“มันคืออะไรรึ ?”
การที่หลานเผิงลุกพรวดอย่างกะทันหันทำให้ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ สงสัยใคร่รู้ยิ่งกว่าเดิม สิ่งใดกันที่ทำให้เขาแสดงปฏิกิริยาเช่นนี้ ?
สำหรับสมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายนี้ แม้ยังไม่ปรากฏให้เห็น เพียงแค่กล่องของมันก็โดดเด่นและดึงดูดความสนใจได้มากแล้ว เห็นทีว่าขุมกำลังในสามสำนักและเก้านิกายต้องปรารถนาที่จะครอบครองมันมาอย่างแน่นอน
“มันคือเมล็ดพันธุ์…”
หลานเผิงปรับสีหน้าท่าทางของตนเองเล็กน้อยและกลับกลายเป็นสงบนิ่งเช่นเดิม ทว่าแววตาของเขายังแสดงถึงความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
ไม่คิดเลยว่าตระกูลหลานจะนำ ‘สิ่งนั้น’ ออกมา ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของดินแดนมหาเทพในตอนนี้คงจะเลวร้ายถึงระดับหนึ่งแล้ว มิฉะนั้น ตระกูลหลานคงไม่มีทางนำเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวออกมาประมูลอย่างแน่นอน
“เมล็ดพันธุ์อะไรรึ ?”
การถูกจัดเป็นของประมูลรายการสุดท้ายแสดงให้เห็นว่าตระกูลหลานให้ความสำคัญกับมันมากเพียงใด เมล็ดพันธุ์ชนิดใดกันที่ต้องบรรจุในกล่องที่ทำจากไม้จันทน์พันปีที่ล้ำค่าอย่างที่สุดเช่นนี้…
“ต้นไม้โลก !”
หลานเผิงไม่ปิดบังจากฉินอวี้โม่และทุกคนขณะกล่าวออกมาสั้น ๆ เพียงสามพยางค์
“ต้นไม้โลกอย่างนั้นรึ ?!”
เมื่อได้ยินว่ามันคือสิ่งใด ทุกคนในห้องนอกเหนือจากฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือก็ลุกพรวดขึ้นทันที
‘ต้นไม้โลก’ เป็นสิ่งที่ทุกคนในดินแดนมหาเทพจะต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อนและมันเป็นสิ่งที่ลึกลับและวิเศษยิ่งกว่าต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์เสียอีก
กล่าวกันว่าต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงกิ่งก้านสาขาหนึ่งของต้นไม้โลกเท่านั้น ทว่ามันกลับมีพลังที่มหาศาลถึงขั้นนั้นได้ เพียงเท่านี้ก็จินตนาการได้ไม่ยากว่าต้นไม้โลกจะทรงพลังมากเพียงใด
“ต้นไม้โลกคืออะไรรึ ?”
เสี่ยวอ้ายโม่เอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางยังเยาว์วัยนักและเพิ่งมาถึงดินแดนมหาเทพได้เพียงไม่นาน เป็นธรรมดาที่นางจะไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของต้นไม้โลกมาก่อน
“เสี่ยวอ้ายโม่ เจ้ามาจากดินแดนเทพมายา การที่เจ้าจะไม่รู้จักมันก็เป็นเรื่องปกติ ลือกันว่าดินแดนทั้งหมดของเราตั้งอยู่บนต้นไม้โลก จากดินแดนระดับต่ำสุดไปจนถึงระดับสูงสุด พวกมันต่างก็เรียงกันเหมือนกับขั้นบันไดและบนยอดของต้นไม้โลกคือดินแดนที่ทรงพลังที่สุด”
หลานเผิงอุ้มเสี่ยวอ้ายโม่ขึ้นมานั่งบนตักของเขาและกล่าวอธิบายอย่างใจเย็น
สิ่งเหล่านี้เป็นข่าวลือทั้งสิ้นและหลานเผิงไม่มั่นใจว่าจะเชื่อถือได้มากเพียงใด ต้นไม้โลกคือสิ่งที่วิเศษและมหัศจรรย์อย่างที่สุดซึ่งแม้แต่บรรพบุรุษของตระกูลหลานก็ทราบข้อมูลเกี่ยวกับมันเพียงน้อยนิดเท่านั้น เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษตระกูลหลานได้รับมาจากผู้แกร่งกล้าในดินแดนระดับที่สูงกว่า จากนั้นมันก็ถูกเก็บเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูลซึ่งถูกส่งต่อสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทว่าพวกเขาก็ไม่เคยค้นพบปริศนาความลับของมัน
แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาจะพยายามกระตุ้นพลังของมันด้วยทุกวิถีทางเท่าที่ทำได้ มันก็ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นกับเมล็ดพันธุ์ดังกล่าว
สุดท้ายพวกเขาจึงเก็บมันและปิดผนึกมันไว้อย่างดีด้วยกังวลว่าเมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลกนี้จะสูญเสียพลังงานไปตามกาลเวลาที่ผ่านไป
ในปัจจุบันนี้ สถานการณ์ความวุ่นวายโกลาหลครั้งใหญ่ของดินแดนมหาเทพก็ใกล้เข้ามาเต็มทีและคนตระกูลหลานก็ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกที่สืบทอดในตระกูลมาช้านาน หลังจากที่หารือกัน คนในตระกูลหลานก็ตัดสินใจนำมันออกมาในงานประมูลเพื่อตามหาผู้ที่ถูกเลือก
“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน นี่คือเมล็ดพันธุ์ที่ล้ำค่า ส่วนมันจะเป็นเมล็ดพันธุ์ชนิดใดนั้น ข้าเชื่อว่าหลายท่านคงจะทราบดีอยู่แล้ว ราคาประมูลขึ้นอยู่กับทุกท่านโดยจะเริ่มต้นที่หนึ่งแก่นหินวิญญาณและไม่มีเงื่อนไขในการเสนอราคา”
แม้ไม่อธิบายรายละเอียดสิ่งใด คนของสามสำนักและเก้านิกายก็ทราบดีอยู่แล้ว สำหรับคนอื่น ๆ ที่เหลือ หากพวกเขาเป็นผู้ที่ถูกโชคชะตาลิขิตไว้ พวกเขาจะเข้าร่วมการประมูลอย่างแน่นอนและราคาประมูลของเมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลกจะไม่มีทางน้อยไปกว่าของประมูลชิ้นอื่น ๆ ก่อนหน้านี้
“เมล็ดพันธุ์รึ ? เมล็ดพันธุ์ที่ถูกบรรจุในกล่องที่ทำจากไม้จันทน์พันปีจะต้องไม่ธรรมดาแน่ ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็จะเข้าร่วมการประมูล”
บรรยากาศในห้องโถงกลายเป็นความฮือฮาในทันที แม้ไม่ทราบว่ามันคือเมล็ดพันธุ์ของพฤกษาชนิดใด พวกเขาก็ทราบดีว่ามันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือราคาประมูลเริ่มต้นของมันอยู่ที่แก่นหินวิญญาณเพียงก้อนเดียวเท่านั้น ต่อให้สุดท้ายต้องจ่ายไปในราคาสูงลิ่ว การที่ได้ไม้จันทน์พันปีมาครอบครองเพียงอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
ผู้คนในห้องโถงไม่ทราบว่าเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวคือเมล็ดพันธุ์ของพฤกษาชนิดใด ทว่าพวกเขาก็เริ่มเสนอราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม สามสำนักและเก้านิกายซึ่งทราบถึงต้นกำเนิดของเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวไม่รีบร้อนที่จะเข้าร่วมการประมูลและทุกคนล้วนมีแผนการของตนเอง
แม้เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกจะฟังดูลึกลับและล้ำค่ายิ่งนัก แท้ที่จริงแล้วมันไม่ได้วิเศษมากถึงเพียงนั้น
หากมันเป็นต้นไม้โลกที่สมบูรณ์ มันก็ยังมีประโยชน์สำหรับพวกเขา ทว่าการที่เป็นเพียงเมล็ดพันธุ์เช่นนี้ทำให้พวกเขาเกิดความลังเลกันขึ้นมา
ตระกูลหลานถือเป็นขุมกำลังที่ทรงอิทธิพลอันดับต้น ๆ ของดินแดนมหาเทพ ทว่าแม้แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถฟูมฟักเพาะปลูกและทำให้มันเติบโตกลายเป็นต้นไม้โลกได้ อีกทั้งก็ยังไม่มีใครทราบถึงวิธีการเพาะปลูกมันด้วยซ้ำ หากพวกเขาชนะการประมูลและได้เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกมาครอง มันก็คงเป็นเพียงของไร้ค่าที่ไม่มีประโยชน์ใดในตอนนี้
สมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจก็ไม่รีบร้อนเสนอราคาเช่นกัน เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกแทบจะไม่มีคุณค่าใด ๆ ต่อพวกเขา
พลังมายาที่สมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจฝึกฝนบ่มเพาะเป็นพลังที่พิเศษอย่างยิ่ง ต่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกมาครอบครอง พวกเขาก็ไม่สามารถเพาะปลูกมันได้ เพราะเหตุนั้น พวกเขาจึงไม่คิดเข้าร่วมการประมูลและเพียงต้องการรอดูว่าท้ายที่สุดแล้วผู้ใดจะชนะการประมูลและได้มันไปครอง
ราคาประมูลยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและภายในเวลาเพียงไม่นาน ราคาก็เพิ่มขึ้นจนมากกว่าสิบล้านแก่นหินวิญญาณแล้วและก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
สำหรับสามสำนักและเก้านิกาย ยังไม่มีผู้ใดขานราคาประมูลแม้แต่คนเดียวและทุกคนเพียงรับชมการประมูลอย่างเงียบๆ
ผู้อาวุโสของตระกูลหลานและโป๋หย่าซึ่งทำหน้าที่ดำเนินการประมูลไม่มีท่าทีรีบร้อนใด ๆ สถานการณ์ในตอนนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดการณ์ไว้แล้ว ถึงอย่างไรเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกก็มาพร้อมตัวแปรที่มากมายจนเกินไป การประมูลมันไปได้มิได้หมายความว่าคนผู้นั้นจะสามารถใช้ประโยชน์จากมันและอาจต้องกลายเป็นเป้าของคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คน เพราะเหตุนั้น คนของสามสำนักและเก้านิกายจึงต้องคิดไตร่ตรองให้รอบคอบและจะเสนอราคาอย่างบุ่มบ่ามไม่ได้
“ข้าสนใจมันทีเดียว”
ภายในห้องพิเศษของหลานเผิงและคนอื่น ๆ ฉินอวี้โม่กล่าวขึ้นท่ามกลางความเงียบและแสดงความสนใจในเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกนี้
ก่อนหน้านี้นางก็พยายามสำรวจมันมาครู่ใหญ่ ทว่าไม่สัมผัสถึงกลิ่นอายความผันผวนใด ๆ จากเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกนี้เลย
ตระกูลหลานก็ทำการศึกษาวิเคราะห์มันมานานทว่ายังไม่พบข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์ ต่อให้นางชนะการประมูลครานี้ได้ ฉินอวี้โม่ก็ทราบดีว่านางอาจไม่ค้นพบความลับของมันเช่นกัน นางเพียงสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับมันและต้องการประมูลมาเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเท่านั้นโดยที่ไม่มีจุดประสงค์อื่นใดแอบแฝง
คำอธิบายจากหลานเผิงเมื่อครู่ทำให้นางประหลาดใจไม่น้อย นางไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับข่าวลือดังกล่าวมาก่อนและไม่ทราบเลยว่าดินแดนทั้งหมดอาจจะตั้งอยู่บนต้นไม้โลก
หากเป็นเช่นนั้นจริงก็หมายความว่าตราบใดที่ทำให้เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกเติบโตขึ้นมาได้ มันจะกลายเป็นโลกอีกใบอย่างนั้นหรือ ?
ฉินอวี้โม่ก็ต้องการจะลองเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกเพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้ดู แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญจนแทบเป็นไปไม่ได้ก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ส่งกระแสจิตมาหานางโดยกล่าวว่าต้องการให้นางประมูลมันเพื่อมาลองศึกษาดู ฉินอวี้โม่จึงไม่ปฏิเสธ
“ข้าจะประมูลมันเอง คาดการณ์ได้ว่าเมื่อได้ยินเจ้าเสนอราคา คนเหล่านั้นคงจะต้องการเพิ่มราคาให้สูงขึ้นและมันอาจก่อความวุ่นวายขึ้นมาได้”
หานโม่ฉือกล่าวขึ้นเบา ๆ ก่อนที่ร่างของเขาจะหายวับไปจากห้องอย่างรวดเร็วและปรากฏตัวอีกครั้งที่มุมหนึ่งของห้องโถงโดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
“ยี่สิบล้าน”
เขาเสนอราคาออกไปโดยตรงและเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก
เมื่อได้ยินราคาประมูลของหานโม่ฉือ ทุกคนในห้องโถงก็เริ่มสงบลงทันที ราคาประมูลยี่สิบล้านแก่นหินวิญญาณมิใช่ราคาที่ต่ำอีกต่อไป
ทุกคนหันศีรษะไปมองในทิศทางของหานโม่ฉืออย่างรวดเร็ว ทว่าไม่มีผู้ใดจดจำเขาได้ ในเวลานี้หานโม่ฉือปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเองเล็กน้อยจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่มีผู้ใดจดจำเขาได้
