คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 326 กำจัดคนชั่ว เจียงมั่วหย่วนคู่ควรเหรอ

เหมือนกับฟู่หมิงเฉิง เยี่ยซู่เหอแอบฝึกบอดี้การ์ดฝีมือดีเอาไว้หลายคน เก่งกว่าบอดี้การ์ดทั่วไปมาก

เพียงแต่เธอปิดบังเก่งกว่าฟู่หมิงเฉิง เธอเก็บตัวกินมังสวิรัติสวดมนต์อยู่ในห้องพระมาตลอด ไม่เคยให้ลูกน้องไปทำเรื่องอะไร

เยี่ยซู่เหอเป็นเพียงหญิงหม้ายธรรมดาในสายตาของคนนอก

อยู่ๆ ถูกขวางไว้ ซิวอวี่กับเจียงหรานต่างก็อึ้ง

พวกนักเรียนห้องสิบเก้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ต่างอึ้งหยุดยืนอยู่กับที่

ฟึ่บ มือของบอดี้การ์ดตระกูลเจียงคนนั้นจับไหล่ของอิ๋งจื่อจินแล้วพูดอีกครั้ง “เพื่อความปลอดภัยของคนอื่น กรุณาตามพวกเราไปเถอะครับ”

นี่ไม่ใช่การเชิญ แบบนี้มันจะลักพาตัวกันชัดๆ

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว เธอเหลือบมอง แสยะยิ้มเล็กน้อย

น้อยครั้งที่เธอจะยิ้ม พอยิ้มแบบนี้ก็ชวนให้คนหวาดหวั่น

ชั่วขณะนั้นบอดี้การ์ดที่เดินเข้ามาพูดคนนี้ถึงกับผงะ

วินาทีถัดมาเขาก็รู้สึกเพียงว่าร่างกายถูกเหวี่ยงอย่างรุนแรง ตึง ล้มลงไปนอนบนพื้น เร็วจนทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว

บนถนนตะวันตกมีคนเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ไม่น้อย แต่คนแถวนั้นพอเห็นพวกบอดี้การ์ดชุดดำที่ท่าทางไม่เป็นมิตรพวกนี้โผล่มาจำนวนมากต่างก็วิ่งหนีไปไกลแล้ว

ซิวอวี่ขมวดคิ้ว เข้าไปเตะบอดี้การ์ดตระกูลเจียงที่อยู่บนพื้นหนึ่งที “พ่ออิ๋ง ไม่เป็นไรใช่ไหม”

“ไม่เป็นไร” อิ๋งจื่อจินถอดเสื้อคลุมออกพลางพูด “น่าเสียดาย สกปรกแล้ว ใส่ไม่ได้แล้ว”

คำพูดนี้เข้าไปในหูของพวกบอดี้การ์ดตระกูลเจียง เป็นการหยามศักดิ์ศรี

พวกบอดี้การ์ดที่เหลือสีหน้าแย่ลง

นึกไม่ถึงว่าลูกเลี้ยงตระกูลอิ๋งคนนี้จะเป็นศิลปะป้องกันตัวอยู่บ้าง แค่ประมาทนิดหน่อยเธอก็สลัดหลุดได้

โชคดีที่เยี่ยซู่เหอคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ส่งมาถึงสามสิบคน

เจียงหรานเดินขึ้นหน้าในเวลานี้ แสยะยิ้ม “ฉันก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็คนของนังจิ้งจอกเหรอ พวกแกไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงกล้ามามีเรื่องต่อหน้าฉัน”

กล้าเรียกเยี่ยซู่เหอแบบนี้ก็มีแค่เจียงหรานแล้ว

“คุณชายเจียงหราน” พวกบอดี้การ์ดย่อมรู้จักเจียงหราน “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณชายครับ คุณนายผู้เฒ่าแค่อยากเชิญคุณอิ๋งไปหารือเรื่องหมั้นหมาย ไม่ได้มีเจตนาร้ายครับ”

ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับเจียงหราน อีกทั้งยังมีสาเหตุมาจากเยี่ยซู่เหอ เกรงว่าเจียงซื่อกรุ๊ปจะต้องระส่ำระสายตามไปด้วย

“ลงไม้ลงมือขนาดนี้แล้วยังจะมาบอกว่าไม่มีเจตนาร้ายอีกเหรอ สมองถูกหมาเตะทิ้งแล้วหรือไง” เจียงหรานเริ่มหักข้อนิ้ว เกิดเสียงดังกร๊อบ “พ่ออิ๋ง ไม่ต้องถึงมือพ่ออิ๋งหรอก ฉันจะจัดการคนพวกนี้เอง”

เขาวอร์มร่างกายเล็กน้อย พูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติเท่าไร “ตอนนี้เธอดังแล้ว มีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นจะเสียภาพพจน์”

แต่ไหนแต่ไรมาเจียงหรานเป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียน ไม่ต้องรักษาชื่อเสียงอะไร

ทางตระกูลเมิ่งส่งยามาให้ตลอด กำลังภายในในร่างกายของเขาเริ่มสงบลงแล้ว นานแล้วที่ไม่ได้พลุ่งพล่าน

“พี่หราน ลุย!” ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังหวดหมัดอย่างตื่นเต้น “รังแกพ่อของพวกเรา เอามันให้ตายเลยพี่!”

คนที่เป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดสีหน้าแย่ลงกว่าเดิม “คุณชายเจียงหราน ทางที่ดีอย่า…”

เขายังไม่ทันพูดจบเจียงหรานก็ถีบเข้ามาหนึ่งที ตามด้วยกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมา “แกคิดจะสั่งสอนฉันเหรอ คิดจะสู่ขอพ่ออิ๋ง เจียงมั่วหย่วนมันคู่ควรเหรอ”

บอดี้การ์ดตระกูลเจียงอ้าปาก แต่เจียงหรานกลับยังคงไม่ให้เวลาเขาได้พูด ถีบไปอีกหนึ่งที ครั้งนี้ทำเอาอีกฝ่ายสลบไปทันที

บอดี้การ์ดคนอื่นๆ เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี อีกทั้งพวกเขาไม่กล้าทำอะไรเจียงหราน ทำได้เพียงเริ่มถอย

อุตส่าห์วางแผนมาดีแล้วแท้ๆ แต่พวกเขาคาดไม่ถึงว่าเจียงหรานจะออกหน้าแทนอิ๋งจื่อจิน

ทว่าเจียงหรานไม่มีทางปล่อยคนพวกนี้ไป

เขาเป็นจอมยุทธ์ ถึงแม้กำลังภายในจะยังไม่แข็งแกร่ง แต่ก็รับมือกับคนพวกนี้ได้สบาย

ในเวลาสิบนาที บอดี้การ์ดพวกนี้ก็ล้มไปกองอยู่บนพื้น สลบกันหมด

หลังจากที่เจียงหรานใช้กำลังจนพอใจถึงนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ “ลืมทิ้งคำพูดถึงนังจิ้งจอกนั่นเลย ฉันยังไม่ได้เอ่ยวาจาเชือดเฉือนเลยนะ”

“ทิ้งไว้ตรงนี้แหละ” อิ๋งจื่อจินไม่ได้มอง “ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีคนไปบอกเอง”

เจียงหรานเอามือล้วงกระเป๋าเดินเข้ามาพลางฮัมเพลง

ซิวอวี่รู้สึกเหมือนเห็นหมากระดิกหางอย่างอารมณ์ดี

ไม่ไกลออกไป เนี่ยเฉานั่งอยู่ในรถ ถือกล้องส่องทางไกล เห็นภาพเหตุการณ์นี้ทั้งหมด

“โอ้โห ไม่ได้การละ!” เขาตบต้นขาหนึ่งฉาด “ศัตรูหัวใจ จะต้องเป็นศัตรูหัวใจแน่ๆ!”

พอนึกถึงตรงนี้เนี่ยเฉาก็รีบล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างรวดเร็วแล้วส่งข่าว

[เพื่อน เรื่องใหญ่แล้ว นายให้ฉันคอยจับตาดูผู้ชายต้องสงสัยใช่ไหมล่ะ เจียงหราน นายคิดดูนะ หมอนั่นเป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียน แถมยังเด็กกว่านาย เมื่อกี้ทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยสาวงามด้วย สถานะของนายกำลังเข้าสู่วิกฤตินะ!]

เนี่ยเฉาอยากรู้ว่าถ้าฟู่อวิ๋นเซินหึงจะเป็นอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นอยากเห็นผู้ชายคนนี้คลุ้มคลั่งและคุมสติไม่ได้

ช่วงนี้เขามีความคิดชั่วร้ายแบบนี้

ไม่กี่นาทีต่อมาอีกฝ่ายก็ตอบกลับอย่างไม่รีบร้อน

[ฉันไม่ห่วง นั่นลูกชายของเธอ]

[???]

เนี่ยเฉาลูบหัว นับวันจะยิ่งรู้สึกว่าประสบการณ์มีความรักสิบกว่าปีของเขากลายเป็นอาหารหมาหมดแล้ว

เขาเริ่มมีความรักตั้งแต่ประถม แต่ทำไมยังเข้าใจความคิดของหนุ่มสาวได้ไม่เท่าหลวงจีนที่ถือศีลมายี่สิบสามปี

ณ คฤหาสน์ตระกูลอิ๋ง

เยี่ยซู่เหอฟังรายงานจบ

“เจียงหรานเหรอ” เธอขมวดคิ้ว วางถ้วยชาลง พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ลืมเด็กคนนี้ไปเสียสนิท”

เธอไม่เคยเห็นเจียงฮว่าผิงอยู่ในสายตามาตลอด

เจียงฮว่าผิงเลือกแต่งงานได้ดี ย้ายไปอยู่ตี้ตูแล้ว

เพียงแต่คุณนายผู้เฒ่าเจียงคนก่อนปิดบังดีเหลือเกิน อีกทั้งเจียงหรานยังใช้แซ่ตามแม่ ทำให้จวบจนทุกวันนี้เยี่ยซู่เหอก็ยังไม่รู้แซ่ทางฝ่ายสามีของเจียงฮว่าผิง

เธอเองก็เคยสืบพวกตระกูลขนาดกลางและขนาดใหญ่ของตี้ตู แต่ไม่มีสักตระกูลเดียวที่เกี่ยวดองกับเจียงฮว่าผิง

ก็แสดงว่าเป็นตระกูลขนาดเล็ก ระดับเดียวกับตระกูลเจียง

เยี่ยซู่เหอคิดว่าอาจสู้ตระกูลเจียงไม่ได้ด้วยซ้ำ

ตระกูลใหญ่ให้ความสำคัญกับสายเลือดทั้งนั้น มีเหรอจะปล่อยให้ลูกชายใช้แซ่ของแม่

แต่อุปสรรคอยู่ตรงที่พวกผู้ถือหุ้นเก่าแก่ของเจียงซื่อกรุ๊ป เธอก็เลยไม่เคยทำอะไรเจียงฮว่าผิงมาตลอด

“คุณนายอิ๋ง น่าเสียดายจริงๆ” เยี่ยซู่เหอยืนขึ้น สวมเสื้อคลุม “วันนี้เชิญตัวเด็กคนนั้นมาไม่ได้ แต่เรื่องหมั้นหมายนี้ยังไงก็ต้องกำหนดให้ได้”

ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เจียงมั่วหย่วนไม่เคยขออะไรเธอ พอเขาขอมาเธอก็ย่อมต้องทำให้สำเร็จ

อิ๋งจื่อจินยังอายุไม่ถึงวัยที่จะแต่งงานตามกฎหมาย แต่นี่เป็นเรื่องภายในประเทศจีน ที่อื่นอายุสิบหกก็แต่งงานได้แล้ว

