดังนั้นเขาจะปล่อยให้การต่อสู้นี้ยืดเยื้อมากไม่ได้

หลินมู่อวี่รีบถอยโดยไวจนติดกำแพงก่อนจะกระโดดหลับขึ้นไปบนกำแพงและตะโกนสั่ง “ขว้างหอก!”

ทหารรับจ้างมังกรผงาดหลายร้อยคนโผล่ออกมาจากกำแพงและขว้างเหล็กออกไปอย่างรวดเร็ว ขบวนทัพของศัตรูที่ถูกหินยักษ์จนแตกยับ โดนหอกทะลวงซ้ำจนล้มตายกว่าร้อยคน

เพียงพริบตาเดียวกองทัพทหารค่ายเขาเหินที่บุกเข้ามาถูกลดจำนวนลงเหลือเจ็ดร้อยคนในพริบตา และส่วนใหญ่ถูกธนูยิงจนบาดเจ็บ

หลงเซียนหลินเจ็บปวดใจอย่างยิ่งจนมิอาจทนฝืนสู้ต่อไป เขารีบตะโกนสั่ง “ทุกคนถอย! เตรียมรถม้าไฟ!”

“รถม้าไฟรึ?”

หลินมู่อวี่เมื่อได้ยินดังนั้นก็ได้แต่สบถด่าหลงเซียนหลินผู้โหดเหี้ยมอยู่ในใจ เนื่องจากตอนนี้เป็นฤดูหนาวทำให้พืชพันธุ์ทั้งหมดอยู่ในสภาพแห้งแล้ง หากหลงเซียนหลินใช้ไฟเข้าโจมตีคงทำให้ทั้งภูเขาขวานไฟตกอยู่ในกองเพลิงเป็นแน่

จะปล่อยให้กองทัพทะลวงนภาและมังกรผงาดกว่าหมื่นคนถูกเผาทั้งเป็นไม่ได้!

หลินมู่อวี่ทุบกำปั้นใส่กำแพงหินก่อนจะตะโกน “หลงเซียนหลิน! ข้าได้รับคำสั่งให้กำจัดสำนักอัศวินทั้งหมด เจ้าคิดจะขัดขวางภารกิจข้าอย่างนั้นหรือ? ตอนนี้ข้าได้ส่งสาส์นไปขอกำลังเสริมจากเมืองหลันเยี่ยนแล้ว ในอีกไม่ช้าผู้บัญชาการเฟิงจี้สิงกับทัพเสริมอีกห้าหมื่นนายจะมาที่นี่ เจ้าอยากเป็นศัตรูกับเฟิงจี้สิงและจักรวรรดิรึ?”

หลงเซียนหลินตอบกลับด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ “อย่างไรก็ตามการที่หลินมู่อวี่โจมตีทหารอวิ้นจงนั้นเป็นเรื่องจริง เจ้าได้ปฏิบัติตนไม่สมกับตำแหน่งแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้ และต่อเมื่อแม่ทัพเฟิงจี้สิงมาถึงข้าผู้นี้จะเป็นคนอธิบายทุกอย่างเอง”

หลงเซียนหลินยังคนรู้สึกกลัวเล็กน้อยเมื่อกล่าวไปเช่นนั้น เพราะมีบางอย่างที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ ดังนั้นการปล่อยให้หลินมู่อวี่แพร่กระจายความลับจึงไม่ใช่เรื่องดีแน่

หลินมู่อวี่ที่เริ่มเข้าใจได้ยิ้มออกมา “แม่ทัพหลง เมื่อข้าได้ขึ้นมายังภูเขาแห่งนี้ ข้าได้พบว่ากบฏกวนหลงเซิงได้ซ่อนเหมืองทองเอาไว้ และข้าก็ได้สังหารมันไปเรียบร้อยแล้ว คิดว่าท่านผู้ว่าหูเถี่ยหนิงแห่งเมืองห้าหุบเขาคงยังไม่รู้ถึงเรื่องนี้ ข้าแนะนำเจ้ารีบสั่งถอยทัพไปเสีย เช่นนั้นข้าจะยกความชอบเรื่องเจอเหมืองทองให้หูเถี่ยหนิง…เห็นด้วยหรือไม่?”

หลงเซียนหลินชะงัก เขาคิดกลัวหลินมู่อวี่จะรู้ว่าหูเถี่ยหนิงและสำนักอัศวินแอบสมคบคิดฟอกเงินขึ้น ทว่าหลินมู่อวี่กลับคิดจะช่วยหูเถี่ยหนิง!

“ช่างปราดเปรื่องเสียจริงนะหลินมู่อวี่…”

หลงเซียนหลินเงยหน้าขึ้น “ท่านหลินมู่อวี่ ท่านไม่ได้ตั้งใจจะสังหารทหารอวิ้นจงจริงๆ ใช่หรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นการต่อสู้นี้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด

หลินมู่อวี่ผ่อนคลายท่าทีราวกับเจอสหายเก่า “แม่ทัพหลง ท่านไม่เชื่อข้าหรือ? หลินมู่อวี่ผู้นี้เป็นถึงบุตรบุญธรรมและผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์อินทรี ด้วยข้าและทหารใต้บัญชาได้เป็นพยานรู้เห็นการกระทำของกบฏสำนักอัศวินที่แอบลักลอบขุดเหมืองทอง เมื่อข้ากลับไปยังเมืองหลวงแล้ว ความดีความชอบทั้งหลายจะถูกยกให้กับผู้ว่าการหูเถี่ยหนิงเพื่อเป็นการตอบแทนที่ไม่สังหารข้า!”

หลงเซียนหลินพยักหน้า “ดี…ข้าจะกลับไปรายงานแก่ท่านผู้ว่าการ ท่านคงไม่ต้องรอนาน”

“เยี่ยม!”

ณ กระโจมใหญ่ในค่ายเขาเหิน หูเถี่ยหนิงกำลังเพลิดเพลินกับชาเมื่อจู่ๆ หลงเซียนหลินก็ปรากฏตัว “ข้ากลับมาแล้วขอรับท่าน!”

“เซียนหลินเองรึ ได้เรื่องอย่างไรบ้าง?”

หลงเซียนหลินกล่าวด้วยความรู้สึกละอายใจ “หลินมู่อวี่นั้นช่ำชองการรบอย่างมาก ข้าจึงยังบุกภูเขาขวานไฟไม่ได้ ทว่า…หลินมู่อวี่รู้ความลับเรื่องกวนหลงเซิงแอบขุดเหมืองทองแล้วขอรับ จากที่เขาพูดยังไม่มีวี่แววสงสัยวาท่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ขอรับ…”

อย่างนั้นหรือ?”

หูเถี่ยหนิงหรี่ตาลง “หลินมู่อวี่ผู้นี้…ช่างฉลาดยิ่งนัก ปล่อยให้คนเช่นนี้อยู่ข้างจักรพรรดิไม่ใช่เรื่องดีแน่ เซียนหลินเจ้าคิดว่าเราควรทำอย่างไรต่อ?”

หลงเซียนหลินคำนับ “หลินมู่อวี่บอกว่าได้ส่งสาส์นขอกำลังเสริมจากเฟิงจี้สิงและทหารอีกห้าหมื่นนาย ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่แต่ข้าคิดว่า…หากเราสังหารหลินมู่อวี่บนเขาขวานไฟเสีย แม้จะช่วยให้เสี้ยนหนามหายไปอีกหนึ่ง แต่ก็ยังต้องมีปัญหากับเฟิงจี้สิงและจักรวรรดิเรื่องแอบฟอกเงินอยู่ดี ฉะนั้น…ครั้งนี้เราปล่อยหลินมู่อวี่ไปก่อนจะดีหรือไม่? เรายังมีโอกาสฆ่ามันอีกหลายครา เซียนหลินขอให้คำมั่นว่าครั้งหน้ามันจะไม่รอดชีวิตกลับไปอีก!”

หูเถี่ยหนิงหัวเราะลั่น “เซียนหลินเอ๋ย…เจ้ากำลังเห็นใจหลินมู่อวี่หรือ?”

หลงเซียนหลินชะงัก “ข้าไม่ได้…”

“ช่างเถิด ไปทักทายบุตรบุญธรรมแห่งจักรพรรดิกัน!”

“ขอรับ!”

บริเวณตีนเขาขวานไฟ ธงสัญลักษณ์โบกสบัดไปตามแรงลมขณะที่หูเถี่ยหนิงกับกองทัพทหารค่ายเขาเหินกำลังรออยู่ บรรดาศพจากการรบก่อนหน้านี้ถูกกำจัดจนหมดสิ้นราวกับไม่เคยมีการสังหารกันเกิดขึ้นที่นี่

“แอด…”

ประตูไม้ที่เพิ่งสร้างถูกเปิดออก หลินมู่อวี่นำเว่ยโฉว หลัวอวี่ ฉีหยาง และคนอื่นๆ ลงจากภูเขาด้วยท่าทางสบายพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้า แตกต่างจากผู้บัญชาการสามคนข้างหลังที่ใบหน้าตื่นตูม มือจับด้ามดาบพร้อมเปิดศึกทุกเมื่อ กองทหารมังกรผงาดคนอื่นๆ ที่อยู่บนกำแพงก็มีท่าทีตึงเครียด

“เราจะคอยอยู่ตรงนี้นะขอรับ”

หลงเซียนหลินเอื้อมมือไปฉุดม้าของหูเถี่ยหนิงที่กำลังก้าวไปข้างหน้า ส่งสัญญาณเป็นท่าทีว่าอย่าเดินเข้าไป มิเช่นนั้นจะอยู่ในระยะยิงของพลธนู ซึ่งหลงเซียนหลินรู้ดีถึงความแม่นยำและรุนแรงของมันเพราะเพิ่งเจอมากับตัว

หูเถี่ยหนิงกลัวตายจึงพยักหน้าตามคำแนะนำของหลงเซียนหลิน ก่อนจะลงจากม้าและรอ

กระทั่งพวกหลินมู่อวี่ปรากฏตัวเข้ามาใกล้ หลินมู่อวี่คำนับให้อย่างสุภาพ “ไม่เจอกันนานนะขอรับท่านผู้ว่าการ ตั้งแต่เมืองห้าหุบเขาข้ายินดีที่เราได้เจอกันอีกครั้ง!”

หูเถี่ยหนิงโค้งคำนับให้และเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเราจะมีเรื่องเข้าใจผดเล็กน้อยกันแบบนี้ ข่าวสารที่เราได้รับมานั้นเป็นเพียงเรื่องโป้ปด ได้โปรดท่านหลินมู่อวี่อย่าได้ถือโทษเราเลย เป็นเพราะหูเถี่ยหนิงผู้นี้ไม่ได้สั่งการด้วยตนเองจึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ มณฑลชางหนานของเราช่างมีแม่ทัพที่โง่เขลาเสียจริง!”

หลินมู่อวี่ยิ้ม “คิดเสียว่าท่านได้นำทัพทหารห้าหุบเขาหมื่นคนมาคุ้มกันเราแล้วตอนนี้ เป็นพระคุณแก่ข้ายิ่งนัก!”

“อ้อ…”

สีหน้าหูเถี่ยหนิงเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินคำพูดราวกับเย้ยหยันของหลินมู่อวี่ ทว่าไม่ได้เผยท่าทีใดออกมา ก่อนจะยิ้มแล้วกล่าวต่อ “ท่านแม่ทัพหลินมู่อวี่ สำนักอัศวินแห่งภูเขาขวานไฟแห่งนี้นับได้ว่าเป็นกบฏและสมควรถูกลงโทษอย่างสาสม ข้าสงสัยว่า…ท่านแม่ทัำจะจัดการกับนักโทษพวกนั้นอย่างไร?”

หลินมู่อวี่ตอบ “ข้าจะส่งพวกมันไปรับโทษที่เมืองหลันเยี่ยน ซึ่งส่วนใหญ่คงถูกประหารเป็นแน่ ท่านไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น”

“ข้าคงไม่ต้องกังวลแล้วสินะ”

“ถูกต้องขอรับ”

หลินมู่อวี่ก้าวออกไปก่อนจะเอ่ยขึ้น “ท่านผู้ว่าการ…มีเหมืองทองคำอยู่บนเขาขวานไฟซึ่งถูกขุดโดยพวกสำนักอัศวินแล้ว ช่างโชคร้ายที่ข้าได้รับคำสั่งมาให้เพียงจัดการสำนักอัศวินเท่านั้น ไม่อำนาจจัดการเหมืองที่เจอ ข้าจึงต้องส่งสาสน์ไปยังเมืองหลันเยี่ยนให้ส่งแผนกที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ แต่ก่อนหน้านั้น…ข้าคงต้องขอฝากภูเขาขวานไฟให้ท่านช่วยคุ้มกัน อย่าให้โจรหน้าไหนมาขโมยทองของจักรวรรดินะขอรับ!”

หูเถี่ยหนิงพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ!”

