Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 727 : ผู้โชคดี

ราชันเร้นลับ 727 : ผู้โชคดี

ปัง!

ลูกโม่เหล็กดำที่ลำกล้องยาวกว่าปรกติ ถีบไปด้านหลังเล็กน้อยพร้อมกับแสงสีทองสว่างเจือจาง หัวกระสุนแหวกผ่านอากาศ พุ่งดักหน้าเป้าหมายเล็กน้อย

ทว่า ด้ายมายาสีดำเกิดหยุดกะทันหัน คล้ายกับชะงักฝีเท้าและหันไปมองบางสิ่ง

จากสภาพปัจจุบัน เซนอลไม่น่าจะสัมผัสถึงความผิดปรกติ แต่ถูกเบี่ยงเบนความสนใจโดยสิ่งอื่น

ขณะกระต่ายสีเทากระโจนออกจากพุ่มไม้เขียวและรีบวิ่งหนี ต้นไม้ใหญ่ด้านหน้าด้ายมายาสีดำเกิดเสียงสั่นคล้ายถูกยิง ก่อนจะหักโค่นกลางลำต้น

เป็นการยิงจากมุมสูง กึ่งกลางท่อนไม้มีรูขนาดใหญ่ เปลวไฟสีทองบริสุทธิ์กำลังลุกโชน ไม้ทั้งท่อนหักครึ่งจากการถูกปะทะด้วยกระสุนเพียงหนึ่งนัด!

ลางมรณะรุนแรงเทียบเท่าปืนใหญ่ลำกล้องเล็ก แถมยังมีพลังในการทะลุทะลวงดีเยี่ยม!

กลุ่มด้ายมายาสีดำรีบถอยหลังและหายไปจากจุดเดิม ก่อนจะโผล่ออกมาอีกครั้งจากขอบหลุมลึกใกล้ๆ

ไคลน์มองเห็นใบหน้าอีกฝ่ายเด่นชัด ผิวพรรณขาวซีด เบ้าตาจมลึก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน อายุราวสี่สิบ ริมฝีปากมีเคราสองฝั่ง สวมหมวกทรงสามเหลี่ยมสภาพเก่า

ไคลน์คุ้นเคยใบหน้านี้เป็นอย่างดี เพราะค่าหัวของอีกฝ่ายค่อนข้างล่อตาล่อใจ ใช้เวลาไม่นานก็จดจำรายละเอียดได้คมชัด

‘พลเรือเอกโลหิต’ เซนอล!

เฉพาะในโลเอ็น ค่าหัวของมันสูงถึงสี่หมื่นสองพันปอนด์!

มันลอบเข้ามาในบายัมนานแล้วสินะ… เพื่อรับตัวทูรานี่·ฟอน·เฮลโมซีน? หลังจากยอดนักวิทยาศาสตร์ถูกพบเป็นศพ หมอนี่ก็เข้าร่วมภารกิจของโรงเรียนกุหลาบเพื่อตามล่าเรา? ตอนนี้เราสัมผัสได้ว่าตัวเองมีจุดอ่อนใหม่เพิ่มเข้ามา แต่ในเมื่อยังไม่ถูกกระตุ้น จึงยังไม่รู้ว่าเป็นจุดอ่อนแบบไหน… ขณะความคิดมากมายแล่นผ่านสมอง ไคลน์เห็นเซนอลหายตัวไปอีกครั้ง

แต่พลเรือเอกโลหิตยังอยู่แถวนั้นไม่ผิดแน่ เพราะด้ายมายาสีดำที่เป็นตัวแทนอีกฝ่ายยังคงเด่นชัดราวกับหิ่งห้อยยามราตรี ไม่ใช่เรื่องยากในการระบุตำแหน่ง

ถัดมา กลุ่มด้ายมายาสีดำเริ่มย่นระยะ จากจุดหนึ่งไปสู่จุดหนึ่ง ไม่ว่าจะน้ำค้างบนใบไม้ เศษแก้ว และบ่อน้ำที่เยือกแข็ง มันกระโจนอยู่หลายครั้งจนสามารถเข้าใกล้ไคลน์

