เด็กหญิงชุดขาวแสยะยิ้ม วางขาหมูในมือลงบนตะแกรงย่าง มือเล็กๆ ขาวปลอดขยับมงกุฎเหนือศีรษะ จ้องหลิวเชียนฮ่วนแล้วพูดว่า “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ เจ้าต้องอยากหลอกชิงมงกุฎของข้าไป จากนั้นเป็นราชินีเองใช่ไหม”
“หา?”
หลิวเชียนฮ่วนชะงัก ถูกคำพูดนี้ทำเอาสับสนงุนงง
อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนไม่ได้ดีไปกว่าหลิวเชียนฮ่วนเท่าใดนัก พวกเขาต่างก็คิดว่าความคิดของตนถูกอ่านจนทะลุปรุโปร่งแล้ว ไม่คิดว่านี่จะเป็นเพียงความคิดของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แม้แต่ท่านทูตก็เกือบจะแย่แล้ว
โชคดีที่พวกเขาทั้งสามไม่ได้แสดงเจตนาร้าย ท่าทางเรื่องนี้ยังพอจะเจรจากันได้
“ไม่มีทางเด็ดขาด เพียงแค่อยากชมมงกุฎของท่านสักหน่อยเท่านั้นจริงๆ หากไม่เชื่อข้า ข้าใช้สุดยอดของเล่นของข้าเป็นหลักประกันได้” หลิวเชียนฮ่วนพูดอย่างจริงใจอีกครั้ง
เป็นอย่างที่คิด นางหยิบมือถือออกมาท่ามกลางสีหน้าสงสัยของเด็กหญิง และเริ่มแนะนำวิธีการเล่นและคุณสมบัติของมัน
ของเล่นชิ้นนี้มีแรงดึงดูดเด็กหญิงอย่างมหันต์ เด็กหญิงเกิดความสนใจขึ้นมาไม่น้อย นางเดินไปยืนข้างหลิวเชียนฮ่วน ดวงตาสุกใสจดจ้องเนื้อหาหลากหลายสีสันบนหน้าจอมือถือ มุมปากหยักยกขึ้น
“เอ๊ะ น่าสนใจ…” เด็กหญิงยิ้มหวาน ดวงตาหยีเป็นรูปจันทร์เสี้ยว
สายลมโชยผ่าน ทุกอย่างช่างสวยงามเสียนี่กระไร
เพียงแต่ว่า…ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด
กำปั้นขาวหยวกกระแทกลงกลางอกของหวังเสวียนจ้านแล้ว
รวดเร็วยิ่งนัก ไวจนหลิวเชียนฮ่วนเบิกตากว้าง อันหลินถึงขั้นไม่ทันแสดงปฏิกิริยาอะไรเลยด้วยซ้ำ
มีเพียงหวังเสวียนจ้านที่ชูมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อกำบัง
แต่สายไปเสียแล้ว ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้กันเกินไป
หวังเสวียนจ้านไม่ได้ปลุกสายเลือดมังกรอย่างสิ้นเชิงเพื่ออำพรางเจตนาร้าย พลังไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม แต่หมัดขาวผ่องกลับเป็นเหมือนอสรพิษที่ซุ่มซ่อนในมุมมืดแล้วโผล่มากะทันหัน หนึ่งการโจมตีถึงแก่ชีวิต
ครืน!
กำปั้นเงียบสงัดไร้เสียง แต่ยามกระแทกลงไปกลับทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
คลื่นกระแทกที่น่ากลัวแผ่กระจายออกไปเป็นวงกลม ทำให้หลิวเชียนฮ่วนกับอันหลินกระเด็นออกไป
หน้าอกของหวังเสวียนจ้านยุบลงไป กระดูกแตกละเอียด ลอยละลิ่วขึ้นสูงปานลูกระเบิด
เศษอวัยวะเคล้าเลือดถูกหวังเสวียนจ้านถ่มออกมา
เด็กหญิงครางในลำคอเบาๆ ฝ่าเท้ากระทืบอย่างแรง แรงสะท้อนกลับทำให้ผิวดินเกิดหลุมลึกหลายจั้ง ร่างสันทัดพุ่งหวีดหวิวขึ้นฟ้า เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น
“ศิษย์พี่หวัง!”
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเหลือเกิน กะทันหันเกินไป เมื่ออันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนได้สติ เด็กหญิงก็ไล่กวดหวังเสวียนจ้านที่บาดเจ็บสาหัสลอยล่องอยู่กลางอากาศแล้ว
ท้องนภามืดสนิทระเบิดกระแสไฟที่เจิดจ้าอย่างยิ่ง บาเรียสายฟ้าที่เก่าคร่ำคร่าถูกปล่อยออกมา เสียงมังกรคำรามแผ่ไปทั่วทุกหนแห่งพร้อมกับอานุภาพมหาศาล
เนื้อตัวของหวังเสวียนจ้านเต็มไปด้วยเกล็ดมังกร หอกยาวเป็นดั่งมังกรโทสะ ชั่ววินาทีที่สายฟ้ากระจายตัว หอกก็พุ่งไปหาเด็กหญิงตรงหน้าอย่างแรงไม่ลดละ
เด็กผู้หญิงยังคงปล่อยหมัดที่ธรรมดาไม่วิเศษเช่นเดิม แต่หมัดนี้นี่แหละที่ทะลุบาเรียสายฟ้า ปะทะกับคมหอก
อันหลินเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าพื้นที่โดยรอบที่ทั้งสองปะทะกันเริ่มบิดเบี้ยว
หลังจากนั้นก็เป็นการปะทะกันระหว่างพลังงานอันเหนือคำบรรยาย กลายเป็นริ้วคลื่นสีขาวกระจายตัว
ฟ้าดินดังกึกก้องกัมปนาท ขุนเขาและธาราสั่นสะเทือน!
เลือดถูกถ่มออกมาอีกครั้ง หวังเสวียนจ้านที่ระเบิดพลังต่อสู้สุดชีวิตกระเด็นออกไปอีก
…
“เอ๊ะ มีการต่อสู้อยู่ทางนั้น”
“สายฟ้านี่…เหมือนจะเป็นหวังเสวียนจ้านจากสรวงสวรรค์!”
“คงจะไม่ได้แย่งจอกศักดิ์สิทธิ์ทองกันอยู่นะ อย่าให้พวกเขาได้ไปก่อนเลย!”
ตัวแทนของสวนเอเดนทั้งสามที่กำลังกางปีกสีขาวเหินเวหา กลายเป็นลำแสงสีขาวพุ่งตัวออกไปทันทีที่เห็นการต่อสู้ จอกศักดิ์สิทธิ์ทองต้องเป็นของพวกเขาเท่านั้น!
เด็กหญิงย่ำอากาศกระโจนใส่หวังเสวียนจ้านอีกครั้ง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มลำพองตน “หมัดสุดท้าย”
ตูม!
พายุหมัดทะลวงร่างของหวังเสวียนจ้าน กลายเป็นคลื่นพลังอันน่าสะพรึง ทำให้ผิวดินที่อยู่เบื้องล่างร้อยจั้งลอยขึ้น…
“หวังเสวียนจ้านจากสรวงสวรรค์ ตกรอบ!”
เสียงประกาศดังขึ้นในอากาศ
ออกัส เชอรีลและอาเธอร์หยุดบิน จ้องเด็กหญิงที่อยู่ไกลออกไปหลายร้อยจั้งแล้วสูดหายใจดังเฮือก
อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนสบตากัน ไม่พูดพร่ำทำเพลง หาที่ลับตาแล้วซ่อนตัวทันที
“จอกศักดิ์สิทธิ์ทองน่ากลัวเกินไปแล้ว ใช้กำลังสู้ไม่ได้ จำต้องใช้ปัญญา!” อันหลินพูดเสียงเข้ม
หลิวเชียนฮ่วนผงกศีรษะรัวๆ รำพันอย่างเห็นด้วยว่า “เด็กหญิงคนนี้เป็นเด็กที่เจ้าเล่ห์จริงๆ ทั้งๆ ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น แต่กลับเอาชนะด้วยวิธีที่ทำให้ศัตรูไม่ระแวดระวังตัว…”
อันหลินปิดปากเงียบกริบ รู้สึกเย็นเยียบจับขั้วหัวใจ
ใช่แล้ว ทุกคนถูกนางหลอก มีเรื่องของโครงกระดูกสีชาดเป็นตัวอย่าง พวกเขาจึงคิดว่าปีศาจที่มีรูปร่างเป็นเด็กผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่สติปัญญาบกพร่อง หลอกง่ายเช่นกัน
ไม่คิดเลยว่านางจะตอบโต้ด้วยอุบาย หลอกใช้ความคิดที่อคติของพวกอันหลิน จัดการแกนนำของพวกเขาโดยไม่ทันตั้งตัว…
หากว่าหวังเสวียนจ้านเตรียมตัวเพียงพอ ไม่ถูกหมัดนั่นกระแทกแต่แรก ต่อให้เขาสู้เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังมีโอกาสหลบหนี
ตัวแทนทั้งสามของสวนเอเดนเริ่มล่าถอยรวดเร็วเมื่อเห็นหมัดสะท้านฟ้านั้น
พวกเขาจำต้องวางแผนระยะยาว…
“แม้นสิงโตจับกระต่าย ก็ทุ่มเทสุดฝีมือเช่นกัน ความรู้สึกที่ได้ใช้อุบายนิดหน่อย ความจริงก็สนุกไม่เบาเลย” ขณะที่มองหวังเสวียนจ้านที่ค่อยๆ เลือนหายไป เด็กน้อยยิ้มกริ่ม
จากนั้นนางก็เห็นชาวปีกปัณฑูรสามตนที่บินออกไปไกล ใบหน้าอ่อนวัยถมึงทึงขึ้นมาอีกครั้ง
“พวกเจ้า…”
ตูม! นางกระทืบเท้าไปด้านหลัง อากาศดังสนั่นหวั่นไหว
คลื่นลมสีขาวกระจายตัวโดยพลัน ร่างกายทิ้งริ้วรอยสีขาวไว้เป็นทาง เข้าประชิดตัวแทนทั้งสามของสวนเอเดนอย่างรวดเร็ว
“ไปทั้งที่ยังไม่ทักทายข้า…”
หมัดนี้พุ่งเป้าไปที่อาเธอร์ที่บินได้ค่อนข้างเชื่องช้า
เด็กผู้หญิงเหาะเหนือศีรษะของเขา ปล่อยหมัดกระแทกลงไปทันที
อาเธอร์ปล่อยโล่แสงสีขาวออกมาในช่วงเวลาคับขัน
หมัดพุ่งลงมา ม่านแสงก็แตกกระจาย กำลังหมัดทำให้ร่างของอาเธอร์บิดเบี้ยว พสุธาเบื้องล่างแตกระแหงในบัดดล รอยแยกลุกลามออกไปหลายร้อยจั้ง
“ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย!”
เด็กหญิงพูดจบ
อาเธอร์เบิกตากว้าง ค่อยๆ สูญเสียโฟกัส ม่านแสงสีทองเริ่มปกคลุมรอบตัวเขา
“อาเธอร์จากสวนเอเดน ตกรอบ!”
ระหว่างที่เด็กหญิงลงมือจัดการอาเธอร์ ออกัสกับเชอรีลก็หนีออกไปค่อนข้างไกลแล้ว
เมื่อเห็นพวกเขาหนีไปอย่างไม่ลังเลเช่นนี้ เด็กหญิงก็ย่นคิ้วน้อยๆ
นางเหลียวมองแสงไฟที่ลุกโชนตรงสันเขา เริ่มหันหลังแล้วเหาะกลับไป
ออกัสกับเชอรีลเห็นเด็กหญิงเลิกตามล่า ต่างก็เกิดความรู้สึกรอดพ้นวิกฤตแล้ว
บอกตามตรง หากเด็กหญิงไล่กวดด้วยความเร็วที่น่ากลัวเช่นเมื่อครู่นี้ แม้แต่ออกัสก็คงสลัดนางไม่หลุด
บริเวณที่ว่างตรงสันเขา กองเพลิงยังคงคุโชนดังเปรี๊ยะๆ
แต่ทว่าผิวดินรอบตัวเริ่มแตกทลายและทรุดตัวลง มีเค้าลางจะพังทลายอยู่รำไร
เด็กหญิงทะยานลงสู่พสุธา เดินไปนั่งข้างกองไฟ ยกตะแกรงย่างขึ้นมองหมูป่าดำเกรียม ถอนหายใจทำหน้าอมทุกข์ “เฮ้อ…ไม่คิดเลยว่าจะไหม้…”