เธอมีวิธี

หลังจากจงมั่นหวาส่งเยี่ยซู่เหอกลับไปแล้ว เธอก็พูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ฉันว่าตระกูลเจียงบ้าไปแล้วจริงๆ นี่ถ้าหมั้นหมายกันจริง ไม่รู้ว่าคนข้างนอกจะพูดกันว่ายังไง”

คู่หมั้นของอาหันไปสู่ขอหลานสาวแทนงั้นเหรอ

คนนอกจะมองอย่างไร

“คุณนายครับ ผมว่านี่อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้” พ่อบ้านครุ่นคิด “คุณลู่เวยไม่อยู่แล้ว เดิมทีพวกเรากับตระกูลเจียงก็เหมือนน้ำกับไฟ ตอนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายมาทาบทามก่อน ฟังจากที่คุณนายผู้เฒ่าเจียงพูด ดูเหมือนจะเป็นความต้องการของท่านเจียงสามด้วย ดังนั้นจะต้องนำผลประโยชน์มาให้ตระกูลอิ๋งได้มากแน่ๆ ครับ”

จงมั่นหวาขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ให้ตระกูลเจียงไปจัดการเอง พวกเราอย่าไปแปดเปื้อนด้วยดีกว่า”

เยี่ยซู่เหอวางแผนคำนวณมาอย่างดี แต่เธอจะไม่มีทางหลงกล

ตกเย็น อิ๋งเทียนลี่ว์กลับบ้านตระกูลอิ๋งเพื่อมาเอาของ

เดี๋ยวนี้เขาไม่มีทางกลับบ้านแล้ว เว้นเสียแต่มีความจำเป็น

พอเดินลงมาจากห้องทำงานอิ๋งเทียนลี่ว์ก็ไม่อยากอยู่นานแม้แต่วินาทีเดียว เตรียมออก

แต่กลับได้ยินเสียงคุยตอนเดินผ่านห้องครัว

น้ำเสียงไม่มีหลบซ่อนใดๆ เขาได้ยินอย่างชัดเจน

ภายในห้องครัวมีพ่อบ้านกับคนรับใช้สองคน

“ฉันว่าถ้าแต่งเข้าตระกูลเจียงไปได้ก็ถือเป็นวาสนาที่คุณหนูรองสร้างบุญอีกแปดชาติก็หาไม่ได้แล้ว” พ่อบ้านแสยะยิ้ม “เธอเป็นแค่เด็กสาวบ้านนอก ไม่คู่ควรจะได้เป็นนายหญิงของตระกูลเจียงเลยจริงๆ ยังจะไม่ยอมอีกเหรอ”

“ยังจะมาทำเป็นวางมาดคุณหนูไฮโซ ถ้าไม่ได้ท่านเจียงสามรับกลับมา ชีวิตนี้เธอคงได้แต่อุดอู้อยู่ในอำเภอยากจน ถ้าคุณหนูรองทำตัวมีอนาคตสักหน่อย มีเหรอที่คุณนายกับคุณท่านจะไม่เอาใจใส่ ตัวเองไม่ได้เรื่องเอง”

พ่อบ้านยิ้มพลางพูดจบก็ออกจากห้องครัว

พอหันมาก็เจอกับอิ๋งเทียนลี่ว์ที่มีสีหน้าเย็นชา

เขาตกใจมือสั่น เกือบทำแก้วล้ม “คะ คุณชายใหญ่…”

คุณชายใหญ่ไม่กลับมานานแล้ว ทำไมวันนี้…

“คุณชายใหญ่เหรอ” สายตาของอิ๋งเทียนลี่ว์แข็งกร้าว “พ่อบ้านยังรู้ตัวอยู่เหรอว่าเป็นบ่าว หืม?”

พอพ่อบ้านได้ยินแบบนี้ก็รู้แล้วว่าอิ๋งเทียนลี่ว์ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดกลัว

เขาไม่ได้เพิ่งพูดเป็นครั้งแรก พูดจนชินแล้ว จงมั่นหวาก็ไม่ได้ว่าอะไร

พ่อบ้านรีบเปลี่ยนเป็นสีหน้านอบน้อมทันที “คุณชายใหญ่ คุณนายยังอยู่ข้างนอก คุณชายใหญ่นั่งรอที่โซฟาสักครู่นะครับ”

อิ๋งเทียนลี่ว์แสยะยิ้ม “ปกติพ่อบ้านก็ชอบพูดจาส่งเดชแบบนี้เหรอ เป็นแค่คนรับใช้ ก็ไม่รู้จักดูว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่า”

พ่อบ้านมือสั่นอีกครั้ง เขาอึ้งไปเล็กน้อย

ถึงแม้ปกติอิ๋งเทียนลี่ว์จะเรียกเขาว่าคุณอา แต่นั่นก็เป็นเพราะมารยาทที่แสดงต่อเขาที่เป็นผู้อาวุโส ไม่เคยพูดจาแบบนี้มาก่อน

“ไม่ต้องเก็บของหรอก เพราะกินใช้ของบ้านตระกูลอิ๋งทั้งนั้น” อิ๋งเทียนลี่ว์พูด “เสื้อผ้ารองเท้าก็ถอดออกมา ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ คนรับใช้ที่ไม่เชื่อฟัง ตระกูลอิ๋งไม่ต้องการ”

สมองของพ่อบ้านตื้อไปหมด นึกไม่ถึงว่าอิ๋งเทียนลี่ว์จะไล่เขาออกแบบนี้ “คุณชายใหญ่ คะ คุณชายล้อเล่นใช่ไหมครับ…”

อิ๋งเทียนลี่ว์นิ่งเฉย “ถอดให้หมด ไสหัวออกไป แล้วก็เช็กดูด้วยว่าช่วงหลายปีมานี้เขาแอบโกงอะไรไปหรือเปล่า”

ประโยคหลังเขาพูดกับคนใช้อีกคน

คราวนี้พ่อบ้านลนลานขึ้นมาจริงๆ แล้ว เขาคุกเข่าลง “คุณชายใหญ่ ขอร้องล่ะครับ อย่าไล่ผมออกเลย ผมสำนึกผิดแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมไม่ควรนินทาคุณหนูรอง”

เขาตบหน้าตัวเองอย่างแรง พูดเสียงสั่น “คุณชายใหญ่ ให้โอกาสผมนะครับ ต่อไปผมจะไม่ทำผิดอีกเด็ดขาด”

อิ๋งเทียนลี่ว์หมดความอดทน เขาเดินตรงไปหา ไม่สนว่าพ่อบ้านอายุห้าสิบปีแล้ว กระชากคอเสื้อพ่อบ้านขึ้นมา

พ่อบ้านหน้าซีด เหงื่อแตกท่วมตัว เริ่มหายใจติดขัด “คุณชายใหญ่!”

“พี่?”

เสียงตกใจของอิ๋งเย่ว์เซวียนดังมาทางด้านหลัง

พ่อบ้านเหมือนเห็นผู้ช่วยชีวิต เขาโล่งอก “คุณหนูใหญ่ ช่วยพูดกับคุณชายใหญ่หน่อยครับ ผมก็แค่พูดไม่กี่ประโยค คุณชายใหญ่จะไล่ผมออกแล้ว”

เขาเห็นอิ๋งเย่ว์เซวียนมาตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งสองคนสนิทกันมาก

อิ๋งเย่ว์เซวียนก็เรียกเขาว่าคุณอา ไปไหนก็จะซื้อของมาฝาก

ขอเพียงแต่เธอเอ่ยปาก เขาจะต้องได้อยู่ต่อแน่นอน

ในใจของอิ๋งเทียนลี่ว์ คุณหนูรองจะสำคัญกว่าคุณหนูใหญ่อีกหรือไง

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset