ตอนที่ 433 คำวิจารณ์ย้อนกลับ
เธอเป็นถึงราชินีภาพยนตร์ก็ยังถูกพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ปฏิเสธ ทำได้แค่เซ็นสัญญากับวั่นจ้ง มีเดียซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของเคเอส เอนเตอร์เทนเมนต์เท่านั้น
แล้วหลินเยียนเธอมีสิทธิ์อะไรถึงได้เข้าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ได้?
ครั้นได้ยินข้อสงสัยของเจี่ยงซือเฟย ฉู่จยาเหยาก็กวาดตามองเธอด้วยสายตาอันคมกริบ แม้ใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มดังเดิม แต่ทว่ากลับปราศจากความอ่อนโยนแม้แต่น้อย “การตัดสินใจนโยบายของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์เราไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คนนอกฟัง”
ถ้าคนอื่นพูดแบบนี้ คงก่อให้เกิดความสงสัยแน่ แต่สำหรับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ เขามีคุณสมบัติที่จะโอหังแบบนี้
เพราะถึงอย่างไรเถ้าแก่ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเขาก็คือเผยอวี้เฉิง ซีอีโอของเจเอ็ม คอร์เปอเรชั่น! แล้วเขาต้องกลัวใครที่ไหนกัน!
ขณะเดียวกันคำพูดนี้ของฉู่จยาเหยาก็สกัดคำถามจากคนอื่นไปด้วย
เจี่ยงซือเฟยยืนหน้าซีดเผือดอยู่ตรงนั้น โมโหจนมือเท้าเย็นเฉียบ…
จ้าวหงหลิงกับหลินเยียนเข้าพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ด้วยกันทั้งหมด…
ความจริงนี้ทำให้เธอถูกความริษยาและเคียดแค้นชิงชังกัดกร่อนจนเสียสติ!
…
ท้ายที่สุด เหตุการณ์วุ่นวายก็ปิดฉากลงเช่นนี้
การสัมภาษณ์ของนักข่าวสิ้นสุดไปได้ไม่นาน แอคเคาท์ทางการของเวยปั๋วของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ก็ประกาศตามติดมาทันที ทั้งยังแจ้งอีกว่าจะรักษาสิทธิเอาเรื่องคนกุข่าวลือตามกฎหมายอีกด้วย
ไม่นานนักในที่สุดชาวเน็ตก็ได้รู้ความจริง
เรื่องทั้งหมดนี้กลับเป็นละครฉากหนึ่งของเกาจื้อเวยที่แสดงเองกำกับบทเอง กลับดำเป็นขาวทั้งหมด!
คำวิจารณ์ของสาธารณชนพลันย้อนกลับทันที…
คนที่สาปแช่งก่นด่าหลินเยียนก่อนหน้านี้เริ่มด่าทอเกาจื้อเวย และมีคนอีกส่วนหนึ่งที่กำลังตื่นตระหนกกับเรื่องที่หลินเยียนเข้าพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์อีกด้วย
[คิดไม่ถึงว่าความจริงจะเป็นแบบนี้นะ! เกาจื้อเวยคนนี้ทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้!]
[อันที่จริงจะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีหลักฐานที่ชัดเจนอะไร เป็นข่าวลือที่เกาจื้อเวยกับดาราใด้พูดปากเปล่าโดยปราศจากหลักฐานทั้งนั้น กลายเป็นทุกคนดันเชื่อโดยไม่ได้คิดเสียด้วยซ้ำไป…]
[พูดไปแล้วครั้งนี้หลินเยียนก็ซวยจริงๆ เลยนะ! ถ้าเธอไม่ได้เซ็นสัญญากับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ตั้งแต่แรก ต่อให้กระโดดลงแม่น้ำฮวงโหก็คงล้างมลทินไม่หมดแน่]
[คราวนี้ขอยืนข้างหลินเยียนก็แล้วกันนะ! ไม่ว่าก่อนหน้านี้เธอจะถูกวิจารณ์ยังไง แต่ครั้งนี้เธอถูกใส่ความจริงๆ ! สำหรับดาราผู้หญิงคนหนึ่ง การกล่าวหาแบบนี้คือคิดจะทำลายกันชัดๆ ! พอไม่ได้ก็ทำลายทิ้งเลยอย่างงั้นเหรอ? นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้วนะ!]
…
ขณะเดียวกัน ในคฤหาสน์ไฮคลาสของเมืองตี้ตูแห่งหนึ่ง
หลินซูหย่าได้รับข่าวนี้พร้อมกันเช่นเดียวกัน
แก้วที่อยู่ข้างมือถูกเธอใช้แรงปัดจนร่วงลงพื้นเสียงดัง ‘เพล้ง’
“หลินเยียนเซ็นสัญญากับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์แล้ว? นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!” เดิมทีหลินซูหย่าไม่อยากลงมือเอง เธอคาดไว้ว่าเกาจื้อเวยจะต้องจัดการหลินเยียนได้แน่ ดังนั้นจึงรอดูพวกเขากัดกัน ถึงเวลาเธอแค่ช่วยโหมกระพือก็พอแล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเยียนกลับไปเซ็นสัญญากับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์อย่างเงียบๆ !
ถ้าเป็นบริษัทอื่นก็ยังพอว่า แต่ดันเป็นพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ไปเสียได้
ต่อให้เคเอส เอนเตอร์เทนเมนต์ร้ายกาจอีกสักแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจเอามาเทียบกับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ได้ หากหลินเยียนเซ็นสัญญากับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์จริง วันหลังถ้าเธอคิดจะลงมืออีกคงยากยิ่งกว่ายากแล้ว
ขณะนี้เองเฮ่อซานซานที่อยู่ด้านข้างก็ตั้งอกตั้งใจพูดประจบประแจงขึ้นมา “พี่คะ พี่อย่าโมโหไปนักเลย ต่อให้นังหลินเยียนคนนี้โชคดีได้เซ็นสัญญากับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์แล้วจะทำไม พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์มีดาราที่มีฝีมือร้ายกาจตั้งมากมายขนาดนั้น เธอจะนับเป็นตัวอะไรได้ล่ะคะ!
อีกอย่างเดี๋ยวพี่ก็จะได้แสดงหนังกับสตูดิโอใหญ่ระดับอินเตอร์แล้ว หลินเยียนยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ข้างล่างอยู่เลย! เอแตะชายกระโปรงพี่ยังไม่ได้ด้วยซ้ำไป!”
เมื่อหลินซูหย่าได้ฟังถึงตรงนี้ สีหน้าถึงอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย “เหอะ หลินเยียน ฉันดูถูกเธอไปหน่อย เพียงแต่แบบนี้ก็ดี แบบนี้ถึงจะน่าสนุก! ในเมื่อเธออยากลองสัมผัสความรู้สึกที่ร่วงจากสวรรค์ไปลงนรกอีกครั้งหนึ่ง ฉันก็ไม่ถือสาที่จะทำให้เธอสมหวังเหมือนกัน…”
ครั้งนี้เธอต้องออกโรงด้วยตัวเอง
ตอนที่ 434 ที่แท้พวกนายกำลังคบกันอยู่หรือเปล่า
เมื่อนักข่าวสัมภาษณ์เสร็จแล้ว หลินเยียนก็บอกลาเผยหนานซวี่กับฉู่จยาเหยา
“ไม่ต้องเกรงใจ ดาราในสังกัดบริษัทเรานี่นา ก็ต้องปกป้องกันอยู่แล้ว!” ฉู่จยาเหยากลับไม่ได้วางท่าแม้แต่น้อย เขามองสำรวจหลินเยียนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง “จริงสิคุณหลิน คุณกับหนานซวี่ของเรา…สนิทกันมากเลยใช่รึเปล่า”
ฉู่จยาเหยาอยากรู้ความสัมพันธ์ของหลินเยียนกับเผยหนานซวี่เสียเหลือเกิน ดังนั้นพอได้โอกาสจึงรีบเอ่ยปากถามขึ้นมาทันที
“เอ่อ…” หลินเยียนคิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่คนนี้จะเป็นคน…จะเป็นคนทำตัวสนิทสนมง่ายขนาดนี้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าควรตอบกลับไปอย่างไรชั่วขณะ
เผยหนานซวี่ที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าจนใจ “ประธานฉู่ ผมบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอไง เป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆ ที่ผมแนะนำหลินเยียนให้คุณ เพราะรู้สึกว่าเธอมีความสามารถจริงๆ แค่นั้น”
ฉู่จยาเหยาส่งเสียง ‘’จึ๊” ออกมาครั้งหนึ่ง แสดงสีหน้า “ฉันเชื่อนายก็บ้าแล้วล่ะ” ออกมา “นายคิดว่าฉันรู้จักนายวันแรกรึไง? นายไม่เคยถามไถ่เรื่องของบริษัทเลย แต่นี่นายแนะนำดาราให้ฉันเป็นครั้งแรกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน”
ฉู่จยาเหยามีสีหน้าค่อนข้างมั่นใจ
เผยหนานซวี่สบตาหลินเยียนอย่างอับจนปัญญา ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ฉู่จยาเหยาจะต้องคิดเหลวไหลมากขึ้นเรื่อยๆ แน่
จริงดังคาด วินาทีต่อมาฉู่จยาเหยาก็หรี่ตาพลางเอ่ยถามขึ้นมาว่า “อยู่ต่อหน้าเถ้าแก่อย่างฉัน พวกนายสองคนตอบฉันมาตามจริงสิ! ที่แท้พวกนายกำลังคบกันอยู่ใช่ไหม”
“พรูด…” หลินเยียนเกือบจะตกใจตายเพราะคำพูดนี้
เธอกับเผยหนานซวี่…กำลังคบกัน? จะเป็นไปได้ยังไง!
เผยหนานซวี่พูดไม่ออกเช่นกัน “ประธานฉู่ เปล่านะครับ พวกเราไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดแบบนั้นจริงๆ”
หลินเยียนรีบพูดสำทับเช่นกัน “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ! ไม่มีเรื่องแบบนั้นเด็ดขาดค่ะ!”
ฉู่จยาเหยาใช้สายตาค้นหามองพวกเขาสองคนสลับไปมา “ไม่ได้คบกัน แล้วหนานซวี่จะปกป้องเธอขนาดนี้เชียว? ถึงเขาจะดูเหมือนอ่อนโยนกับทุกคน แต่ก็ไม่เคยเกินขอบเขตมาก่อน โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อดาราหญิง!”
หลินเยียน “…”
หลินเยียนมองเขาออกแล้ว ฉู่จยาเหยาไม่เพียงชอบข่าวซุบซิบดารา แถมยังเจ้าเล่ห์อีกด้วย ไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น เพื่อไม่ให้เขาคาดเดาไปถึงเรื่องที่อันตรายมากกว่านี้ หลินเยียนจึงได้แต่ตอบกลับไปว่า “ฉะฉันๆ…ที่จริงแล้วฉันเป็นญาติกับราชาภาพยนตร์เผยค่ะ!”
“ญาติ?” ฉู่จยาเหยาตะลึงงัน “ทำไมฉันถึงไม่รู้เลยว่าตระกูลเผยมีญาติอย่างเธอด้วย…”
ไม่ใช่ฉู่จยาเหยาดูถูกหลินเยียน แต่ตระกูลเผยมีปูมหลังเช่นไรกันเล่า ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีญาติอย่างหลินเยียน
หลินเยียนกระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง ใช้ลูกไม้ที่เคยใช้กับตัวตัวก่อนหน้านี้พูดอธิบายเขาไปว่า “ก็เป็นญาติห่างๆ น่ะค่ะ ไม่ใช่ญาติสนิทที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดแบบนั้น…เพราะราชาภาพยนตร์เผยเป็นคนดี ถึงได้ให้ความช่วยเหลือฉันน่ะค่ะ…”
ฉู่จยาเหยาหรี่ตาลงเล็กน้อย “ฉันจะถือว่าเธอพูดจริงก็แล้วกัน งั้นทำไมก่อนหน้านี้หนานซวี่ถึงไม่ช่วยเธอ ทำไมต้องรอจนถึงตอนนี้”
หลินเยียนอับจนคำพูด พูดพึมพำในปากเสียงเบา นั่นเพราะช่วงนี้เธอคบหากับพี่ชายเผยหนานซวี่ ดังนั้นช่วงนี้เผยหนานซวี่ถึงกลายเป็นญาติเธอยังไงล่ะ
เมื่อเผยหนานซวี่ได้ยินเสียงบ่นพึมพำเบาๆ ของหลินเยียนก็มีสีหน้าหัวเราะร้องไห้ไม่ออก
คำพูดของหลินเยียน…ไม่ผิดเลยสักนิด…
“เธอพูดอะไรนะ” ฉู่จยาเหยาฟังหลินเยียนพูดไม่ชัด
หลินเยียนรีบตอบว่า “ไม่มีอะไรๆ ค่ะ ฉันพูดว่าฉันพูดความจริงทุกอย่าง ไม่กล้าปิดบังและโกหกประธานฉู่เด็ดขาด! ถ้ามีคำโกหกขอให้ฟ้าผ่าตาย!”
ฉู่จยาเหยาลูบคาง “จริงเรอะ…”
เผยหนานซวี่ขัดฉู่จยาเหยาที่คิดจะไล่บี้ถามต่อไปด้วยความอับจนปัญญา พูดกับหลินเยียนว่า “หลินเยียน กลับไปก่อนเถอะนะ”
“อ้อๆ ได้ งั้นฉันไปก่อนนะคะ…” เพื่อไม่ให้ฉู่จยาเหยาไล่บี้ถามอย่างไม่ลดละอีก หลินเยียนจึงรีบหนีไปทันที