“อืม เช่นนั้นขอส่งมอบหน้าที่ให้กับค่ายเขาเหิน ข้าขอตัวพาคนของข้าลงเขาไปก่อน”

“รับทราบท่านแม่ทัพ”

หลงเซียนหลินโบกธงเป็นคำสั่งให้ทัพทหารค่ายเขาเหินและทหารเมืองห้าหุบเขาแหวกทางเดินให้หลินมู่อวี่

กองทัพทหารม้าเก้าพันคนของหลินมู่อวี่รุดออกจากภูเขาขวานไฟอย่างรวดเร็วโดยมีทหารสำนักอัศวินที่เหลือติดตามไปด้วยพร้อมกับแร่เพชรสีขาวพันสี่ร้อยก้อน แน่นอนว่าหูเถี่ยหนิงยังไม่รู้ถึงการมีอยู่แร่นี้

เมื่อหนีจากการปิดล้อมได้สำเร็จ หลินมู่อวี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหนีกองทัพหมื่นคนมาได้เช่นนี้ เป็นการเสี่ยงแค่ไหนมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้…

“ท่านขอรับ”

เว่ยโฉวเอ่ยถามด้วยท่าทีสงสัย “เราทิ้งเหมืองทองไว้ให้หูเถี่ยหนิงจัดการ เท่าที่ข้ารู้…เขาคงคิดขโมยทองพวกนั้นอีกเป็นแน่ เราจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอีกแล้วหรือขอรับ?”

“แล้วอย่างไร?”

หลินมู่อวี่ถามกลับ “แค่มีชีวิตรอดออกมาได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว อย่าไปกระตุกต่อมเสือจะดีกว่า เว่ยโฉว…เจ้ารู้จักกรมปกครองท้องถิ่นดียิ่งกว่าข้า เช่นนั้นตอบข้าทีว่ามีผู้ว่าการอย่างหูเถี่ยหนิงอยู่เยอะหรือไม่?”

เว่ยโฉวชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะตอบ “ผู้ว่าการกว่าครึ่งจากทุกมณฑลเป็นเช่นเดียวกันขอรับ พวกนั้นเกณฑ์ทหารเข้าพวกตัวเองเป็นจำนวนมาก เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กองกำลังของจักรวรรดิมีไม่เพียงพอ ต่อเมื่อมีคำสั่งลงมาให้ทำลายสำนักอัศวินมณฑลที่มีกองกำลังของตนเองจึงไม่ค่อยทำตามคำสั่งขอรับ”

“เป็นเช่นนี้เอง…”

หลินมู่อวี่ถอนหายใจด้วยความกระอักกระอ่วน อาณาจักรอันยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ฉินที่ดูเหมือนจะเป็นศูนย์กลางการปกครอง ทว่าแท้จริงแล้ว…ในแต่ละมณฑลต่างปกครองตนเองมาโดยตลอดอย่างนั้นหรือ? โลกนี้ช่างมีแต่ปัญหา…หลินมู่อวี่ไม่รู้ว่าการได้มาที่นี่เป็นนับว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่

หลินมู่อวี่กระชับกระบี่วิญญาณมังกรแน่น มองไปยังพื้นเปล่าขณะอยู่บนหลังม้าด้วยความรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก

…………………………

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God | ทะลุมิติเทพศาสตรา
Status: Ongoing
The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา หลินมู่อวี่ บุตรชายมหาเศรษฐีพันล้านที่ชีวิตสมบูรณ์แบบสุดๆ คนทั้งโลกต่างพากันอิจฉา เขามีโลกอีกใบคือการเป็นเซียนเกมที่ไต่ไปถึงระดับเทพยุทธ์ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง และหันหลังให้โลกที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะพ่อต้องการให้เขาไปช่วยสืบทอดกิจการ ในวันที่เขาตัดสินใจหันหลังให้โลกใบนี้ หลินมู่อวี่ตัดสินใจลบแอคเคาน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องโหยหาโลกใบนี้อีกต่อไป ในระหว่างที่เขาลบแอคเคาน์และรีเซ็ทระบบเพื่อออฟไลน์นั้น จู่ๆ รอบตัวก็เต็มไปด้วยความมืดมิด เขาถูกฉุดกระชากลงไปสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย มีเพียงเสียงชายชราผู้หนึ่ง ที่บอกว่าเส้นทางของเขายังไม่จบง่ายๆ หลินมู่อวี่ต้องเอาตัวรอดในโลกใหม่พร้อมปริศนาว่าใครคือต้นเหตุที่ทำให้เขาติดอยู่ในเกมและไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้ การผจญภัยในโลกแฟนตาซีสุดล้ำของหลินมู่อวี่จึงต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset