Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 65: นี่คือ「รับส่ง」สินะคะ?

สมาชิกเจ้าประจำเข้ามารวมกันในห้องรับรองจากห้องข้างๆโดยมีอีกหนึ่งคนเพิ่มเข้ามา นักเรียนหญิงถือหนังสือเล่มใหญ่เข้ามามีสีหน้าแข็งๆ ฉันรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นเธอ ที่ไหนกันนะ? จึงจ้องผ่านเกราะหมวกไป พอเธอรู้สึกถึงสายตาของฉันก็รีบกล่าวขอบคุณ

 

「สะ สวัสดีค่ะ ท่านแมรี่ เมื่อวันก่อนต้องขอพระขอบคุณค่ะ」

 

ตัวสั่น*กึกๆ*ขณะโค้งศีรษะลงต่ำปอยผมจึงสั่นไหว ฉันจำได้ว่าเธอคือเด็กผู้หญิงที่เป็นคนนำเรื่องเหตุการณ์ในคราวนี้เข้ามา ทว่า น่าเสียดาย เพิ่งเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว ซ้ำยังเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ความทรงจำของฉันจึงคลุมเครือ ชาติก่อนเองก็เช่นกัน ดูเหมือนว่าฉันจะมีความสามารถในการจดจำใบหน้าคนค่อนข้างต่ำ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

 

(แค่นิดหน่อยน่ะ นิดหน่อย ไม่ได้ขี้ลืมขนาดนั้น…หรอก…มั้ง?)

 

บอกกับตัวเองแบบนั้น แม้จะไม่มั่นใจนัก

 

「คุณหนูคะ ทางนี้คือคุณฟีเนลจากชมรมวิจัยสมุนไพรเวทย์มนต์ค่ะ」

 

「…」

 

ในขณะที่ฉันกำลังอึกอักไม่รู้จะพูดอะไร ก็ได้ยินเสียงทุตเต้ลอยมา

 

(จริงๆเลย คุณเมดผู้ยอดเยี่ยมกับคุณหนูไม่เอาอ่าวตามแบบฉบับเลยนะตัวฉันเนี่ย)

 

ฉันกระซิบบอกทุตเต้และโค้งเล็กๆเพื่อขอบคุณ เลือกที่นั่งให้ฟีเนล และทุกคนก็นั่งลงตาม

 

「แล้ว สถานการณ์ในตอนนี้จะแก้ได้ยังไงเหรอ?」

 

ฉันตั้งคำถาม มากิลูก้าตอบโดยการหันไปทางฟีเนล ฉันจึงหันไปมองเธอตาม พอถูกทุกคนจ้องมอง ฟีเนลก็มีอาการประหม่า จึงรีบกางหนังสือที่เธอเอามาลงบนโต๊ะ

 

「เอ่อ คือว่านะคะ ฉันได้ตรวจสอบเกี่ยวกับแมนเดรก แล้วก็ไปพบกับคำอธิบายที่น่าสนใจนี้เข้า เกี่ยวกับของเหลวที่ถูกตัวท่านแมรี่นั้น เป็นส่วนดอกของสายพันธุ์ย่อยค่ะ」

 

「เห~ อย่างงั้นเหรอ」

 

「ผลของส่วนดอกนั้น คิดว่าทุกท่านคงทราบกันอยู่แล้ว แมนเดรกโดยทั่วไปนั้น ส่วนที่มีค่าคือส่วนรากค่ะ เพราะรากนั้นเปี่ยมไปด้วยพลังเวทย์และสารอาหาร ถือเป็นผักประเภทหัวที่นำมาปรุงได้หลากหลายและมีรสชาติเยี่ยมค่ะ」

 

「อะโน คุณฟีเนล ออกนอกเรื่องแล้วค่ะ」

 

ขณะฟังเรื่องราวที่ออกนอกราง*หือ?* ตอนที่คิดอย่างนั้น มากิลูก้าก็จัดการลากกลับเข้ามา ฟีเนลหน้าแดงเริ่มขอโทษขอโพย

 

「ขะ ขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว」

 

「ไม่เป็นไรหรอก แล้วรากของแมนเดรกมันทำไมเหรอ?」

 

ฉันพูดยกโทษเพื่อให้เธอสงบลงแล้วเล่าต่อ

 

「เอ? อะ นำไปเคี่ยวทำซุปน่าจะดีที่สุด ส่วนฉันคิดว่าใส่ลงทอดพร้อมกับไข่」

 

「ไม่ได้พูดถึงเรื่องปรุงเป็นอาหารค่ะ วิธีแก้ผลของมันต่างหากล่ะคะ」

 

ดูเหมือนเธอจะยังเบลอไม่หาย ฉันจึงเหล่ตามองด้วยชุดเกราะ

 

「ขะ ขอโทษค่ะ! เอ เอโตะ รากของแมนเดรกถือเป็นยาแก้สารพัดโรค ด้วยสรรพคุณทางยาที่มากมาย จึงถูกใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงยาหลายชนิดค่ะ ส่วนสายพันธ์ย่อยจะมีลักษณะเฉพาะ คือคุณสมบัติย้ายมาอยู่ที่ส่วนดอก แม้ว่าส่วนรากจะสามารถนำไปปรุงยาได้เช่นเดียวกับแมนเดรกทั่วไป แต่ผลที่ได้ถือว่าด้อยกว่ามาก จึงถูกจัดว่าใหญ่แบบเสียเปล่าค่ะ」

 

การพูดรัวขนาดลิ้นพันกันหยุดลง ฟีเนลมีอาการหายใจหอบ ทุตเต้จึงยื่นแก้วใส่น้ำให้เธอ เธอกล่าวขอบคุณแล้วดื่มพรวดเดียวหมด

 

「อืมอืม แล้ว?」

 

「รากของมันน่ะค่ะ หากนำมาสกัดแล้วดื่มจะสามารถล้างผลของส่วนดอกได้ค่ะ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นสิ่งที่รู้กันมานานแล้ว ทว่า ไม่รู้ทำไม? ถึงไม่เป็นความรู้ที่แพร่หลายในวงวิชาการ ม่า อาจเป็นเพราะโดยปกติแล้วไม่มีใครคิดที่จะลบล้างผลของมัน ข้อมูลนี้จึงถูกส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คน อย่างในโรงเรียนก็มีเพียงหนังสือเล่มนี้เล่มเดียวที่อธิบายไว้ แถมยังอยู่ในหมวดคำอธิบายเพิ่มเติม จึงไม่แปลกที่จะไม่มีใครรู้ค่ะ… จะ จบเพียงเท่านี้ค่ะ !」

 

ด้วยความตึงเครียด ฟีเนลจึงอธิบายออกมาพรวดเดียว พอพูดจบเธอก็ *ซูด~ฮ่า~ซูด~ฮ่า~*หายใจเข้าออกอย่างหนัก

 

「รากของแมนเดรกนั่นยังอยู่รึเปล่า?」

 

「ตั้งแต่ตอนนั้นเหล่าอาจารย์เป็นผู้ดำเนินการต่อจึงไม่รู้ว่าดำเนินการยังไงบ้าง แต่ถ้าตามที่คุณฟีเนลพูดมาล่ะก็ เป็นไปได้ที่จะถูกกำจัดทิ้งเหมือนของไม่มีราคาค่ะ」

 

ฉันรีบถามยืนยันกับมากิลูก้า เธอ*อื~ ม*ทำการคิดก่อนตอบอย่างคลุมเครือ เพราะถูกปลูกอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงมีปัญหากับชื่อเสียงของโรงเรียน แถมบริเวณนั้นยังถูกเผาไปหน่อยแล้วด้วย ส่วนดอกของสายพันธ์ย่อยที่มีค่าแตกไปแล้ว เหลือเพียงส่วนรากที่จัดว่าไร้ค่า ทำให้มีแนวโน้มว่าจะถูกโละทิ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

(ประกายแสงแห่งความหวังจะถูกคว้าเอาไปอย่างงั้นเหรอ!)

 

「หากถูกเหล่าอาจารย์กำจัดทิ้งต้องแย่แน่ค่ะ ดังนั้น ไปขุดกันเล้ย!」

 

ฉันรีบลุกขึ้นยืน ทุกคนพยักหน้าและยืนขึ้นตาม ออกจากห้อง มุ่งหน้าไปที่แปลงทันที

 

 

 

ในขณะที่พยายามกดความคิดด้านลบ พวกเราก็มาถึงแปลง แล้วก็พบว่ามีอาจารย์กับเหล่านักเรียนกำลังถกเถียงอะไรกัน ดูเหมือนเหล่านักเรียนชายที่เป็นคนเพาะปลูกกำลังขอร้องอะไรกับอาจารย์ฟรีทอยู่

 

「เกิดอะไรขึ้นหรือครับ?」

 

องค์ชายยิ้มอย่างอ่อนโยนส่งเสียงถามอาจารย์ฟรีทที่กำลังมีสีหน้าลำบากใจ ทุกคนรับรู้การมาของทางนี้และหยุดการถกเถียงลง อาจารย์ฟรีทมองมาทางพวกเราทำสีหน้าแบบว่า*รอดแล้ว* ในขณะที่เหล่านักเรียนชายแสดงสีหน้าแบบ*จบสิ้นแล้ว*

 

「ไม่มีอะไรหรอกครับ คือกำลังจะจัดการกับแปลง โดย ขุดรากที่ไม่จำเป็นของสายพันธ์ย่อยแล้วเอาไปกำจัดทิ้ง แล้วเหล่านักเรียนชายทางนี้ก็มาร้องห่มร้องไห้ขอให้ไม่ทำแบบนั้นน่ะครับ」

 

คำบอกเล่าสถานการณ์จากอาจารย์ให้กับองค์ชายด้วยน้ำเสียงเรียบๆทำเอาฉันขนลุก

 

(กะ เกือบไปแล้ว… ถ้ามาพรุ่งนี้มีหวังถูกกำจัดทิ้งจบเห่แน่ฉัน)

 

「ได้โปรดนะครับ อาจารย์ ถึงส่วนดอกจะหายไปแล้วก็ตาม แต่ถ้ารากยังปลอดภัย แม้จะต้องใช้เวลาหลายปี ก็ยังกลับมาใหม่ได้นะครับ ถ้ารากถูกขุดขึ้นมา ความฝันนั้นจะจบลงทันทีเลยครับ」

 

เด็กนักเรียนชายขอร้องกับอาจารย์ และ ด้วยน้ำเสียงที่ดังทำให้เหมือนพูดกับพวกเราไปด้วยพร้อมกัน

 

「พวกนาย ที่ช่วยหยุดอาจารย์ไว้ ต้องขอขอบคุณนะคะ」

 

ผู้ที่ตอบสนองต่อการอุทธรณ์คือมากิลูก้า คำพูดนั้นทำให้เหล่านักเรียนชายรวมถึงอาจารย์ฟรีทเองต่างก็ประหลาดใจ

 

「ขะ คลาสมาสเตอร์」

 

เหล่านักเรียนชายที่กำลังมีความสุขกับคำพูดที่คาดไม่ถึงต่างมองไปทางเดียวกัน มากิลูก้า*หงึก*พยักหน้า พอเห็นท่าทางที่เป็นการยืนยันเช่นนั้นเหล่านักเรียนชายก็แสดงอาการดีใจออกมา

 

「ดีใจที่มาทันเวลา เอาล่ะ ซาฮะ! ช่วยขุดขึ้นมาด้วยค่ะ!」

 

「「เเเเอ๋!」」

 

และ ความคาดหวังของพวกเขาก็ถูกคำประกาศอันโหดร้ายของคลาสมาสเตอร์ทำให้รู้สึกเหมือนถูกผลักตกลงนรกโดยไม่บอกกล่าว

 

「โอ่ย เดี๋ยวเถอะ จากที่ได้ยินมา ถ้าดึงแมนเดรกขึ้นมาจะทำให้เป็นลมหมดสติ แล้วยังจะสั่งให้ทำเนี่ยนะ? 」

 

มากิลูก้าร้องขออย่างเป็นธรรมชาติให้ซาฮะเป็นคนคนจัดการสายพันธ์ย่อย หยุดเท้าหรี่ตามองมัน เหล่าเด็กนักเรียนชายถูกฉัน ซาฟีน่า อาจารย์ฟรีทขวางอยู่ พวกเขาต่างกลัวฉันในชุดเกราะเต็มตัวจึงได้แต่ก้มมองด้วยความขมขื่น ในขณะที่ทุตเต้ ฟีเนลและองค์ชายอยู่อีกฝั่งคอยดูทั้งคู่

 

「ใช่แล้วค่ะ อ้อ มันอันตราย ดังนั้นฝ่าบาทกรุณาอยู่ห่างๆ ด้วยค่ะ」

 

「โอ่ย! มาคุยกันก่อนเซ่!」

 

(ถึงฉันเองจะทำแบบนั้นด้วยก็เถอะ แต่มากิลูก้าเองก็ใจร้ายกับซาฮะเหมือนกันนะ…)

 

คำพูดของซาฮะโดนเมินเฉยอย่างสิ้นเชิง ฉันมองดูมากิลูก้าที่สั่งการไปเรื่อยๆแล้วก็ถอนหายใจผ่านหมวกเกราะออกมา

 

「เน่ ฉันทำด้วยเอามั้ย? ต้องขอบคุณชุดเกราะทำให้ไม่มีปัญหากับผลกระทบที่ว่า」

 

ยกมือขึ้นโกหกเรื่องประสิทธิภาพเกราะ พูดออกไปแบบนั้นเพื่อให้เรื่องรีบๆเดินหน้าต่อ

 

「ไม่ค่ะ! ท่านแมรี่กรุณาอยู่นิ่งๆค่ะ!」

 

「ใช่แล้ว! ถ้าเข้ามายุ่งจะมีปัญหาหนักขึ้นกว่าเก่า!」

 

ก็ถูกมากิลูก้ากับซาฮะร่วมกันปฏิเสธข้อเสนอของฉันอย่างหนักหน่วง แถมยังพูดด้วยสีหน้าซีเรียส…

 

(อูย ปฏิกิริยาแบบนั้นมันอะไรน่ะ แบบนี้ มันเหมือนกับว่าฉันเป็นตัวปัญหาเลยไม่ใช่เหรอ ใช่สิ ความวุ่นวายนี่มันเกิดขึ้นเพราะฉันนี่นะ…)

 

ด้วยปฏิกิริยาตอบรับแบบนั้นทำเอาฉันช็อคนิดหน่อย ลงไปนั่งซึม เอานิ้วชี้ซ้ายขวาจิ้มกัน*จึ๊งๆ*ทั้งที่อยู่ในสภาพสวมเกราะ เหล่านักเรียนชายทำหน้าแปลกๆกับสิ่งที่ฉันทำ แต่ฉันไม่อยู่ในอารมณ์จะไปใส่ใจกับตรงนั้น ในขณะที่ซาฟีน่า「ทุกคน แค่เป็นห่วงท่านแมรี่เท่านั้นเองค่ะ」เข้ามาพูดปลอบ

 

「ซาฮะประสาทแข็งอยู่แล้ว สบายมากค่ะ ช่วยดึงขึ้นมาให้ไวเลยนะคะ」

 

มองดูอาการของฉันแล้ว มากิลูก้าก็ถอนหายใจ ออกคำสั่งให้ซาฮะรีบลงมือ มีเสียง「อ๊าาา ไม่น้า~ 」ลอยมาจากทางด้านหลัง แต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน

 

「อะ โอ้」

 

ดูเหมือนไม่มีอะไรจะโต้แย้งแล้ว ซาฮะใช้มือทั้งสองข้างสำรวจส่วนลำต้นที่อยู่เหนือพื้นดิน หาจุดเหมาะๆ สายพันธุ์ย่อยมีจุดแตกต่าง ตรงที่มีขนาดใหญ่กว่าประมาณสองเท่า จากที่เห็นคงยากที่คนๆเดียวจะดึงขึ้นมา

 

「เอ้า~ฮึบ!」

 

ตั้งท่ายืนให้มั่นคงส่งแรงไปที่ขา ซาฮะสูดลมหายใจแล้วออกแรงดึงพร้อมส่งเสียง ทุกคน ต่างเอามือปิดหูโดยไม่ต้องบอก จับตาดูสถานการณ์ด้วยความตึงเครียด

 

「อึก! นะ นี่มัน! ไม่ไหว!」

 

สีหน้าของซาฮะบ่งบอกว่าออกแรงดึงเต็มที่ แต่เจ้าสายพันธุ์ย่อยก็ยังคงถูกฝังอยู่ในดิน

 

「เกิดอะไรคะ!」

 

สังเกตเห็นความผิดปกติของซาฮะ มากิลูก้าจึงถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล เกิดความตึงเครียดไปทั่วบริเวณ

 

「แข็งมาก ไม่ขยับเลย!」

 

「「「…」」」

 

เสียงถอนหายใจซ้อนทับกันจนได้ยินชัดเจน ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น…

 

「ยังไงนายก็เป็นคลาสมาสเตอร์ของโซลออสนะ! แสดงพลังออกมาสิคะ!」

 

แล้ว ฉันก็กระตุ้นซาฮะ

 

「ไม่ล่ะ ไม่ไหวๆ ถ้ามากกว่านี้ได้หลังพังกันพอดี ขอแรงมาช่วยกันหน่อย」

 

การกระตุ้นอะไรแบบนั้นของฉัน กลับได้คำตอบว่าขอยอมแพ้จากคลาสมาสเตอร์ของโซลออส ทำเอาแม้แต่ซาฟีน่ายังทำหน้าเอือมๆอออกมา

 

「ถ้าเช่นนั้น ผม」

 

「ฝ่าบาทกรุณาอยู่ที่ตรงนั้นค่ะ」

 

「ใช่แล้วค่ะ! ปล่อยตรงนี้เป็นหน้าที่ของพวกเรานะคะ」

 

องค์ชายแสดงสีหน้าลำบากใจเดินเข้าหาซาฮะ ถูกมากิลูก้ากับฉันรีบตรงเข้าไปขวางและห้ามเอาไว้

 

「งั้น ร่วมมือกันล่ะ มากิลูก้าร่วมมือกับท่านแมรี่เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว」

 

พูดแบบนั้นแล้ว เจ้าตัวไม่ได้เรื่องก็ปล่อยมือจากสายพันธุ์ย่อย ลุกขึ้นยืน เดินไปทางองค์ชายก่อนที่พวกเราจะทันได้พูดอะไร ทิ้งให้โรลม้วนแนวตั้งสีทองกับชุดเกราะสีขาวเต็มตัวยืนมองหน้ากัน ตัดสินใจว่าจะเอายังไง

 

「ดูท่าทาง ผมคง」

 

「「ไม่ค่ะ! ปล่อยเป็นหน้าที่ของพวกเราด้วยค่ะ!」」

 

ในระหว่างที่พูดออกไปแบบนั้นด้วยความจำเป็น พวกเราก็ส่งสายตาขุ่นเคืองจ้องไปยังซาฮะ ซาฮะถอยหลังครึ่งก้าวหลบมัน โดยการไปซ่อนตัวอยู่หลังองค์ชาย

 

「ช่วยไม่ได้นะ ท่านแมรี่ พวกเราลงมือกันเถอะค่ะ」

 

「อื้ม」

 

「ขอนะคะ ช่วยอย่าทำอะไรเกินเลย กรุณาทำตามที่บอก เข้าใจนะคะ อย่าพยายามทำอะไรแปลกๆ โดยเด็ดขาดเลยนะคะ ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้นค่ะ」

 

มากิลูก้าย้ำเพื่อความมั่นใจ ในขณะที่ฉันปิ๊งบางอย่างขึ้นมา

 

(นะ นี่มัน ที่เคยเห็นในทีวีสินะ 「รับส่ง」มุกของคู่หูตลกสินะ)

 

「อื้อ เข้าใจแล้วค่ะ!」

 

ฉันพยักหน้าอย่างแรง

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Comment

Options

not work with dark mode
Reset