ตอนที่ 345 ทำการรักษาในค่ายทหาร (4)
จากนั้นเหยาเยี่ยนอวี่ก็ค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ “สาเหตุที่ไข้ขึ้นสูงก็เพราะว่าอาการอักเสบ…อ้อ นี่ก็หมายถึงความหากแผลภายนอกหายดีแล้ว แสดงว่าอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ ปกติเขาดื่มยาต้มอะไร เอาใบสั่งยามาให้ข้าดูที”
หลูถงก่วงได้ยิน จึงหันไปมองหลิวซั่งซิวทันที เขาช่ำชองในการรักษาแผลภายนอก ส่วนหลิวซั่งซิวมากความสามารถในการใช้ยาสมุนไพร ดังนั้นสูตรปรุงยาที่ใช้ค่ายทหาร ส่วนมากเขาจะเป็นคนจัดการ
ต่อให้ภายในใจของหลิวซั่งซิวจะไม่ยินยอม ทว่าก็ทะเลาะถกเถียงกับหัวหน้าไม่ได้ แค่ว่ายังไม่มีใบสั่งการยาของผู้ป่วยคนนี้ เหตุเพราะทหารผู้นี้มีฐานะที่ไม่ธรรมดา เขาเป็นถึงทหารที่เฉิงอ๋องซื่อจื่อโปรดปราน ดังนั้นหลิวซั่งซิวจึงไปคุมคนที่ต้มยาให้เขากินด้วยตัวเอง
ดังนั้น หมอทหารหลิวทำได้เพียงพูดออกมาด้วยปากเปล่า สุดท้ายก็พูดด้วยเสียงเรียบ “ใต้เท้าเหยาได้โปรดชี้แนะ”
เหยาเยี่ยนอวี่ถึงจะรู้ว่านี่ไม่ใช่ข้ารับใช้ที่ติดตามหมอทหารหลู ทว่านางกลับรู้สึกขบขันในท่าทีที่ทระนงตัวตัวของเขา เจ้าทำตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าข้าไปไยกัน หากเจ้ามีปัญญาก็มารักษาผู้ป่วยพวกนี้ให้หายสิ
ทว่าคุณหนูก็เกียจคร้านไปเรียกร้องอะไรมากมาย จึงพูดด้วยเสียงเรียบ “สูตรปรุงยารักษาอาการของเจ้าไม่เลว แค่ว่าอาการที่ทหารผู้นี้เป็นหนักหนาสาหัสเกินไป ชี่ภายในร่างกายลดลงอย่างมาก ดังนั้นต่อให้ให้ยาบำรุงไป ร่างกายก็ไม่ซึมซับ”
ชุ่ยเวยเอาเข็มเงินออกมาจากกล่องยา จากนั้นก็เอาเข็มหมายเลขสิบหกที่เรียงรายเป็นแถว แล้วเอาเข็มหัวแบนและเรียวยาวนี้ยื่นไปให้เหยาเยี่ยนอวี่ หลูถงก่วงถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์มาก เขาแค่เห็นเงินเข็มนี้ นัยน์ตาเป็นประกายทันที…นี่เป็นเข็มเงินชุดของจางฉางเป่ยนี่! มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
เหยาเยี่ยนอวี่ไม่คิดไปสนใจหมอทหารที่อยู่ข้างๆ ว่าคิดเช่นไรอยู่แล้ว แค่สั่งข้ารับใช้ที่ติดตามมา “พลิกตัวเขาให้นอนตะแคง และเปลือยให้เห็นจุดเฟิงฉือ”
เฟิงฉือถูกบันทึกไว้ในหน้า 8226 ในตำราหลิงซู ซึ่งเป็นการรักษาภาวะมีไข้ เฟิงคือ ‘เฟิงเซี่ย’ ปัจจัยที่ก่อโรคจากภายนอกที่เกิดจากลม ทำให้ระหกระเหิน
เฟิงฉือคือเส้นลมปราณเท้าเส้าหยางถุงน้ำดี ตำแหน่งอยู่ตรงท้ายทอยจวบจนถึงกระโหลก เส้นลมปราณนี้ประดุจแม่น้ำที่้ล้อมรอบ “เมือง” ป้องกันไม่ให้ข้าศึกบุกรุก แล้วข้าศึกที่หมายถึงคืออะไร นั่นก็คือเฟิงเซี่ย
เหตุเพราะส่วนยอดสุดของร่างกาย มีเพียงลมที่จะส่งผลกระทบ ดังนั้นเส้นลมปราณที่ปกป้องการจู่โจมจากเฟิงเซี่ย ก็คือเฟิงฉือ
ด้วยเหตุนี้ ตำราในแพทย์แผนจีนบอกไว้ว่าชี่ของเฟิงเซี่ยในร่างกายมนุษย์เข้าไปจากในช่องทางนี้ หากรักษาเส้นลมปราณนี้ไว้ให้ดี ร่างกายจะปราศจากโรคนับร้อย
เหยาเยี่ยนอวี่ฝังเข็มอุ่นบำรุงตามการรมยาแบบไท่จื่อ ก่อนอื่นต้องเจาะผิวหนังให้เลือดไหลออกมาเพื่อขับความอ่อนแอหมดกำลังออกมาก่อน แล้วบำรุงร่างกายด้วยอวี้ชี่
นางฝังเข็มเช่นนี้ไปประมาณหนึ่งเค่อ หลังจากที่รู้สึกว่าชี่ที่ตนถ่ายเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว ก็ค่อยดึงเข็มเงินออก
ตอนนี้ ทหารผู้นี้ยังคงหมดสติอยู่ ทว่าสีหน้าที่ซีดเซียวในตอนแรกก็ดีขึ้นมาก การหายใจที่อ่อนแอดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้
เหยาเยี่ยนอวี่เอาเข็มเงินยื่นให้ชุ่ยเวย หลังจากใช้น้ำอุ่นล้างมือเสร็จก็สั่งการ “เอาตงชิงสองส่วน ปั่นหลานเกินหนึ่งส่วน และเหยียนหูสั่วหนึ่งส่วนไปอบให้แห้งและบดเป็นผง จากนั้นนำมาผสมกัน ต้มด้วยไฟแรงสองเค่อ ค่อยกรองกากออก แล้วป้อนให้ผู้ป่วยดื่ม อืม เตรียมยาสูตรนี้ไว้เยอะหน่อย ทหารทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บภายนอกก็ดื่มได้เช่นกัน”
หลูถงก่วงพลันรับคำ “ขอรับ ข้าน้อยจะสั่งให้คนไปเตรียมประเดี๋ยวนี้”
เหยาเยี่ยนอวี่ก็ไม่อยากเสียเวลา จึงพูดขึ้นโดยเร็ว “ดูอาการผู้ป่วยคนต่อไปเถอะ”
“ขอรับ ใต้เท้าเชิญทางนี้” หลูถงก่วงพลันพาเหยาเยี่ยนอวี่ออกจากเรือนเล็ก
ด้านนอกเรือน มีคนนอนอยู่สองคน สภาพของทั้งสองคล้ายว่าจะสิ้นใจ อีกอย่างพวกเขามีตำแหน่งที่ไม่ถือว่าต่ำ ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็นฟู่เว่ยและเสี่ยวเว่ย น่าจะเป็นขุนนางขั้นเจ็ด หรือไม่ก็ขั้นหกขึ้น ด้านข้างมีบุรุษอายุราวๆ ห้าสิบกว่าปีเฝ้าอยู่
สองคนนี้ก็บาดเจ็บภายนอกเช่นกัน คนหนึ่งขาขาด ส่วนขาของอีกคนก็รองด้วยแผ่นไม้ ดูท่าทางแล้ว ยังดีที่ขาไม่ได้ขาด น่าจะกระดูกหักเท่านั้น
เหยาเยี่ยนอวี่รีบจับชีพจรเสร็จ ก็ใช้การรมยาแบบไท่จื่อขับลมบำรุงชี่ให้คนพวกนี้เช่นเดียวกัน หลังจากนั้น ก็สั่งให้คนป้อนยาต้มเหมือนเมื่อครู่นี้ เหยาเยี่ยนอวี่รักษาผู้ป่วยอาการสาหัสในเรือนแห่งนี้ไปยี่สิบกว่าคน ผู้ที่มีตำแหน่งต่ำสุดก็คือเซียนจ่ง
สุดท้ายเหยาเยี่ยนอวี่ก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย “ใต้เท้าหลู ผู้ที่บาดแผลสาหัส ไม่มีผู้ใดเป็นทหารตำแหน่งธรรมดาเลยหรือ”
หลูถงก่วงพลันพูด “มีขอรับ ทว่ามีข้อกำจัด ทหารทั่วไปจะไม่ได้รับการรักษาและพักฟื้นตัวที่นี่ขอรับ”
เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้วแล้วกำลังจะพูดอะไรต่อ หลิวซั่งซิวที่อยู่ด้านข้างก็เดินหน้ามาหนึ่งก้าว แล้วประสานมือคารวะ “ใต้เท้าเหยา รองแม่ทัพสองคนของแม่ทัพเว่ยที่อยู่ฝั่งโน้นก็บาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน ใต้เท้าเหยาเชิญไปดูอาการก่อนเถอะ”
“สองคนนั้นก็ตกอยู่ในสภาวะอันตรายอยู่หรือ” เหยาเยี่ยนอวี่ถามกลับ
หลิวซั่งซิวตอบกลับเสียงดัง “เรียนใต้เท้า พวกเขามีสภาพร่างกายที่แข็งแรง แน่นอนว่าอาจไม่ถึงขั้นที่เสี่ยงชีวิต ทว่าพวกเขาคือทหารกองทัพนกอินทรี จึงหวังว่าใต้เท้าจะทำการรักษาพวกเขาเสียก่อน ดังนั้นเลยเชิญใต้เท้าเหยาไปดูอาการให้พวกเขาก่อน”
เหยาเยี่ยนอวี่มองหลิวซั่งซิวด้วยความเลือดเย็นแล้วไม่พูดไม่จา
หลูถงก่วงสังเกตสีหน้าและคำพูดของเขา ภายในใจจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่หลิวซั่งซิวมากความ ทว่าที่เขาพูดก็คือความจริง รองแม่ทัพหันได้บัญชาการเช่นนี้จริงๆ อีกอย่างกองทัพนกอินทรีคือคนของแม่ทัพเว่ยซึ่งเป็นว่าที่สามีของหมอหลวงเหยา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ทหารนกอินทรีก็ควรได้รับการรักษาก่อน ดังนั้นเขาจึงพูดและยิ้มอย่างขมขื่น “ใต้เท้าเหยา เชิญขอรับ”
เหยาเยี่ยนอวี่ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทว่าสุดท้ายก็พยักหน้า
ถังเซียวอี้ที่ติดตามอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกได้ว่าฮูหยินแม่ทัพของเขาเหมือนไม่พอใจ ทว่ากลับไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แค่ติดตามไปอย่างเงียบๆ
ถังเซียวอี้ก็รู้สึกเหมือนหลูถงก่วงและหลิวซั่งซิว ต้องไม่เข้าใจอยู่แล้วว่าภายในใจของเหยาเยี่ยนอวี่มีความคิดว่าต้องปฏิบัติอย่างเที่ยงธรรมกับทุกคน ผู้ป่วยมีความแตกต่างตรงที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและได้รับบาดเจ็บที่แสนสาหัสเท่านั้น แต่ในสายตาของคนพวกนี้ ผู้ป่วยนั้นแยกแยะได้จากฐานันดรศักดิ์ที่มี ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีทางที่จะยอมไม่รักษาทหารนกอินทรีแล้วไปรักษาทหารชั้นล่างหรอก
เหยาเยี่ยนอวี่รู้สึกไม่สบอารมณ์มากเพียงใด ทว่าก็ฝ่าฝืนคำบัญชาของแม่ทัพหันไม่ได้
นางรู้ดีว่าบรรทัดฐานของสังคมนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การตัดสินใจของผู้ที่อยู่เบื้องบนก็ย่อมแตกต่าง อีกอย่างต่อให้เป็นสังคมในสมัยนี้ อำนาจของผู้ที่มั่งมีอยากได้อะไรก็ได้ นางไม่ใช่สตรีที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้ และไม่เคยเคียดแค้นริษยาโลก ทั้งยังรู้ว่าเรื่องบางเรื่องอยู่เหนือการควบคุมของตน
ดังนั้นนางจึงให้หลูถงก่วงนำทางไปยังเรือนที่ทหารนกอินทรีพัก จากนั้นก็จัดการกับแผลใหม่ที่พวกเขาได้รับ แล้วฝังลมขับลมออกจากร่างกายของพวกเขา พร้อมทั้งเพิ่มยาสมุนไพรอย่างอื่นให้พวกเขาที่นอกเหนือจากเมื่อครู่ที่นางสั่ง
คนพวกนี้ถือว่ามีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งจริงๆ ทว่าก็ได้รับบาดเจ็บแสนสาหัสเช่นเดียวกัน อีกอย่างแผลใหม่ยังไปซ้ำกับแผลเก่า คิดๆ ดูแล้วพวกเขาเคยคุ้มกันเว่ยจาง เหยาเยี่ยนอวี่ก็รู้สึกขอบคุณและเห็นใจพวกเขาอย่างมาก
หลังจากรักษาทหารนกอินทรีสองนายนี้เสร็จ สองคนนี้จึงได้ลงมาน้อมคำนับให้เหยาเยี่ยนอวี่ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณฮูหยินแม่ทัพของพวกเขา สองคนนี้ หนึ่งคนเป็นทหารทางน้ำ ส่วนอีกคนมาจากเจียงหนาน ซึ่งเป็นคนที่เคยเคยคุ้มกันเหยาเยี่ยนอวี่ ตอนที่นางเดินทางขึ้นเหนือ จึงรู้ในฐานะของนางเป็นอย่างดี
เหยาเยี่ยนอวี่นิ่งงัน เหตุใดสองคนนี้ถึงเรียกตนว่า ‘ฮูหยิน’ นางรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ให้ตายเถอะ ข้ายังไม่ได้ออกเรือนหรือเปล่า ฮูหยินหามารดาอะไรของเจ้า แล้วยังขานเรียกเช่นนี้ต่อหน้าคนนอกอีก