ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) บทที่ 55 พล็อตเรื่องผกผัน(4)
ตอนที่ซุนเย่าเหวินได้ยินชื่อ ‘เสิ่นเสวี่ยเหมย’จากปากของฉินเฟย นัยน์ตาก็ยิ่งตกใจมากขึ้น
แถมยังมีความระแวดระวังอันตรายอย่างเห็นได้ชัด!
ฉินเฟยยิ้มแล้ว พูดต่ออีกว่า : “ถ้าหากพูดขึ้นมาแล้ว นั่นก็เป็นเรื่องเมื่อสามสิบปีก่อนแล้ว”
เห็นเหมือนว่าฉินเฟยจะจมอยู่ในการะลึกความทรงจำบางอย่าง นัยน์ตาของซุนเย่าเหวินก็เปลี่ยนเป็นแปลกใจมากยิ่งขึ้น
เมื่อสามสิบปีก่อน?เหมือนว่าฉินเฟยยังไม่เกิดเลยนะ?งั้นเขาระลึกความทรงจำบ้าอะไร?
ฉินเฟยช่วยพูดระลึกความจำให้ซุนเย่าเหวินต่อ : “ปีนั้น เสิ่นเสวี่ยเหมยสอนหนังสือชั้นประถมในหมู่บ้าน เมื่อสามสิบปีก่อน นั่นก็เป็นปัญญาชนที่ไปยังชนบท เสิ่นเสวี่ยเหมยพักอาศัยอยู่คนเดียว ค่อนข้างมีความกล้า นิสัยแข็งแกร่งมาก ปีนั้นคุณหนีไปอยู่ที่นั่น ไม่มีเงินติดตัวซักหยวนเดียว เธอเป็นคนช่วยเหลือคุณ และรับคุณไว้อย่าใจกล้า แถมยังหาตำแหน่งราชการที่โรงเรียนให้คุณด้วย”
“ครึ่งปีต่อมา พวกคุณก็คบหาดูใจกันแล้ว ถูกไหม?”
“แต่ว่าคุณทรยศเธอแล้ว ทรยศความรู้สึกของพวกคุณ คุณแอบหนีไปแล้ว และหลังจากสร้างครอบครัวให้ร่ำรวยขึ้นในซงไห่ คุณก็ไม่เคยไปหาเธอ คุณรู้สึกละอายใจ!” คำพูดที่ฉินเฟยพูดออกมาค่อนข้างที่จะไม่รื่นหูแล้ว
ซุนเย่าเหวินมองฉินเฟยด้วยแววตาที่ซับซ้อนแวบหนึ่ง เงียบขรึมแล้ว
ในปีนั้นซุนเย่าเหวินอายุแค่24ปี ผ่านมาสามสิบกว่าปีแล้ว เขาถึงขั้นกับเกือบจะลืมลักษณะของเสิ่นเสวี่ยเหมยแล้ว
แต่ชื่อของเธอ นิสัยที่แข็งแกร่งของเธอ ซุนเย่าเหวินไม่เคยลืมเลือน ไม่มีทางลืมไปทั้งชีวิต
พูดขึ้นมาแล้วนั่นเป็นเรื่องในปี1990 แล้ว ก็อยู่ในช่วงที่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ขอเพียงแค่คนที่กล้าบุกกล้าสู้ ไม่จำเป็นจะต้องมีประวัติการศึกษาอะไรเลยด้วยซ้ำ หาเงินก้อนโตได้อย่างง่ายดาย สร้างบริษัทกลายเป็นเถ้าแก่ รวยชั่วข้ามคืนก็ไม่ใช่เรื่องที่ฝันไป!
ซุนเย่าเหวินก็เป็นคนที่กล้าบุกกล้าสู้เช่นนี้ หลังจากที่เขารู้ว่าเถ้าแก่ท่านนั้นที่ตัวเองได้ล่วงเกินหายสาบสูญไปจากโลกนี้แล้ว เขาก็ไม่ยินยอมที่จะอยู่บ้านพักบนภูเขาเล็กๆเช่นนี้อีก
เขาไม่อยากอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร ใช้ชีวิตที่น่าเบื่อแบบนี้
เพราะงั้นเขาแอบออกไปแล้ว ไม่ได้กลับมาอีก ในขณะเดียวกันก็ทำให้เขาและพี่ชายซุนเย่าฉวนสร้างกิจการที่ซงไห่แล้ว หลังจากที่พวกเขาได้เงินมาบางส่วน ก็ได้สร้างบริษัทแล้ว ก็เรียกได้ว่ามีประสบความสำเร็จชื่อเสียง
หลังจากพี่ชายเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาสืบทอดความปรารถนาของพี่ชายต่อ จะต้องพัฒนาลู่เจี้ยน กรุ๊ปให้ยิ่งใหญ่
ความพยายามของเขาไม่เสียเปล่า เขาประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ!
หลังจากนั้น เขาก็แต่งงานกับภรรยาที่สวยคนหนึ่ง ก็ไม่เคยคิดที่จะไปหาเสิ่นเสวี่ยเหมยอีก
เสิ่นเสวี่ยเหมยเป็นแค่คุณครูสอนเด็กประถม ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่อะไร เมื่อเทียบกับภรรยาในตอนนั้นของเขาสวยสู้ไม่ได้แน่นอน อีกอย่างภรรยาของเขาไม่เพียงแค่สวย แถมยังเป็นลูกสาวของข้าราชการ
เขาคิดว่าที่ตัวออกไปจากหมู่บ้านภูเขานั่นไม่ผิด เพียงแค่ค่อนข้างรู้สึกติดค้างกับเสิ่นเสวี่ยเหมยอยู่ในใจเสมอ
คนเราล้วนแต่มีความเห็นแก่ตัว เขาไม่สามารถไปหาเสิ่นเสวี่ยเหมย เพื่อทำลายชีวิตที่ดีงามในตอนนั้นของเขาอีก
แต่ว่าในเวลานั้น เกิดปัญหาขึ้นกับร่างกายของเขาแล้ว!
นี่ก็เป็นสาเหตุที่เขาหย่าร้างกับภรรยาคนก่อนหน้านี้ แต่วันนี้กลับมาคิดดูแล้ว เขาถึงได้รู้ว่า ตัวเองผิดไปแล้ว
ถ้าหากเป็นอย่างที่ฉินเฟยพูด เขารู้สึกละอายต่อเสิ่นเสวี่ยเหมย เขาไม่มีหาไปหาเธอ
แต่ว่า ผิดแล้วก็คือผิด มันผิดพลาดไปแล้ว ต่อให้ไปหาเธอแล้วจะมีความหมายอะไร?
“นายเคยตรวจสอบฉัน?”ซุนเย่าเหวินเงยหน้ามองฉินเฟย สีหน้าจริงจังมากยิ่งขึ้น
ฉินเฟยรู้เยอะเกินไปแล้ว ตอนนี้เขาค่อนข้างสงสัยเป้าหมายที่ฉินเฟยช่วยเหลือตัวเองแล้ว
เพียงแค่แสดงความเป็นมิตรกับตัวเองง่ายๆแค่นี้?
“ผมเคยพูดแล้ว ที่ผมพูดเรื่องเหล่านี้กับคุณแค่อยากจะแสดงความเป็นมิตรกับคุณ ส่วนตัวตนของผม คุณถามเยว่ถงหรือว่าพ่อตาของผมได้ ส่วนพูดไม่พูดก็เป็นเรื่องของคุณแล้ว แต่ ผมไม่ได้คิดร้ายต่อคุณจริงๆ ”ฉินเฟยผายมือ ใบหน้าจริงใจ
“อีกอย่าง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สำคัญเลย” ฉินเฟยยิ้มแล้ว : “สิ่งที่สำคัญคือ ใช่ว่าคุณจะไม่มีทายาท เสิ่นเสวี่ยเหมยได้เว้นทางหนีทีไล่ไว้ให้คุณแล้ว”
“หืม?”ซุนเย่าเหวินเงยหน้าขึ้นมองทันที
คุณน่าจะรู้นิสัยของเธอดีกว่าใครนะ เธอน่าจะรู้ได้ตั้งนานแล้วว่าคุณไม่เต็มใจที่จะอยู่บ้านพักบนภูเขาขนาดเล็กนี้ไปตลอดชีวิต คุณอยากจะออกไป ตอนนั้นเธออาจจะยังมีความหวังเล็กน้อยที่คุณจะกลับไปหาเธอได้ บางทีอาจจะไม่ได้สนใจที่คนอื่นซุบซิบนินทาเธอ เธอไม่ได้ทำแท้งเอาเด็กออก คลอดออมาแล้ว
“คำนวณตามเวลา วันนี้เสิ่นหรูจวินอายุสามสิบเอ็ดปีแล้ว คาดว่าแต่งงานมีลูกแล้ว เพราะงั้น ตอนนี้ไม่เพียงแค่คุณจะมีทายาท เกรงว่ายังมีหลานอีกด้วย”
“เปาะแปะ!”
บุหรี่ที่อยู่ใยมือของซุนเย่าเหวินหล่นลงพื้น มองไปยังฉินเฟยอย่างอ้าปากค้าง
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉินเฟยมาห้องวีไอพีกับเขา และก็เป็นวัตถุประสงค์ที่ใหญ่สุดที่ฉินเฟยจะเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา
เขาจะต้องทำให้ซุนเย่าเหวินซาบซึ้งใจ ถึงขั้นรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของตัวเองอย่างยิ่ง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ บุญคุณความแค้นของตระกูลเจียงและตระกูลซุนก็คลี่คลายได้ไปโดยปริยาย
ซุนเหล่าซานแค่อาศัยอำนาจของตระกูลซุนรังแกคนก็เท่านั้น และคนที่รับผิดชอบอย่างแท้จริงของตระกูลซุน คือซุนเย่าเหวิน!
ฟ้าหลังฝน นี่ต่างหากที่เป็นวิธีการสุดท้ายของฉินเฟย
ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีอะไรให้น่าพูดคุยกันด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้เขาได้พูดในสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว ส่วนที่เหลือต้องการแค่ซุนเย่าเหวินไปตรวจสอบเองก็พอ
ส่วนความหวังเล็กๆน้อยๆที่อยู่ในใจของเขานั้น เพียงแค่ต้องทำการตรวจDNAใหม่อีกครั้ง ความจริงก็จะเผยออกมา
มาคุยกันเป็นการส่วนตัวในห้องวีไอพี ก็เพื่อที่จะบอกซุนเย่าเหวินว่า เขาไม่เพียงแค่มีทายาท แถมยังมีความเป็นไปได้ที่จะขยายไปถึงรุ่นที่สามแล้ว
เป็นเพราะว่าเขาถูกสับจนได้รับบาดเจ็บไม่สามารถมีลูกได้ ในช่วงสามสี่ปีนั้นที่สร้างธุรกิจในตอนอายุ27ปี ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้ชายที่มีร่างกายแข็งแร็ง อีกอย่างนอกจากเสิ่นเสวี่ยเหมยแล้วยังเคยมีลูกมาแล้ว เพียงแต่เป็นเพราะปัจจัยในตอนนั้น ไม่ได้เก็บไว้ หลังจากสร้างชื่อเสียงสำเร็จ นี่ถึงได้ยิ่งเสียใจภายหลังแล้ว
เพราะงั้นเรื่องนี้ฉินเฟยจำเป็นจะต้องพูด
“ฉัน ฉันมีลูกหลานแล้ว……ลูกสาว……สิ่งที่นายพูดเป็นเรื่องจริง เป็นไปได้ว่าฉันอาจจะมี……มีหลานแล้ว……”ซุนเย่าเหวินมองไปยังฉินเฟยอย่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก คนทั้งคนตกตะลึงโดยสิ้นเชิงแล้ว ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีแม้แต่พูดเต็มประโยคก็ยังพูดไม่ชัดเจน
“ส่วนรายละเอียดผมก็ไม่ทราบแล้ว แต่ว่าเสิ่นเสวี่ยเหมยเหลือทางหนีทีไล่ไว้ให้คุณแล้วจริงๆ” ฉินเฟยยิ้มพร้อมพูดกล่าว
“เสวี่ยเหมยเธอ……นาย……นายไม่ได้หลอกฉันจริงๆ?เสวี่ยเหมยเธอ เธอคลอดลูกของเราในตอนนั้นแล้ว ลูกสาว……”ซุนเย่าเหวินดวงตาเบิกโพลง ข้างในเต็มไปด้วยเส้นเลือด หายใจรุนแรงขึ้นเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าสภาพจิตใจของเขาในเวลานี้ แข็งแกร่งอย่างมากโดยสิ้นเชิง!
“ผมจะหลอกคุณทำไม?”ฉินเฟยหัวเราะแล้ว อดไม่ได้ที่จะเหล่มองซุนเย่าเหวินที่ตื่นเต้นอย่างมาก ถามย้อนว่า : “ทำไม รังเกียจที่ไม่ใช่ลูกชายเหรอ?”
“ไม่ๆๆ ลูกสาวก็ดี ลูกสาวก็เหมือนกัน มีลูกชายที่ล้างผลาญ สู้มีลูกสาวจะดีกว่านะ ” ซุนเย่าเหวินส่ายหน้าอย่างกับป๋องแป๋งเลย ตื่นเต้นมาก
“ผมคิดว่า ตอนนี้คุณซุนน่าจะรู้ว่าต่อไปควรจะทำอะไร คุณผ่านมรสุมมามากกว่าผม น่าจะต้องรู้แน่ว่าควรจะทำยังไง บางเรื่องควรจัดการยังไงก็จัดการอย่างนั้น ถึงคราวที่จะต้องตัดสินใจก็ควรตัดสินใจไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดหายนะ เตรียมต้อนรับกับชีวิตใหม่”
“ฉันรู้ ฉันรู้ว่าควรทำยังไง……”ซุนเย่าเหวินพยักหน้าอย่างเต็มแรง ยื่นมือออกไปถูใบหน้าอย่างเต็มแรง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลับว่าถูกเขาตัดสายอย่างรวดเร็ว
ซุนเย่าเหวินเดินกลับมาสองสามก้าว หายใจหนักหน่วงกว่าก่อนหน้านี้หน่อยแล้ว คนทั้งคนอยู่ในสภาวะที่ย้อนแย้งกันอย่างมาก เหลือเชื่อและก็ตื่นเต้นมากอีก ถึงขั้นเป็นกังวล กลัวว่าจะเหมือนตัวเองในเมื่อก่อน สิ่งที่เรียกว่าดีงาม เป็นเรื่องที่จอมปลอมทั้งนั้น!
“จริงสิ นายพูดกับฉันไม่ต้องเคารพเช่นนี้ ต่อไปนายก็คือน้องชายของฉัน!” ซุนเย่าเหวินรีบเดินเข้ามาสองก้าว หันหน้ามองฉินเฟย พูดด้วยสีหน้าท่าทางที่เคร่งขรึม
“คุณเป็นเพื่อนกับพ่อตาของผม ผมและเยว่ถงเป็นคนรุ่นหลังของคุณ”ฉินเฟยยิ้มเล็กน้อย ในใจค่อนข้างตื่นเต้น และก็ไม่ปิดบัง: “ลุงซุนพูดประโยคนี้ออกมา ผมก็พึงพอใจแล้ว”
“ต่อไป เรื่องของคุณก็คือเรื่องของผม!”ซุนเย่าเหวินมองไปยังฉินเฟยอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่งแล้ว
ไม่ว่าฉินเฟยจะมีเป้าหมายอะไร แต่ของขวัญที่ฉินเฟยมอบให้ในวันนี้ สำหรับซุนเย่าเหวินแล้ว ยิ่งใหญ่กว่าท้องฟ้า
นี่ไม่เพียงกอบกู้ครึ่งชีวิตที่เหลือของเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นถึงขั้นที่ว่าช่วยชีวิตทั้งตระกูลซุนไว้ด้วย ถึงยังไงตอนนี้ตัวเองก็มีอาย 54ปีแล้ว กำลังวังชาก็ไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน คาดว่าต่อไปโจวฉ่ายเวยร่วมหัวกับโจวต้าเฉียงวางแผนฆ่าตัวเองก็มีความเป็นไปได้
บุญคุณนี้มีมากแค่ไหน ในใจของซุนเย่าเหวินรู้ดีอย่างมาก
ฉินเฟยยิ้มพร้อมทั้งพยักหน้า อดที่จะถอนหายใจไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าข้อมูลที่หน่วยข่าวกรองของตระกูลฉินในปีนั้นได้รับมาโดยบังเอิญ วันนี้ช่วยตัวเองได้เยอะขนาดนี้แล้ว
“จริงสิ เสี่ยวเหมย หลายปีที่ผ่านมานี้ เธอไม่แต่งงานเหรอ?”ซุนเย่าเหวินที่ตื่นเต้นรีบทำให้ตัวเองสงบลงทันที พูดถามอย่างตื่นเต้น
“ไม่นะ คุณน่าจะรู้ว่าตอนนั้นมันยุคสมัยไหน เธอคลอดลูกโดยไม่ได้แต่งงาน แถมยังไม่พูดว่าผู้ชายเป็นใครด้วย เพราะเหตุนี้จึงไม่ได้สอนหนังสือแล้ว ”
“จริงๆแล้ว จากชื่อของลูกสาวคุณก็มองเห็นอะไรบางอย่างได้ ‘หรูจวิน (นางบำเรอ)’ตอนนั้นเธอน่าจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยหวังว่าคุณจะกลับไปหาเธอได้ แต่คุณไม่ได้กลับไปหาเธอเลย และก็ไม่ให้ฐานะใดๆกับเธอ”
ซุนเย่าเหวินพยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจที่ตัดสินทำลงไป
“เธอไม่มีฐานะและชื่อเสียง คลอดลูกออกมาโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีงานทำแล้ว แค่คิดคุณก็รู้ได้แล้วว่า ตอนนั้นเธอลำบากมากแค่ไหน ผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงดูลูกอย่างยากลำบากเพียงลำพัง มีหลายครั้งที่ตัวเองจะต้องทำงานถึงสามสี่งาน!”น้ำเสียงของฉินเฟยค่อนข้างโมโห : “และนี่เป็นเพียงแค่ความเหนื่อยล้าทางกาย ส่วนที่แบกรับไว้ทางจิตใจทั้งหมด ไม่มีใครเข้าอกเข้าใจ!เบื้องหลังของเธอถูกคนเยาะเย้ยและประณามกว่าเท่าไหร่ บางทีคนในครอบครัวก็อาจจะไม่ยอมรับเธอ!”
ซุนเย่าเหวินก้มหน้าลงอย่างมาก มือสั่นเทา จุดบุหรี่อีกมวนหนึ่งแล้ว
“ส่วนลูก เหอะๆ เด็กคนหนึ่งที่ไม่มีพ่อ บางทีอาจจะเป็นเพราะความพิเศษของเสิ่นเสวี่ยเหมยแม่ของเธอ เธอก็ถูกรังแกที่โรงเรียนไม่น้อยเลยนะ”น้ำเสียงของฉินเฟยค่อยๆเยือกเย็น: “คุณติดค้างพวกเขามากเกินไปแล้ว!”