อัลฟ่าการละคร ตอนที่ 4

ตอนที่ 4 คนปล่อยเงินกู้

ตอนที่ 4 คนปล่อยเงินกู้ 

ชรัณกัดไก่ทอดชิ้นโตเข้าปากคำแล้วคำเล่าอย่างสบายอารมณ์ พอได้กินของอร่อยก็ให้คลายความหงุดหงิดลงไปได้บ้าง ทว่าไก่ชิ้นสุดท้ายยังไม่ทันจะได้ลงไปอยู่ในกระเพาะ กลับรับรู้ได้ถึงการมาเยือนของใครบางคนเข้าเสียก่อน 

“เอ่อ…มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” 

ชรัณเอ่ยถามไปตามหน้าที่ เพราะตอนนี้ยังไม่หมดเวลางาน ทว่าคนตัวโตใส่แมสก์มิดชิดทำเพียงสูดหายใจเข้าออกราวกับเรียกความมั่นใจ ก่อนจะหยิบบางสิ่งออกมายื่นให้ชรัณแทน 

“ผมเอานี่มาแจกครับ ถ้าหากสนใจก็สามารถติด…” 

“ไม่โว้ย! ไม่ติดต่ออะไรทั้งนั้นแหละ บ้านไม่ได้เป็นหนี้! ไม่ได้รีบใช้เงินด้วย พ่อแม่ตายหมดแล้วไม่ต้องส่งเสีย จะปล่อยเงินกู้ก็ไปปล่อยที่อื่นครับ ที่นี่สวนสนุกมีเจ้าของ คุณมาทำแบบนี้ผมจะแจ้ง รปภ. มาลากคุณออกไปนะ!” 

ยังไม่ทันที่ก้องภพจะได้อธิบายว่ามันคือใบปลิวอะไร เสียงใส ๆ ของการ์ดตัวเล็กก็ตะโกนออกมาดังลั่นจนคนตัวโตกระดากอาย แทบจะแทรกแผ่นดินหนี ใบหน้าใต้หน้ากากขึ้นสีแดงจัด แยกไม่ออกว่ากำลังอายหรือโกรธกันแน่ 

“ดะ เดี๋ยวก่อน คุณ คุณฟังก่อน ผมไม่ได้ปะ…” 

“ไม่ปล่อยหรือ แน่ล่ะ ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ รอปอพ้อออ!” 

ชรัณยังไม่ปล่อยให้คนชุดดำได้พูดจบเช่นเคย เสียงหวานแผดลั่นเรียกคนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียว 

มาถึงตรงนี้ก้องภพก็ไม่มีหน้ายืนทนรอให้รปภ. มาลากออกไปแน่นอน เขารีบยัด ๆ ใบปลิวใส่มือคู่แห่งโชคชะตาของนายน้อย ก่อนจะโกยอ้าวหายไปแทบไม่คิดชีวิต จะอ่านหรือไม่นั้นก็สุดแล้วแต่คนตัวเล็กเถอะ ก้องภพไม่ไหวแล้ว! 

“นี่ กลับมานะ จะหนีไปไหน!” 

“มีอะไรรัน เสียงดังนักท่องเที่ยวแตกตื่นหมดแล้ว” 

หัวหน้าการ์ดสวนสนุกรีบกุลีกุจอเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กที่ยืนหอบหายใจหน้าร้านไก่ทอด พลางถามขึ้นอย่างร้อนรน 

“ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกพี่ แค่คนมาแจกใบปลิวปล่อยเงินกูน่ะ” 

พูดพลางก็ก้มลงมองมือตัวเองที่ตอนนี้มีใบปลิวเจ้าปัญหาอยู่ ชรัณเลือกจะไม่อ่านแต่อย่างใด มือบางขยำมันเป็นก้อนกลมอย่างไม่ไยดี ก่อนจะปาลงถังขยะแล้วเดินออกไปจากสวนสนุกอย่างหัวเสีย 

พอกลับถึงบ้านพักขนาดเล็กย่านชานเมือง ก็เดินตรงดิ่งไปทิ้งตัวลงที่นอนอย่างคนหมดแรง 

“เมื่อยโว้ย ไม่นึกว่าการทำงานเป็นการ์ดในสวนสนุกจะต้องเดินทั้งวี่ทั้งวันแบบนี้” 

