Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2087 เจ้าแคว้นมาบุก

ตอนที่ 2087 เจ้าแคว้นมาบุก

ยามเมื่อข่าวแพร่กลับมายังอาณาเขตของเจ้าแคว้นคีรีดำ ก็เรียกความสะท้านสะเทือนครั้งใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกัน

แม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่ติดตามอยู่ข้างกายเจ้าแคว้นคีรีดำพวกนั้นยังไม่กล้าเชื่อ เพิ่งหนึ่งเดือนเท่านั้น ถึงกับมีเจ้าแคว้นคนหนึ่งยอมสวามิภักดิ์ภายใต้ปกครองของเจ้าแคว้นคีรีดำอีกแล้ว

ที่น่าขันที่สุดคือ ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาถึงกับไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างสิ้นเชิง!

และมีคนนึกถึงประโยคนั้นที่เจ้าแคว้นคีรีดำเคยพูดก่อนปิดด่านเมื่อหนึ่งเดือนก่อนขึ้นมา…

‘ข้าได้สั่งให้มารกระบี่เต้ายวนเคลื่อนไหวไปทำเรื่องหนึ่งแล้ว ส่วนเป็นเรื่องอะไรนั้น รอผ่านไปสักระยะพวกเจ้าก็จะรู้…’

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็รู้แล้ว แต่เมื่อนึกถึงว่ามารกระบี่เต้ายวนคนเดียวก็ช่วยเจ้าแคว้นคีรีดำทำการใหญ่เช่นนี้ ก็ยังอดใจสั่นและสะท้านสะเทือนไปพักหนึ่งไม่ได้

เจ้าหมอนั่นร้ายกาจเกินไปแล้วกระมัง

“ปิดด่านอะไร ข้าว่าใต้เท้าคีรีดำมุ่งหน้าไปอาณาเขตของเจ้าแคว้นฮวงโหวนั่นเพียงลำพังต่างหาก หาไม่ลำพังแค่มารกระบี่เต้ายวนคนเดียว มีหรือจะสยบเจ้าแคว้นฮวงโหวได้”

มีคนสันนิษฐานเช่นนี้ และได้รับการเห็นด้วยจากคนส่วนใหญ่อย่างรวดเร็ว

และมีเพียงอธิบายเช่นนี้จึงจะสมเหตุสมผล

‘เจ้าแคว้นคีรีดำอะไร ต้องเป็นฝีมือผู้อาวุโสเต้ายวนคนเดียวแน่’

และยามที่จี้เหลิ่งได้รับข่าว ก็คาดการณ์อย่างมั่นใจทันทีว่าเรื่องนี้ต้องไม่เกี่ยวกับเจ้าแคว้นคีรีดำอย่างแน่นอน!

เพียงแต่เมื่อนึกถึงว่าแม้แต่เจ้าแคว้นฮวงโหวก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้อาวุโสเต้ายวนคนนี้ จี้เหลิ่งก็อดสะท้านไปชั่วขณะไม่ได้

แข็งแกร่ง!

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

เดือนเดียว ตัวคนคนเดียว กลืนขุมอำนาจเจ้าแคว้นแห่งหนึ่ง!

……

ผ่านเรื่องราวครั้งนี้ ชื่อเสียงของมารกระบี่เต้ายวนก็กึกก้องอยู่ใต้เวิ้งฟ้าแคว้นหนาวเหน็บอย่างสมบูรณ์!

แน่นอน ไม่ว่าเมื่อใดที่เอ่ยถึงเขา จะต้องถูกเอ่ยพร้อมเจ้าแคว้นคีรีดำด้วย ใครต่างก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าแคว้นคีรีดำรับบริวารที่โดดเด่นเหนือธรรมดาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

และสำหรับเจ้าแคว้นคนอื่นๆ ในแคว้นหนาวเหน็บ เจ้าแคว้นคีรีดำได้กลายเป็นภัยคุกคามใหญ่อย่างหนึ่ง

หนึ่งเดือนก่อน เขากลืนกินอาณาเขตฃของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิต

หนึ่งเดือนต่อมา เขาก็รวบกลืนอาณาเขตของเจ้าแคว้นฮวงโหวอีก

ความเร็วของการแผ่ขยายอำนาจเช่นนี้เรียกได้ว่าน่าตะหนก ใครก็ไม่สามารถฟันธงว่าเดือนต่อไปจะเกิดเรื่องพรรค์ขึ้นอีกหรือไม่

