Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 874 : ผมไม่ได้พูดอะไรเลย

ราชันเร้นลับ 874 : ผมไม่ได้พูดอะไรเลย
เลียวนาร์ด·มิเชลประสานมือและโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย

“พวกเราสามารถฟื้นฟูฉากสุดท้ายที่คารอนเห็นก่อนเสียชีวิต… อาจไม่เห็นภาพของคนร้ายโดยตรง แต่ภาพสะท้อนบนมุขหน้าต่างคือร่างของบารอนซินดราส”

เว้นวรรคสักพัก เลียวนาร์ดเสริม

“มันราบรื่นเกินไปจนยากจะเชื่อลง… ขุนนางและนายธนาคารระดับบารอนซินดราส หากต้องการฆ่าใครสักคน ไม่มีทางลงมือทำด้วยตัวเองหรือเสียเวลาไปยืนมองในจุดเกิดเหตุ เว้นเสียแต่เขาจะมีรสนิยมพิเศษ… และอยากที่คุณทราบ มีหลายวิธีในการสร้างฉากแบบนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะภาพลวงตาหรือการแปลงโฉม”

กล่าวถึงการแปลงโฉม เลียวนาร์ดเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จ้องหน้าดอน·ดันเตสราวกับจะพูดว่า รูปลักษณ์ปัจจุบันของคุณไม่น่าจะใช่ของจริง เช่นเดียวกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์และเชอร์ล็อก·โมเรียตี้

เป็นการใส่ร้ายที่มักง่ายเกินไปจนอดสงสัยไม่ได้ว่า คนร้ายตัวจริงต้องการโยนความผิดให้บารอนซินดราสแน่หรือ? อา… คงต้องวิเคราะห์คดีตั้งแต่จุดเริ่มต้น สมมติว่าตัวเรา ดอน·ดันเตส เป็นแค่คนธรรมดา… นอกจากนั้น ห้ามด่วนสรุปเด็ดขาด อย่างมากก็แสดงความเห็นกว้างๆ หรือไม่ก็ย้อนถามกลับ… หากผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้าม นั่นก็เป็นเพราะนักกวีรายนี้ตีความคำใบ้ผิดไปเอง ไม่เกี่ยวกับเราแม้แต่น้อย… ไคลน์ยิ้มพลางหยิบถ้วยกระเบื้องเคลือบ จิบหนึ่งคำ

“ลองคิดตามผม… ถ้าคนที่ถูกลากเข้าไปพัวพันไม่ใช่ผม แต่เป็นคนธรรมดา เรื่องราวจะพัฒนาไปในทิศทางใด?”

เลียวนาร์ดยกมือที่ประสานกันขึ้น ใช้นิ้วชี้เคาะกันเองเบาๆ

“ในฐานะผู้ต้องสงสัย ดอน·ดันเตสจะถูกคุมขังในสถานีตำรวจ แต่พ่อบ้าน บุรุษรับใช้ และคนที่คฤหาสน์ล้วนเป็นพยานได้ว่าเขาไม่เคยติดต่อกับครอบครัวคารอน คำให้การของทั้งสองฝ่ายจึงขัดแย้งกันอย่างรุนแรง เมื่อตำรวจจนปัญญาก็ต้องขอความช่วยเหลือจากเหยี่ยวราตรี… หลังจากสื่อวิญญาณ เราจะได้เห็นภาพสุดท้ายในดวงตาคารอน… ภาพของบารอนซินดราส”

กล่าวจบ เลียวนาร์ดเงียบงันหลายวินาที ก่อนจะพูดต่อท่ามกลางการจ้องมองของดอน·ดันเตส

“ไม่สำคัญว่าเบาะแสที่ได้รับจะตื้นเขินเกินไป หรือดูไม่น่าเชื่อถือเกินไป แต่พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสืบสวนบารอนซินดราสไปตามกระบวนการ… และนั่นจะทำให้ความผิดปรกติของเขาถูกขุดคุ้ย? บารอนซินดราสมีความเชื่อมโยงกับพลังพิเศษและศาสตร์เร้นลับ จึงอ่อนไหวต่อการถูกเหยี่ยวราตรีสืบสวน?”

ยิ่งเล่าออกมา เลียวนาร์ดก็ยิ่งมั่นใจ คล้ายกับอ่านความคิดของคนร้ายตัวจริงออก

ไม่ว่าจะมัน หรือพวกมัน แต่คนร้ายตัวจริงก็มิได้แยแสความน่าเชื่อถือของหลักฐาน ขอเพียงเหยี่ยวราตรีส่งคนไปสืบสวนบารอนซินดราส นั่นถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ เพราะอีกฝ่ายทราบว่าบารอนซินดราสเก็บซ่อนความลับที่ยิ่งใหญ่ไว้!

ใช่แล้ว นั่นคือสิ่งที่เราคิด คนร้ายตัวจริงพยายาม ‘แจ้งความนิรนาม’ แต่ด้วยวิธีที่แยบยลกว่า เป็นการวางกับดักที่หลอกล่อให้เหยี่ยวราตรีต้องตรวจสอบบารอนซินดราสอย่างไม่มีทางเลือก โดยที่ตัวเองไม่ได้ต้องเผยตัว… แน่นอน เราไม่ได้ยืนยันว่าสมมติฐานนี้ถูกต้อง ถ้าผลลัพธ์ออกมาผิด นั่นก็ไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย… ไคลน์ยกเท้าขวาทับซ้ายในท่าไขว่ห้าง ยิ้มและกล่าว

“แต่เนื่องจากบารอนซินดราสไหวตัวได้เร็ว สืบสวนตอนนี้ก็คงไม่พบอะไรแล้ว”

เลียวนาร์ดพยักหน้าเชื่องช้า กล่าวเชิงสรุปให้ตัวเองฟัง

“อดีตของบารอนรายนี้ค่อนข้างเป็นตำนาน เกือบจะล้มละลายหลายครั้ง แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง แถมยังอยู่บนจุดสูงสุดยิ่งกว่าคราวก่อน… หมายความว่า จากเหตุการณ์ข้างต้น มีครั้งหนึ่งที่เขาสิ้นหวังจนต้องขายวิญญาณให้เทพมารหรือตัวตนลึกลับอื่น?”

ทฤษฎีของนายไม่สุดโต่งไปหน่อยหรือ? ไคลน์ไม่ยืนยันว่าข้อสันนิษฐานของเลียวนาร์ดถูกหรือผิด เพียงย้อนถาม

“ในทางกลับกัน คุณคิดยังไงกับคนร้ายตัวจริงที่ทำให้คารอนฆ่าตัวตาย?”

เลียวนาร์ดละทิ้งการวิเคราะห์ของตัวเองชั่วคราว หันมาไตร่ตรองเกี่ยวกับ ‘ทิศทางของคดีในกรณีปรกติ’

“ชุดกับดักตื้นเขินเกินไป การชี้นำทางใจรวมถึงการฝังความทรงจำเกิดขึ้นอย่างไม่แนบเนียนและมิดชิด ถูกตรวจพบได้ง่าย ดังนั้นไม่น่าจะเป็นฝีมือของผู้วิเศษลำดับกลางหรือสูงในเส้นทางผู้ชม แต่เป็นผู้วิเศษเส้นทางอื่นที่พึ่งพาสมบัติวิเศษ…”

ยังไม่ทันกล่าวจบ เลียวนาร์ดเงียบไปอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ว่าชายคนนี้กำลังคิดสิ่งใด

ไคลน์ยังคงยิ้มแย้มพลางจ้องหน้าอีกฝ่าย คล้ายกับทุกสิ่งอยู่ในความควบคุม ไม่ได้กล่าวคำใดเพื่อช่วยเลียวนาร์ดสรุปผล คำตอบเกิดจากการวิเคราะห์ของอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียว

สอดคล้องกับคำพูดของตาแก่… คดีนี้อาจเป็นฝีมือของเส้นทาง ‘ผู้ชม’ ระดับกลางถึงสูง เพราะช่องโหว่ที่อีกฝ่ายจงใจเผย เกิดจากการคำนึงถึงพฤติกรรมและท่าทีตอบสนองของทุกคนอย่างรอบคอบ… คนร้ายเชี่ยวชาญจิตใจมนุษย์มาก สิ่งเดียวที่ผิดแผนคือประสบการณ์และสติปัญญาของดอน·ดันเตส… หลังจากเริ่มมองเห็นเค้าลางของคดี เลียวนาร์ดยืนขึ้นพร้อมกับกระแอม

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ”

ไคลน์หัวเราะในลำคอ

“ผมไม่ได้พูดอะไรเลย”

โดยไม่รอเลียวนาร์ดตอบสนอง ชายหนุ่มเสริม

“อดีตเพื่อนร่วมงานของคุณ ขอให้ผมถามคุณว่า หากเขาพบเบาะแสของอินซ์·แซงวีลล์ จะติดต่อคุณได้ทางไหนบ้าง?”

เลียวนาร์ดที่กำลังจะยืนขึ้นและโบกมือลา กลับลงมานั่งอีกครั้ง แน่นิ่งราวสิบวินาทีก่อนจะตอบ

“ส่งจดหมายไปยังบ้านเลขที่ 7 ถนนพินสเตอร์”

หมายความว่านายจะไม่ออกจากเบ็คลันด์ไปอีกสักพัก? หรือว่าถึงจะออกไปข้างนอก ก็ยังมีวิธีตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบ้านเลขที่ 7 ถนนพินสเตอร์ หรือไม่ก็มีวิธีอ่านจดหมายจากระยะไกล? น่าจะเป็นแบบหลัง เทวทูตประจำเส้นทางนักจารกรรมเต็มไปด้วยความลึกลับและพิสดาร คงมีพลังสักอย่างสองอย่างคอยอำนวยความสะดวกให้เลียวนาร์ด… ถามรายละเอียดไม่ได้ แบบนั้นจะเป็นการลดทอนคุณค่าของดอน·ดันเตส… ไคลน์ยิ้มหน้านิ่ง

“ผมจะบอกเขาให้”

เลียวนาร์ดยังไม่กลับทันที อ้าปากขึ้นเล็กน้อย ปิดกลับไปใหม่ ก่อนจะอ้าปากอีกครั้ง

“แล้วถ้าผมต้องการติดต่อเขา… ทำได้ด้วยวิธีใด?”

ถามเสร็จ ดวงตาสีเขียวของมันอัดแน่นด้วยความลุ่มลึกและยับยั้ง

ไคลน์เตรียมคำตอบไว้แล้ว ยิ้มและกล่าว

“ผู้เตร็ดเตร่ในความว่างเปล่า… สิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตรและพร้อมรับคำสั่ง… ผู้ส่งสารของเกอร์มัน·สแปร์โรว์แต่เพียงผู้เดียว… สำหรับขั้นตอนของพิธีกรรม หากไม่มั่นใจให้ถามพาลีส”

เลียวนาร์ดทราบดีว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์คือเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ คือไคลน์·โมเร็ตติ จึงพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับลุกขึ้น

“ขอบคุณสำหรับข้อมูล ขออภัยที่บุกรุกเข้ามาโดยเสียมารยาท”

กล่าวจบ มันเดินไปทางประตู เปิดออก ตัดขาดจากความฝัน

สหาย คิดจะกลับก็กลับเลยรึไง… ตัวนายที่เป็นฝันร้าย หรือ ‘อดีต’ ฝันร้าย มั่นใจใจความจำของตัวเองมากไปไหม? อย่างน้อยก็ควรจดบันทึก ไม่ใช่ทำเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญแบบนี้! หลังจากแผ่นหลังของเลียวนาร์ดหายไป ไคลน์จิกกัดสองสามประโยค

ชายหนุ่มส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา เสร็จสิ้นการงีบยามบ่าย เตรียมสะสางเกี่ยวกับไบลัมตะวันตก

บนฝันทองคำ เดนิสที่เสร็จสิ้นภารกิจของตน กำลังดื่มเบียร์สีซีดกับน้ำแข็งเนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด

หากไม่ใช่เพราะน้ำแข็งเกิดจากพลังพิเศษของคนบนเรือ ทำให้มีจำนวนไม่มาก เดนิสคงดื่มรวดเดียวหมดถัง

“ชีวิตมันต้องแบบนี้!” เดนิสรำพันพลางกระดกของเหลวในแก้วจนหมด

ทันใดนั้น หมอกสีเทาปกคลุมการมองเห็นโดยสมบูรณ์ เสียงของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ดังกังวาน

“ช่วยแจ้งให้เดนิสทราบว่า เขาต้องรีบเดินทางไปยังไบลัมตะวันตกทันที ตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันของดินแดนในการปกครองของเมซันเญสและคาทามี่ ให้ความสำคัญกับเบาะแสของโรงเรียนกุหลาบมากเป็นพิเศษ”

ด…เดินทางไปยังไบลัมตะวันตก? เดนิสในท่าถือแก้วเบียร์ ทวนคำสั่งเกอร์มัน·สแปร์โรว์ซ้ำไปมา

มันเคยเข้าไปตามหาสมบัติพร้อมกับลูกเรือของฝันทองคำ นอกจากนั้นยังได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมจาก ‘พลเรือโทธารน้ำแข็ง’ เอ็ดวิน่า จึงทราบดีว่าไบลัมตะวันตกวุ่นวายมากเพียงใด

และคราวนี้… เราต้องไปคนเดียว! เดนิสขบกรามแน่น พบว่าอนาคตของตนช่างมืดมน

มันกำลังจินตนาการถึงป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน่าขนลุก ชนพื้นเมืองที่ศรัทธาเทพมรณาและเรื่องลี้ลับพิสดาร ถนนที่เต็มไปด้วยโจรป่าและกลุ่มต่อต้าน หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยวิญญาณอาฆาตและภูตผี เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสียงปืนและการต่อสู้ของผู้วิเศษ

ไม่ได้… เราต้องปฏิเสธเกอร์มัน·สแปร์โรว์… ไม่สิ อย่างน้อยก็ให้เขาส่งคนมาช่วย! หืม… เดี๋ยวก่อน… แม้แต่คนธรรมดายังอาศัยอยู่ในไบลัมตะวันตกได้ แถมบางคนร่ำรวยจนกลายเป็นเศรษฐี มีคฤหาสน์หลังใหญ่… ที่นั่นอาจไม่ได้น่ากลัว เราแค่คิดไปเอง… นอกจากนั้น เกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่ได้สั่งให้เราติดต่อใคร ที่ต้องทำมีแค่การสืบข่าว… เดนิสเริ่มเผยรอยยิ้ม รีบตอบกลับผ่านเดอะฟูลว่า ตนจะทำตามคำสั่งของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ทันที

หลังจากนั้น อาศัยขั้นตอนที่นักผจญภัยเสียสติกำชับให้ทำ เดนิสประกอบพิธีกรรม ‘รับมอบ’ ขึ้นในห้องตัวเอง

เมื่อพิธีกรรมจบลง มันเห็นประตูมายาเปิดออก เข็มกลัดสีทองเข้มรูปทรงนกสุริยันลอยออกมาและตกลงบนแท่นบูชา

เข็มกลัดสุริยัน!

บนทวีปใต้ ดินแดนที่เคยถูกปกครองโดยเทพมรณา พลังในขอบเขตสุริยันถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง!

ถึงกับมอบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ให้เรา… ได้ทำงานกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์ก็ไม่เลวนัก… เดี๋ยวก่อน… เขาได้บอกไหมว่ายกให้หรือให้ยืม? ในวินาทีที่หยิบเข็มกลัด เดนิสพบว่าอุณหภูมิรอบตัวสูงขึ้นกะทันหัน

หลังจากมอบหมายงานให้เดนิส ขณะเตรียมเปิดประตูออกไปสั่งให้ริชาร์ดสันเตรียมน้ำเย็นหนึ่งแก้ว สัมผัสวิญญาณของไคลน์ถูกกระตุ้นกะทันหัน

เพียงพริบตาหลังจากเปิดเนตรวิญญาณ ชายหนุ่มเห็นผู้ส่งสารของตน ไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์เดินออกจากความว่างเปล่า จากบรรดาสี่เศียรผมสีทองตาสีแดงที่ถูกหิ้วในมือ ปากหนึ่งกำลังคาบจดหมายแผ่นบาง

จากใคร? เลียวนาร์ด? ไคลน์ยื่นมือขวาออกไปรับด้วยสีหน้าฉงน

……………………………………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset