ตอนที่ 745 ผมเชื่อคุณ เชื่อคุณเท่านั้น
แต่เขาก็แค่ไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง
ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักจะโกหกเขามาตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
หลังจากมองไปที่หน้าจอแล้ว อวี๋เยว่หานยังไม่กดรับสาย แต่หมวดคิ้วมองไปทางผู้ช่วย
ผู้ช่วยรีบก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วรับสายแทนเขา
หลังจากฟังไปไม่กี่วิ สีหน้าก็เปลี่ยนไป
ผู้ช่วยยกหูออกและมองอวี๋เยว่หานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย “คุณชายหานครับ ทางโรงพยาบาลได้ยืนยันมาแล้วว่าเหนียนเสี่ยวมู่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากได้รับบาดเจ็บเมื่อสามปีก่อนจริงๆ แต่ไม่มีประวัติว่านอนไม่ได้สติ เธอรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ถึงหนึ่งเดือนก็หายเป็นปกติและออกจากโรงพยาบาลไป…”
“ปัง——”
ผู้ช่วยยังไม่ทันพูดจบ อวี๋เยว่หานก็ใช้มือกวาดทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะลงกับพื้น!
แขนทั้งสองค้ำกับโต๊ะด้วยใบหน้าเยือกเย็นที่ปกคลุมไปด้วยความมืดมน
“คุณพูดมาอีกทีซิ?”
เขาไม่เคยสงสัยคำพูดทุกคำที่เหนียนเสี่ยวมู่เคยพูดกับเขามาก่อน
ตั้งแต่วินาทีที่เขาเห็นวิดีโอ แม้ว่าเขาจะจำได้ว่าคนในวิดีโอเป็นใคร แต่เขาก็ยังคงเตือนตัวเองว่าเมื่อสองปีก่อนเธอนอนไม่ได้สติ และคนที่ส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วมาที่บริษัทตระกูลอวี๋ไม่ใช่เธอ
ทว่าตอนนี้ แม้แต่เรื่องหมดสติก็ไม่ใช่เรื่องจริง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายงานDNAที่ธนาคารเก็บไว้เมื่อสามปีที่แล้ว หรือเรื่องที่ส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วมาอยู่กับเขาเมื่อสองปีก่อน ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีคนอยู่เบื้องหลัง
คือเธอ
เป็นเธอเองทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ!
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้สังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาถึงขนาดสงสัยถานเปิงเปิง แต่กลับไม่เคยนึกสงสัยเธอมาก่อน…
จนกระทั่งได้เห็นวิดีโอเมื่อวาน แต่เขาก็ยังคงเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอเหมือนเดิม
เขาพยายามอย่างมากที่ต้องการจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าคนที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่เธอ!
แต่ผลคืออะไร?
ถานเปิงเปิงก็เป็นคนของเธอสินะ?
เพราะฉะนั้นถึงได้ร่วมมือกับเธอและสร้างคำให้การเพื่อโกหกได้อย่างราบรื่น
ทำให้เขาคิดมาตลอดว่ามีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด
แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่าคนที่แทงข้างหลังเขาคือเธอ เหนียนเสี่ยวมู่!
ผู้หญิงคนแรกที่เขารัก ผู้หญิงคนเดียวที่เขารักอย่างสุดซึ้ง
แม่ของลูกสาวเขา…
“คุณชายหาน มือของคุณเลือดไหลแล้ว!” ผู้ช่วยอุทานเมื่อเห็นเลือดซึมที่หว่างนิ้วของเขา
อวี๋เยว่หานกำหมัดแน่น เขามองไม่เห็นว่ามีเลือดซึมตอนที่เขาปัดข้าวของเมื่อกี้นี้ ทั้งยังเป็นแผลที่ได้จากเล็บของตัวเอง ตอนที่เขากำหมัดแน่นคราบเลือดสีแดงสดก็หยดลงบนโต๊ะ
เช่นเดียวกับดอกเหมยบนพื้นหิมะที่สวยงามบาดตา
ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของผู้ช่วย ดวงตาสีเข้มของเขาจ้องไปที่วิดีโอบนคอมพิวเตอร์และเฝ้าดูผู้หญิงที่อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเข้ามาที่บริษัทตระกูลอวี๋
ภาพตอนหันกลับที่เผยให้เห็นหน้าตรงเหมือนมีกริชแทงเข้าไปในหัวใจของเขา
“เหนียนเสี่ยวมู่ล่ะ?”
“ตอนนี้คุณเหนียนน่าจะกำลังทำงานอยู่ที่แผนกประชาสัมพันธ์ ต้องการให้เรียกเธอมาไหมครับ?” ผู้ช่วยถามอย่างระมัดระวัง
ก่อนที่ผู้ช่วยจะรอคำสั่งของอวี๋เยว่หาน ประตูห้องทำงานท่านประธานก็มีเสียงดังขึ้น
วินาทีต่อมาก็พบว่าเหนียนเสี่ยวมู่ผลักประตูเข้ามาจากด้านนอก
เธอหอบแฟ้มหลายชุดไว้ในอ้อมแขน พอเห็นคนที่อยู่ในห้องทำงาน ปากก็พึมพำออกมา
“เห็นๆอยู่ว่ามีคน ตอนเคาะประตูทำไมไม่ตอบ? ฉันเกือบจะออกไปแล้ว”
เธอพูดพร้อมกับถือแฟ้มเดินไปข้างหน้า เดินไปเพียงไม่กี่ก้าว หางของตาเธอก็เหลือบไปเห็นเซียวเวยที่ยืนอยู่ในห้องทำงานท่านประธาน เธอชะงักเล็กน้อย
ตอนนี้เหมือนว่าบรรยากาศในห้องทำงานดูน่าอึดอัดเล็กน้อย
พอเงยหน้ามองไปทางอวี๋เยว่หานก็ถามไปโดยไม่รู้ตัว
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”
ตอนที่ 746 คุณมาเป็นน้องชายเสี่ยวลิ่วลิ่วเถอะ!
สายตาเหนียนเสี่ยวมู่ชัดแจ๋ว เธอตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเงามืดและความเย็นชานัยน์ตาเขา
ในไม่ช้าก็เห็นมือของเขามีเลือดออก เธอแทบไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปและดึงมือมาตรงหน้าตัวเอง “ทำไมมือถึงเลือดออกได้ล่ะ? คุณไม่รู้สึกเจ็บบ้างเลยหรือไง?”
เหนียนเสี่ยวมู่บ่นอุบและหันไปเรียกผู้ช่วยของเขา
“ยังนิ่งอยู่ทำไม ไปเอากล่องยามาสิ!”
“…” พอผู้ช่วยได้สติก็กลับไปที่ห้องพักรับรอง
เหนียนเสี่ยวมู่หันกลับมาดูมืออวี๋เยว่หานอีกครั้ง เธอตบข้อมือเขาเบาๆเพื่อให้เขาคลายกำปั้น
เธอเคยทำงานเป็นพยาบาลมาก่อนจึงเคยเห็นบาดแผลมาทุกรูปแบบ แต่เมื่อเธอเห็นฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของอวี๋เยว่หาน ก็อดไม่ได้ที่ย่นคิ้ว
อาจเป็นเพราะความห่วงใย ดังนั้นตราบใดที่มันเกิดขึ้นบนตัวเขา แม้จะเป็นเพียงบาดแผลเล็กๆก็ตาม แม้จะรู้ว่าไม่ถึงแก่ชีวิต แต่หัวใจเธอก็ยังคงเจ็บปวด
อดไม่ได้ที่จะพึมพำ
“แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาดแก้ปัญหาไม่ได้ แต่คุณจำเป็นต้องใช้ร่างกายตัวเองระบายอารมณ์เลยหรือไง? คุณคิดว่าพออารมณ์ไม่ดีแล้วทำร้ายตัวเองแบบนี้ ฉันกับเสี่ยวลิ่วลิ่วจะไม่ทุกข์ใจงั้นสิ โตขนาดนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ งั้นก็ไม่ต้องมีน้องชายให้เสี่ยวลิ่วลิ่วแล้ว คุณไปเป็นน้องชายเสี่ยวลิ่วลิ่วเถอะ ดูเหมือนจะอายุแค่สองขวบ เป็นน้องชายให้เสี่ยวลิ่วลิ่วได้พอดีเลย…”
อวี๋เยว่หานใจเต้นเล็กน้อยเมื่อจับความกังวลในดวงตาของเธอได้
เขายกมือขึ้นโดยไม่สนใจคราบเลือดที่ยังคงไหลรินจากฝ่ามือ ปลายนิ้วลูบคิ้วของเธอเบาๆ
เมื่อไล้ผ่านหางตาของเธอก็จับจ้องไปที่ความห่วงใยในดวงตาของเธอ
แม้จะแยกไม่ออกว่าจริงหรือเท็จ ก็ยังจนปัญญาที่จะต่อต้าน
เขาติดหลุมพรางเข้าแล้ว
ยิ่งจมลึก ยิ่งเจ็บหนัก
เขาไม่มีความกล้าพอแม้แต่จะเอ่ยถามเธอ
ไม่นานผู้ช่วยก็ถือกล่องยาออกมา เหนียนเสี่ยวมู่รับกล่องยาโดยไม่พูดพร่ำ เธอคว้ามือเขาออกจากใบหน้าตัวเองโดยไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงทำแผลให้เขาก่อนด้วยความเป็นห่วง
หลังจากพันผ้าพันแผลเสร็จแล้ว เธอก็เงยหน้าเก็บกล่องยาและถามในเวลาเดียวกัน
“พูดมาสิ เกิดอะไรขึ้น?”
“……”
อวี๋เยว่หานมองเธอไปตรงๆโดยไม่พูดอะไร
ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าอันหล่อเหลา มีเพียงดวงตาสีเข้มที่ตกตะกอนเป็นร่องรอยแห่งความเจ็บปวด ราวกับกำลังสะกดความรู้สึกบางอย่าง
เขาไม่พอใจ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกได้
ดวงตาอันชาญฉลาดเป็นประกายเล็กน้อย จากนั้นก็ปิดกล่องยาทันทีและหันมาเอื้อมมือไปกอดเอวของเขา
เธอพิงศีรษะบนหน้าอกของเขา มือตบหลังเขาเบาๆเหมือนปลอบเด็กน้อย
“ไม่เป็นไรนะ ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป”
“……”
อวี๋เยว่หานร่างแข็งทื่อเล็กน้อยพลางมองเธอด้วยความประหลาดใจ เหมือนอยากจะรู้ว่าเธอสูญเสียความทรงจำจริงหรือไม่
ถ้าไม่ใช่ ประโยคนี้ที่เธอพูดจริงจังใช่ไหม?
ทั้งสองกอดกันอย่างเงียบๆ เหนียนเสี่ยวมู่ไม่พูด อวี๋เยว่หานก็ไม่พูด
ผู้ช่วยและเซียวเวยที่อยู่ข้างๆก็ยิ่งไม่กล้าพูด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เหนียนเสี่ยวมู่ก็รู้สึกว่าอารมณ์ของเขาดูเหมือนจะผ่อนคลายลงแล้ว เธอปล่อยเขาและกำลังจะถอยออกเล็กน้อยเพื่อดูว่าเขาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างหรือยัง แต่ทันทีที่ขยับ มือที่พยุงกับโต๊ะทำงานก็กระทบกับเม้าและคลิกไปหนึ่งทีโดยไม่ได้ตั้งใจ
วิดีโอที่หยุดชั่วคราวบนหน้าจอคอมพิวเตอร์กลับมาเริ่มเล่นอีกครั้ง…
เหนียนเสี่ยวมู่ตกใจและเงยหน้าไปดูโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นคนที่ปรากฏอยู่ในวิดีโอ เธอก็ตะลึงไปชั่วขณะและอดไม่ได้ที่จะดูต่อ
วิดีโอแบ่งออกเป็นสองรายการ แต่ทั้งสองรายการอยู่ในเพลย์ลิสต์เดียวกัน
หลังจากที่เหนียนเสี่ยวมู่ดูอันแรกจบก็ข้ามไปเล่นวิดีโอถัดไปโดยอัตโนมัติ…