บทที่ 1737 เพราะเชื่อใจ
เจียงเหยียนโทษตัวเองจนเกือบคิดอยากแทงตัวเองเสียตรงนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเข้าไม่ปกป้องผู้นำดีๆ ก็คงไม่ปล่อยให้นังจิ้งจอกนั้นมีโอกาส!
แต่หลินเชวียกลับมีสีหน้าคาดคิดไว้แล้ว “โอเค เข้าใจแล้ว จะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
เพราะฝีเท้าใกล้ชิดและการกดดันของหญิงสาว ซือเยี่ยหานแทบจะปิดต่อไปไม่มิดแล้ว พอดีที่ตอนนี้หญิงสาวกลับประเทศจีน ขอแค่จัดหานายของอาชูร่าตัวปลอมมาอยู่ที่รัฐอิสระ จากนั้นก็กลับไปใช้ตัวตนซือเยี่ยหาน แบบนั้นก็สามารถลบความสงสัยของหญิงสาวได้แล้ว…
…
เช้าวันที่ถัดมา
คืนนั้นชีซิงไปตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางฝั่งจูเสินสือไต้หลังจากเยี่ยหวันหวั่นกลับไป จากนั้นก็รายงานทั้งหมดให้เยี่ยหวันหวั่นฟัง
“พี่เฟิง ตรวจสอบชัดเจนแล้ว เรื่องที่ซื้อบริษัทไม่ธรรมดาขนาดนั้น ตอนนั้นถึงแม้สถานการณ์ของจูเสินสือไต้ไม้สู้ดีนัก แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องขายบริษัททิ้ง กระทั่งตอนนั้นหวงเทียนยังเสนอราคาที่สูงมาก ใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง พวกหานเซี่ยนอวี่ก็ไม่ยอมครับ”
นิ้วของเยี่ยหวันหวั่นเคาะบนผิวกระจกของโต๊ะน้ำชาครั้งแล้วครั้งเล่า “พูดต่อ”
ความจริงทักษะการแสดงของหานเซี่ยนอวี่ ลั่วเฉิน กงซวี่ และเจียงเยียนหรานนั้นไม่ต้องพูดถึง เยี่ยหวันหวั่นดูออกว่าไม่ถูกจ้อง ไม่ใช่เพราะทักษะการแสดงของพวกเขามีจุดด้อย
แต่เป็นเพราะความเชื่อใจ
เธอเชื่อว่าพวกเขาไม่มีทางขายบริษัท แล้วก็เชื่อว่าพวกเขามีความสามารถ
แต่สุดท้าย เรื่องกลับต่างจากที่เธอคาดคิดโดยสิ้นเชิง จะต้องมีปัญหาที่ตรงไหนแน่
ดังนั้นเธอจึงให้ชีซิงไปตรวจสอบดู
ชีซิงเอ่ยปากพูดต่อ “ตามการตรวจสอบของผม น้องสาวกับพี่สะใภ้รองของคุณช่วงนี้ติดต่อกับคนของสมาคมหงซิ่งในที่ลับอย่างใกล้ชิด พอพี่เฟิงจากไป เหยาเจียเหวินก็รับหน้าที่เป็นผู้จัดการของเจียงเยียนหราน กงซวี่กับลั่วเฉิน ได้รับความเชื่อใจมาก
ดังนั้นพวกเขาจึงติดสินบนเหยาเจียเหวิน ให้เธอร่วมมือกับคนของสมาคมหงซิ่งทั้งภายนอกภายใน หลีกเลี่ยงบอดี้การ์ด ลักพาตัวเจียงเยียนหราน ใช้เจียงเยียนหรานข่มขู่ ให้พวกเขาจำต้องยอมรับการซื้อกิจการของหวงเทียน”
พริบตาที่สิ้นเสียงของชีซิง สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็พลันบึ้งตึงทันใด
เธอนึกไม่ถึงแม้แต่น้อย สุดท้ายตัวเองก็ยังประเมินระดับความหน้าไม่อายของแม่ลูกคู่นั้นกับหวงหมิงคุนต่ำเกินไป
นึกไม่ถึงว่าคนพวกนั้นจะใช้วิธีชั้นต่ำแบบนี้!
ที่ทำให้เธอผิดหวังยิ่งกว่าคือการหักหลังของเหยาเจียเหวิน…
เหยาเจียเหวินคือคนที่เธอขุดมากับมือ เธอแทบสอนประสบการณ์ทั้งหมดให้เหยาเจียเหวินอย่างไม่เก็บงำไว้ ก่อนจากไป เธอยังฝากฝังศิลปินในสังกัดที่ตัวเองให้ความสำคัญมากที่สุดไว้
นึกไม่ถึงว่า…
เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างกระโดดผึงขึ้นมาอย่างโมโหในความอยุติธรรมทันที “เวรเอ๊ย! สมาคมหงซิ่งอะไร! ไม่เคยได้ยินมาก่อน! ถึงกลับกล้าลักพาตัวเทพธิดาของผม! จะฆ่ามันให้ตายเลย!”
“องค์กรที่มาจากฮ่องกงน่ะ ตอนนี้ค่อนข้างมีอิทธิพลในประเทศจีนกับแถบเอเชีย” ชีซิงอธิบายด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เยี่ยหวันหวั่นย่อมเคยได้ยินชื่อของสมาคมหงซิ่งมาก่อน มีอำนาจใหญ่โต พื้นเพลึกซึ้งจริงๆ
แต่องค์กรใต้ดินจำพวกหงซิ่งนี้ ถ้าอยู่ในรัฐอิสระก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยเล่นบ้านตุ๊กตาดีๆ นี่เอง ยิ่งไม่ต้องพูดพันธมิตรอู๋เว่ยที่แม้แต่คนในรัฐอิสระล้วนหวาดกลัว
“เอากำหนดการในอนาคตช่วงนี้ของทั้งสี่คนมาให้ฉัน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก
ชีซิงจัดการเรื่องอย่างเหมาะสมมาก เขาสืบค้นทั้งหมดก่อนแล้วจึงใช้มือถือส่งเอกสารฉบับหนึ่งให้เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นกวาดตาดูอย่างรวดเร็ว สายตาตกลงบนกำหนดการวันนี้ของกงซวี่
วันนี้กงซวี่ต้องไปถ่ายหนัง ชื่อของหนังเรื่องนี้คุ้นตามาก เหมือนจะเป็นหนังเรื่องที่ใช้ฉากล่อแหลมดึงดูดผู้ชมซึ่งเธออ่านเจอในข่าวตอนอยู่รัฐอิสระ…
—————————————————————————————–
บทที่ 1738 ไม่คู่ควรเปรียบเทียบ
สถานที่ถ่ายหนัง ‘คืนลมวสันต์’ เวลานี้บรรยากาศตึงเครียด ในอากาศตลบควันปืน เต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน
ด้านข้างกงซวี่คือเก้าอี้ที่ถูกเขาล้ม เศษแก้วแตกเกลื่อนพื้น “เหยาเจียเหวิน! ตอนนั้นที่เธอกล่อมฉันให้เซ็นหนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดแบบนี้นี่! เธออยากใช้ลูกเล่นสกปรกพรรค์นั้นมาโปรโมตหนัง ฉันก็ยอมทนแล้ว! แล้วตอนนี้ยังจะให้ฉันเปลื้องผ้าถ่ายของอย่างนั้นจริงๆ เพื่อสนับสนุนโนเนมที่ไหนไม่รู้เนี่ยนะ! เธอคิดว่าฉันเป็นใครหา!”
นักแสดงนำหญิงของหนังเรื่องนี้เป็นคนรักของเจ้าพ่อคนหนึ่งของสมาคมหงซิ่ง เป็นดาราเล็กๆ ไม่โด่งดัง ตอนนี้เซ็นสัญญาเข้าจูเสินสือไต้โดยมีเหยาเจียเหวินพามาด้วยตัวเอง
ถ้าเป็นเมื่อก่อน กงซวี่ไม่ถือสาการแสดงหนังอย่างนี้แม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้ พี่เยี่ยทุ่มเทแรงกายมากมายเพื่อผลักดันเขาถึงตำแหน่งนั้น ช่วยเขาเปลี่ยนตัวเอง เขาจะทนให้หนังรสนิยมคุณภาพต่ำอย่างนี้มาทำลายทั้งหมดที่พวกเขาพยายามมาตั้งนานได้ยังไง
บนเก้าอี้พักผ่อนหนังแท้ เหยาเจียเหวินถือกาแฟแก้วหนึ่งขณะนั่งอยู่ตรงนั้น เผชิญหน้ากับการระเบิดโทสะของกงซวี่ เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก “กงซวี่ นายนี่ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว คนที่ได้เงินมากๆ ในวงการมีใครไม่ทำแบบนี้บ้าง
“เสียทั้งเวลาทั้งพลังงานตั้งมาก ไปถ่ายหนังที่ไม่มีตลาด ต่อให้ได้เป็นราชาจอเงินแล้วยังไง กำไรที่มันให้มายังไม่สู้เท่านายถอดเสื้อผ้าหนึ่งชิ้น เผยเนื้อหนังนิดหน่อยเลย!
วิธีที่คิดว่าตัวเองสูงส่งบริสุทธิ์ หลับหูหลับตาไล่ตามความเป็นมืออาชีพและฝีมือการแสดงของเยี่ยไป๋ไม่เหมาะกับวงการนี้สักนิดเดียว ควรจะถูกโละทิ้งไปนานแล้ว”
แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น บนตัวของเหยาเจียเหวินก็มองไม่เห็นความเรียบง่ายขัดสนเมื่อตอนนั้นอีกแล้ว
เสื้อผ้าราคาแพงบนตัวไม่ด้อยไปกว่าศิลปินดารา ข้อมือสวมอัญมณีหรูหรา ทั้งร่างสวมชุดเสื้อผ้าโอตกูตูร์จากชาแนล ข้างกายประกบด้วยผู้ช่วยส่วนตัว เป็นออร่าของผู้จัดการมือทองโดยสมบูรณ์
ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ที่อยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้นก็ต่างเออออประจบประแจงกันรัวๆ “ประธานเหยาความคิดเห็นเหนือชั้น!”
“คำพูดนี้ของประธานเหยาละเอียดลึกซึ้ง กงซวี่ พวกเราเข้าสู่เส้นทางนี้ก็ไม่ใช่เพื่อหาเงินหรอกเหรอ ทำไมต้องว่าร้ายเงินด้วย ประธานเหยาทำเพื่อนายล้วนๆ นะ!”
เมื่อได้ยินผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในวงการที่เมื่อก่อนตัวเองได้แต่ดูไกลๆ เห็นด้วยกับตัวเองอย่างกระตือรือร้น เหยาเจียเหวินก็พึงพอใจอย่างยิ่ง
ถ้าบอกว่าตอนแรกที่อาศัยเยี่ยอีอีเธอยังรู้สึกผิดอยู่บ้าง ตอนนี้หลังจากมีตัวตนเป็นผู้จัดการมือทองและประธานบริษัทมาหลายเดือน ความรู้สึกผิดนั้นก็ถูกเหยียบไว้ใต้เท้าโดยสิ้นเชิงแล้ว
เธอเป็นผู้จัดการเหมือนกับเยี่ยหวันหวั่น ทำไมเยี่ยหวันหวั่นถึงได้เติบโตก้าวหน้า แต่เธอกลับได้เป็นแค่คนรับใช้?
ในวงการ ถ้าอยากเป็นคนเหนือคน แต่เดิมก็ต้องไม่เลือกวิธีการ จะโทษเธอไม่ได้!
เธอจะไม่มีทางกลับไปใช้ชีวิตก้มหัวงอเข่าแบบเดิมอีกเป็นอันขาด…
ต่อให้เป็นพวกอวดดีเอาแต่ใจอย่างกงซวี่ ตอนนี้ก็ยังต้องถูกควบคุมโดยเธอเลยไม่ใช่เหรอ!
กงซวี่มองผู้หญิงตรงหน้า ก่นอส่งเสียงหัวเราะเยาะ “เหยาเจียเหวิน! เธอพูดคำแสลงหูคุณชายให้น้อยหน่อย! เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครหา คิดว่าตัวเองเป็นผู้จัดการของฉันจริงๆ เหรอ อาศัยเธอเนี่ยนะมาคู่ควรเปรียบเทียบกับพี่เยี่ยของฉัน?”
พอได้ยินคำพูดนี้ หน้ากากใจเย็นสง่างามของเหยาเจียเหวินแตกเป็นเสี่ยงในทันที ดวงตาเต็มไปด้วยแววโหดเหี้ยม
หลังเข้าควบคุมบริษัท ข้อห้ามที่สุดของเธอก็คือถูกคนอื่นเอามาเปรียบเทียบกับเยี่ยหวันหวั่น!
พวกที่เกลียดที่สุดก็คือคนพวกนี้ที่เอาแต่พูดถึงเยี่ยไป๋!
ทั้งที่ตอนนี้จูเสินสือไต้เป็นของเธอแล้ว ทั้งที่ตอนนี้เธอต่างหากที่เป็นผู้จัดการของพวกเขาแท้ๆ!