บทที่ 136 ราชาปีศาจ[รีไรท์]
“น้องราชาปีศาจ ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันรีบลงมือตอนนี้ วันนี้คงไม่มีใครรอดชีวิตออกไปได้แน่” หยินจงพูดด้วยความหงุดหงิด เต่าทองเหล็กของเขาไม่สามารถหยุดยั้งฉู่ชวิ๋นได้แน่นอน ส่วนราชาปีศาจก็เอาแต่ยืนดูและหลบอยู่หลังเขาเหมือนเป็นเด็กน้อย หยินจงจึงรู้สึกหงุดหงิดจนแทบขาดใจตายแล้ว
ราชาปีศาจก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน ดวงตาของเขาเป็นประกายวาวโรจน์ เมื่อราชาปีศาจพลิกฝ่ามือ ถ้วยสีดำใบหนึ่งพลันปรากฏขึ้นอยู่บนมือของเขา
“ถ้วยปีศาจ”
เมื่อหยินจงเห็นของสิ่งนี้ ก็ถึงกับชะงักถอยหลังไปสองก้าว อุทานออกมาด้วยความตกใจ
ราชาปีศาจมองหน้าอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไม่อยากเชื่อ หยินจงรู้ได้อย่างไรว่าของสิ่งนี้คือถ้วยปีศาจ?
ดวงตาของหยินจงเต็มไปด้วยประกายของความหวาดกลัว ไม่คิดเลยว่าไม้ตายของราชาปีศาจก็คือถ้วยปีศาจ เมื่อปีศาจที่ถูกขังอยู่ในถ้วยถูกปลดปล่อยออกมา สถานที่แห่งนี้ก็จะเปลี่ยนไปกลายเป็นทะเลเลือด แม้แต่พวกเขาก็อย่าหวังว่าจะรอด
ถ้วยปีศาจมีชื่อเสียงอยู่ในยุทธภพมานานแล้ว ไม่มีใครไม่รู้จักมัน แต่ก็ไม่มีใครเคยพบเห็นมันในยุคปัจจุบันเช่นกัน เล่าขานกันว่าถ้วยปีศาจถูกส่งต่อกันมาตั้งแต่โบราณกาล ไม่สามารถระบุได้ว่ามันถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทุกคนรู้แค่เพียงอย่างเดียวว่าถ้วยปีศาจถูกค้นพบมานานแล้ว
ในตอนที่นักโบราณคดีขุดค้นพบถ้วยปีศาจ ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร ว่ากันว่าต้องใช้วัวถึง 9 ตัวและเสือ 2 ตัวถึงจะดึงประตูในห้องที่เก็บถ้วยปีศาจออกได้ แต่ผลก็คือพวกเขาได้ปลดปล่อยสิ่งที่ถูกกักขังอยู่ด้านในถ้วยปีศาจออกมา ไม่มีใครในกลุ่มนักโบราณคดีที่รอดชีวิต แม้แต่ชาวบ้านธรรมดาที่อยู่ในรัศมี 10 ลี้ก็ถูกฆ่าตายหมดเช่นกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในถิ่นของสำนักราชาปีศาจ ดังนั้น หยินจงจึงทราบเรื่องนี้ดีกว่าใคร
ฉู่ชวิ๋นหรี่ตาลงเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงความเป็นอันตราย
“ทุกคนถอยไปก่อน” ฉู่ชวิ๋นสั่งให้เฉินฮั่นหลงและคนอื่นๆ กลับเข้าไปในคฤหาสน์
อันว่าเป็นคำสั่งของฉู่ชวิ๋น ทุกคนเชื่อฟังอย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว โม่ซิงเหอลากตัวหลิวเจี่ยเฟยที่นอนหมดสติกลับเข้าไปภายในคฤหาสน์พร้อมกับทุกคน
ฉู่ชวิ๋นรีบสร้างม่านพลังครอบคลุมคฤหาสน์ทั้งหลังไว้ทันที
พรึบ!
เต่าทองเหล็กที่ลอยอยู่ในอากาศก็รู้สึกได้ถึงความเป็นอันตรายเช่นกัน มันพุ่งโฉบลงมาทันที
ฉู่ชวิ๋นคำรามในลำคอ ปล่อยหมัดขึ้นไปกลางอากาศเต็มแรง
ผลั่ก!
คราวนี้ เต่าทองเหล็กปะทะเข้ากับหมัดของฉู่ชวิ๋นเข้าเต็มเปา
ดวงตาของหยินจงเบิกโตด้วยความไม่อยากเชื่อ เต่าทองเหล็กของเขาถูกกำปั้นของฉู่ชวิ๋นต่อยจนแหลกสลาย ซึ่งทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง
ราชาปีศาจหันไปมองหน้าหยินจงอย่างขอคำแนะนำ ว่าอีกฝ่ายอยากให้เขาใช้งานถ้วยปีศาจเลยหรือไม่?
หยินจงถูกถามอย่างกะทันหันจึงตัดสินใจไม่ทัน มันน่ากลัวเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็คงต้องทำในสิ่งที่หวาดกลัวเสียแล้ว เขาพยักหน้าเบาๆ
พรึบ!
ฉู่ชวิ๋นพลันกระโดดเข้ามา หมายขโมยถ้วยปีศาจไปตอนที่พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัว
ไม่มีใครจะคาดคิดเลยว่าการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มจะพัฒนาขึ้นมาขนาดนี้ เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นมาถึงตัวเองแล้ว ดวงตาของราชาปีศาจก็เป็นประกายดุร้าย เขาใช้มือเพียงข้างเดียวเปิดฝาถ้วยที่ปิดอยู่ขึ้นมา
ในวินาทีนั้นเอง ความรู้สึกถึงอันตรายที่น่าขนลุก ก็แผ่กระจายออกมาจากถ้วยปีศาจ
เคี๊ยะ…!
เสียงหัวเราะที่แปลกประหลาดดังกังวานขึ้น ราชาปีศาจโยนถ้วยในมือทิ้ง ก่อนจะรีบก้มตัวหลบหาที่กำบังทันที
แต่ถ้วยปีศาจไม่ได้ตกพื้น มันลอยอยู่ในอากาศ
เสียงหัวเราะดังเคี๊ยะๆ ชัดเจนเต็มสองหู พลังลมปราณสีดำพวยพุ่งขึ้นมาจากปากถ้วย ตามติดด้วยกลิ่นคาวเลือดและความตาย
ถ้วยใบเล็กๆ ใบนี้เหมือนจะไม่มีก้นถ้วย พลังลมปราณสีดำพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและรวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ และในที่สุด มันก็เปลี่ยนร่าง กลายเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความสูงประมาณ 3 ถึง 4 เมตรที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?” เฉินฮั่นหลงและคนอื่นๆ ไม่อยากจะเชื่อ ขณะนี้ พวกเขามาแอบดูอยู่ตรงหน้าต่าง และเห็นฉากที่น่าสยองขวัญนี้กับตาของตัวเอง
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันดูทรงพลังมาก ขนาดพวกของราชาปีศาจยังต้องรีบหลบขนาดนี้” โม่ซิงเหอมีดวงตาเคร่งเครียดขึ้น
“แต่ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะเป็นปีศาจประเภทไหน นายท่านของเราเป็นอมตะสามารถกลับมาจากความตายได้ ไม่ว่าเป็นปีศาจหรือสัตว์ประหลาดจากไหน นายท่านก็สามารถฆ่าได้ในดาบเดียวอยู่แล้ว” สำหรับในใจของเฉินฮั่นหลง ฉู่ชวิ๋นไม่ต่างจากเทพเจ้า ไม่มีผู้ใดจะสามารถเอาชนะนายท่าน ของเขาได้
“มันอันตรายมาก” ฮวาชิงหวู่พูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เธอรับรู้ได้ถึงความน่าหวาดกลัวของเงาสีดำนั้น
“นายท่านจะมีอันตรายไหม?” โม่ซิงเหอถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเช่นกัน
ฮวาชิงหวู่ส่ายหัวเบาๆ
แล้วทุกคนก็เงียบไป ได้แต่เฝ้ามองเหตุการณ์ต่อไปด้วยความตึงเครียด
…
ตอนที่ฉู่ชวิ๋นเห็นสิ่งนี้ปรากฏตัวออกมาเขาก็รู้แล้วว่ามันคืออะไรก่อนหน้านี้ราชาปีศาจคนเก่าก็อยากจะใช้ของสิ่งนี้เช่นกัน แต่ว่าตอนนั้นมันยังพัฒนาไม่เสร็จสมบูรณ์
ณ ปัจจุบัน ของสิ่งนี้มีพลังกล้าแข็งมากยิ่งกว่าราชาปีศาจคนเก่าเสียอีก เขาไม่รู้เลยว่าถ้วยปีศาจถ้วยนี้ต้องใช้เวลาพัฒนานานถึงเท่าไหร่กัน?
ตอนที่ฉู่ชวิ๋นได้ข้ามไปอยู่ต่างโลก ที่นั่นก็มีปีศาจอยู่ไม่น้อย และส่วนใหญ่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและทรงพลังของร่างกาย
แต่โชคดีที่มีพลังฝีมือของเขาก็พัฒนามากขึ้นมาอีกหลายระดับเขาได้เรียนรู้วิชาอัญเชิญฟีนิกซ์ และมีพลังแกร่งกล้าพอที่จะสามารถถล่มตึกได้ทั้งหลัง ถ้าเขาไม่ได้มีฝีมือเก่งกาจถึงขั้นนี้ วันนี้เขาก็คงตายไปแล้ว ถือว่าอีกฝ่ายเตรียมตัวมาดีจริงๆ
เฟี๊ยว…!
พลังลมปราณสีดำม้วนตัวไปมา
สีหน้าของราชาปีศาจและหยินจงแปรเปลี่ยนไปในทันที พวกเขารู้สึกได้ว่าเลือดในลำตัวกำลังพลุ่งพล่าน คล้ายกับว่ามีพลังงานบางอย่างกำลังจะดูดเลือดของพวกเขาออกไป
ที่ด้านหลัง ผู้ฝึกตนหลายคนกรีดร้องด้วยความสยองขวัญ พวกเขาลงไปดิ้นทุรนทุรายอย่างควบคุมไม่ได้ เหมือนกับว่าถูกพลังที่มองไม่เห็นกำลังเล่นงานอยู่อย่างสาหัส
ในขณะนี้ สีแดงก่ำในดวงตาของฉู่ชวิ๋นได้จางหายไปแล้ว และมันถูกแทนที่ด้วยประกายความลึกล้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุด
พรึบ!
ฉู่ชวิ๋นขยับตัว การเคลื่อนไหวของเขาเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด ชายหนุ่มยกกำปั้นขึ้นปล่อยหมัดออกไป คลื่นพลังลมปราณพุ่งออกไปเข้าใส่เงาร่างสีดำนั้นทันที
ฟุบ!
เลือดสาดกระจายในอากาศ บรรดาผู้ฝึกตนที่นอนทุรนทุรายอยู่ถูกพลังของเงาปีศาจสังหารไปหมดสิ้น
เนื่องจากฉู่ชวิ๋นรู้ดีว่าเงาสีดำนี้จำเป็นต้องดื่มเลือดก่อน ถึงจะมีพลังมากพอจนสามารถพูดคุยได้
บรรดาผู้ฝึกตนที่เสียชีวิตเพราะฉู่ชวิ๋น ไม่ได้ทิ้งร่างไว้บนพื้นที่อีกต่อไป แต่ศพของพวกเขาลอยตรงเข้าไปหาเงาแห่งความตายนั้นด้วยเช่นกัน
ฉู่ชวิ๋นส่งเสียงคำรามในลำคอ สะบัดฝ่ามือทีหนึ่ง ก็ปล่อยพลังขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง
มวลอากาศสั่นไหว ฝ่ามือขนาดใหญ่ถูกปล่อยออกมาโต้ตอบพลังของเขา
พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน – ตามมาด้วยความเงียบงัน
ในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะเคี๊ยะๆ ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง พลังลมปราณสีดำหมุนวนไม่หยุด และยังก่อตัวขึ้นมากลายเป็นมือขนาดยักษ์
พรึบ!
หลังจากที่มือขนาดยักษ์สีดำปรากฏขึ้นกลางอากาศ มวลอากาศก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง และมือขนาดยักษ์มือนี้ ก็กวาดศพที่ลอยอยู่ในอากาศรวมถึงกองเลือดที่เจิ่งนองอยู่บนพื้นดินไปหมดสิ้น
พรึบ!
ภูเขาสั่นสะเทือน แผ่นดินไหว เกิดควันลอยขึ้นมาจากบนพื้นดิน การแตกตัวเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง
ศพที่ลอยอยู่ในอากาศหายไปแล้ว แม้แต่เลือดก็จางหายไปเช่นกัน
เคี๊ยะๆๆๆๆๆๆ!
ฉู่ชวิ๋นรู้สึกได้ถึงความโกรธแค้น
หลังจากนั้น กลุ่มพลังลมปราณสีดำก็รวมตัวกันเป็นก้อนกลมขนาดเท่ากับลูกบาสเกตบอล และพุ่งตรงเข้ามาหาฉู่ชวิ๋นเป็นจำนวนหลายสิบลูก
ฉู่ชวิ๋นสะบัดฝ่ามือออกไป
พรึบ!
พลังลมปราณสีดำแตกกระจายออกทันที
พรึบ!
นิ้วมือของฉู่ชวิ๋นเริงระบำเหมือนกับผีเสื้อตอมดอกไม้ ก้อนพลังงานสีดำลูกแล้วลูกเล่าระเบิดตัวหายไป
จนก้อนพลังลูกสุดท้ายระเบิด เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นกลางอากาศ
ผู้อาวุโสสามคนที่ติดตามราชาปีศาจถูกดูดเข้าไปในมวลอากาศสีดำ และในพริบตาต่อมา ทั้งสามคนก็ร่วงตกลงมาจากมวลอากาศนั้น ในสภาพที่กลายเป็นมัมมี่ พลังลมปราณและเลือดเนื้อในร่างกายถูกดูดไปหมดสิ้น
“แกสมควรตาย!”
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายเย็นเยียบขณะที่พูดกับราชาปีศาจ
ในขณะนี้ เหมือนกับว่ามวลอากาศสีดำกำลังถูกดูดกลับเข้าไปอยู่ในถ้วย แต่ความจริงก็คือมันเป็นพลังลมปราณจากศพต่างๆ ที่ถูกดูดเข้าไปต่างหาก
และในวินาทีนั้นเอง มวลอากาศสีดำก็ขยายตัวใหญ่ขึ้น และชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
เขามีลักษณะเหมือนกับมนุษย์ทุกประการ เพียงแต่ว่ามีความสูงมากถึง 3-4 เมตร ชายคนนี้มีปากกว้างและมีเขี้ยวที่ยาวประมาณ 20 เซนติเมตรงอกออกมาจากริมฝีปาก บนเขี้ยวเต็มไปด้วยคราบเลือด ชายผู้นี้ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ลำตัวของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสีแดงเข้ม เส้นเลือดที่ฝังตัวอยู่ใต้กล้ามเนื้อมีลักษณะเหมือนงูสีแดง ดูน่าขยะแขยงน่าหวาดกลัว และทั้งลำตัวของเขาก็เต็มไปด้วยความน่าสะอิดสะเอียนของกลิ่นคาวเลือด
“ราชาปีศาจกลับมาแล้ว ข้าจะให้รางวัลกับคนที่ปลดปล่อยข้า” นอกจากส่งเสียงหัวเราะเคี๊ยะ ๆ แล้ว ปากของเขาก็สามารถพูดได้แล้ว เมื่อได้ดูดเลือดของผู้อาวุโสทั้งสามคนไป ลิ้นของเขาก็แข็งตัวจนสามารถพูดได้เป็นคำแล้วนั่นเอง
ราชาปีศาจและหยินจงหมอบอยู่กับพื้น ตัวแข็งค้างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
“เจ้าใช่ไหม?” สายตาที่แข็งกระด้างมองไปยังราชาปีศาจกับหยินจง
ทั้งสองคนเงียบไปชั่วครู่ พวกเขาได้แต่ก้มหัวคำนับและพูดว่า “ยินดีต้อนรับกลับครับ องค์ราชา”
พวกเขาไม่รู้จักสิ่งนี้ว่าเป็นอะไรและไม่รู้ว่าควรเรียกยังไง นอกจากเรียกว่าองค์ราชาไปก่อน
ใบหน้าขององค์ราชาปราศจากความรู้สึก เขาจ้องมองคนทั้งสองอยู่นานสองนานก่อนที่จะพูดว่า “อ่อนแอจริงๆ เห็นแก่ที่พวกเจ้าเป็นคนปลุกข้าขึ้นมา จะฝืนใจรับไว้เป็นทาสรับใช้ พวกเจ้ามาติดตามข้าก็ได้”
ราชาปีศาจและหยินจงถึงกับหมดหวัง ความขมขื่นของพวกเขาไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลย พวกเขาเป็นคนระดับเจ้าสำนักที่ไม่ว่าไปที่ไหน ก็ได้รับการต้อนรับเหมือนกับเทพเจ้า แต่ตอนนี้กลับมีสถานะเป็นทาสรับใช้และจะต้องยอมรับตำแหน่งนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ มันทำให้ราชาปีศาจและหยินจงรู้สึกทั้งอับอายและโกรธแค้น
แต่พวกเขายังอยากมีชีวิตไม่อยากตาย จึงต้องยอมรับตำแหน่งใหม่อย่างเสียไม่ได้ ในที่สุดพวกเขาก็ก้มหัวคำนับและกล่าวว่า “ขอบคุณครับ องค์ราชา!”