“ความตะกละของเจ้าเฒ่าคีรีดำนี่ออกจะไม่น่าดูเกินไปแล้ว! ข้าไม่อาจนั่งนิ่งรอความตายเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”

เขาวั่นโม่ เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงสีหน้ามืดทะมึน

เขารูปร่างซูบผอม หน้าตาดุจเด็กหนุ่ม มีผมสีแดงที่เด่นเตะตา ระหว่างกะพริบตาผุดลักษณ์ประหลาดน่าสะพรึงประหนึ่งผลาญสวรรค์ทำลายดินก็ไม่ปาน

อาณาเขตของเขาติดกับเจ้าแคว้นฮวงโหว อีกด้านหนึ่งก็เชื่อมต่อกับอาณาเขตเดิมของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิต

นี่ทำให้เขาไม่อาจไม่กังวลใจ ว่าเป้าหมายต่อไปที่เจ้าแคว้นคีรีดำจะกลืนกินจะเป็นตน

“รายงาน…”

เสียงร้อนรนสายหนึ่งดังขึ้นนอกโถงใหญ่ “นายท่าน เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ย เจ้าแคว้นเฟยหยา เจ้าแคว้นฮุยซวงร่มตัวมาเยือนพร้อมกัน ยามนี้กำลังรออยู่ด้านนอกประตูภูเขา”

เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงอึ้งไป จากนั้นก็เผยแววยินดีกล่าวว่า “รีบเชิญมาเร็วเข้า!”

ในใจเขาก็มีลางสังหรณ์ก่อนแล้ว เจ้าแคว้นทั้งสามคนนี้เกรงว่าคงเพราะถูกกระตุ้นจากเจ้าแคว้นคีรีดำ รู้สึกได้ถึงภัยคุกคามครั้งใหญ่แล้ว

ไม่ทันไรเงาร่างสามสายปรากฏขึ้นนอกโถง

ชายชราซูบผอมที่ผมหงอกขาว ดวงหน้าขึงขัง มือกำแส้หางม้าสีเลือดด้ามหนึ่ง นัยน์ตาเจือประกายแสงสีฟ้าเข้มที่แปลกพิสดาร

นี่คือเจ้าแคว้นหมิงเยวี่ย

ชายวัยกลางคนร่างแกร่งล่ำ สวมเกราะดำ โครงหน้าดุดันชวนครั่นคร้าม ยามก้าวเดินก็เหมือนภูเขาเทพเคลื่อนที่ ให้ความรู้สึกกดดันหาใดเปรียบแก่ผู้คน

นี่คือเจ้าแคว้นเฟยหยา

อีกหนึ่งเงาร่างหนึ่งเป็นหญิงบอบบางอรชร ผมยาวเกล้ามวย ดวงหน้าโดดเด่น สีหน้าเย็นเยียบเย่อหยิ่ง นี่คือเจ้าแคว้นฮุยซวง

สามคนนี้ต่างเป็นระดับจักรพรรดิที่ครองอาณาเขตในแคว้นหนาวเหน็บนานปี ผ่านประสบการณ์เลวร้ายทุกรูปแบบ เห็นฝนเลือดลมคาวมาจนชิน

แต่เวลานี้สีหน้าของพวกเขาต่างเจือแววอึมครึมเสี้ยวหนึ่ง

“เชิญทั้งสามท่าน”

เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงต้อนรับพวกเขาเข้าโถงใหญ่ แล้วแยกกันนั่ง

“สหายยุทธ์หลิ่นเฟิง ดูท่าเจ้าคงเดาจุดประสงค์การมาของพวกเราได้แล้ว เช่นนั้นก็ขอพูดตรงๆ”

เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยที่รูปร่างหน้าตาซูบผอมเหมือนคนแก่ แต่นัยน์ตากลับแปลกประหลาดชวนสยองเอ่ยปากเสียงขรึม “พวกเรามาครั้งนี้ ก็เพราะอยากเชิญสหายยุทธ์ไปสังหารเจ้าเฒ่าคีรีดำนั่นด้วยกัน!”

ในน้ำเสียงเจือไอสังหารที่ไม่ปกปิดแต่อย่างใด

“ไม่ผิด เดิมทีแคว้นหนาวเหน็บนี่เป็นพวกเราสิบเจ้าแคว้นใหญ่ร่วมกันปกครอง ระหว่างพวกเราทุกคนถึงแม้จะเกิดความขัดแย้งและไม่ลงรอยกันบ้าง แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่พอรับได้”

เจ้าแคว้นเฟยหยากัดฟันกล่าว “แต่เจ้าเฒ่าคีรีดำนี่ ภายในสองเดือนกลับกลืนกินอาณาเขตของสองสหายยุทธ์อย่างคลั่งโลหิตกับฮวงโหว การกระทำเช่นนี้วางโตโอหังถึงขีดสุด!”

“เท่าที่ข้าดู ขืนยังไม่ลงมือห้ามยับยั้งอีก อาณาเขตของพวกเราเหล่านี้… เกรงว่าจะถูกเจ้าเฒ่านี่รุกรานกลืนกินไปทีละแห่ง”

เจ้าแคว้นฮุยซวงสีหน้าเย็นเยียบ ในคำพูดก็เปี่ยมด้วยแววเดือดดาล

สมดุลที่ผ่านมาถูกทำลาย ก็เหมือนน้ำในทะเลสาบเกิดระลอกคลื่นโหมซัด ไม่ว่าใครล้วนต้องโดนลูกหลงอย่างเลี่ยงไม่ได้

เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงไม่ได้รีบร้อนตอบรับ หากแต่กล่าวถาม “สหายยุทธ์ทั้งสาม รู้หรือไม่สหายยุทธ์วายุสังหารมีท่าทีอย่างไร”

สหายยุทธ์วายุสังหาร ก็คือจักรพรรดิมารวายุสังหาร และเป็นเจ้าแคว้นอันดับหนึ่งในแคว้นหนาวเหน็บ ขณะเดียวกันเขายังเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักโบราณจรัสเทพด้วย

นี่ทำให้ฐานะของจักรพรรดิมารวายุสังหารในแคว้นหนาวเหน็บแปลกแยกหาใดเปรียบ

“เขา?”

หมิงเยวี่ยเผยรอยยิ้มเยาะหยัน “เขากำลังยุ่งกับการเคลื่อนพลตามคำสั่งของสำนักโบราณจรัสเทพ ไปตามหาร่องรอยของผู้สืบทอดคีรีดวงกมลอยู่ ไม่ได้มีท่าทีสนใจเรื่องพวกนี้สักนิด”

เจ้าแคว้นเฟยหยากล่าวว่า “สหายยุทธ์วายุสังหารเป็นถึงคนของสำนักโบราณจรัสเทพ ย่อมไม่ห่วงว่าเจ้าเฒ่าคีรีดำจะกล้าลงมือกับเขา ไม่เหมือนพวกเรา คิดอยากรั้งตำแหน่งอย่างมั่นคงในแคว้นหนาวเหน็บ มีแต่ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น”

“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง”

เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงเข้าใจโดยฉับพลัน

“สหายยุทธ์ พวกเราสี่คนร่วมกันลงมือก็สามารถสังหารเจ้าเฒ่าคีรีดำอย่างง่ายดายแล้ว ไม่จำเป็นต้องหาผู้ช่วยเพิ่มอีกสักนิด”

เจ้าแคว้นฮุยซวงกล่าวว่า “หนำซ้ำหลังจากกำจัดเจ้าเฒ่าคีรีดำ อาณาเขตที่อยู่ใต้อาณัติของเขาย่อมต้องแบ่งส่วนให้พวกเราสี่คน ถึงตอนนั้นคนอื่นๆ คิดอยากมีส่วนด้วย ก็ต้องถามพวกเราก่อนว่าจะตกลงหรือไม่”

ประโยคนี้ทำให้หลิ่นเฟิงใจเต้นยกใหญ่

ยามนี้ในมือเจ้าเฒ่าคีรีดำ นอกจากอาณาเขตที่แต่เดิมก็เป็นของเขาอยู่แล้ว ยังมีอาณาเขตของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตและเจ้าแคว้นฮวงโหวด้วย

ลำพังแค่ผลึกมรรคที่สามารถเก็บรวบรวมได้จากอาณาเขตเหล่านี้ในแต่ละวัน ล้วนเพียงพอจะทำให้ใครก็ตามน้ำลายไหลแล้ว

“ดี ก็ทำเช่นนี้แหละ!”

หลิ่นเฟิงตอบรับอย่างชื่นมื่น ทั้งสามารถฆ่าเจ้าเฒ่าคีรีดำได้ จัดการภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่ซ่อนเร้นนี้ และสามารถกอบโกยผลประโยชน์ใหญ่ได้ สิ่งนี้ทำให้จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเรื่องดียิ่งยวดที่ทำหนึ่งได้ถึงสอง

เมื่อเห็นเช่นนี้พวกเจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยสามคนต่างก็ยิ้มแล้ว

“เคลื่อนไหวเมื่อไหร่”

เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงถาม

“เรื่องไม่อาจล่าช้า ออกเดินทางเดี๋ยวนี้!”

เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยหยัดกาย กลางนัยน์ตาสีฟ้าเข้มที่แปลกพิสดารคู่นั้นมีไอสังหารพวยพุ่ง

……

หนึ่งวันต่อมา เขายุทธ์สวรรค์

พวกเจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยสี่คนเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ แต่ละคนสำแดงอานุภาพน่าสะพรึงของระดับจักรพรรดิ ไอสังหารปิดครอบฟ้าดินแถบนี้

ยามเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ใต้อาณัติเจ้าแคว้นคีรีดำต่างตกใจจนขวัญหาย ราวกับตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง

จบกัน!

ใครก็คิดไม่ถึงว่าการแก้แค้นจะมาเร็วปานนี้ หนำซ้ำยังมีเจ้าแคว้นสี่คนเต็มๆ บุกมาพร้อมกัน

นี่เป็มหันตภัยครั้งใหญ่อย่างหนึ่งชัดๆ สามารถทำให้ใครก็ตามสิ้นหวัง

“เจ้าเฒ่าคีรีดำ โผล่หัวออกมา!”

เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยตะโกนลั่น เสียงดุจฟ้าคำราม กึกก้องทั่วฟ้าดินแถบนี้

ทั่วทั้งเขายุทธ์สวรรค์ อลหม่านทั้งแถบ เงาร่างมากมายหลากหลายกำลังหนีตายเอาชีวิตรอด กลัวแต่ว่าจะถูกลูกหลงของสงครามใหญ่ที่กำลังจะปะทุขึ้นครั้งนี้

รวมถึงมกุฎกึ่งจักรพรรดิเลี่ยกวง ก็เลือกหนีตายตั้งแต่จังหวะแรกเช่นกัน

นี่ไร้หนทางต้านทานชัดๆ ต่อต้านไปก็เหมือนไม้ซีกงัดไม้ซุง ไม่ต่างอะไรจากการไปตายเปล่า

ในโลกมืดที่อันตรายเดือดพล่านแห่งนี้ สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดคือความภักดี สิ่งที่ไม่เป็นราคาที่สุด ก็คือความภักดีเช่นเดียวกัน!

เรื่องที่เผ่นหนีคนละทางเมื่ออันตรายร้ายแรงมาเยือน ก็มีให้เห็นบ่อยครั้งจนไม่แปลกใหม่

เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยและคนอื่นๆ ไม่ได้สนใจพวกที่หนีตายเหล่านั้น

พวกเขารู้ดียิ่ง ขอเพียงฆ่าเจ้าแคว้นคีรีดำเสีย ขุมอำนาจที่ถูกเจ้าแคว้นคีรีดำปกครองแถบนี้ ก็จะกระจัดกระจายในชั่วข้ามคืน

ฝูงมังกรไร้ผู้นำ ก็จะเป็นต้นไม้โค่นวานรกระเจิง!

เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้พวกเจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยต่างพากันคิดไม่ถึงคือ เมื่อพวกเขาบุกเข้าเขายุทธ์สวรรค์ ค้นหาทั้งบนล่างแล้ว ถึงกับไม่พบเจ้าแคว้นคีรีดำสักนิด

เจ้าแคว้นเฟยหยาสีหน้าไม่น่าดู “สมควรตาย เจ้าเฒ่านี่ถึงกับไม่อยู่ หรือว่าก็สัมผัสถึงความไม่เข้าทีแล้วเช่นกัน จึงเริ่มซ่อนตัวขึ้นมา?”

พวกเขามาพร้อมอำนาจเปี่ยมล้น ไหนเลยจะเคยคาดคิด ถึงขนาดบุกมาถึงรังเก่าของเป้าหมายแล้ว แต่กลับคว้าน้ำเหลวเสียได้

“น่าชังนัก!”

เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงโกรธจนซัดหนึ่งฝ่ามือออกไปอย่างจัง

ตูม!

เขายุทธ์สวรรค์ที่สูงหมื่นจั้งเต็ม ตั้งตระหง่านทานทนลูกนั้นถูกตบกระจุยตรงๆ กลายเป็นผุยผงระฟ้าลอยกระเซ็น

เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงกัดฟันกรอดกล่าวว่า “หาเจ้าเฒ่าคีรีดำไม่พบ ก็ทุบทำลายกองกำลังทั้งหมดที่เขาปกครองอยู่ให้พินาศเสีย แต่ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่ ช้าเร็วก็ต้องมีตอนที่หวนกลับมาอีกครั้ง!”

เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยและคนอื่นๆ ต่างก็พากันสีหน้าไม่น่าดู

เจ้าเฒ่าคีรีดำไม่ตาย หลังจากได้รู้เรื่องที่พวกเขาสี่คนเคยร่วมมือกัน หมายจะฆ่าเขาให้ตายแล้ว มีหรือจะไม่แก้แค้น

เมื่อนึกถึงสิ่งที่คลั่งโลหิตและฮวงโหวสองคนประสบพบเจอ ก็ทำให้เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยและคนอื่นๆ บีบคั้นจิตใจ

“ทุกท่าน พวกเราจะต้องลากคอเจ้าเฒ่าคีรีดำออกมาโดยเร็วที่สุด หาไม่ยิ่งเวลายืดยาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อพวกเรา”

สูดหายใจเข้าลึกเฮือกหนึ่ง เจ้าแคว้นฮุยซวงกล่าวเสียงเยียบเย็น

เจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงกล่าวว่า “เจ้าเฒ่าคีรีดำอยากเขาหากคิดจะซ่อนตัวขึ้นมา พวกเรามีหรือจะหาพบ”

“เรื่องนี้จัดการง่ายนัก”

เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยกัดฟันเอ่ยปากว่า “พวกเราร่วมกันลงมือ รุกรานเข่นฆ่าอยู่ในถิ่นของเจ้าเฒ่าคีรีดำ ทำลายล้างขุมอำนาจที่อยู่ภายใต้ปกครองของเขาทั้งหมดเสีย เขายังจะทนไม่ยอมปรากฏตัวได้อีกหรือ?”

เจ้าแคว้นเฟยหยาหน้าเปลี่ยนสี “ทำเช่นนี้ก็ช่างเหี้ยมเกินไปแล้ว เกิดเจ้าเฒ่าคีรีดำคลุ้มคลั่งขึ้นมา บุกมาแกแค้นถึงถิ่นที่พวกเราปกครองอยู่ จะทำอย่างไร”

“เรื่องก็มาถึงตอนนี้แล้ว ยังมัวสนใจเรื่องพวกนี้อีกหรือ”

สีหน้าของเจ้าแคว้นหลิ่นเฟิงฉายแววโหดเหี้ยมเสี้ยวหนึ่ง “ขอเพียงบีบเจ้าเฒ่าคีรีดำออกมาได้ แล้วฆ่าเขาเสีย พวกเราจึงจะลำบากหนเดียวสบายตลอดชาติได้ หาไม่ ภายหน้าพวกเราใครหน้าไหนก็ต้องนอนไม่หลับอยู่ไม่สุข!”

ในวันนี้ เจ้าแคว้นสี่คนบุกโจมตี ดุจดั่งมรสุมสายหนึ่งก็ไม่ปาน โหมกระหน่ำอยู่ในถิ่นของเจ้าแคว้นคีรีดำ เรียกการเข่นฆ่านองเลือดครั้งหนึ่งขึ้น

ระดับจักรพรรดิลงมือ มีหรือจะธรรมดาทั่วไป

นับประสาอะไร ยังเป็นระดับจักรพรรดิสี่คนเต็มๆ ร่วมกันลงมืออีกด้วย!

เวลาแทบไม่ถึงหนึ่งวัน บนอาณาเขตของเจ้าแคว้นคีรีดำก็ตกสู่ท่ามกลางความโกลาหล ทุกหย่อมหญ้าล้วนเป็นเงาร่างที่หนีตาย

“บ้าไปแล้ว เจ้าแคว้นพวกนั้นบ้ากันไปหมดแล้ว…”

ยามเมื่อได้รับข่าว จี้เหลิ่งเองก็ใจสะท้าน คิดไม่ถึงเป็นอันขาดว่าการแก้แค้นของเจ้าแคว้นพวกนั้นจะมาไวเช่นนี้ หนำซ้ำยังอำมหิตและเลือดเย็นเช่นนี้

“ผู้อาวุโสเต้ายวนเล่า ตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหนกัน”

ภายในใจจี้เหลิ่งร้อนรน

….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset