เมื่อสิ้นเสียงถ้อยคำเฮอร์มิสโบราณที่ดังก้อง บริเวณรอบๆ ออเดรย์และเฮอร์วิน·แรมบิสพลันหม่นหมองลงชั่วขณะ
คล้ายกับมีใครเดินผ่านมาและรีบผ่านไป
รอจนกระทั่งความสว่างคืนกลับ ภายในโลกแห่งจิต เจ้าของ ‘เกาะแห่งจิตใต้สำนึก’ ที่ปกคลุมไปด้วยพายุจิตอันน่าสะพรึงกลัว พลันเปลี่ยนมือจากออเดรย์เป็นเฮอร์วิน·แรมบิส และฝ่ายที่บุกรุกจิตใจเปลี่ยนจากเฮอร์วิน·แรมบิสเป็นออเดรย์
ยันต์โจรปล้นดวง!
สร้างจากหนอนกาลเวลาของอามุนด์ด้วยพลังของเดอะฟูล สามารถขโมยและสับเปลี่ยนชะตากรรมของเป้าหมายได้ในระยะเวลาอันสั้น!
นี่คือ ‘ค่ารักษา’ อาการทางจิตที่เดอะเวิร์ลมอบให้ออเดรย์ ด้วยความช่วยเหลือของยันต์ เธอใกล้จะทำลาย ‘กำแพงสติ’ ของเฮอร์วิน·แรมบิสด้วย ‘พายุจิต’ เป็นการสลับชะตากรรมโดยสิ้นเชิง
เพียงพริบตา กระแสสงครามเกิดพลิกผัน จากผู้ที่ใกล้พังครืน ออเดรย์กลับมาถือครองความได้เปรียบอย่างแท้จริง
แต่แน่นอนว่า ข้อได้เปรียบนี้จะคงอยู่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
ว่ากันตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อสองวันก่อน ออเดรย์เคยถามตัวเองว่าจะเอาตัวรอดอย่างไรในสถานการณ์สิ้นหวัง เธอคงนึกไม่ถึงการใช้ยันต์โจรปล้นดวง หรือกว่าจะคิดได้ก็สายเกินไป แต่ในวินาทีนี้ หญิงสาวที่ซักซ้อมภายในใจมาหลายครั้ง รีบระงับอารมณ์ส่วนเกินพร้อมกับยืนยันสถานการณ์อย่างรวดเร็วอาศัยความได้เปรียบในปัจจุบัน ออเดรย์ควบคุมพายุจิตผสานกับพลังสะกดจิต พยายามเปิดประตูสู่ ‘กายปัญญา’ ของเฮอร์วิน·แรมบิส
เฮอร์วิน·แรมบิสติดชะงักไปทันที ราวกับคนธรรมดาที่กำลังหลงใหลดวงตาสีทองของออเดรย์และถูกสะกดจิตเข้าอย่างจัง
ถูกต้อง ในวินาทีปัจจุบัน ครึ่งเทพของเส้นทางผู้ชมกำลังถูกควบคุมโดยออเดรย์ซึ่งอยู่แค่ลำดับ 6
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อให้ผลของยันต์โจรปล้นดวงจบลง แต่สถานะเช่นนี้จะยังคงอยู่ต่อไป!
อย่างไรก็ตาม ออเดรย์ทราบดี เธอสามารถเปิดประตูกายปัญญาของเฮอร์วิน·แรมบิสและเข้า ‘ควบคุมขั้นต้น’ ได้ด้วยพลังของยันต์ หากฤทธิ์ยันต์หมดลงเมื่อไร ไม่ว่าเธอจะทำสิ่งใดต่อไป ผลลัพธ์จะถูกปฏิเสธด้วยความแตกต่างของพลัง
และนอกจากนั้น เธอเริ่มสัมผัสได้ว่า เฮอร์วิน·แรมบิสกำลังดิ้นรนขัดขืนให้หลุดจากสภาพปัจจุบัน เพราะเกล็ดสีเทาเริ่มปรากฏบนใบหน้าของมันบนโลกความจริง
อีกไม่นาน มันจะหลุดพ้นจากการถูกควบคุมจิตใจเบื้องต้น… ออเดรย์ตระหนักได้จากสิ่งที่เห็นและสัมผัส
เธอจ้องไปยังศีรษะของเฮอร์วิน·แรมบิส นึกเสียใจที่ไม่ได้พกลูกโม่ทรงพลังติดตัวมาด้วย ไม่อย่างนั้นคงใช้โอกาสนี้เพื่อลั่นไกหลายนัด หวังฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคาที่
แต่ในวินาทีถัดมา เธอนึกออกว่าตนมีพลังในการสร้างเกล็ดมังกร และเชื่อว่าเฮอร์วิน·แรมบิสเองก็คงมีเช่นกัน แถมยังเป็นรุ่นที่แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า พวกมันจะไม่ถูกทำลายด้วยการโจมตีธรรมดา รวมไปถึงสมบัติวิเศษสายโจมตีในระดับกลางและต่ำ!
และถ้าไม่ตายในการโจมตีหนึ่งครั้ง เฮอร์วิน·แรมบิสจะได้สติกลับมาอย่างแน่นอน พร้อมกับหลุดพ้นจากการถูกควบคุม
โดยปราศจากความลังเล ออเดรย์ซึ่งยังขาดพลังโจมตี ผุดความคิดหนึ่งได้ทันที:
เธอต้องสะกดจิตมัน!
เฮอร์วิน·แรมบิสเป็นคนที่เชี่ยวชาญการสะกดจิตมาก และมีพลังต่อต้านการสะกดจิตที่แข็งแกร่ง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง มันจะไม่พกพาสมบัติวิเศษที่ช่วยป้องกันการสะกดจิต… แต่เราจะไม่สั่งให้หมอนั่นทำในสิ่งที่ขัดต่อความตั้งใจมากเกินไป เพราะด้วยช่องว่างของพลัง เราไม่มีทางเอาชนะแรงขัดขืนจากจิตใต้สำนึกได้… หลังจากกระแสความคิดมากมายผุดขึ้นในหัว ออเดรย์เม้มปากเล็กน้อย
เธอพยายามไม่เผยท่าทีผิดธรรมชาติ เพียงจ้องเข้าไปในดวงตาเฮอร์วิน·แรมบิสและกล่าวเสียงแผ่ว
“ในคฤหาสน์ของกายลินหลังนี้ หาที่นั่งรอฉันสักสิบห้านาที… เมื่อครบกำหนดค่อยไปหาฉันที่สวน”
การชี้นำทางจิตเช่นนี้มิได้กระตุ้นแรงต้านมากนัก ช่วยให้การสะกดจิตของออเดรย์สำเร็จอย่างราบรื่น ต้องไม่ลืมว่า แต่เดิม เฮอร์วิน·แรมบิสก็มีแผนจะรอพบออเดรย์ที่คฤหาสน์ของไวเคาต์กายลินอยู่แล้ว การสะกดจิตจึงไปกระตุ้นข้อมูลเก่าให้ทำงานโดยแก้ไขสถานที่และเวลาเล็กน้อย แถมความแตกต่างของข้อมูลของชุดก็ยังต่ำมาก เรียกได้ว่าสอดคล้องกับเจตนาเดิมของเฮอร์วิน·แรมบิส จิตใต้สำนึกของมันจึงไม่ได้แสดงอาการต่อต้าน
“ตกลง…” เฮอร์วิน·แรมบิสตอบรับสั่งของออเดรย์
หญิงสาวถอนหายใจโล่งอก มองตาอีกฝ่ายและกล่าวเสียงแผ่ว
“แต่วันนี้ คุณวางแผนจะแวะมาหาฉันแค่สิบห้านาที… แปลว่าคุณจะไม่ได้เจอหน้าฉัน… และในเมื่อคุณไม่ได้เจอหน้าฉัน เหตุการณ์ในวันนี้จะถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งหมดจะถูกลืมเลือน”
เนื่องจากเฮอร์วิน·แรมบิสยอมรับการสะกดจิตในครั้งแรก เมื่อคำสั่งที่สอดคล้องกันถูกป้อนเข้ามาอย่างสมเหตุสมผล ต่อให้มีการต่อต้านเล็กๆ แต่ก็ไม่มากพอจะทำให้ได้สติ
ในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา แสงสีทองอันทรงเสน่ห์ได้เลือนหายไปจากดวงตาหญิงสาว
“ใช่… วันนี้ผมไม่ได้เจอกับคุณ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น” เฮอร์วิน·แรมบิสทวนซ้ำด้วยสีหน้าเหม่อลอย แต่เกล็ดสีเทาบนผิวหนังของมันกลับยิ่งทวีจำนวน
หลังจากผ่านขั้นตอนสำคัญ ออเดรย์ระงับความอยากที่ใช้มือทาบอก ครุ่นคิดสักพักและกล่าว
“เมื่อคุณได้ยินฉันร้องเพลง คุณจะเงียบและฟัง”
อันที่จริง เธออยากผสานการสะกดจิตเข้ากับกับการหว่านเสน่ห์ แต่นึกขึ้นได้ทีหลังว่าตนทำท่าหว่านเสน่ห์ไม่เป็น และไม่รู้วิธีแสดงสีหน้าในทำนองเดียวกัน จึงไม่มีทางเลือกนอกจากยกมือขึ้นรวบผมสีทองอ่อน เอียงคอเล็กน้อย ขยิบตาและยิ้มอย่างสดใส
ทันทีหลังจากนั้น หญิงสาวฮัมเพลง ‘คฤหาสน์ใต้แสงจันทร์’ ด้วยเสียงนาสิก
เฮอร์วิน·แรมบิสยืนจ้องหญิงสาวที่อบอุ่นแสงแดด งดงามราวกับดอกไม้ และเจิดจ้าราวกับอัญมณี ยืนฟังเสียงอันล่องลอยและไพเราะด้วยจิตที่ค่อยๆ สงบลง ปราศจากการต่อต้านขัดขืน
เมื่อเห็นว่าการควบคุมขั้นต้นกำลังจะถูกยกเลิก ออเดรย์ไม่มัวรีรอ ชี้ไปทางฟากหนึ่งของทางเดิน:
“ตรงไปที่นั่น… เมื่อเห็นกระจกหลากสี คุณจะได้สติกลับมาพร้อมกับสลายเกล็ดมังกร”
เธอรู้จักอีกฟากหนึ่งของทางเดินเป็นอย่างดี นั่นคือทางเดินของประตูหลัก สองฝั่งเต็มไปด้วยกระจกหลากสีสันอันงดงาม
คำสั่งของออเดรย์ไม่สร้างอันตราย และไม่ได้ขัดต่อเจตจำนงของเฮอร์วิน·แรมบิส ส่งผลให้มันก้าวเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่ต่อต้าน และเลี้ยวขวาเมื่อถึงสุดปลายทาง
รอจนกระทั่งแผ่นหลังของอีกฝ่ายหายไป ออเดรย์หายใจออกเชื่องช้า ยินยอมให้ความหวาดกลัว ความเครียด และความโกรธปริมาณมหาศาลรุกล้ำจิตใจ
ร่างกายหญิงสาวสั่นระริกอย่างมิอาจหักห้าม ปากเปิดออกเล็กน้อย หายใจเข้าออกอย่างมิอาจควบคุม
ผ่านไปสิบวินาที ออเดรย์ใช้ปลอบโยนใส่ตัวเองเพื่อสงบสติ
จากนั้น เธอเหลือบมองนาฬิกาแขวนพร้อมกับยกมือขึ้น ประสานกันใต้จมูกและปาก เปล่งพระนามเต็มของเดอะฟูลด้วยเสียงต่ำ
หญิงสาวสวดวิงวอนเพื่อขอพรจากเทวทูตอีกครั้ง และฝากตัวตนอันลึกลับแจ้งกับ ‘เดอะเวิร์ล’ ว่า เธอทราบเวลาที่เฮอร์วิน·แรมบิสจะปรากฏตัวอย่างแม่นยำ และตนจะอัญเชิญเกอร์มัน·สแปร์โรว์มาก่อนหน้านั้นประมาทสองถึงสามนาที ให้อีกฝ่ายเตรียมตัวให้พร้อมและกะเวลาลงมืออย่างแม่นยำ ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป เฮอร์วิน·แรมบิสจะได้ไม่ไหวตัวทันก่อนจะถูกซุ่มโจมตี
ระหว่างสวดวิงวอน ออเดรย์แค่เล่าสั้นๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ได้ลงรายละเอียด เพื่อไม่ให้เสียเวลา
ถัดมา หญิงสาวยกมือขึ้นและกดลงบนแก้ม เปลี่ยนให้สีหน้ากลับเป็นปรกติ จากนั้นก็สะกดจิตตัวเองให้เริ่มร้องเพลงทันทีที่เห็นเฮอร์วิน·แรมบิสปรากฏตัวอีกครั้ง
จัดการทั้งหมดเสร็จ ออเดรย์เดินไปยังห้องโถง สิ่งแรกที่พบคือซูซี่ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ เมื่อเห็นออเดรย์ มันรีบนำสร้อยคอ ‘คำลวง’ และเข็มกลัด ‘คู่ปรับเหล้า’ มาให้หญิงสาวสวม- สมบัติวิเศษชิ้นหลังสามารถสวมใส่ได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ไม่อย่างนั้นจะเกิดความเสียหายกับตับและสมองในระดับที่มิอาจฟื้นฟูให้กลับเป็นปรกติ ตามแผนเดิม ออเดรย์เตรียมจะสวมมันหลังออกจากคฤหาสน์ของกายลิน ด้วยกังวลว่าจะเผชิญหน้ากับเฮอร์วิน·แรมบิสระหว่างทางกลับ
เมื่อไม่สังเกตเห็นความผิดปรกติในพฤติกรรมของออเดรย์ ซูซี่จึงทำเพียงมองดูเจ้านายสวมสร้อยคอและติดเข็มกลัด
ผ่านไปสองสามนาที ออเดรย์พับถุงมือตาข่ายผ้าสีดำเข้าไปในกระเป๋าชุดขี่ม้า จากนั้นก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำและเดินอ้อมไปทางสวนในคฤหาสน์
ถัดมา หญิงสาวแหงนมองนาฬิกาขนาดใหญ่บนยอดหอคอยสูงที่อยู่ติดกับคฤหาสน์ สติตึงเครียดขณะนับถอยหลังด้วยใจจดจ่อ
เธอไม่ได้กลัวว่าเฮอร์วิน·แรมบิสจะไม่มา แต่กลัวว่าจะมาเร็วหรือช้ากว่าเวลานัดหมาย
แต่ละนาทีผ่านไปอย่างบีบหัวใจ ออเดรย์ใช้ ‘ปลอบโยน’ สองครั้งเพื่อสงบสติ
รอจนกระทั่งเหลือเวลาสองนาทีสิบห้าวินาที หญิงสาวถอดเครื่องประดับขนนกออกจากหมวกพร้อมกับสะบัดข้อมือ
เปลวไฟสีแดงเข้มพลันลุกโชน ขนนกสีขาวเริ่มมอดไหม้
นี่คือพลัง ‘ควบคุมไฟ’ ที่มาพร้อมกับ ‘คำลวง’
เปลวไฟที่ร้อนแรงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีซีด ใช้เวลาเพียงสองถึงสามวินาที ขนซึ่งเป็นผลพลอยได้จากเทพมรณาเทียมก็กลายเป็นละอองเถ้าถ่านโดยสมบูรณ์
ทว่า รอบตัวหญิงสาวไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย
แหงนดูนาฬิกาเรือนใหญ่อีกครั้ง ออเดรย์หยิบยันต์ดีบุกขาวออกมาถือ เปล่งภาษาเฮอร์มิสโบราณ:
“สายฟ้า!”
ยันต์สว่างวาบ คล้ายกับมีอสรพิษสายฟ้าขนาดเล็กจำนวนมากพุ่งออกไปทุกทิศในลักษณะพัวพัน
นี่คือยันต์สำหรับอัญเชิญเรียกเกอร์มัน·สแปร์โรว์
จนกระทั่งแสงจากไฟฟ้าดับสนิท แผ่นยันต์สลายไปโดยสมบูรณ์ ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า แต่บริเวณรอบๆ กลับยังเงียบสงัด ปราศจากความคึกคักหรือสุ้มเสียง
ตอนนี้ซิลกับฟอร์สน่าจะไปถึงวิหารของเทพธิดารัตติกาลและเริ่มสวดมนต์แล้ว… ออเดรย์ข่มใจให้สงบ แสร้งเชยชมดอกไม้ที่ยังเหลือรอดจากฤดูใบไม้ร่วง
หญิงสาวไม่แหงนมองนาฬิกาเรือนใหญ่อีก แต่เลือกจะนับถอยหลังภายในใจ
สามวินาที สองวินาที หนึ่งวินาที… เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองไปรอบตัว แต่กลับยังไม่เห็นเงาของเฮอร์วิน·แรมบิส
อีกฝ่ายพบความผิดปรกติและออกจากที่นี่แล้ว? ออเดรย์กลับมาเครียดอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะนึกทบทวนว่าตนกระทำสิ่งใดพลาดไปหรือไม่
ทันใดนั้น สุ้มเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นข้างใบหู:
“กำลังมองหาอะไรอยู่หรือ?”
รูม่านตาออเดรย์เบิกกว้างอย่างรวดเร็ว ชำเลืองจากหางตา เธอเห็นเฮอร์วิน·แรมบิส บุรุษเจ้าของเส้นผมสีขาวและดวงตาสีฟ้าอ่อน มันโผล่มาอยู่ข้างๆ ตั้งแต่ตอนไหนก็มิอาจทราบได้ ในน้ำเสียงเจือความสงสัยไว้อย่างชัดเจน
เนื่องจากสะกดจิตตัวเองไว้แล้ว หญิงสาวจึงตอบสนองตามจิตใต้สำนึก รีบฮัมเพลง ‘คฤหาสน์ใต้แสงจันทร์’ อย่างไพเราะ
ท่ามกลางเสียงนาสิกอันล่องลอย เฮอร์วิน·แรมบิสสงบลงและตั้งใจฟัง
แต่ทันใดนั้น มันกลับพบว่าระยะห่างระหว่างตนกับออเดรย์ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทั้งที่ไม่มีใครขยับตัว
แม้จะเป็นยามบ่าย แต่ค่ำคืนอันมืดมิดได้แผ่ปกคลุมสวนดอกไม้ของคฤหาสน์อย่างฉับพลัน พระจันทร์สีแดงดวงใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้า และด้านล่างพระจันทร์ บุรุษสวมเสื้อกันลมสีดำและหมวกทรงสูงปรากฏกาย ใบหน้าของมันพร่ามัวเนื่องจากย้อนแสง
………………………