ชายหนุ่มไม่มัวรออยู่กับที่ รีบขยับเปลี่ยนจุดเล็กน้อย ด้วยเกรงว่าจะยิงไปติดครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบที่กำลังต่อสู้กับมิสผู้ส่งสารอย่างดุเดือด

พฤติกรรมของเซนอลทำให้ไคลน์เข้าใจบางสิ่ง หากวิญญาณอาฆาตต้องการสิงร่างโดยสมบูรณ์ จะต้องเข้าใกล้ในระยะหนึ่งเสียก่อน แม้ว่าครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบจะสามารถใช้งานได้จากระยะไกลมาก แต่พลังของเซนอลอาจแคบกว่า หรือไม่ก็กังวลว่าจะเกิดผลข้างเคียง จึงไม่ได้ลงมือในแบบเดียวกัน

ตอนนี้เราสามารถอนุมานแล้วได้ว่า เซนอลคือลำดับ 5 ‘วิญญาณอาฆาต’ ! ไคลน์ยังคงเปลี่ยนตำแหน่งเรื่อยๆ รอจนกว่าระยะห่างจะเหมาะสม

ทันทีที่พลเรือเอกโลหิตลดความเร็วลง เตรียมใช้พลังสิงร่างเป้าหมาย ถุงมือข้างซ้ายของไคลน์พลันเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท คล้ายกับเป็นการเรียงตัวของอนุภาคบริสุทธิ์

จากนั้น ชายหนุ่มพ่นถ้อยคำชั่วร้ายและกัดกร่อน

“เชื่องช้า!”

เซนอลสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล รีบเปลี่ยนตำแหน่งตัวเองก่อนไคลน์จะได้เปิดปากพูด แต่ก็ไม่ทันการณ์ ทุกสิ่งในรัศมีแปดเมตรต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ความพยายามในการหลบหลีกของเซนอลจึงสูญเปล่า

นี่คือท่าโจมตีเป็นวงกว้าง!

ร่างกายเซนอลช้าลงและค่อยๆ คืนเค้าโครงคมชัดบนโลกความจริง ไคลน์ยกลูกโม่ในมือขวาเล็งพลางง้างนก นำศัตรูมาประทับลงบนศูนย์หลัง

ด้วยความช่วยเหลือจากลูกโม่ลางมรณะ ชายหนุ่มมองเห็นสีสันจำนวนมากจากอีกฝ่าย ส่วนที่ซีดที่สุดซึ่งหมายถึงจุดอ่อนมิได้อยู่กึ่งกลางศีรษะ หากแต่เป็นตำแหน่งเหนือลูกกระเดือกเล็กน้อย

โดยไม่ลังเลหรือรีรอ ไคลน์ลั่นไก

โจมตีหนักหน่วง!

แต่ทันใดนั้น กลุ่มด้ายมายาสีดำด้านข้างของครึ่งเทพโรงเรียนกุหลาบ บังเอิญขยับเข้ามาบังเซนอลไว้!

พลเรือเอกโลหิตรีบพุ่งตัวหลบในแนวทแยง กระสุนสีทองซีดพุ่งถากต้นคอไปโดนก้อนหินใหญ่ด้านหลังจนแหลกเป็นผุยผง!

เปลวไฟสีทองลุกไหม้บนลำคอเซนอล เผาลามขึ้นไปบนศีรษะจนมันตัดสินใจอ้าปากกว้าง

เสียงโหยหวนแหลมลึกถูกแผดไปรอบทิศ เล่นงานโสตประสาทไคลน์โดยตรง ส่งผลให้ออกอาการโงนเงนและชะงัก

ไม่มีใครทราบว่าร่างวิญญาณล่องหนจำนวนหนึ่งเริ่มบินว่อนรอบตัวเซนอลตั้งแต่เมื่อไร พวกมันผสมผสานเข้ากับสายลมเย็นเยียบ กรูเข้าหาศัตรูจากทุกทิศทางไม่ว่าจะท้องฟ้าหรือผิวดิน

ในการมองเห็นของไคลน์ วิญญาณทั้งหมดล้วนสวมหมวกทรงสามเหลี่ยม

เพียงพริบตา ร่างของชายวัยกลางคนสวมแจ็คเก็ตสีแดงเริ่มคมชัดด้านหน้าชายหนุ่ม

เป๊าะ!

ไคลน์ดีดนิ้ว ร่างกายถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟอันร้อนแรงทันที

ก่อนที่วิญญาณอาฆาตจะเข้าสิงร่าง ชายหนุ่มอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย!

ใต้ต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร วัชพืชลุกไหม้พร้อมกับเปลวไฟที่ค่อยๆ ขยายตัวและพุ่งสูงขึ้นฟ้า

ไคลน์กระโดดออกมาด้วยท่าทีผ่อนคลาย ยกลางมรณะขึ้นเล็งในจุดที่ตนเคยยืนเมื่อครู่ ถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปมากกว่าปรกติสองเท่า

โจมตีล้างบาง!

ปัง!

ชายหนุ่มลั่นไก กระสุนสีทองซีดแตกตัวเป็นสะเก็ดขนาดเล็กจำนวนมาก กวาดล้างทุกสิ่งในทิศทางที่ปากกระบอกปืนเล็งด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เหล่าผีล่องหนคล้ายกับถูกชำระล้างด้วยพายุแสงแดด ทำได้เพียงกรีดร้องและลุกไหม้โดยมิอาจต่อต้านขัดขืน

เซนอลที่เข้าสิงพลาดย่อมทราบว่าจะถูกโจมตีตอบโต้ จึงกระโดดเข้าไปหลบในเศษแก้วใกล้เคียง ทว่า พายุกระสุนที่ยิงโดย ‘โจมตีล้างบาง’ นั้นครอบคลุมจนเต็มพื้นที่ รวมไปถึงเศษแก้วชิ้นดังกล่าวด้วย!

ท่ามกลางเสียงอึกทึก เปลวไฟสีทองพุ่งเฉียดด้านข้างเศษกระจก พลาดการโจมตีโดยตรงไปอย่างน่าเสียดาย ทำได้เพียงสร้างความเสียหายก่อกวนด้วยไฟเผา เซนอลเห็นดังนั้นจึงรีบหนีโดยการกระโดดเข้าไปในกระจกเงา ก่อนจะโผล่ตัวอีกครั้งในหยดน้ำค้างห่างออกไป ตามลำตัวมีบาดแผลถูกกระสุนชำระล้างแผดเผาหลายจุด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

ไม่โชคดีไปหน่อยหรือ? ไม่ผิดแน่ เซนอลต้องมีสมบัติวิเศษที่ช่วยเสริมโชค… เราเหลือกระสุนชำระล้างอีกแค่สามเดียว… ไคลน์ขมวดคิ้วพร้อมกับออกวิ่ง หมายไล่ตามอีกฝ่ายให้ทัน

เป็นเพราะทราบล่วงหน้าว่าศัตรูคือโรงเรียนกุหลาบ ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนกระสุนวิเศษทั้งหมดให้เป็นกระสุนชำระล้างซึ่งเป็นของแสลงสำหรับซอมบี้และวิญญาณอาฆาต จากหกนัด ปัจจุบันยิงไปแล้วสามนัด!

ในนัดแรก เซนอลรอดมาได้เพราะบังเอิญมีกระต่ายกระโดดตัดหน้า นัดที่สองยิงไปติดครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบที่บังเอิญอยู่ตรงนั้นพอดี และนัดที่สาม พายุกระสุนล้างบาง เศษแก้วที่เซนอลหลบบังเอิญอยู่ตรงช่องว่างของเศษลูกปรายจำนวนมากพอดิบพอดี ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก ไคลน์ไม่อยากยอมรับว่าความบังเอิญระดับนี้เป็นแค่ความโชคดี!

ทว่า ชายหนุ่มไม่หดหู่ กลับกัน มันตัดสินใจเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เผื่อว่าสถานการณ์เลวร้ายลงจากเดิม จะได้ลงมือระเบิดยันต์ในขอบเขตเทพสมุทรเป็นจำนวนมาก สร้างความวุ่นวายเพื่อดึงดูดให้ ‘เจ้าสมุทร’ แยนน์·ค็อตแมนที่อยู่ในบายัมสัมผัสถึงความผิดปรกติ

หากครึ่งเทพลำดับ 3 ตนนี้มาถึงจุดเกิดเหตุและพบคนสามคน ประกอบด้วยครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบ พลเรือโจรสลัดที่มีปูมหลังเป็นปริศนา และนักผจญภัยเสียสติที่เคยช่วยงานกองทัพ เดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายจะเลือกจัดการใครก่อน

สำหรับมิสผู้ส่งสาร ไคลน์เชื่อว่าเธอสามารถหนีเข้าไปในโลกวิญญาณได้ทุกเวลา สามารถเลือกที่จะเข้าร่วมสงครามหรือล่าถอยตามแต่สถานการณ์

ถึงเมื่อคืนจะได้รับโทรเลขข่มขู่ แต่เป็นเพราะในบายัมยังมีเจ้าสมุทรช่วยให้ ‘อุ่นใจ’ ไคลน์จึงยังไม่คิดหนีในทันที รอให้ถึงตอนเช้าเสียก่อน

หากตนออกไปตามลำพังในยามค่ำคืน โบสถ์วายุสลาตันย่อมพบความผิดปรกติและไล่ล่าจับกุมตัว จากนั้นก็ถูกสอบสวนด้วยมาตรการรุนแรง ไม่มีทางเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

การหมกตัวอยู่ในห้องจึงเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า รอให้คนที่ส่งข้อความ ‘ข้าเห็นเจ้า’ โผล่ออกมาโจมตี จึงค่อยหนีออกมาบนถนนเพื่อให้เจ้าสมุทรพบความผิดปรกติของศัตรู

เมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลชั่วร้ายระดับครึ่งเทพเป็นอย่างน้อย ส่วนอีกคนคือนักผจญภัยเสียสติที่เคยช่วยงานกองทัพ แยนน์·ค็อตแมนย่อมต้องเลือกจัดการกับโรงเรียนกุหลาบ และด้วยฐานะของพระคาร์ดินัลแห่งโบสถ์วายุสลาตันกับอาวุโสระดับสูงของทูตพิพากษา ค็อตแมนย่อมมีสิทธิ์เบิกใช้งานสมบัติปิดผนึกที่ทรงพลัง ถึงจะเผชิญหน้ากับ ‘เทวทูต’ ก็คงยื้อเวลาได้นานจนกระทั่งกองทัพส่งคนมาสนับสนุน และท่ามกลางความวุ่นวายดังกล่าว ไคลน์จะฉวยโอกาสหนีไปที่ชายหาด โดยสาร ‘เรือวาฬ’ ออกจากเกาะแห่งนี้!

แต่น่าเสียดาย หลังจากส่งโทรเลขข่มขู่ ค่ำคืนดังกล่าวกลับสงบสุขผิดคาด และเมื่อถึงตอนเช้า คงเป็นเรื่องยากที่ ‘เจ้าสมุทร’ จะตรวจตราความเรียบร้อยได้ทั่วเมือง

เป๊าะ!

ไคลน์ดีดนิ้วอีกครั้ง แผดเผาวัชพืชและต้นไม้โดยรอบ คล้ายกับการจุดพลุไฟขนาดใหญ่โดยมีตัวเองเป็นศูนย์กลาง

เหตุใดถึงเลือกป่าริมผาเป็นสมรภูมิ? เพราะไม่มีที่ใดเหมาะสมกับนักมายากลไปมากกว่านี้อีกแล้ว!

ร่างชายหนุ่มกระโจนไปตามเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ท่วมป่า คอยหลบหลีกพลังสิงร่างของพลเรือเอกโลหิตเป็นระยะ ในทางกลับกัน เซนอลเองก็มีประสบการณ์และบทเรียน ทราบว่าอีกฝ่ายสามารถยิงกระสุนโจมตีได้รุนแรง จึงไม่กล้าแช่อยู่ในระยะใกล้นานนัก เมื่อสิงร่างพลาดก็จะรีบถอยออกห่างทันที คอยตอดจากระยะไกลด้วยการแผดเสียงหวีดแหลม หรือไม่ก็คอยเล็งยิงด้วยนิ้วสีเขียวซีด แต่น่าเสียดาย พลังหลังสุดทำได้เพียงดับไฟและเปลี่ยนให้วัชพืชเฉาตาย ไม่มีอันตรายกับไคลน์มากนัก

เมื่อเห็นไฟป่าเริ่มลุกลามเป็นวงกว้างและเป็นอุปสรรคต่อการโจมตี เซนอลชะงักความเคลื่อนไหว ส่งเสียงหวีดร้องที่สามารถทำลายแก้วหูและร่างวิญญาณได้โดยตรง

ท่ามกลางเสียงร้อง ออร่าสีฟ้าน้ำแข็งใต้ฝ่าเท้าเซนอลเริ่มขยายตัวเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะพื้นดิน วันพืชรกรุงรัง หรือเศษก้อนหินกระจัดกระจาย ทั้งหมดล้วนถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งสีขาว

เปลวไฟในจุดดังกล่าวส่งเสียง ‘เปรี้ยะๆ’ พร้อมกับระเหยกลายเป็นหมอก ก่อนจะถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์

ไคลน์ได้รับผลกระทบจากเสียงคำรามวิญญาณอาฆาต การใช้กระโจนไฟจึงชะงักไปครึ่งจังหวะ ก่อความผิดพลาดจนร่วงหล่นกลางอากาศ ฝ่าเท้าสัมผัสกับพื้นดิน

จากนั้น ชายหนุ่มมองเห็นกะโหลกมายาที่แผ่พลังงานสีดำกำลังพุ่งเข้าหาตน กลิ่นอายท่วมต้นไปด้วยความตาย ราวกับเป็นผู้ส่งสารจากโลกแห่งความตายก็มิปาน!

ในวินาทีดังกล่าว ถึงไคลน์จะหลบไม่พ้น แต่ลูกบอลไฟสีฟ้าอ่อนซึ่งมาพร้อมกลิ่นกำมะถันกำลังควบแน่นอยู่เบื้องหน้า

ถุงมือข้างซ้ายยังคงเป็นสีดำสนิท อยู่ในสถานะของ ‘ปีศาจ’ !

ฟุ่บ! ลูกบอลไฟพุ่งออกไปด้านหน้า กะโหลกมายาที่รายล้อมด้วยพลังงานสีดำถูกกระแทกจนแตกร้าวและร่วงหล่น เปลี่ยนให้พื้นดินในจุดตกกลายเป็นเขตปลอดชีวิต

ถัดมา ไคลน์เหยียดตัวตรง หยิบกล่องบุหรี่โลหะจากกระเป๋าเสื้อ โยนไปทาง ‘พลเรือเอกโลหิต’ เซนอล โดยพร้อมกันนั้น ถุงมือข้างซ้ายเริ่มเจือกลิ่นอายความชั่วร้ายที่สูงส่ง

บารอนแห่งการเน่าเปื่อย! ติดสินบน!

……………………………………………..

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset