กว่าเลียวนาร์ดจะได้ตอบสนองสิ่งใด มันก็เห็นเสาหินสูงตระหง่านอยู่ตรงหน้า ห้อมล้อมไปด้วยหมอกสีเทาที่ไร้ขอบเขต คอยค้ำจุนพระราชวังหลังใหญ่ที่ดูราวกับเป็นถิ่นพำนักของคนยักษ์
ดวงตาสีเขียวของมันว่างเปล่า ผ่านไปราวหนึ่งวินาที มันตระหนักว่าตนมานั่งข้างโต๊ะทองแดงยาวตั้งแต่เมื่อไรก็มิอาจทราบได้ ฝั่งตรงข้ามเป็นเก้าอี้พนักสูงหลายตัวที่มอบความรู้สึกสูงสง่า
และสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวที่มีลวดลายโบราณ ร่างที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทากำลังเอนหลังพิงอย่างผ่อนคลาย คล้ายกับไม่แยแสทุกสิ่งบนโลก
สำหรับเลียวนาร์ด ฉากตรงหน้ามอบความรู้สึกราวกับกำลังยืนบนเรือโดยสาร หันหน้าเข้าหาท้องทะเลอันมืดมิดที่ไร้ขอบเขต หรือไม่ก็เป็นการเดินออกไปนอกเมือง แหงนมองภูเขาสูงตระหง่านสักลูกหนึ่ง
เพียงพริบตา ความคิดมากมายแล่นผ่านสมองเลียวนาร์ด มันพอจะทราบสถานการณ์ปัจจุบันของตนอย่างคร่าว และเนื่องจากเป็นสาวกของศาสนจักรที่เชื่อในการดำรงอยู่ของตัวตนลึกลับที่ยิ่งใหญ่ มันแทบอยากจะลุกออกจากเก้าอี้และหมอบกราบอีกฝ่าย
พลังของทวยเทพ สูงประหนึ่งขุนเขา กว้างไกลราวกับมหาสมุทร!
ในวินาทีที่เลียวนาร์ดลุกขึ้นยืน มันถูกกดด้วยพลังที่มองไม่เห็น เสียงทุ้มลึกดังกังวาน
“ไม่ต้องมากพิธี… จงเรียกเราว่าเดอะฟูล”
เดอะฟูล… นั่นสินะ… หัวใจเลียวนาร์ดที่เคยหวาดผวาเริ่มสงบลง แน่นอน มันยังคงกังวลเล็กๆ เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่ก็มิได้แตกตื่นเหมือนตอนต้น มิได้นั่งปากแห้งตัวสั่น
มันยืนขึ้นครึ่งจังหวะ ทาบมือลงบนหน้าอกและโค้งคำนับ
“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ ท่านเรียกกระผมมาที่นี่ทำไมหรือ?”
ในฐานะเหยี่ยวราตรีมากประสบการณ์ ในฐานะถุงมือแดงที่เคยทำคดีใหญ่มาไม่น้อย เลียวนาร์ดย่อมทราบว่า การเชื่อมต่อกับตัวตนลึกลับนั้นอันตรายมากเพียงใด ย่อมทราบว่า ตัวมันไม่ตอนนี้กำลังยืนอยู่บนปากเหวชนิดที่ไม่มีวันย้อนกลับ
ในวินาทีที่ตัดสินใจเอ่ยพระนามเต็มของเดอะฟูล มันทำใจรอรับความตายอันน่าสมเพชไว้แล้ว เพื่อให้ได้แก้แค้น ชีวิตตัวเองก็มิได้สำคัญอะไรนัก
อย่างไรก็ตาม มนุษย์ทุกคนล้วนมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด เมื่อพิจารณาว่าไคลน์·โมเร็ตติที่ศรัทธาเดอะฟูล ไม่เพียงจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นครึ่งเทพเรียบร้อยแล้ว เลียวนาร์ดอดไม่ได้ที่จะมองเห็นแสงแห่งความหวัง
ทันใดนั้น มันได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาจากเดอะฟูลที่รายล้อมด้วยหมอก
“ในเมื่อเจ้าสวดวิงวอนให้เราช่วย ตามกฎการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม เจ้าต้องจ่ายบางสิ่งตอบแทน”
ร่างกายเลียวนาร์ดพลันสั่นเทา ก้มศีรษะต่ำ
“ความปรารถนาของท่านคือสิ่งใด?”
เว้นวรรคไปสักพัก เสียงของเดอะฟูลดังขึ้นอีกครั้ง
“ไม่ต้องรีบร้อน บางที อาจเป็นการให้เจ้าช่วยเหลือใครบางคน… นั่งลงก่อน”
เลียวนาร์ดถอนหายใจโล่งอก บรรจงทิ้งตัวนั่ง เหลียวซ้ายแลขวาและตั้งคำถาม
“เขา… เอ่อ… ไคลน์·โมเร็ตติ… ก็เคยมาที่นี่เหมือนผมใช่ไหม?”
เดอะฟูลในหมอกสีเทากล่าวเสียงเรียบ
“ใช่… แต่คนละวิธี”
คนละวิธี… นั่นสินะ ไคลน์ไม่ได้มาที่นี่เพราะเอ่ยพระนามเต็มของเดอะฟูล แต่มาโดยคำแนะนำของ ‘กงสุลมรณะ’ อะซิก·อายเกส จนกระทั่งกลายเป็นสาวกของเดอะฟูล… เลียวนาร์ดอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆ อีกครั้ง พบว่ามีเก้าอี้ทั้งหมดยี่สิบสองตัว
สอดคล้องกับยี่สิบสองเส้นทางผู้วิเศษ… ไพ่ทาโรต์มียี่สิบสองใบ… เดอะฟูล… ขณะเลียวนาร์ดคาดเดา เสียงหัวเราะของเดอะฟูลดังขึ้น
“นอกจากเจ้า สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ถูกดึงมาที่นี่ด้วยเหตุผลอันหลากหลาย… พวกเขาขอให้ข้าจัดการชุมนุมขึ้น แลกเปลี่ยนข่าวสารและซื้อขายวัตถุดิบ สูตรโอสถ หยิบยื่นความช่วยเหลือให้กันและกัน ส่งผลให้ทุกคนพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว กระทั่งกลายเป็นครึ่งเทพ”
แตกต่างจากองค์กรลับไพ่ทาโรต์ที่เราจินตนาการไว้โดยสิ้นเชิง… หย่อนยานกว่าที่คิด… แล้วมิสเตอร์ฟูลจะได้ประโยชน์อะไรจากการทำตามคำขอร้องของสมาชิก? จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใด? หลังจากเข้าสู่วังโบราณเหนือสายหมอก สติเลียวนาร์ดตื่นตัวมากเป็นพิเศษ คำถามข้อแล้วข้อเล่าผุดขึ้น
หลังจากการแก้แค้นสำเร็จมันหดหู่และว่างเปล่าไปพักใหญ่ คล้ายกับสูญเสียเป้าหมายในชีวิต แต่เพียงไม่นานก็กลับมาฮึกเหิม การตายของดาลีย์ได้สอนมันว่า ตนยังแข็งแกร่งไม่มากพอ เพื่อลดจำนวนการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อแข็งแกร่งพอที่จะช่วยรักษาชีวิตผู้อื่น มันจำเป็นต้องอยู่ในลำดับ 4 เป็นอย่างน้อย พลังของครึ่งเทพคือสิ่งที่ขาดไม่ได้
ดังนั้น คำพูดของเดอะฟูลจึงสร้างแรงกระเพื่อมในใจเป็นอย่างมาก มองว่านี่คือโอกาสทอง โดยในขณะเดียวกัน มันก็เต็มใจที่จะเข้าร่วมการชุมนุม ทำความเข้าใจสถานการณ์ขององค์กรอย่างลึกซึ้ง ช่วยให้ตัวเองหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อันตรายที่เกิดจากการเชื่อมต่อกับตัวตนลึกลับ
ครุ่นคิดสักพัก เลียวนาร์ดตั้งคำถาม
“ไคลน์·โมเร็ตติเป็นขาประจำของการชุมนุมด้วยใช่ไหม?”
เดอะฟูลตอบด้วยท่าทีไม่แยแส
“ถูกต้อง”
เลียวนาร์ดเงียบงันไปสักพัก
“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ ผมสามารถเข้าร่วมการชุมนุมได้ไหม?”
เดอะฟูลที่ปกคลุมด้วยสายหมอกตอบพลางยิ้ม
“แน่นอน… แต่หลังจากถูกส่งกลับไป อย่าลืมเล่าเรื่องนี้ให้พาลีส·โซโรอาสเตอร์ฟัง ไม่จำเป็นต้องปิดบังจากเขา”
เขา… ตาแก่เป็นเทวทูตจริงๆ ด้วย! ไม่น่าแปลกใจที่คาถาโจรปล้นดวงทรงพลังขนาดนั้น… แม้เลียวนาร์ดพอจะทราบเรื่องนี้มานานแล้ว แต่หลังจากได้ยินคำยืนยันจากเดอะฟูล มันอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
เลียวนาร์ดลังเลสักพักก่อนจะกล่าวต่อ
“ทำไมต้องบอกพาลีส·โซโรอาสเตอร์หรือครับ?”
แม้มันและพาลีส·โซโรอาสเตอร์จะค่อนข้างสนิทสนมและมีความเชื่อใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่กล้าประมาทโดยสมบูรณ์ การเข้าร่วมชุมนุมลับของมิสเตอร์ฟูลจึงถือเป็นการถ่วงดุลอำนาจของปรสิต
มันได้ยินมิสเตอร์ฟูลหัวเราะ
“บ่อยครั้งที่การปรามให้ผลดีกว่าความขัดแย้ง”
การปรามให้ผลดีกว่าความขัดแย้ง… ใช่แล้ว… หากเปิดตัวว่าเป็นศัตรูซึ่งหน้า เกรงว่าตาแก่อาจเกิดความขุ่นเคืองใจ เพราะท้ายที่สุด สนามรบคงหนีไม่พ้นตัวเรา โอกาสรอดไปแบบปลอดภัยมีน้อยมาก การปรามจะช่วยให้เขาตระหนักถึงสถานการณ์ แม้จะเคยคิดร้ายจริงๆ แต่ก็ไม่กล้าลงมือด้วยวิธีเดิม ต้องหาทางอ้อมค้อมและเสียเวลาเพิ่มขึ้น… เลียวนาร์ดก้มหน้าตอบ
“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ ผมหมดคำถามแล้ว”
เดอะฟูลที่หัวโต๊ะเสกไพ่ทาโรต์ ยกนิ้วขึ้นและชี้ไปทางพวกมัน
“แต่ละคนต้องจั่วไพ่ทาโรต์เพื่อใช้เป็นโค้ดเนมแทนตัวเอง เจ้าเองก็ต้องจั่วไปหนึ่ง… ไม่ต้องห่วง ไพ่ที่ถูกจั่วแล้วจะไม่มีอยู่ในนี้”
เป็นอย่างที่คิด พวกเขาใช้ไพ่ทาโรต์แทนโค้ดเนม… เลียวนาร์ดถอนหายใจแผ่วเบา อดไม่ได้ที่จะถาม
“ไคลน์·โมเร็ตติจั่วได้ไพ่ใบไหน?”
“เดอะเวิร์ล” เดอะฟูลตอบเสียงค่อย “นั่นคือเขา ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่เขา”
หมายความว่ายังไง… เลียวนาร์ดไม่กล้าถามเพิ่ม เพียงยื่นมือขวาออกไปจั่วไพ่หนึ่งใบจากสำรับ
เมื่อพลิกเปิด มันเห็นท้องฟ้าพร่างพรายและเทพีที่กำลังรินน้ำศักดิ์สิทธิ์
ไพ่เดอะสตาร์!
มันไม่ใช่ไพ่ที่ตรงกับรสนิยมเลียวนาร์ด แต่เนื่องจากนี่คือพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ที่มีเดอะฟูลเป็นสักขีพยาน เลียวนาร์ดไม่มีทางเลือกนอกจากน้อมรับไว้
“กลับไปก่อน การชุมนุมจะมีทุกวันจันทร์บ่ายสามโมงตรงตามเวลาเบ็คลันด์” เดอะฟูลที่รายล้อมด้วยหมอกสีเทายกมือขึ้น ส่งเลียวนาร์ดที่รีบยืนทำความเคารพออกจากพระราชวังโบราณ
‘เดอะฟูล’ ไคลน์หัวเราะชอบใจทันที พลิกเปิดไพ่ทาโรต์ทุกใบในสำรับ
ทั้งหมดล้วนเป็นภาพเดียวกัน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาราพร่างพราย
ใช่แล้ว ทุกใบคือไพ่เดอะสตาร์!
หลังจากหัวเราะสักพัก ไคลน์ชำเลืองไปทางดาวแดงที่เป็นตัวแทนเลียวนาร์ด
ในตอนที่พยายามดึงนักกวีอดีตเพื่อนร่วมงานขึ้นมายังมิติเหนือสายหมอก ไคลน์สังเกตอย่างตั้งใจและพบว่า ในร่างกายเลียวนาร์ด·มิเชลมีก้อนลูกบอลแสง กลุ่มแสงดังกล่าวคล้ายกับประกอบจากหนอนแมลงจำนวนมหาศาล หลบซ่อนลึกอยู่ในร่างวิญญาณ
ภาพดังกล่าวทำให้ไคลน์ยืนยันได้ว่า พาลีส·โซโรอาสเตอร์สิงเลียวนาร์ดแค่ขั้นต้น ไม่ได้เข้าควบคุมร่างวิญญาณ กายปัญญา กายอากาศ และร่างเนื้อของเลียวนาร์ด โดยหลังจากเลื่อนลำดับเป็นครึ่งเทพ ไคลน์สามารถควบคุมพลังของมิติหมอกได้ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องดึงร่างวิญญาณองค์รวมขึ้นมา แต่เลือกได้เฉพาะเจาะจงว่าจะดึงส่วนใด กายปัญญาและกายอากาศด้วยหรือไม่
ดังนั้น ไคลน์จึงตัดสินใจไม่ดึงร่างวิญญาณของเลียวนาร์ด แต่เป็นการดึงร่าง ‘วิญญาณดารา’ ขึ้นมาบนมิติเหนือสายหมอกแทน สิ่งนี้จะช่วยให้ไม่กระทบกระเทือนไปถึงพาลีส·โซโรอาสเตอร์ ไม่ต้องนำพาอีกฝ่ายขึ้นมายังมิติเหนือสายหมอก ไม่อย่างนั้น เทวทูตลำดับ 1 แห่งเส้นทางนักจารกรรมต้องทราบแน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้น
และพลังในการ ‘บุกรุกความฝัน’ ของเส้นทางรัตติกาลก็มาจากการใช้ ‘วิญญาณดารา’ เป็นหลัก ส่งผลให้เลียวนาร์ดควบคุมร่างนี้ได้อย่างชำนาญ สามารถเข้าร่วมชุมนุมได้เหมือนกับคนอื่น
หวังว่าเขาจะค่อยๆ หลุดพ้นจากการสิงสู่ของพาลีส·โซโรอาสเตอร์ทีละนิด… ไคลน์ถอนหายใจ
การที่มันยอมให้เลียวนาร์ดเข้าร่วมชุมนุมทาโรต์ เหตุผลหลักคือต้องการให้อดีตพวกพ้องแข็งแกร่งขึ้นจนกระทั่งหลุดพ้นจากเงาของพาลีส·โซโรอาสเตอร์ได้ในสักวัน
และถ้าเทวทูตเส้นทางนักจารกรรมรายนี้มิได้คิดร้าย มันจะหาทางช่วยเลียวนาร์ด เพื่อที่ตนจะได้หลบอามุนด์อย่างปลอดภัย ฟื้นฟูพลังอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าตรงกันข้าม การทำแบบนี้จะช่วยเร่งให้พาลีส·โซโรอาสเตอร์มองหาร่างโฮสต์ใหม่เร็วขึ้น
ถอนสายตากลับ ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก จากนั้นก็โยนสูตรโอสถลำดับ 6 ของเส้นทางนักล่าเข้าไปในจุดแสงที่เป็นตัวแทนของเดนิส พร้อมกับแปลงโฉมเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์และมอบคำสั่งให้ถอนตัวออกจากทวีปใต้ กลับไปยังฝันทองคำทันที
…
ตารวมของแมงมุมนักล่าดำ… สมองนรสิงห์… เดนิสนึกทบทวนรายละเอียดที่ ‘ได้เห็น’ เมื่อครู่ ลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุข
มันเตรียมเดินไปหาแอนเดอร์สัน·ฮู้ดเพื่อกล่าวคำอำลา หลบหนีจากทวีปใต้แสนอันตราย
หลังจากเดินมาถึงประตูห้องของนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลหมอก มันเคาะประตูและเห็นประตูเปิดออกทันที
แอนเดอร์สันไม่ได้ล็อกประตูห้อง!
เดนิสประหลาดใจ รีบมองเข้าไปในห้องและเห็นแอนเดอร์สันกำลังถือมีดจ่อท้องตัวเอง
…………………………………..