บทที่ 188 เตะ![รีไรท์]
โครมม!
กำแพงหิน จู่ ๆ ก็ระเบิดออก ก้อนหินมากมายทลายลงมา?มันน่ากลัวยิ่งกว่ากระสุนปืน ก้อนหินทั้งหมดกระหน่ำใส่ฉู่ชวิ๋น แต่ฉู่ชวิ๋นเคลื่อนไหวเบา ๆ หินเหล่านั้น ก็แหลกละเอียดกลายเป็นผง
“ฉู่ชวิ๋น แกมันสารเลว…” ใบหน้าที่บวมไปครึ่งหนึ่งหน้าของหวูฉางเฟิงคล้ายกับก้อนขนมปัง รอยนิ้วมือทั้งห้า ปรากฏบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจนมาก มันทำให้เขาโกรธเกรี้ยวจนใบหน้าบิดเบี้ยวราวกับผีสางที่น่ากลัว
ปรมาจารย์ขั้นแปด ผู้สง่างามน่าเกรงขามและเป็นที่เคารพนับถือ ตอนนี้ใบหน้าของเขามีแต่ร่องรอยถูกตบและเตะเต็มไปหมด
อ๊ากกก!
หวูฉางเฟิง คำรามออกมาและพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นอย่างไม่สนชีวิตทั่วทั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังลมปราณที่น่าหวาดกลัว แค่เขายกมือก็มีเสียฉีกขาดของอากาศดังขึ้น ฝ่ามือของเขาหมายจะซัดใส่ฉู่ชวิ๋นโดยตรง
ฉู่ชวิ๋นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขากำมือแน่นแล้วชกกำปั้นสวนหวูฉางเฟิง ไปในทันที
ตู้มม!
กำปั้นที่รุนแรงบดขยี้ลมปราณของหวูฉางเฟิงราวกับปุยนุ่น เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นราวกับฟ้าร้องจนพลังลมปราณแผ่กระจายพื้นที่โดยรอบ
หวูฉางเฟิงคำรามออกมาและซัดฝ่ามือออกมาหลายกระบวนท่า ลมหายใจของเขาทำให้อากาศสั่นไหวด้วยความกลัว เสียงอาการระเบิดเพราะพลังของเขาทำให้จอมยุทธ์ที่เห็นกลัวจนตัวสั่น หมัดทั้งสองข้างของฉู่ชวิ๋นรับมือหวูฉางเฟิงได้ทุกกระบวนท่า ไม่ใช่แค่นั้นเขากลับเป็นฝ่ายได้เปรียบและเข้าถึงตัวหวูฉางเฟิง! กำปั้นของเขาส่งเสียงคำรามราวกับสายฟ้าฟาด
เปรี้ยงงงงง!
หวูฉางเฟิงถูกกระแทกกลับด้วยหมัดของฉู่ชวิ๋น เขากระเด็นถอยออกมาจนพื้นดินแตกกระจายไปนับหลายสิบเมตรกว่าเขาจะทรงตัวได้ พื้นดินปรากฏรอยเท้าทิ้งไว้อย่างชัดเจน แต่ละรอยเท้าลึกลงไปใต้พื้นดินถึงสามนิ้ว เห็นได้ชัดว่าหมัดของ ฉู่ชวิ๋นนั้นทรงพลังเพียงใด
ฉู่ชวิ๋นดูเยือกเย็นเป็นอย่างมาก เผยให้เห็นถึงความเหนือคนของเขาทุกย่างก้าวของเขาเหมือนเงาตามตัวหวูฉางเฟิง เขาต่อยไม่ยั้งเพื่อหมายจะสังหารอีกฝ่าย
ใบหน้าแก่ ๆ ของหวูฉางเฟิงหยาบกร้านและบิดเบี้ยว เขาไม่สามารถหลบหนีได้ พลังภายในของเขาพุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุด เขายกฝ่ามือขึ้นแล้วกระแทก ฝ่ามือของเขาใส่ฉู่ชวิ๋นหมายจะตอบโต้บ้าง
ตู้มม!
ฝ่ามือของฉู่ชวิ๋นปะทะกับฝ่ามือของหวูฉางเฟิง อากาศฉีกกระชากเกิดคลื่นพลังขนาดใหญ่พร้อมพายุโหมกระหน่ำหลังจากการปะทะของทั้งสอง มันพัดกระจายไปทั่วพื้นที่ ไม่ไกลจากจุดปะทะต้นสนต้นหนา ๆ ถูกตัดกลางลำต้นและปลิวลอยไปไกล
หวูฉางเฟิงส่งเสียงร้องออกมาและกระเด็นไปไกล ฝูงชนต่างก็ตกใจ เท้าของเขาพยายามกระแทกพื้นจนลึกลงไปห้านิ้วก็ไม่อาจหยุดแรงกระแทกนี้ได้จนเขาชนเข้ากับกำแพงหินอีกครั้งครึ่งหนึ่งของร่างกายเขาถูกฝังไปในกำแพงราวกับเมื่อกี้นี้เลย ก้อนหินกลิ้งลงมาหลังหวูฉางเฟิงถูกฝังไว้ในนั้น
ฝูงชนที่เฝ้าดูการต่อสู้ก็ตกใจจนพูดไม่ออก พลังฝีมือของฉู่ชวิ๋นน่ากลัวมาก หวูฉางเฟิงที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน แต่กลับถูกซัดลอยเข้าไปในกำแพงหินสองครั้งติดต่อกัน แม้ว่าครั้งแรกเป็นผลมาจากการลอบโจมตีของฉู่ชวิ๋น แต่เวลานี้พวกเขารู้แล้วว่าฉู่ชวิ๋นเป็นของจริง
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นปรากฏความตกใจออกมา ความแข็งแกร่งระดับสุดยอดปรมาจารย์อย่าง หวูฉางเฟิง มันเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก อีกฝ่ายโดยหมัดของเขาเข้าไปเต็ม ๆ ถึงสองครั้งติดต่อกัน แต่หวูฉางเฟิงก็ยังไม่ตาย ถ้าแทนที่ด้วยปรมาจารย์ขั้นหกถึงเจ็ดเกรงว่าอีกฝ่ายคงตายไปนานแล้ว!
อย่าดูแค่ภายนอกแม้หวูฉางเฟิง จะถูกจู่โจมจนฝังตัวเข้าไปในกำแพงหินถึงสองครั้ง แต่เขารู้ว่า หวูฉางเฟิงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก ไม่สิแค่บาดเจ็บเล็กน้อยด้วยซ้ำ
ดูเหมือนว่าการบรรลุถึงขั้นแปด จะว่าแตกต่างจากขั้นเจ็ดคนละโลกเลยจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังลมปราณหรือความแข็งแกร่งของร่างกายต่างก็นับว่าเหนือชั้นมาก
ฉู่ชวิ๋นมองกำแพงหินอย่างเย็นชา แน่นอนไม่นาน กำแพงหินก็ระเบิด และหวูฉางเฟิงก็เดินออกมา นอกเหนือจากท่าทางที่ออกมาช้าลงจากครั้งแรกหวูฉางเฟิงไม่ได้เป็นอะไรเลย ลมปราณเองก็ยังเต็มเปี่ยม หวูฉางเฟิงมองไปที่ฉู่ชวิ๋นด้วยแววตาอาฆาตแค้นพร้อมใบหน้าที่ดูน่าเกลียด
“ฉู่ชวิ๋น แกจะต้องตายวันนี้!!!” เสียงของหวูฉางเฟิงเต็มไปด้วยความแค้นที่ไม่มีสิ้นสุด หลังจากวันนี้ภาพลักษณ์ที่ฉลาดหลักแหลมและรอบรู้ที่หวูฉางเฟิงสะสมมาอย่างยาวนานหลายสิบปีได้ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์
ไม่ว่าเขาจะฆ่าฉู่ชวิ๋นได้หรือไม่ก็ตาม ผู้คนจะไม่ลืมการต่อสู้ของเขาในวันนี้ เขาจะตัวตลกในโลกยุทธภพ ความอัปยศนี้จะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต หวูฉางเฟิง ส่งเสียงคำรามออกมาและเร่งพลังลมปราณล้อมรอบตัว
“ฉู่ชวิ๋น แกตาย!” เขาชกหมัดคู่ออกมา แต่มันไม่ใช่แค่นั้นยังมีกำปั้นสีขาวสองหมัดพุ่งออกมาเหนือจากกำปั้นของหวูฉางเฟิง พร้อมลมพายุโหมกระหน่ำพริบตาเดียวมันก็ทำลายพื้นดินไปจนถึงที่ที่ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่ เกิดเสียงดังสนั่นสั่นสะเทือนไปทั้งฟ้าดิน
ผู้คนที่เฝ้าดูการต่อสู้ตกอยู่ในสภาพตกตะลึง หลายคนจำได้ว่านี่คือทักษะการต่อสู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับหวูฉางเฟิง ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นยังคงเฉยเมย เขาขยับมือข้างหนึ่งแล้วชู่มันขึ้นฟ้า ทันใดนั้นท้องฟ้าก็สั่นสะเทือน แผ่นดินสั่นสะท้าน มือขนาดมหึมาอันน่าหวาดหวั่นปรากฏบนท้องฟ้าแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวลงมาพร้อมแรงกดดันที่จะบดขยี้ฟ้าดิน! พื้นดินถูกปกคลุมด้วยมือขนาดใหญ่ที่พุ่งลงมา
ตู้มมมมมมมม!
แค่ฝ่ามือยักษ์ปรากฏก็เกิดการระเบิดอันที่น่ากลัวจนทำให้ภูเขาเซวียนฉีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พื้นดินปรากฏรอยแตกจำนวนมากแผ่ขยายออกไป พายุจากการระเบิดแพร่กระจายราวกับคลื่นยักษ์ ก้อนหิน ดอกไม้และต้นไม้ทั้งหมดกลายเป็นผุยผง
การระเบิดและแรงสั่นสะเทือน ทำให้เกิดภูเขาถล่มจนก้อนหินขนาดใหญ่กลิ้งลงมา ถ้าสำนักสวรรค์ฟ้าไม่ได้เคลื่อนย้ายเหล่าลูกศิษย์เอาไว้ล่วงหน้า เกรงว่าผลกระทบจากกระบวนท่านี้ของฉู่ชวิ๋นจะฆ่าล้างบางผู้คนนับพันได้เลย!!!
ทุกคนนิ่งเงียบภายในดวงตาของพวกเขาปรากฏความหวาดกลัวสายตาหวูฉางเฟิงเปลี่ยนไป เฉินหวูฮุยบนยอดเขาเองก็ตกตะลึง พวกเขาประเมินฉู่ชวิ๋นต่ำเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ถึงตายเลยทีเดียว
“หวูฉางเฟิง แกจะได้ลิ้มลองพลังของฉันคนนี้!!!” ฉู่ชวิ๋นนั้นเริ่มขยันมือของตัวเอง ปลายนิ้วของเขาเปล่งประกาย นิ้วชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมเสียงฟ้าร้อง
เปรี้ยงงงง!
ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันทีที่มองตามมือยักษ์บนฟ้า มือยักษ์บนฟ้าเปลี่ยนท่าทางเป็นนิ้วยักษ์เหมือนเสาที่ค้ำยันฟ้าดิน
“วิชาดัชนีสังหารกระบวนท่าที่สามดัชนีสามอสุรา!” ฉู่ชวิ๋นเร่งลมปราณรอบตัวจนผู้คนหวาดกลัว จากนั้นนิ้วยักษ์ก็กระแทกเข้าที่หัวของหวูฉางเฟิง ดวงตาของหวูฉางเฟิงเบิกกว้าง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขาพยายามหลบหนีโดยไม่รู้ตัว แต่เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าตัวเองขยันไม่ได้เพราะนิ้วยักษ์เต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาลจนทำให้เขาหนีไม่พ้น
“โธ่…ย้ากกกกกกกกก” หวูฉางเฟิงคำรามหมายจะสูู้ตาย เขาเร่งพลังทั้งหมดที่มี หมัดทั้งสองของเขาระเบิดพลังที่น่าหวาดกลัวออกมา กำปั้นของเขาโจมตีไปที่นิ้วยักษ์ที่กำลังพุ่งลงมา ภาพในสายตาของทุกคนก็คือ กำปั้นของหวูฉางเฟิงโดนนิ้วมือยักษ์บดขยี้จนระเบิดและกระจัดกระจายไป
นิ้วยักษ์พุ่งลงมาอย่างไม่ยอมอ่อนข้อและบดขยี้หวูฉางเฟิงอย่างรุนแรง!
ตู้มมมมมมม!
ภูเขาเซวียนฉีสั่นไหวอีกครั้ง พื้นดินระเบิด ฝุ่นฟุ้งกระจายเหมือนนิวเคลียร์ระเบิดที่ภูเขาเซวียนฉีเกิดเป็นหมอกที่น่าหวาดกลัว
ผ่านไปนานกว่าควันและฝุ่นจะหายไปจนทุกอย่างสงบลง ทุกคนจ้องมองกันไปมา ไม่มีใครกล้าพูดอะไรตอนนี้พวกเขาได้ยินเพียงเสียงหายใจเท่านั้นเอง เมื่อเห็นรอยแตกอันน่าสยดสยองบนพื้นดินที่แผ่กว้างออกไปหลายสิบเมตร หวูฉางเฟิงถูกบดขยี้ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยกระแสไฟฟ้าช็อตส่งกลิ่นควันสีดำโชยออกมา คลานอยู่ในร่องธรณีเหมือน ซากสุนัขที่ตายแล้ว ทุกคนรู้สึกว่าลำคอของพวกเขาแห้งผาก หลังของพวกเขาเยียบเย็น
ปรมาจารย์…….ถูกทุบตีเหมือนซากสุนัขที่ตายแล้ว ช่างน่ากลัวจริง ๆ สายตาของทุกคนที่มองฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนไป โหดร้ายเกินไปแบบนี้คงไม่มีใครกล้าสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับจอมมารฉู่อีกแล้วอนาคตนี่เป็นท่วงทำนองความหวาดกลัวแห่งความตาย
“ความสูญเสียครั้งใหญ่เลยฉัน…” เจ้าสำนักเทียนหวู่พูดพึมพำออกมา หยานอี้มองมาที่เขาอย่างสงสัยว่า เจ้าสำนักเทียนหวู่สูญเสียอะไร
“ถ้าฉันรู้ว่าฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ฉันควรจะใส่ราคาเพิ่ม ฉันเดิมพัน ไปแค่ห้าสิบล้าน ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เพิ่มราคายังทันอยู่ไหม?” เมื่อหยานอี้ได้ยิน เขาก็พูดไม่ออก เขาบิดริมฝีปากแล้วมองไปที่หญิงสาวที่กำลังเพ่งสมาธิไปกับการต่อสู้จนอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างภูมิใจ “ใครละบอกว่าผู้หญิงไม่เก่งเหมือนผู้ชาย? ฉู่ชวิ๋นชนะแน่ ๆ ช่างเป็นกำไรจริง ๆ”
“หวูฉางเฟิง เพราะคำพูดอันหยิ่งผยองของแก ทำให้ฉันต้องเข้าไปในคุก และพ่อแม่ของฉันต้องถูกอยู่ที่นี่ ความเกลียดชังนี้ไม่ธรรมดาและแค่แกตายมันยังไม่สาแก่ใจฉัน แกอ้างว่าหยั่งรู้ฟ้าดินจะปกป้องสวรรค์ วันนี้ล่ะ? แกทำอะไรได้บ้าง?” ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ดวงตาของเขาเหมือนสายน้ำ เขาใช้นิ้วมือแทนมีดแล้วตัดผ่านอากาศ!