เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 84 คุณงามความดี (?) ของเหล่าสุดแกร่งในโลก

นี่ก็คือ เหตุการณ์ก่อนหน้าที่วีรสตรีซึ่งถูกเรียกขานเป็นภัยพิบัติทั้งสามจะเกิดปิ๊งไอเดียว่า [ถ้าไม่มีผู้ชายที่ชอบ ก็เลี้ยงขึ้นมาเองซะเลยสิ!] ขึ้นมา  

แก๊งสามคน ซึ่งก็คือลีโอเน่ ลูด์มิร่า และเทโลเมียร์ได้ลงมือทำให้เมืองใหญ่อันดับสองของมหาประเทศแห่งนึงสูญสลายหายไปจากแผนที่

“ กระจุยไปซ้าาาาาาาาาาา! ”

““““ จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!? ””””

ป้อมปราการแหลกกระจาย ผืนพสุธาสั่นสะเทือนเลือนลั่น เสียงกระหึ่มก้องดังกัมปนาท

เสียงกรีดร้องน่าเวทนาของเหล่าพลทหารดังสนั่นอื้ออึงไปทั่วเมืองใหญ่ที่กำลังถูกคลอกไปด้วยเพลิงรบรุนแรงระดับไม่เคยพบเจอมาก่อน

เหตุไฉนจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้น่ะหรือ ต้นเหตุของเรื่องหาได้เป็นเรื่องใหญ่แต่อย่างใดไม่

หลายวันก่อนหน้า พวกลีโอเน่ที่ตกลงรับคำร้องตามหาคนหายเพราะอารมณ์พาไปนั้นได้สืบสาวมาจนถึงตัวองค์กรลักพาตัวขนาดยักษ์ใหญ่ จากนั้นจึงล้วงลึกไปจนทราบว่าฐานทัพหลักของพวกมันตั้งอยู่ภายในเมืองใหญ่อันดับสองของจักรวรรดิเออร์กาที่เห็นช่วงนี้กำลังเตรียมความพร้อมทำสงครามอยู่แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ ดูเหมือนเจ้าเมืองที่อยากสร้างผลงานเอาหน้าจะรวมหัวกับผู้คนเกือบๆ ทั้งเมืองทำการวิจัยต้องห้ามที่ผิดหลักมนุษยธรรม พวกลีโอเน่ที่ทราบเรื่องจึงตัดสินใจจะปลดปล่อยเหล่าผู้คนที่ถูกใช้ในการทดลองให้เป็นอิสระนั่นเอง สะอิดสะเอียนไงประเด็น

“ สถานวิจัยที่เทโลเมียร์ล้วงตำแหน่งได้มาจากการทารุ…..เอ้ย สอบปากคำตัวหัวหน้าของแก๊งลักพาตัวมันอยู่ตรงนี้สินะ ”

พอช่วยให้เหล่าผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากหลบหนีออกมาจากสถานวิจัย ก็แน่นอนว่ากองทัพของเจ้าเมืองจะต้องโผล่ออกมาสกัดกั้นไว้

กำลังรบนั้นเรียกได้ว่าไม่ใช่เล่นๆ จะทั้งศาสตร์เวทพิธีกรรมที่เหล่าจอมขมังเวทระดับสูงเกือบพันคนรวมกำลังกันปลดปล่อยออกมาก็ดี การระดมยิงผ่านเตาเพิ่มปริมาณพลังเวทที่เกิดขึ้นมาจากการทดลองขยายกำลังการทหารก็ดี มีกำลังรบระดับใช้ในการศึกสงครามถูกนำเอาออกมาใช้กันอย่างต่อเนื่อง

“ ผู้บังคับบัญชา! ยังมีชาวเมืองที่อพยพไม่แล้วเสร็จอยู่เหนือแนวยิงนะครับ!? ”

“ แล้วมันทำม๊ายย! ถ้ามัวลังเลละก็เราเสร็จพวกมันแน่! รีบยิงเร็วเข้าสิวะ! ”

ผู้บัญชาการคำราม และการระดมยิงอันรุนแรงก็ถาโถมเข้าหาวีรสตรีทั้งสามอย่างไร้ซึ่งปรานี

ทว่า

“ เวทศิลาแห่งสวรรค์ <<เมทิเออร์โรด ไครซิส>> ! ”

“ <<หมัดมรณะ>> ! ”

“““““ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!? ”””””

ศิลาขนาดยักษ์ที่ร่วงลงมาจากฟากฟ้าได้หักล้างกำลังยิงระดับสงครามอย่างแสนง่ายดาย กำปั้นที่แค่คลื่นกระแทกอย่างเดียวก็เป่าภูเขาให้กระจุยหายนั้นซัดให้เหล่าพลทหารแหลกไปพร้อมกับกำแพงเมือง และเบื้องหลังการต่อสู้ตระการตา สภาพของผู้บัญชาการสูงสุดที่โดนเวทฟื้นฟูพ่วงพิษร้ายจากเทโลเมียร์เข้าไปจนแผดเสียงร้องสิ้นใจ ‘ต่อเนื่องไม่ยอมหยุด’ ก็ได้ทำลายขวัญกำลังใจของเหล่าพลทหารจนป่นปี้

ก็ด้วยเหตุนี้เอง เมืองใหญ่อันดับสองจึงกลายเป็นกองซากปรักหักพังภายในทันตา และลีโอเน่ที่ยืนสง่าโดยมีนั่นเป็นฉากหลังก็หัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดี

“ ฮ้าา ค่อยโล่งหน่อย อ่านะ ป่วนจนเละเทะซะขนาดนี้มันก็คงไม่มีปัญญาจะไล่จับพวกตัวทดลองกลับคืนแล้วมั้ง เอ้า หนีปายหนีปาย เพื่อความชัวร์แล้วเดี๋ยวจะพาไปส่งจนถึงแถวๆ อาณาจักรอัลเมเรียให้ก็แล้วกัน ”

“ ขะ ขอบคุณครับ! ”

เหล่าผู้เคราะห์ร้ายที่หลบอยู่ใต้ดินเพื่อซ่อนตัวจากการตามล่าของทหารพากันแผดเสียงอื้ออึงก่อนจะเริ่มต้นหลบหนี เป็นในฉับพลันนั้นเอง

“ อื๋อ? เฮ้ย นั่นมันอะไรน่ะ ”

ลีโอเน่ที่พบเห็นอะไรแปลกๆ อยู่ในขอบตาพลันเปล่งเสียงออกมา

สถานวิจัยถูกคลื่นจากการต่อสู้เล่นงานจนเสียหาย เผยให้เห็นคุกใต้ดินที่อยู่เบื้องใต้ และก็มีบานประตูที่ถูกล็อคอย่างแน่นหนารัดกุมยิ่งกว่าจุดอื่นๆ ปรากฎขึ้นมาอยู่ภายในนั้น ประตูบานนั้นถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยเวทมนตร์แบบพิเศษและเขตแดนหลายต่อหลายชั้น มีสภาพแตกต่างกับห้องขังอื่นๆ ที่พวกลีโอเน่ทำลายตลอดมายันตอนนี้อย่างชัดเจน และประตูอันหนาแน่นแห่งนั้น ก็ได้ถูกลีโอเน่ใช้นิ้วดีดจนพังไม่เป็นท่า

“ โฮ้~ย ก็ไม่รู้นะว่าอะไรโดนขังไว้ในนี้ แต่เรามาช่วยแล้วจ้าา~ ”

ในระหว่างที่เทโลเมียร์ส่งเสียงเข้าหาพร้อมกับเตรียมเวทฟื้นฟูนั่นเอง

“ ใคร น่ะ…..? ”

พลันมีเสียงแหบพร่าดังออกมาจากลึกเข้าไปในเงามืด

พอลูด์มิร่าเสกเปลวเพลิงขึ้นมาส่อง—-ก็พบว่าที่อยู่ตรงนั้นคือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก

อายุน่าจะราว 7-8 ปีได้ หญิงสาวผู้ครองความงามระดับเชื่อไม่ลงว่าเป็นมนุษย์กับดวงตาอันว่างเปล่านั้นได้ถูกล่ามติดไว้กับโซ่ ร่างกายสั่นเทิ้มราวกับหวาดกลัว

ทว่าในทันใดนั้นเอง—-เปรี๊ยะเปรี๊ยะเปรี๊ยะ!

ร่างกายที่ยังละอ่อนปลดปล่อยเสียงและแสงออกมาอย่างสะดุดตาเหมือนเป็นการป้องกันตนเอง โครงร่างของเธอสั่นไหวอย่างยิ่งใหญ่

ตัวตนอันเป็นไปไม่ได้นั่น ทำให้เหล่านักผจญภัยระดับ S ต้องถึงกับลืมตากว้าง

“ อย่าบอกนะว่าเด็กคนนี้เป็น….. ”

เผ่าพันธุ์หายากสุดขั้วที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมแบบพิเศษเท่านั้น

และภายในกลุ่มนั้น เธอคนนี้ก็คงเป็นตัวตนที่แหกคอกขึ้นไปอีกที

ตัวตนที่เห็นแล้วแน่ใจได้เลยว่าจะต้องถูกกองกำลังมากมายจ้องตามตัวแม้ภายหลังจากที่เมืองใหญ่อันดับสองแห่งนี้ล่มสลายไปแล้ว หนำซ้ำยังเป็นตัวตนที่ไม่อาจพาไปไหนมาไหนอย่างง่ายๆ ได้อีกด้วย

จำเป็นต้องเอาตัวไปฝากคุ้มกันไว้ในสถานที่ที่สมควร—-ทั้งสามนึกถึงสถานที่แห่งนึงขึ้นมาในหัวไปพลาง ร่วมกันช่วยเหลือหญิงสาววัยละอ่อนที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงคนนั้นออกมา