แสงที่ 88 ต้นตอของโหมด X
ไอริน~
ภายในโถงถ้ำ..
หลังจากที่สตาร์ถูกไอรินเปิดฉากรุกเข้าใส่ ในท้ายที่สุดเพื่อไม่ให้เสียหน้าชายหนุ่มจึงตัดสินใจรุกตอบ ก่อนที่สุดท้ายแล้วหญิงสาวจะตกกลายเป็นของเขาและเสียครั้งแรกให้แก่เขาไป
“อ้าม..อื้ม..”เสียงครางที่ดังอยู่ภายในลำคอ ในตอนนี้ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือร่างของไอรินที่กำลังจูบกับสตาร์ เธอกำลังนอนคร่อมอยู่บนร่างของชายหนุ่ม..
[สตาร์]
“ฉันรักนายนะ..”ไอรินที่บอกรักผม..
“ฉันเองก็เหมือนกัน ในเมื่อเธอเลือกแล้ว อย่าเปลี่ยนใจจากฉันนะ..”ผมที่บอกกับไอริน ไม่รู้ทำไมผมถึงอยากจะกอดเธอเอาไว้แน่นๆแบบนี้..
“อะ..อึก..”
แต่แล้วทันใดนั้นเองจู่ๆหัวใจของผมกระตุกวูบ นี่คืออาการของความทรงจำที่กำลังจะปรากฏออกมา..
“ไอริน..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างตื่นตระหนกนะ เธอนั่งอยู่เฉยๆและถอยให้ห่างจากฉันเอาไว้..”ผมที่บอกกับไอรินด้วยท่าทีร้อนรน
“ฉะ..ฉันไม่เข้าใจเกิดอะไรขึ้น นายเป็นอะไ..ร..”
ฟุบ..!
ยังไม่ทันที่ไอรินจะได้เอ่ยถามอะไร จู่ๆร่างของสตาร์ที่นอนอยู่ก็ลอยขึ้นมาอยู่เหนือพื้นดิน ร่างกายของเขากำลังแอ่นขึ้น ส่วนแขนและขาก็ห้อยตกลงมา ก่อนที่จู่ๆดวงตาของชายหนุ่มจะเหลือกขาวไป
“มาแล้วสินะ รอบนี้จะได้เห็นความทรงจำอะไรกันนะ..?”เสียงของไอ้จ้อนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่จู่ๆภาพความทรงจำจะแว็บเข้ามา..
ในตอนนี้ภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏคือร่างของผมในช่วงอายุวัยประมาณ 20 ปลายๆที่กำลังนั่งเอาหลังผิงโขดหินอยู่บนยอดเขาหิมะที่ไหนสักแห่ง..
[จากที่ทำการตรวจสอบจำนวนศัตรูที่ลาดตะเวนและล้อมอยู่รอบๆฐานทัพลับมีประมาณราวๆ 100 คน พร้อมด้วยอาวุธหนักครบมือกับปืนใหญ่]
เสียงรายงานของผู้หญิงที่สวมใส่แว่นตาที่ดูไฮเท็คกล่าวขึ้น เธอกำลังนั่งอยู่ข้างๆของตัวผม พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์มากมายที่วางอยู่รอบตัว
[แล้วรอบนี้เตรียมแผนบุกจู่โจมแบบไหนให้ฉันล่ะ สุขาวดีอเวจี..?]
เสียงของผมที่เอ่ยถาม พลางสูบบุหรี่พ่นควันออกมาอย่างสบายอารมณ์..
[เฮ้อ..บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกรหัสลับ ชื่อมันเหมือนกับห้องน้ำตามสวนสาธารณะเลย..]
หญิงสาวที่ถอนหายออกมา ก่อนจะถอดแว่นตาและสะบัดผม..
ซึ่งภาพที่ปรากฏมันก็ถึงกับทำให้ต้องตกตะลึง ผู้หญิงคนนี้มีหน้าตาที่สวยเอามากๆ เธอมีเส้นผมสีบรอนด์ทองและมีดวงตาเป็นสีฟ้า อีกทั้งยังมีรูปร่างที่เซ็กซี่ แม้จะอยู่ในพื้นที่ๆสภาพอากาศติดลบ แต่เธอกลับสวมใส่ชุดหนังสีดำรัดรูปเอาไว้ จนเผยให้เห็นขนาดหน้าอกคัพ G คู่ใหญ่..
[ภารกิจในครั้งนี้ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ถึงต่อให้บอกแผนไปยังไงสุดท้ายนายก็บุกเดี่ยวเข้าไปอยู่ดี เฮ้อ..เอ็กซ์นายไม่กลัวว่าภารกิจจะล้มเหลวบ้างเหรอ..?]
หญิงสาวผมบรอนด์ที่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปคุยกับไอ้จ้อน..
“ไม่อ่ะ..เธอก็น่าจะรู้ว่าถึงต่อให้ยิงขีปนาวุธมาสักสิบลูกก็เอาพวกฉันไม่ลงหรอก..”ไอ้จ้อนที่ตอบกลับ และจากภาพความทรงจำนี้มันก็ทำให้ผมมั่นใจว่าไอ้จ้อนมันสามารถพูดคุยกับคนอื่นได้ด้วย..
[หืม..~ พ่อกระจู๋เพลย์บอย อยู่กับเจ้านี่มากจนติดนิสัยชอบอวดไปแล้วหรือยังไงกัน..]
หญิงสาวที่ตอบกลับ พลางเอื้อมมือลงไปหยิกไอ้จ้อนด้วยความหมั่นไส้…
[เลิกนอกเรื่องเถอะ ที่ฉันถามเธอไป..ฉันหมายถึงเธอจะให้ฉันบุกเข้าไปจู่โจมด้วยวิธีไหน..]
ผมที่เปิดประเด็นถามกับหญิงสาว พอเธอได้ยินก็หันกลับไปนำกล่องใบหนึ่งมา ก่อนจะทำการใส่รหัสเพื่อเปิดกล่อง..
[หึ..รู้แล้วจะตกใจ จากข้อมูลในเอกสาร เจ้าสิ่งนี้คือสิ่งประดิษฐ์สุดยอดที่พวกด็อกเตอร์ทำการคิดค้นและวิจัยขึ้นมา มันคือพาหนะทรงอานุภาพที่มีความรวดเร็วและคล่องตัวสูง ขอแนะนำให้รู้จัก..!]
ฟุบ..!
หลังจากการสาธยายถึงคุณสมบัติของพาหนะ หญิงสาวก็ทำการเปิดกล่องและหยิบเจ้าสิ่งนั่นที่อยู่ข้างในออกมาแสดงอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนที่ผมจะพบว่ามันคือ..
[สโนว์บอร์ด..?]
ผมที่กล่าวออกมา ใช่แล้ว..เจ้าสิ่งที่อยู่ในมือของหญิงสาวคือสโนว์บอร์ดสีดำ บนตัวบอร์ดมีตราสัญลักษณ์รูปดาบที่ประดับอยู่..
[ถูกต้อง..เจ้านี่น่ะ สามารถขับเคลื่อนไปกับพื้นหิมะได้อย่างรวดเร็..ว..]
หมับ..!
ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะอธิบาย ผมที่นั่งอยู่ก็เอื้อมมือไปจับหัวของเธอ พร้อมกับออกแรงบีบ ส่งผลทำให้อีกฝ่ายถึงกับหน้าถอดสี..
[สารภาพมาว่าเมื่อคืนก่อนที่จะถูกส่งมาที่นี่ เธอไม่ได้ไปที่ศูนย์วิจัยและเอาสิ่งประดิษฐ์สำหรับภารกิจในครั้งนี้มา..]
ผมที่เอ่ยถามต่อหญิงสาว พอเธอได้ยินก็ถึงกับร่างกระตุก พลางกลอกสายตาไปมาอย่างเลิ่กลั่ก
[อะ..เออคือ อะ..อะ..]
[ช่วงเวลาประมาณสองทุ่ม อยู่กับเลดี้ที่บาร์เซลโกล์ด พวกเธอดื่มวอดก้าไปสิบแปดขวด พอตื่นขึ้นมาก็เลยแฮงค์จนไปเอาสิ่งประดิษฐ์ไม่ทัน เธอก็เลยไปหาซื้อบอร์ดที่ร้านในระแวกนั้น..ใช่ไหม..?]
ในขณะที่หญิงสาวผมบรอนด์กำลังอธิบาย ผมในตอนนั้นก็ได้ใช้ศาสตร์ลึกลับ ทำการอ่านปากของเธอจนรู้ถึงรายละเอียดข้อมูล..
[เฮือก..นะ..นี่นายจบหลักสูตรการอ่านใจของหน่วยสืบสวนแล้วเหรอเนี่ย..?]
หญิงสาวผมบรอนด์ที่กล่าวออกมา เธอได้แต่นั่งหน้าถอดสีทำอะไรไม่ถูก..
[อย่ามาเปลี่ยนเรื่องที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ถูกใช่ไหม..?]
[อะ..โอ้ย ถะ..ถูก..! ยอมแล้ว ขอโทษ..~]
หญิงสาวที่กรีดร้องออกมา จากการที่ถูกผมบีบหัวอย่างรุนแรง..
[แม่งเอ้ย..ให้ตายเถอะ เธอนี่เอาอีกแล้วนะ ภารกิจที่ทะเลทรายคราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้ว ฉันสั่งให้หารถมา แต่เธอดันเอาอูฐมา แล้วผลสุดท้ายเป็นไงล่ะขี่อูฐพาดงกระสุน นี่ยังไม่นับรวมกับภารกิจที่ทะเลทางใต้อีกนะ ฉันก็รู้ว่าคลื่นมันสูง แต่ที่ฉันอยากได้คือเจ็ทสกีหรือไม่ก็สปีดโบ๊ทเว้ย ไม่ใช่เซิร์ฟบอร์ด..!]
[อะ..อึก อย่าบ่นหน้าดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่หาปลาโลมามาให้นายขี่ ก็มันดูเท่ดีหนิ ในหนังเขาก็ทำกัน..]
หญิงสาวที่ดูเหมือนจะไม่สลดต่อปากต่อคำกับผม..
[กรอด..แม่ง เอาเถอะ..รอบนี้ฉันจะทำเป็นมองข้าม แต่ภารกิจที่ราบสูงคราวหน้า ฉันหวังเอาไว้นะ หวังเอาไว้จริงๆว่าจะไม่เจอช้างหรือม้า ฉันอยากได้รถ..!]
ผมที่กัดกล่าวกับหญิงสาวผมบรอนด์ ก่อนจะพยายามควบคุมอารมณ์และพูดกับเธอดีๆ..
[จ้าาา เอาไว้คราวหน้านะ..]
หญิงสาวผมที่ขานรับอย่างหน่ายๆ แต่แล้วผมในตอนนั้นก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
[เดี๋ยว..ในตอนที่เธอขานรับบอกว่าเอาไว้คราวหน้า ทำไมฉันถึงอ่านใจเธอไม่ได้ล่ะ..?]
ผมที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ..
[คุๆ..นายโดนหน่วยสืบสวนกั๊กหลักสูตรเอาไว้แล้วล่ะ นายอ่านได้แค่สีหน้ากับปาก แต่ถ้าเกิดฉันทำหน้านิ่งๆแบบนี้ ต่อให้ดวงตาจะเลิ่กลั่ก ยังไงนายก็อ่านไม่ออกหรอก..]
หญิงสาวผมบรอนด์ที่กล่าวออกมา พอผมได้ยินแบบนั้นก็ชักสีหน้าไม่พอใจ..
[ไอ้พวกหน่วยสอบสวน รอกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะสอนหลักสูตรอ่านใจด้วยหมัดให้ดู กล้ากั๊กฉันงั้นเหรอ..?]
ผมที่กล่าวออกมาออกมาด้วยความหัวร้อน ก่อนจะถอนหายใจออกมา
[เฮ้อ..เอาเถอะ..เอ็กซ์ รอบนี้ฉันขอ 20%]
[ได้สิ..ทีน่า เธอพร้อมไหม..?]
ผมที่ก้มหน้าลงไปเปิดประเด็นคุยอะไรสักอย่างกับไอ้จ้อน โดยที่มันก็ขานรับ ก่อนจะหันไปถามหญิงสาวที่ชื่อว่าทีน่า..
[ถะ..ถามบ้าอะไรเนี่ยเอ็กซ์ นายถามแบบนั้นมันก็เหมือนกับว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายน่ะสิ..]
[เธอก็ไม่ได้ยากสักหน่อย ครั้งแรกที่ทำกันฉันรู้จักกับเธอได้แค่ 17 วัน ไม่สิ..16 วัน เธอก็ยอมเสียเวอร์จิ้นให้ฉันแล้ว..]
[มันไม่มีทางเลือกโว้ย มีรถถังล้อมอยู่สิบคัน ถ้าเป็นนายนายจะทำยังไงล่ะ ให้เลือกระหว่างกอดเวอร์จิ้นเอาไว้แล้วตายทั้งๆที่ยังเวอร์จิ้นอยู่ หรือมีชีวิตอยู่ต่อไปและล็อคคอไอ้เวรอย่างนายให้มารับผิดชอบ..?]
[เหอะ..ใจง่าย..]
ผมที่กลอกตาก่อนจะกล่าวออกมา ทำให้ทีน่าที่ได้ยินถึงกับหัวร้อน..
[นี่นาย..]
ฟุบ..!
ในขณะที่ทีน่ากำลังจะต่อว่าผม ผมที่นั่งอยู่ก็กระชากเธอเข้ามานั่งคร่อมอยู่บนเอว ก่อนจะจัดการประกบริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม..
[แต่ฉันก็รักเธอที่สุด..]
ทันทีที่ผมถอนริมฝีปาก ผมก็กล่าวกับทีน่า เมื่อเธอได้ยินเธอก็เขินจนหน้าแดง ก่อนจะเบนหน้าไปทางด้านข้าง..
[ตบหัวแล้วลูบหลังนี่หว่า ไม่หายโกรธหรอก..]
ทีน่าที่ทำหน้ามุ่ยกล่าวออกมา..
[แล้วต้องทำยังไงล่ะ เธอถึงจะหายโกรธ..]
ผมที่ถามกับทีน่า..
[ลูกตาสีฟ้า..ฉันเห็นอยู่คนหนึ่ง ถ้านายเอามาให้ฉัน ฉันจะยอมหายโกรธก็ได้..]
[เฮ้อ..พอโกรธที่ไรก็อีแบบนี้ทุกที ของกินก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมถึงชอบกินแต่ลูกตามนุษย์กันนะ..?]
[ไม่ได้กินแค่อย่างเดียวนะ นายก็รู้ว่าฉันชอบเก็บสะสมมันด้วย ตาของนายคือหมายเลขหนึ่งที่ฉันเล็งเอาไว้เลย มันสวยมากๆ..]
ทีน่าที่ตอบกลับ ดะ..เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าต้นตอของไอ้งานอดิเรกที่ผมชอบทำมันจะมาจาก..ผู้หญิงคนนี้
[ก็ได้ๆ เดี๋ยวฉันจะไปเอามาให้..]
[กรี๊ด..รักนายที่สุดเลย..]
[ถ้างั้นพวกเรามาเริ่มกันเลยเถอะ..]
ทันทีที่ผมกับทีน่าพูดคุยกันจนเสร็จ ผมก็ได้เอื้อมมือออกไป ก่อนจะรูดซิปที่คอเสื้อรัดรูดของเธอลงมา โดยชุดรัดรูปตัวนี้มันมีซิบที่อยู่ทางด้านหน้า ตะเข็บของซิปมันถูกออกแบบให้รูดลงมาได้จนถึงท่อนล่าง..
ปืด..!
ซิปที่ค่อยๆถูกรูดจากเนินอกลงมาจนถึงสะดือ ก่อนที่ผมจะเลื่อนมันลงไปจนลอดใต้ระหว่างขาไปสุดอยู่ที่เหนือบั้นท้ายของทีน่า ก่อนที่ต่อจากนั้นภาพจะ..
“อ้าวเฮ้ย..ไหงภาพตัดอ่ะ..?”ไอ้จ้อนที่กู่ร้อง เมื่อจู่ๆภาพก็ตัดไปในตอนที่ผมกับทีน่าเสร็จสิ้นภารกิจ เธอนั้นกำลังรูดซิปเพื่อสวมใส่เสื้อผ้า..
[ถ้าอย่างงั้นฉันจะลุยแล้วนะ..]
ผมที่หันไปบอกกับทีน่า พร้อมกับสวมใส่เสื้อยืดแขนยาวและกางเกงขายาวสีขาว อีกทั้งยังสวมใส่แว่นตากันลมเอาไว้..
[สตาร์ลิน..ใช้ปืน ฉันขอทีเถอะ..ทำไมถึงชอบใช้แต่มีดกันยะ..? อย่าไปทำตามตาแก่นินจาที่ปลดเกษียณนั่นเลยเถอะ นินจามันหมดยุคไปตั้งนานแล้ว..]
ทีน่าที่ต่อว่าผม เมื่อผมทำการเอาสายสะพายมีดที่มีมีดจำนวนกว่า 50 เล่มขึ้นมาสวมใส่..
[เธอรู้หรือเปล่าว่าอาจารย์รันโซไหว้วานให้ฉันต่อยปากเธอ ถ้าเกิดเธอเรียกเขาว่าตาแก่นินจา..]
ผมที่บอกกับทีน่า พร้อมกับเดินมาย่อตัวลงนั่งยองๆต่อหน้าของเธอ
[เหอะ..นายไม่ทำหรอ..ก.]
ผลั๊วะ..!
[กรี๊ด..ฉันเมียนายนะเว้ย..!!]
ทีน่าที่กรีดร้องออกมา เมื่อผมจัดการซัดเธอจนหน้าหงาย..
[อย่ามาทำเป็นโอดครวญ ฉันรู้ว่าเธอชอบ ยัยโรคจิตแบบเธอน่ะ ทั้งเอซทั้งเอมเหมาหมดแหละ โลกนี้ไม่มีนักฆ่าหญิงจิตปกติคนไหนที่กินลูกตาคนหรอกนะ..]
ผมที่กล่าวกับทีน่า พลางชันตัวลุกขึ้น ก่อนจะหยิบสโนว์บอร์ดมาถือเตรียมเอาไว้..
[ชิ..รู้ทันอีก แต่นายต่อยเบาไปหน่อยนะ เดี๋ยวสิ อย่าเปลี่ยนเรื่อง เอาปืนไปเดี๋ยวนี้เลยนะ..]
ทีน่าที่บีบจมูกพลางกล่าวออกมา ก่อนจะหันไปหยิบปืนกลเบามาให้ผมหนึ่งกระบอก..
[ไม่เอาอ่ะ..เธอก็รู้ว่าฉันยิงปืนได้ห่วยแค่ไหนจะบอกว่ายิงไม่เป็นเลยก็ได้ ถ้าไม่ใช้พลังของไอ้เอ็กซ์ แล้วอีกอย่างหนึ่งฉันเคยปาปืนใส่ศัตรูแล้วแต่มันไม่ตายด้วย..]
[แล้วมีดมันยิงได้เหรอยะ..?]
[ยิงไม่ได้แต่ปาได้ และที่สำคัญยังมีลูกรักของฉันอยู่ตั้งสองคนจะกลัวอะไร..]
ผมที่ยักไหล่ตอบกลับ พร้อมกับหยิบนำดาบซามูไรเล็กๆเหมือนกับของนินจาสองเล่มขึ้นมาสะพายหลังเอาไว้ ก่อนจะโยนสโนว์บอร์ดลงและขึ้นไปเหยียบ..
[ปากก็บอกว่ายิงปืนไม่เป็น แต่ทำอย่างกะขี่สโนว์บอร์ดเป็นอย่างงั้นแหละ..]
[ก็กำลังจะขี่เป็นอยู่นี่ไง..พิฆาตทมิฬปฏิบัติการ..!]
ผมที่กล่าวคำพูดสุดท้าย พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยการขยิบตาให้ทีน่า ก่อนจะสไลด์สโนว์บอร์ดลงจากเนินหิมะ..
ครืด..!!!!!
[โอ๊ะโอ่..มันรู้อยู่แล้วนี่หว่า..]
ตัวผมในภาพความทรงจำที่ส่งเสียงออกมาในขณะที่กำลังโต้สโนว์บอร์ดไปกับผืนหิมะลงจากเนินมุ่งหน้าไปยังฐานบัญชาการที่อยู่ห่างไกลออกไปกว่าร้อยเมตร
แต่ทว่าภาพที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าของตัวผมในความทรงจำคือร่างของเหล่าทหารจำนวนกว่าหลายร้อยคนที่กำลังเล็งปืนมายังทิศทางของผม พร้อมด้วยอาวุธหนักครบมือ..
[ยิง..!!!!!]
ปังๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงตะโกนของหนึ่งในทหาร ก่อนที่ปืนกลหนักจำนวนกว่าหลายกระบอกจะถูกเหนี่ยวไกล..
[เอ็กซ์..จัดเลย..~]
[ถ้างั้นก็..จัดไปปลดล็อค 20%]
สิ้นเสียงของไอ้จ้อนที่ตอบกลับ จู่ๆทันใดนั้นภาพเหตุการณ์ที่ผมกำลังเห็นก็กลายเป็นภาพสโลโมชั่น ผมมองเห็นกระสุนจำนวนกว่าหลายร้อยนัดที่กำลังเคลื่อนตัวออกจากปลายกระบอกปืนและกำลังพุ่งตรงไปยังตัวของผม ก่อนที่ต่อจากนั้น..
ครืดๆ ๆ ๆ ๆ..!!
ครืดดดดด..!
ปิ้วๆ ๆ ๆ ๆ ๅ
ฟุบ..
ร่างของผมที่กำลังโต้สโนว์บอร์ดไปกับพื้นหิมะพลันเคลื่อนตัวโยกหลบกระสุนซิกแซกไปมาด้วยความเร็ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันยิ่งกว่าพริ้วไหว ถ้าเทียบตัวของผมในภาพความทรงจำกับผมในตอนนี้ มันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ผมในอดีตดูๆแล้วราวกับไม่ใช่มนุษย์..
ฟุบ..!
ชิ้ง..!!!!
เคร้งๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ผมที่ชักดาบคู่ที่เหน็บหลังเอาไว้ออกมา ก่อนจะเอาท้ายด้ามของดาบทั้งสองเล่มมาประกบกันจนกลายเป็นหนึ่งเดียว ควงมันด้วยความเร็วจนกลายเป็นกังหันปัดป้องกระสุนทุกๆนัดที่สาดยิงเข้ามา อีกทั้งยังสะท้อนวิถีกระสุนให้พุ่งกลับไปหาตัวของผู้ยิง..
ผลุๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
กระสุนที่ถูกสะท้อนกลับได้พุ่งทะยานเข้าสู่ใบหน้าของผู้ที่ยิง ซึ่งทหารทุกๆนายนั้นล้วนแล้วแต่สวมใส่ชุดเกราะป้องกันร่างกายเอาไว้ มีเพียงแค่ส่วนของใบหน้าเท่านั้นที่เป็นจุดอ่อน..
เฟี้ยว..!!!!
ตู้มๆ ๆ ๆ
เสียงของกระสุนปืนต่อต้านรถถังหรือ RPG ที่ถูกยิงเข้ามายังร่างของผม แต่แทนที่จะหลบผมกลับกระโดดใช้ส่วนท้ายของสโนว์บอร์ดเปลี่ยนทิศทางของมัน จนทะยานออกไประเบิดลงที่ทางด้านข้าง..
และจากจุดนี้มันก็ทำให้ผมถึงกับต้องสะพรึงในความสามารถของตัวเอง ก่อนที่จู่ๆภาพเหตุการณ์จะตัดไปอีกครั้ง และปรากฏเป็นภาพเหตุการณ์หลังจากนั้นแทน..
ซึ่งภาพเหตุการณ์ถัดมาที่ปรากฏ นั่นก็คือภาพของหายนะ ในตอนนี้ร่างของผมกำลังยืนอยู่ท่ามกลางซากศพของเหล่าบรรดาทหารนับร้อย ทั่วทั้งบริเวณมีร่องรอยเผาไหม้จากแรงระเบิด อีกทั้งฐานทัพของข้าศึกจะถูกเผาจนราบคาบ
“ภารกิจเสร็จสิ้น พิฆาตทมิฬได้รับชัยชนะ..”
กริ๊บ..
ร่างของผมที่ควงดาบในมือทั้งสองเล่ม ก่อนจะเก็บมันเข้าฝักที่สะพายอยู่ข้างหลัง และนั่นก็คือภาพความทรงจำเหตุการณ์ที่ผมได้เห็น ก่อนที่สติของผมจะกลับคืนกลับมา..
“สะ..สตาร์..!!!”เสียงของไอรินที่กรีดร้องออกมาทำให้สติของผมพลันคืนกลับมา..
“หะ..หืม..?”
ฟุบ..!
ตุบ..
ทันทีที่ผมได้สติ ผมก็พบว่าร่างของตัวเองกำลังลอยอยู่เหนือจากพื้นดินประมาณ 10 เมตร และกำลังจะล่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ผมจึงรีบตั้งสติก่อนจะหมุนตัวลงสู่พื้นด้วยท่าแรนดิ้งซูปเปอร์ฮีโร่..
“สตาร์ นะ..นาย..!”
ฟุบ..
ไอรินที่กำลังจะวิ่งตรงเข้ามาหาผม แต่กลับต้องถูกผมที่ยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้ว่าอย่างพึ่งเข้ามา..
‘รอบนี้เราได้อะไรมาบ้าง..?’
“สตาร์..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา น้ำเสียงของมันดูเคร่งขรึมและตกตะลึงในคราวเดียวกัน
“ว่าไง..?”
“แกลองดูด้วยตาของตัวเอง..เองเถอะ ปลดล็อค 20%”
ฟุบ..!
สิ้นเสียงของไอ้จ้อน จู่ๆสมองของผมก็เหมือนถูกกระแสไฟฟ้าที่ช็อตผ่าน ผมรู้สึกได้ในทันทีว่าประสาทสัมผัสของตัวเองมันแตกต่างไปจากเดิม ผมรู้สึกได้ถึงทุกวัตถุที่อยู่รอบๆตัวในระยะ 50 เมตร ไม่ว่าจะเป็นทิศทางของสายลม หรือแม้แต่หยดน้ำที่กำลังหยดลงมาจากบนเพดาน อีกทั้งทุกอย่างรอบตัวมันยังดูช้าลงจนเกือบจะกลายเป็นภาพสโลโมชั่น
ถ้าจะให้นิยามความรู้สึกในตอนนี้อารมณ์มันก็คงคล้ายๆกับสไปเดอร์เซนส์ หรือพลังที่ทำให้ประสาทสัมผัสดีขึ้นกว่าคนปกติทั่วไปถึง 10 เท่า แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะมีพลังนี้ติดตัวมาอยู่ก่อนแล้ว แต่ว่าตอนนี้มันกลับดีขึ้นกว่าเดิม..
ฟุบ..
แต่แล้วภายในชั่วพริบตาทุกๆอย่างก็กลับมาเป็นปกติ..
“อีกหนึ่งพลังของฉันที่สัมผัสได้ มันคือการแทรกแซงเข้าไปปลดล็อคความสามารถของสมอง ตามปกติมนุษย์สามารถใช้สมองได้แค่ 10% แต่พลังของฉันคือการเปิดใช้งานสมองในส่วนที่มนุษย์ไม่สามารถที่จะเปิดใช้งานได้
นอกเหนือจากนี้ในตอนที่สมองในส่วนของการเรียนรู้ถูกเปิดใช้งาน แกจะสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆที่ไม่เคยทำมาก่อนได้อย่างรวดเร็ว แกสามารถจดจำหนังสือได้ทั้งเล่มเพียงแค่การอ่านผ่านๆตาภายในการอ่านแค่รอบเดียว หรือแม้แต่ทักษะต่างๆรอบตัว
ยกตัวอย่างถ้าเกิดแกเล่นสโนว์บอร์ดไม่เป็น แต่ทันทีที่สมองในส่วนของการรับรู้ถูกฉันเปิดการใช้งานกระตุ้นให้ทำงานมากกว่าปกติ จะทำให้แกสามารถเล่นสโนว์บอร์ดเป็นได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่จำเป็นที่จะต้องฝึกฝน
แต่ว่าตอนนี้ฉันเองก็ไม่รู้วิธีเปิดการใช้งานสมองในส่วนของการเรียนรู้ แค่สัมผัสได้ถึงการมีอยู่คร่าวๆของมันเท่านั้น นอกเหนือจากนี้สมองของมนุษย์ยังมีความลับที่ซ่อนอยู่อีกมากมาย..”สิ้นคำอธิบายของไอ้จ้อนที่ลากยาว ผมที่ได้ยินก็ถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก..
“ซะ..ไซไฟ..?”ผมที่กล่าวออกมาสั้นๆ..
“เออ..”ไอ้จ้อนที่ตอบกลับ มันเองก็ดูอึ้งไม่ต่างกัน..
“และอีกหนึ่งสิ่งที่ฉันอยากจะบอกเอาไว้ การที่ฉันเปิดการทำงานของสมอง ทุกๆครั้งมันจะทำให้สมองของแกเกิดอาการอ่อนล้าถึงขั้นทำให้หมดสติ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีแก้ วิธีที่จะใช้แก้คือฉันจะต้องทำอะไรสักอย่างกับสมองของแก แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยอะดรีนาลีน นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไมแกถึงต้องอึ๊บผู้หญิงที่ชื่อทีน่าก่อนที่จะออกทำภารกิจ..
ส่วนสาเหตุที่ทำไมก่อนหน้านี้ในตอนที่ความทรงจำของพวกเราตื่นขึ้นเป็นครั้งแรก แกถึงมีประสาทสัมผัสที่ดีขึ้นและมองเห็นทุกอย่างหน่วงไปหมด รวมไปถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดมนุษย์ นั่นก็เป็นเพราะว่าสมองในส่วนของประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหวของแกถูกฉันตั้งค่าให้อยู่ที่ 15% นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมแกถึงต้องหมดสติในทุกๆครั้งที่อะดรีนาลีนสงบลง
ซึ่งหลังที่แกตื่นขึ้นมาสมองก็จะถูกตั้งค่าให้กลับไปทำงานแค่ 10 % ตามเดิม แต่พอถูกกระตุ้นจนอะดรีนาลีนพลุกพล่าน สมองของแกก็จะถูกเลื่อนระดับไปเป็น 15% โดยอัตโนมัติ ส่วนฉันก็จะคอยกินอะดรีนาลีนของแกไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมด
แกในตอนที่สมองทำงาน 15% ก็จะมีความสามารถกว่าคนปกติทั่วๆไป อีกทั้งความทรงจำและทักษะทั้งหมดก็จะตื่นขึ้นมาด้วย แต่พออะดรีนาลีนสงบลง สมองของแกก็จะเกิดอาการอ่อนล้าจนทำให้หมดสติไป ซึ่งนี่ก็คือที่มาที่ไปของโหมด X..”สิ้นคำอธิบายของไอ้จ้อนที่วกวนไปมาย้ำถึงสองครั้ง ผมที่ได้รับรู้ถึงแหล่งกำเนิดของโหมด X ก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ถูก ถ้าจะให้สรุปง่ายๆ ไอ้จ้อนคือแหล่งพลังหรือต้นกำเนิดความสามารถของผม
“อึก..อย่างนี้นี่เอง แล้วทำไมความทรงจำของพวกเราถึงผิดปกติกันล่ะ ทำไมมันถึงกลับมาจำได้เฉพาะตอนที่สมองทำงาน 15%..”ผมที่ถามกับไอ้จ้อน..
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จากความทรงจำเมื่อกี้ ฉันรู้สึกได้ว่าพวกเรายังมีความลับที่ยังไม่รู้อีกเยอะ..”ไอ้จ้อนที่บอกกับผม พอได้เห็นความทรงจำล่าสุดๆ จู่ๆบรรยากาศที่ผมรู้สึกได้มันก็เปลี่ยนไป แม้พวกเราจะได้เห็นภาพความทรงจำพร้อมกัน แต่ความทรงจำที่ได้รับมันก็ถูกแบ่งแยกเป็นของใครของมัน ไอ้จ้อนตอนนี้มันไม่เหมือนกับไอ้จ้อนเจี๊ยวจ๊าวที่ผมเคยรู้จักเลย จนทำให้ผมจู่ๆก็ใจหาย
“เรื่องพวกนั้นช่างมันก่อนเถอะ ฉันติดใจไอรินแล้วงะ ขออีกสักป้าบได้ไหม..?”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมาอย่างกระดี๊กระด๊า เออ..มันคือไอ้จ้อนคนเดิมหนึ่งเดียวคนนี้..
ดูเหมือนว่าภูมิหลังของผมมันจะไม่ธรรมดาอย่างที่คิดเอาไว้ซะแล้วสิ..
ในขณะเดียวกัน ณ บนหุบเขาลาติส..
ฟุบ..!
ตู้มๆ ๆ ๆ ๆ
เฟี้ยวๆ ๆ ๆ
ตู้ม..!!!!!
เสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งหุบเขา ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือแสงสว่างจากกระสุนแรงดันเวทจากกองกำลังทหารของเอลเดียและไฮสโตเรียที่กำลังยิงปะทะเข้าใส่กัน
กร็อบ..!~
แผล๊ะ..!
ร่างของเซซิสที่บีบกุมหัวของนับรบขั้น 4 ของไฮสโตเรียหรือหนึ่งในผู้นำกลุ่มย่อยที่ซุ่มโจมตีอยู่รอบๆหุบเขา ก่อนออกแรงบีบจนหัวนั้นแหลกเละคามือ..
ซึ่งตลอดกว่าหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เซซิสพร้อมด้วยกองกำลังทหารก็ได้เข้าปฏิบัติการกวาดล้างกองกำลังทหารของไฮสโตเรียที่อยู่รอบๆหุบเขาไปกว่าหลายกลุ่ม..
“ท่านพลโท ผมคาดว่าผมน่าจะเจอที่ซ่อนตัวของกองกำลังหลักแล้วครับ พวกเขาอยู่ห่างจากจุดนี้ไปประมาณ 500 เมตร ตรงใจกลางของหุบเขาลาติส แถมตอนนี้พวกเขายังถูกพวกทหารไฮสโตเรียล้อมอยู่ด้วย..”เสียงของทหารนายหนึ่งที่วิ่งหน้าตาตื่นตรงเข้ามารายงาน หลังจากที่เขาใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงในการออกตามหากองกำลังหลัก จนกระทั่งได้พบเข้ากับกองกำลังไฮสโตเรียที่กำลังดักซุ่มรายล้อมสถานที่แห่งหนึ่งอยู่..
“เข้าใจแล้ว เอาล่ะฉันให้เวลาพวกแกพัก 3 ชั่วโมง อีกสักพักเราจะเข้าไปรับไอ้เจ้าพวกนั้นกัน..”เซซิสที่ตอบกลับ..
“รับทราบ..!!”เหล่าบรรดาทหารที่ตอบกลับ ก่อนจะแยกย้ายกันไปนั่งพัก หลังจากที่ต้องออกเดินทางและบุกจู่โจมมาเป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมง ทุกๆคนก็คงจะเหนื่อยล้า
“ก่อนหน้านี้ที่ไอ้เจ้าทหารไฮสโตเรียมันบอกว่าจะเริ่มแผนการหลักภายใน 24 ชั่วโมง มันหมายความว่ายังไงกันนะ..”เซซิสที่สบถกับตัวเอง เขารู้สึกว่ามันจะต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลซ่อนอยู่..
ไรท์:คอมเม้น..!!!~