ชรัณทำงานที่นี่ได้เพียงเดือนเดียว แต่ก็สนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานได้ไม่ยากเพราะตัวเองเบต้า ไม่มีพิษมีภัยกับใคร ถึงค่าตอบแทนจะไม่มากแต่ก็พอจ่ายค่าน้ำค่าไฟ กินอาหารได้ครบสามมื้อ 

“พ่อครับ แม่ครับ รันคิดถึงพ่อกับแม่จังเลย” 

เวลาเหนื่อยชรัณมักจะเป็นแบบนี้เสมอ นอนมองเพดาน นึกถึงผู้ให้กำเนิดที่เพิ่งจะจากไปเมื่อปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหลือไว้เพียงลูกชายคนเดียวอย่างเขา… 

กริ๊งงง!!! 

“ใครโทรมาอีกวะ คนจะนอน” 

ถึงจะบ่นไปแบบนั้นแต่มือบางก็ยังควานหามือถือเครื่องบางออกมาจากเป้จนได้ พอได้เห็นชื่อของคนโทรมาก็รับกดรับทันที 

“ว่าไงพี่ มีอะไรหรือเปล่า” 

[ไอ้รัน พรุ่งนี้ไม่ต้องมาเช้านะ เปลี่ยนไปอยู่กะดึก] 

“อ้าว ทำไมอะ” 

ชรัณถามออกไป เพราะเขาไม่เคยได้รับงานกะดึกมาก่อน ไม่รู้เพราะอะไรเพื่อนร่วมงานถึงให้เขาอยู่แต่กะกลางวันเหมือนกัน 

[เจ้าของเขาสั่งมา พี่ก็ไม่รู้ว่ะ] 

“ได้ ๆ พี่ ขอบคุณมากครับที่โทรมาบอก” 

แม้ชรัณจะสงสัยไม่น้อย ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การ์ดจะดูแลรักษาความปลอดภัยในตอนกลางคืน ตัวเขาเองไม่ได้ติดอะไรอยู่แล้วไม่ว่าจะต่อสู้ในที่มืดหรือที่สว่างร่างบางล้วนถนัดทั้งหมด 

[งั้นแค่นี้ เจอกันวันจันทร์ทีเดียวเลยนะ] 

เสียงหวานรับคำก่อนจะกดวางสาย ตาดันเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้าเสียก่อน… 

“ฮื่มมม ไอ้คนปล่อยเงินกู้นั่น!” 

ชรัณขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กำลังจะขยำมันทิ้งอีกครั้งแต่สายตากลับไปสะดุดกับตัวอักษรสีทองบนใบปลิวเข้าเสียก่อน 

“รับสมัครบอดีการ์ดประจำตัวของนายน้อยภวินท์ พิพัฒน์เทพา ไม่ใช่ปล่อยเงินกู้หรอกหรือ” 

ชรัณมีท่าทีอ่อนลงกว่าเดิมอยู่หลายส่วน ดวงตากวางกวาดมองตัวหนังสือบนใบปลิวหรูหราอยู่นานสองนาน ตาโตแล้วตาโตอีก เพราะสวัสดิการที่ล่อตาล่อใจ กอปรกับสิทธิพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย 

“เก็บไว้ก่อนแล้วกัน” 

ชรัณกล่าวพลางสอดมันเข้าไปไว้ที่เดิมแบบส่ง ๆ เพราะตอนนี้ตัวเองก็มีอาชีพที่ค่อนข้างจะมั่นคง แม้จะเหนื่อยไปหน่อยก็ตาม แต่ใครจะคิดว่าวันต่อมาเรื่องทุกอย่างจะไม่เป็นดังที่คนตัวเล็กเข้าใจ… 

“เกิดอะไรขึ้น ชรัณทำไมถึงทำร้ายร่างกายคุณบรรชาอย่างนั้น” 

หัวหน้าการ์ดกะดึกเอ่ยถามเสียงห้วน ติดจะไม่พอใจอยู่หลายส่วนหลังจากได้เห็นสภาพผู้เป็นนายที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ในขณะที่ชรัณก็โมโหไม่ต่างกัน 

“รอมันฟื้นมาตอบเองแล้วกัน ผมไม่อยู่แล้ว!” 

“จะไปไหนยะ อย่างไรก็ต้องแจ้งตำรวจ แกทำร้ายเจ้าของสวนสนุกแบบนี้อย่าคิดจะหนีนะ” 

เสียงแหลมสูงของสตรีที่คาดว่าน่าจะเป็นภรรยาของเจ้าของสวนสนุกเหวดังลั่น ซึ่งชรัณแทบจะหมดความอดทนเมื่อคิดไปถึงสัมผัสหยาบโลนที่เกือบจะได้รับจากผู้ชายคนนั้น ดีที่ว่าเขาเป็นเบต้าตอนได้กลิ่นฟีโรโมนกดข่มเลยไม่มีผลอะไร ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เขาคงไม่รอด 

“เอาสิ ผมก็จะแจ้งกลับว่าสามีของคุณพยายามจะขืนใจผม” 

“อะไรนะ!” 

เสียงอุทานอย่างตกตะลึง ดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ชรัณแค่นยิ้มหยัน การทำงานเป็นการ์ดก็ไม่ได้สบายเสมอไป ไม่คิดว่าจะมีไอ้แก่ตัณหากลับมากระทำการอุกอาจกับเขา ทั้งยังมีสถานะเป็นถึงเจ้านายแท้ ๆ 

“ไม่จริง คุณบรรชาไม่คว้าการ์ดแบบแกมาทำเมียหรอก เขามีฉันอยู่แล้ว เบต้าธรรมดาอย่างแกเพ้อฝันไปหรือเปล่า” 

“อ้อ…งั้นคุณก็คงปล่อยสามีคุณอดอยากปากแห้งมากเลยสินะ เขาถึงได้มาลวนลามผม ถึงขั้นวางแผนสลับให้ผมมาทำงานกะดึก ทั้งที่ปกติดผมทำงานแค่กะกลางวัน” 

“นี่ นี่แกพูดอะไร จริงหรือเปล่าหัวหน้าการ์ด” 

คนที่ถูกถามถึงกับทำหน้าไม่ถูก ยืนเหงื่อตกอยู่เป็นนานสองนาน ไม่กล้าโกหกต่อผู้เป็นภรรยาของเจ้านาย เพราะที่ชรัณพูดมานั่นคือความจริงทุกประการ 

“ไม่ตอบเขาไปล่ะคุณหัวหน้า” 

“เอ่อ คะ คุณบรรชาสั่งให้ผมสลับเวรจริง ๆ ครับคุณอร” 

สิ้นเสียงคำสารภาพของหัวหน้าบอดีการ์ด อัลฟ่าหญิงเพียงหนึ่งเดียวก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้า เข้าไปตบตีผู้เป็นสามีที่นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้านผีสิงไม่ยั้ง 

“ผมจะไม่เอาความ แต่คุณต้องชดใช้ค่าเสียหายมาแทนสามีคุณ และขอลาออกครับ!” 

ร่างเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียเย็นชาติดจะแข็งกระด้างไร้ความเคารพนับถือ ทว่าก็ยังคงใช้คำพูดที่สุภาพ แน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นย่อมยอมทำตาม เนื่องด้วยกลัวว่าข่าวนี้จะเล็ดลอดออกไป ให้ตัวเองขายหน้าไปด้วยชรัณจึงได้ล่าถอยเช่นกัน 

………………….. 

อัลฟ่าร่างใหญ่นั่งเอนกายไปกับเก้าอี้ตัวโตในห้องใต้ดิน นั่งฟังรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคู่แห่งโชคชะตาจนจบ ก็มีอารมณ์สวนทางกับเมื่อวานลิบลับ จากเมื่อวานที่หัวเราะงอหงายไปกับวีรกรรมไล่คนปล่อยเงินกู้ มาวันนี้กลับต้องระงับความโกรธเกรี้ยว เพราะคนตัวเล็กของเขาโดนลวนลามจากไอ้แก่นั่น 

“มันกล้าดียังไงมาแตะต้องคนของฉัน” 

“นายน้อยใจเย็น ๆ ครับ ตู้กระจกร้าวแล้ว” 

ก้องภพเตือนด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น อัลฟ่าไร้ค่าในสายตาคนอื่น กลับปล่อยฟีโรโมนที่มีพลังทำลายล้างสูงเพียงเพราะคนคนเดียว 

“แล้วรันเป็นอย่างไรบ้าง” 

“ไม่เป็นอะไรครับ คุณรันมีทักษะการต่อสู้ดี และดูเหมือนว่าฟีโรโมนกดข่มของพวกอัลฟ่าจะไม่มีผลต่อคุณรันด้วยครับ” 

“โอเมก้าพิเศษก็แบบนี้ จะได้กลิ่นแค่คู่ตัวเองเท่านั้นแหละ” 

พอพูดถึงตรงนี้ก็ทำให้ใบหน้าคมกล้าลดความเกรี้ยวกราดลงมาได้มาก ทำเอาก้องภพหายใจหายคอสะดวกขึ้นไม่น้อย 

“แล้วนายน้อยจะให้ผมทำอย่างไรกับคนพวกนั้นครับ” 

“เก็บให้เรียบร้อย ส่วนเมียมันตบปากไปร้อยที โทษฐานขึ้นเสียงใส่คนของฉัน” 

ก้องภพชะงักงันไปอีกครั้ง ก่อนจะรีบก้มหน้ารับคำเจ้านายอย่างแข็งขัน แค่ขึ้นเสียงใส่ยังโดนไม่เว้น นายน้อยเขานี่สุดยอดจริง ๆ 

“อ้อ ลืมไป ก่อนตบปากผู้หญิงคนนั้นก็ร่างสัญญาซื้อขายสวนสนุกนั้นให้หล่อนไปด้วย” 

“นายน้อยจะเอาสวนสนุกมาทำไมครับ” พี่เลี้ยงหนุ่มอดจะถามไม่ได้ ปกติไปที่นั่นก็แค่หลอกล่อศัตรูเท่านั้น 

“ก็นั่นเป็นที่ที่ทำให้ฉันเจอรันน่ะสิ จะปล่อยให้อยู่ในมือคนอื่นไม่ได้” 

น้ำเสียงที่ทอดอ่อนลงยามพูดถึงใครอีกคน กอปรกับแววตาทอประกายอบอุ่นทำเอาก้องภพถึงกับน้ำท่วมปาก ไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้อีก ดูเหมือนเขาจะดูถูกความคลั่งรักของเจ้านายต่ำไปสินะ… 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป 

#อัลฟ่าการละคร 

เห็นอะไรมั้ยคะคุณ เห็นแววคนคลั่งรักมั้ยยยยย ก็ซื้อสวนสนุกไปเลยสิคะ เหตุผลใดเล่าจะเท่าสถานที่เจอน้องครั้งแรก เอ้อ! เลิศนะว่านางไม่ได้เลย เจอกันเฉียด ๆ ยังขนาดนี้ เอาไงดี เรียกสินสอดเท่าไหร่ดีคะแบบนี้ ฮ่า ๆ  

ขอบคุณทุกโดเนต หัวใจ และคอมเมนต์น่ารัก ๆ นะคะ อ่านทุกเมนต์ค้าบ ใครมีทวิต ตต. ก็ไปเล่นแท็ก อัลฟ่าการละคร กันได้น้า 

แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า (เที่ยงคืน) 

-กาลกวี- 

อัลฟ่าการละคร

อัลฟ่าการละคร

อัลฟ่าการละคร
Score 6.7
Status: Ongoing
อ่านนิยายอัลฟ่าการละครเรื่องย่อ การเป็นอัลฟ่าปัญญาอ่อนในสายตาคนอื่นมีข้อดี แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะดีขนาดนี้ จนกระทั่งได้เจอกับรันจัง ไม่ว่านายน้อยจะกอด ซบ หรือซุก รันจังก็ยังมองนายน้อยอย่างเอ็นดู…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset