ราชินีภาพยนตร์เซี่ยมั่นอวี่ไม่เคยถ่ายละคร ความนิยมในการถูกพูดถึงย่อมสู้ราชินีละครที่อยู่ในวัยเดียวกันไม่ได้
แม้ว่าฝีมือการแสดงของเธอจะดีกว่าก็ตาม
อย่างไรเสียผู้ชมละครก็มีในวงกว้างมากกว่าภาพยนตร์
แต่เมื่อช่วงปิดเทอมหน้าร้อนของปีที่แล้ว เธอกับซังเย่าจือเข้าร่วมงานประกวดแห่งหนึ่ง ระดับการตกเป็นที่พูดถึงก็ก้าวหน้าไปอีกขั้น
ตอนนี้เวลาล่วงเลยจากงานประกวดครั้งนั้นมาครึ่งปีกว่าแล้ว แต่ยังคงมีชาวเน็ตตามสืบว่านักออกแบบเสื้อผ้าลึกลับที่ใช้นามว่า ‘ปีศาจ’ คือใครกันแน่
เพียงแต่น่าเสียดายที่ไม่มีเบาะแสมาตลอด รวมถึงพนักงานของชูกวงมีเดีย
ดาราในวงการจำนวนไม่น้อยที่ไปถามเซี่ยมั่นอวี่เรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรที่เป็นประโยชน์ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ เมื่อเดือนตุลาคมปีสองพันยี่สิบ เซี่ยมั่นอวี่ได้รับบทบาทหนึ่งจากบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์ส
บริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สเป็นบริษัทภาพยนตร์อันดับหนึ่งของโลก
พวกเขาเป็นบริษัทผลิตแอนิเมชันในยุคแรกๆ มีผลงานตัวการ์ตูนจำนวนมากที่มีอิทธิพลสูงไปทั่วโลก ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในศตวรรษก่อน
เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด บริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สก็ได้นำแอนิเมชันเหล่านี้มาสร่างเป็นเวอร์ชันคนแสดงจริง
แต่ไหนแต่ไรมาพวกเขาพิถีพิถันในการคัดเลือกนักแสดง หากรูปร่างหน้าตาไม่เหมาะสม ต่อให้เป็นราชินีหรือราชาภาพยนตร์ก็ไม่มีประโยชน์
ตอนนี้เซี่ยมั่นอวี่เป็นชาวจีนเพียงคนเดียวที่ได้รับบทนางเอกของภาพยนตร์ และบทที่เธอได้รับนี้ เดิมทีแฟนคลับของต้นฉบับแอนิเมชันก็มีมากอยู่แล้ว ความนิยมในตัวเธอก็ยิ่งทะยานสูงขึ้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตอนนั้นที่บริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สปล่อยบทนี้ออกมา ในเวยปั๋วก็มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างสงสัยว่าใครที่จะสามารถเข้าตาบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สได้
นอกจากนี้ยังมีคนเปิดโหวต เยี่ยซีก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกโหวต
เพราะเยี่ยซีเป็นดารายอดนิยม มีแฟนคลับเยอะ คะแนนโหวตก็เลยมากกว่าคนอื่นๆ
สุดท้ายตอนที่บริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สประกาศผลการคัดเลือกนักแสดงจากทั่วโลก เยี่ยซีก็ถูกประชดประชันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ก็ถูกแฟนคลับของเธอออกมาปกป้องทันที ถึงขั้นที่ยังได้แฟนคลับเพิ่มมาอีกจำนวนหนึ่ง
ตอนนี้สิบอันดับแรกของชาร์ตอันดับภาพยนตร์ทั่วโลก มีผลงานของบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สไปแล้วถึงหกเรื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันน่ากลัว
ส่วนฉินหลิงอวี๋ เธอเองก็มาจากเวทีประกวด แต่เป็นเวทีของเมืองนอก
เธอเพิ่งกลับมาประเทศจีนเมื่อปีสองพันสิบเก้า พอกลับมาก็ได้รับความนิยมขั้นสูง
ในบรรดาดาราหญิง ไม่มีใครอยู่เหนือกว่าเธอได้
ต่อให้ช่วงนี้เยี่ยซีจะได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ก็ไม่มีความสามารถที่จะสู้ฉินหลิงอวี๋ได้
“ซีซี อย่าคิดมาก” เฉินหลีวิเคราะห์อย่างใจเย็น เธอยิ้ม
“เซี่ยมั่นอวี่สูงส่งขนาดนั้น ส่วนฉินหลิงอวี๋ก็เย่อหยิ่งอวดดี ทีมงานเชิญสองคนนี้มาไม่ได้หรอก ดาราดังคนอื่นๆ ยิ่งไม่มีทางมา ตราบใดที่ทีมงานเชิญสองคนนี้มาไม่ได้ เชิญคนอื่นมาก็มีแค่จะถูกแฟนคลับของเธอด่า”
เยี่ยซีขมวดคิ้ว “แต่โปรดิวเซอร์หลี่พูดไว้ไม่ใช่เหรอคะว่า ครั้งนี้ชูกวงมีเดียลงทุนเยอะสุด เซี่ยมั่นอวี่ก็อยู่ในสังกัดของชูกวงมีเดียด้วย”
“เซี่ยมั่นอวี่แจ้งเกิดจากบริษัทชูกวงมีเดียก็จริง แต่สร้างสตูดิโอของตัวเองนานแล้ว” เฉินหลีมั่นใจ
“ชูกวงมีเดียก็ไม่มีทางบงการความคิดของเซี่ยมั่นอวี่ได้ และก็ไม่มีทางให้เซี่ยมั่นอวี่มาด้วยตัวเองเพื่อรายการประกวดรายการเดียว”
“อีกอย่าง ปลายเดือนกุมภาเซี่ยมั่นอวี่ก็ต้องไปถ่ายหนังที่ต่างประเทศแล้ว จะมีเวลามาร่วมรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 เหรอ”
รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 จะถ่ายทำไปจนถึงเดือนเมษายน เดิมทีเวลาก็ไม่พอให้อยู่แล้ว
เยี่ยซีฟังถึงตรงนี้ก็วางใจแล้ว
“พี่หลี ฉันขอพักหน่อยนะคะ ถ้าทีมงานโทรมาพี่เรียกฉันด้วย”
เฉินหลีโบกมือเพื่อบอกให้เยี่ยซีตามสบาย
ส่วนเธออยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์โพสต์ข้อความต่อ
…
ทางตะวันออกของตี้ตูมีถนนขายของเก่าที่ใหญ่มาก
อิ๋งจื่อจินบอกว่ามาหาเงินก็คือไปหาของโบราณ
ญาณพยากรณ์ของเธอยังไม่กลับมา คำนวณปีที่แน่นอนของของโบราณไม่ได้ แต่ก็ยังพอมองออกว่าเป็นของแท้ของปลอม
มู่เฮ่อชิงก็มาถนนเส้นนี้บ่อย ดังนั้นส่วนใหญ่ของแท้จะถูกเขาซื้อเอาไปบริจาคให้พิพิธภัณฑ์
อิ๋งจื่อจินนั่งลงหน้าร้านหนึ่ง ชี้โถทองขนาดเล็ก
“เถ้าแก่อันนี้เท่าไรคะ”
ถึงแม้เถ้าแก่จะเห็นเด็กสาวไม่ได้แต่งตัวด้วยของแบรนด์เนม แต่บุคลิกไม่ธรรมดา จึงรู้ทันทีว่าเจอลูกค้ารายใหญ่เข้าแล้ว
ดวงตาของเขาเปล่งประกาย “เอาไปเลยสองแสน”
พอได้ยินราคานี้อิ๋งจื่อจินก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาหงส์หรี่ลงเล็กน้อย
เถ้าแก่กระอักกระอ่วน
“งั้น…งั้นลดให้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แสนหกเป็นไง”
นิ้วขาวเรียวยาวยื่นมารับโถทองใบนั้นไป
ฟู่อวิ๋นเซินพลิกดูโถทองใบนี้ ยิ้มมุมปาก “ถ้วยเหล้าที่เลียนแบบราชวงศ์ถัง ขายแสนหกเลยเหรอ”
เถ้าแก่นึกไม่ถึงว่าจะถูกแฉความคิดไม่ซื่อ เขาอายยิ่งกว่าเดิม “งั้นหมื่นเดียวโอเคไหม”
โถทองใบนี้เขารับมาก็ห้าพันแล้ว ยังอยากขายในราคาสูงหน่อย
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว จ่ายเงินอย่างใจเย็น เอาโถทองวางใส่มืออิ๋งจื่อจิน
ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นเรื่องหนึ่ง
เด็กน้อยของเขาดูเหมือนจะสนใจทองคำมาก
อิ๋งจื่อจินเอาโถทองใบนั้นใส่กระเป๋า พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่รีบร้อน “พี่ชาย หลอกคนอีกแล้วนะ”
“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น ยิ้มเล็กน้อย
“พี่ชายจะหลอกได้ยังไง เดิมทีเขาก็คิดว่าโถทองอันนี้เป็นของปลอมอยู่แล้ว เห็นเธอเป็นแกะอ้วนเลยอยากเชือด”
โถทองใบนี้ไม่ใช่ของเลียนแบบ แต่เป็นของแท้จริงๆ
หากเอาไปประมูลจะได้ราคาเกินหนึ่งล้าน
“อีกอย่าง อะไรคืออีกแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินจับหน้าเธอ
“เด็กน้อย ต้องอธิบายมานะ”
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “เธอดูฉันสิไม่มีอำนาจไม่มีอิทธิพล…”
เธอยังไม่ทันพูดจบ
อิ๋งจื่อจินหลุบตาลงเล็กน้อย
นิ้วมือของเขาวางอยู่ที่ริมฝีปากเธอ หยุดคำพูดที่เหลือของเธอ
เย็นเฉียบ แต่กลับมีกระแสไฟฟ้า
อุณหภูมิค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น
สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินดูจนปัญญา จำต้องเริ่มเอาใจ “เยาเยา โอเค พี่ชายยอมแพ้”
ใครจะไปรู้ว่าตอนนั้นคำพูดที่เขาพูดส่งเดชจะกลายเป็นจุดอ่อนไปได้
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้
อิ๋งจื่อจินถึงได้ตีมือเขาแล้วไปรับสาย
เลขาสาวโทรมาบอกเรื่องบนเวยปั๋ว โทรมาเพียงเพราะเสียดายเงินของบอส
เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ทางบริษัทมีคนไปจัดการโดยเฉพาะอยู่แล้ว ย่อมไม่มีทางต้องรบกวนบอส
“อืม” อิ๋งจื่อจินไม่แปลกใจ เธอเงียบไปเล็กน้อย “ซื้อกิจการเทียนสิงมีเดียต้องใช้เงินเท่าไร”
เลขาสาวตกใจ “บอส จริงจังไหมคะ”
เทียนสิงมีเดียกำลังไปได้สวย อีกทั้งยังร่วมงานกับบริษัทบันเทิงระดับโลกอย่างไทม์มีเดีย เมื่อเทียบกับซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ก็อยู่สูงกว่าไม่รู้ตั้งเท่าไร
อิ๋งจื่อจินหาว “จริงจัง”
“งั้นก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง” เลขาสาวเคร่งขรึม
“บอสวางใจได้ค่ะ บอสรับหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาได้อย่างสบายใจ พวกเราจะโกยเงินมาให้บอสเอง”
“…” อิ๋งจื่อจิน
เธอวางสาย
“พี่ชายว่าเลขาพูดถูก” ฟู่อวิ๋นเซินยืนพิง ขายาวงอเล็กน้อย ดวงตาดอกท้อโค้งมน
“เด็กน้อย เธอรับผิดชอบเป็นหน้าเป็นตาไป พี่ชายจะหาเงินมาให้เป็นไง”
อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา “ฉันอาจจ้างคุณไม่ไหว”
คนคนนี้ไม่ใช่แค่ประธานโซนเอเชียแปซิฟิกของวีนัสกรุ๊ป แต่เป็นประธานใหญ่
“กับคนอื่นคิดเงิน” ฟู่อวิ๋นเซินพูดเสียงเนือย “แต่กับเยาเยา พี่ชายทำงานให้ฟรี”
อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ เธอเดินไปสองก้าวแล้วหันหน้ามา “ต่อไปห้ามจับหน้าฉันอีก”
สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินชะงัก เลิกคิ้วอีกครั้ง “งั้นทำไมเมื่อก่อนได้”
“อ่อ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
“…”
ฟู่อวิ๋นเซินครุ่นคิด พบว่าเขาไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ สุดท้ายก็ตัดสินใจถามเนี่ยอี้
[แฟนนายมีอารมณ์เสียเป็นระลอกบ้างไหม แบบที่เดาทางไม่ถูก]
หนึ่งนาทีต่อมาเนี่ยอี้ก็ตอบกลับ
[นายต้องถามว่า เธอเคยมีตอนไหนไม่อารมณ์เสียบ้างไหม]
“…”
…
อีกด้านหนึ่ง
เซี่ยมั่นอวี่เพิ่งถ่ายงานเสร็จ กลับมาถึงสตูดิโอ กำลังนั่งพิงเก้าอี้หมุนเล่นเวยปั๋วอย่างสบายใจ เธอย่อมเห็นประเด็นร้อนในตอนนี้ เธอกดเข้าไปอ่านจนจบ คิดเล็กน้อยแล้วถาม
“รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 นี่เป็นโปรเจ็คต์ของบริษัทเราหรือเปล่า”
ผู้จัดการส่วนตัวตอบ “ไม่ถือเป็นโปรเจ็คต์ แต่ลงทุนเยอะที่สุด”
“พี่เซี่ย?” ผู้จัดการส่วนตัวตกใจ อีกทั้งไม่ค่อยเห็นด้วย “จะไปจริงเหรอ”
ด้วยสถานะของเซี่ยมั่นอวี่ ไปร่วมรายการวาไรตี้แบบนี้ถือเป็นการลดตัว อีกทั้งจะสร้างความไม่พอใจให้แฟนคลับ
ใช่ว่าจะไม่เคยมีกรณีแบบนี้
เมื่อสองปีก่อนก็เคยมีราชินีภาพยนตร์ระดับโลกที่เป็นระดับตำนานไปร่วมรายการวาไรตี้ ปรากฏว่ามีแฟนคลับถอนตัวไปกลุ่มใหญ่
“โง่หรือเปล่า” เซี่ยมั่นอวี่รู้ว่าเขาเป็นห่วง “แฟนคลับฉันไม่รู้เหรอว่าภาพลักษณ์ของฉันเป็นอย่างไร”
ผู้จัดการส่วนตัวอึ้ง “พี่เซี่ยมีภาพลักษณ์ด้วยเหรอครับ”
“ไม่มีหรอก” เซี่ยมั่นอวี่ใจเย็น “ฉันแค่ชอบดูเด็กหนุ่มเอ๊าะๆ”
“…” ผู้จัดการส่วนตัว ก็ถูกนะ
“ถึงบริษัทจะไม่ได้มาถามหาฉัน แต่ฉันก็ว่างอยู่ นายติดต่อทีมงานรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ไป ดูว่าพวกเขาต้องการฉันหรือเปล่า”
